ผมมานั่งวิเคราะห์ว่าละครเรื่องนี้ควรเอากฎหมายเรื่องใดมาเขียนดู มาดูภาพรวมของเรื่องจะเป็นเรื่องวุ่นๆของพ่อม่ายที่มักมากในกามคุณ หลงใหลในสาวคราวลูก ตกแต่งเป็นเมียออกหน้าออกตา ในขณะที่หญิงที่จะมาเป็นเมียก็บังเอิญรู้จักกับลูกชาย และพอแต่งได้ ๗ วัน ผัวแก่ก็ตาย และในที่สุดก็คลอดลูกที่เกิดกับลูกชาย(ที่ลูกชายข่มขืนก่อนจดทะเบียนสมรสกับพ่อ) เรื่องกฎหมายที่จะนำมาคุยให้ฟังจึงน่าเป็นเรื่องกฎหมายครอบครัวและกฎหมายมรดก ซึ่งยังมีเรื่องน่ารู้ที่ผมไม่เคยเขียนถึงในการวิเคราะห์ละครเรื่องใดมาก่อน
เอาละ ล้อมวงกันเข้ามา ผมจะเริ่มละนะ...อิอิ
ในละครเรื่องนี้พ่อเลี้ยงบดินทร์จดทะเบียนสมรสกับกานพลู โอนบ้านพร้อมที่ดินให้กานพลูก่อนจดทะเบียน แต่ก่อนจดทะเบียนก็ถูกลูกชายพ่อเลี้ยงคือพินิจนัย ข่มขืนกระทำชำเราในบ้านของพ่อเลี้ยงบดินทร์นั่นเอง และแล้วในที่สุดก็มีการจดทะเบียนสมรส แต่พอสมรสได้เพียง ๗ วัน โดยที่พ่อเลี้ยงยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับกานพลู พ่อเลี้ยงเกิดหัวใจวายตายเสียก่อน และแล้วเรื่องก็ดำเนินต่อมาจนกระทั่งกานพลูลอดบุตร โดยที่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับพินิจนัย ใครดูละครแล้วไม่สงสัยเพราะในละครรู้ว่าเด็กที่เกิดมาเป็นลูกพินิจนัย แต่ในฐานะนักกฎหมายผมสงสัยครับ สงสัยว่าเด็กที่เกิดมาโดยทางกฎหมายเป็นลูกใคร (ทำไมขี้สงสัยจัง.....อิอิ เป็นทนายถ้าไม่ขี้สงสัยไม่ได้ตังค์ง่ะ....)
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๓๖ บอกว่า
“เด็กเกิดแต่หญิงขณะเป็นภริยาชายหรือภายในสามร้อยสิบวัน นับแต่การสมรสสิ้นสุดลง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามีหรือเคยเป็นสามี แล้วแต่กรณีให้นำความในวรรคหนึ่งมาบังคับแก่บุตรที่เกิดจากหญิงก่อนที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลแสดงว่าการสมรสเป็นโมฆะหรือภายในระยะเวลาสามร้อยสิบวันนับแต่วันนั้น”
เห็นความยุ่งยากไหมครับ เพราะถึงข้อเท็จจริงจากที่เราดูในละครเด็กจะไม่ใช่ลูกพ่อเลี้ยงบดินทร์ แต่การสันนิษฐานทางกฎหมายต้องถือว่าเป็นบุตรของพ่อเลี้ยงบดินทร์ครับ แล้วจะมีผลอะไร ก็จะมีผลต่อการแบ่งมรดกไงครับ ที่ว่านางเอกจะได้ครึ่งหนึ่งนั้นไม่ใช่แน่นอนครับถ้าพ่อเลี้ยงบดินทร์มีลูก อ้าว......
ทำไมต้องสามร้อยสิบวันด้วย ก็เพราะในทางวิชาการอายุครรภ์ของมนุษย์ไม่เกินกว่านี้แน่นอนครับ และที่ต้องมีข้อสันนิษฐานก็เพื่อตัดปัญหาว่าเด็กที่เกิดมาเป็นลูกใคร เมื่อกฎหมายว่าอย่างนี้ ใครจะบอกว่าไม่ใช่ก็ต้องพิสูจน์ครับ ที่ผมพูดเรื่องนี้เพราะหลักกฎหมายบอกว่า “ผู้ใดกล่าวอ้าง ผู้นั้นพิสูจน์” ครับ และยิ่งถ้ามีข้อกฎหมายสันนิษฐานเป็นคุณแก่ฝ่ายใด ฝ่ายนั้นไม่ต้องพิสูจน์ คนที่จะต้องพิสูจน์ก็คือคนที่อ้างข้อเท็จจริงนอกเหนือจากข้อสันนิษฐาน ครับ งงไหมครับ อิอิ
ผมกำลังสร้างปัญหาให้ละครเรื่องนี้ อิอิ ปัญหามีอยู่ว่าพอบดินทร์ตาย นางเอก(ซึ่งกำลังท้อง)จะไปจดทะเบียนสมรสกับพระเอกจะได้ไหม ลองเดาก่อนนะครับ...แล้วก้มลงอ่านต่อครับ แฮ่....
มาตรา ๑๔๕๓ เขาบัญญัติว่า “หญิงที่สามีตายหรือที่การสมรสสิ้นสุดลงด้วยประการอื่นจะทำการสมรสใหม่ได้ต่อเมื่อการสิ้นสุดแห่งการสมรสได้ผ่านพ้นไปแล้วไม่น้อยกว่าสามร้อยสิบวัน เว้นแต่(๑) คลอดบุตรแล้วระหว่างนั้น(๒) สมรสกับคู่สมรสเดิม(๓) มีใบรับรองแพทย์ประกาศนียบัตรหรือปริญญาซึ่งเป็นผู้ประกอบโรคในสาขาเวชกรรมได้ตามกฎหมายว่ามิได้มีครรภ์หรือ(๔) มีคำสั่งของศาลให้สมรสได้
เห็นไหมครับว่ากฎหมายห้ามไว้ ก็เพราะกลัวปัญหาเรื่องเด็กเกิดมาจะมีปัญหาว่าใครเป็นพ่อ แต่ถ้าไม่มีปัญหาเช่น เด็กคลอดออกมาแล้ว หรือสมรสกับคู่คนเดิมก็ไม่มีปัญหาเรื่องพ่อเด็ก หรือว่าพิสูจน์ได้ว่าไม่ท้องก็ไม่มีปัญหาเรื่องพ่อเด็กเช่นกัน และทางออกสุดท้ายก็ให้เป็นหน้าที่ของศาลจะเป็นผู้อนุญาตถ้ามีเหตุผลสมควร
ผมเป็นคนขี้สงสัยก็สงสัยต่อไปว่า ถ้าฝ่าฝืนจะไปจดทะเบียนสมรสก่อนสามร้อยสิบวันนับแต่สามีตายหรือเลิกกับสามีเก่าจะมีผลเป็นเช่นไร....
นักกฎหมายรุ่นเก่าเขารอบคอบครับ เขาเขียนเอาไว้เลยในมาตรา ๑๕๓๗ ครับ
“ในกรณีที่หญิงทำการสมรสใหม่นั้นเป็นการฝ่าฝืน มาตรา ๑๔๕๓ และคลอดบุตรภายในสามร้อยสิบวันนับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเด็กที่เกิดแต่หญิงนั้นเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามีคนใหม่และห้ามมิให้นำข้อสันนิษฐานในมาตรา ๑๕๓๖ ที่ว่าเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของสามีเดิมมาใช้บังคับ ทั้งนี้เว้นแต่มีคำพิพากษาของศาลแสดงว่าเด็กมิใช่บุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามีคนใหม่นั้น”
เห็นไหมครับ เขาพยายามจะดูว่าถ้ามันรีบแต่งกันแสดงว่าคู่นี้มีอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า ถ้าไม่มีอะไรกันผัวเพิ่งตายทำไมรีบแต่ง ไม่รู้สึกอาลัยบ้างหรือไง หรือเพิ่งหย่าผัวแล้วรีบจดทะเบียนใหม่แสดงว่าเป็นกิ๊กเก่าหรือเปล่า อิอิ กฎหมายก็เลยตัดปัญหาเพราะถ้าหญิงมีสามีใหม่ สามีใหม่ย่อมน่าจะรู้ดีว่าภรรยาตนท้องมาก่อนหรือไม่ การสันนิษฐานเช่นนี้มีผลดีต่อเด็กเพราะเด็กจะมีบิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย จริงไหมครับ....
แต่ในละคร กานพลูคลอดบุตรก่อนกำหนดเนื่องจากได้รับความกระทบกระเทือน โดยที่ยังไม่ทันที่พระเอกจะเชื่อว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขา แสดงว่าขณะนั้นกานพลูกับพินิจนัยยังไม่ได้ตกลงจะสมรสกัน (จำได้ไหมครับผมใช้คำว่าสมรสหมายถึงจดทะเบียนสมรส ถ้าใช้คำว่าแต่งงานหมายถึงจัดงานแต่งแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) พอกานพลูคลอดลูก เด็กที่เกิดมาก็ยังต้องอยู่ในข้อสันนิษฐานว่าเป็นลูกของพ่อเลี้ยงบดินทร์อยู่ดี.....
เป็นไงครับ อ่านแล้วเหนื่อยไหมครับ กฎหมายมากเกินไปหรือเปล่า พักยกดื่มกาแฟกันก่อนเน๊าะหมอกุ้งเน๊าะ....เอ้า..ใครหิวกาแฟบอกหมอกุ้งนะ....แล้วไปต่อคราวหน้านะครับ
สวัสดีครับอาจารย์
แหม...ผูกเรื่องราวละครก่อนนอนมาเป็นกฎหมายครอบครัวซะลงตัวเลย...
นอต
แต่งงานกับคนรวยนี่ยุ่งยากนะคะ ^^
อิอิ
ท่านคะ ทำไมต้องสามร้อยสิบวันคะ..มานับดูตามหลักการตั้งครรภ์ คนเราปกติจะตั้งครรภ์อย่างมากก็ 42สัปดาห์ เพราะเกินกว่านั้นเด็กคงแย่ไปแล้ว 42*7=294 วัน แถมให้ก็ไม่น่าจะเกิน 300 วัน ค่ะ.....
ว่าไปแล้วการอ่านกฎหมายครอบครัวให้แตกฉานก็เป็นเรื่องที่น่ากระทำเพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตครอบครัวของเราทุกคน แต่ทั้งนี้ก็ลองนึกดูว่าถ้าอยู่ๆคุณสามีคุณภรรยาของเราๆท่านๆ วันดีคืนดีลุกขึ้นมาพลิกบรรพ5 บรรพ6 กันผับๆ ก็ย่อมแสดงว่าเกิดอะไรขึ้นสักอย่างแล้วในชีวิตคู่...จริงมั้ยยยยย
จะฟ้องหย่าชั้นเรอะะะะะ...
ฮาฮานะครับอาจารย์
นอต
สวัสดีครับคุณนอต
การคิดนอกกรอบเป็นเรื่องสนุกนะครับ เพราะถ้าเขียนอธิบายแบบตำรากฎหมายบันทึกผมคงไม่มีใครอ่าน แบบนี้คนอ่านก็สนุกคนเขียนก็สนุกด้วย และถ้าคู่สมรสหยิบกฎหมายมาวางหัวเตียงคนละเล่มคงจะมันพิลึก ถ้าเป็นอย่างนี้สงสัยต้องบอกให้ไปอ่านนิยายฝรั่ง "เครมเมอร์ วีเอส เครมเมอร์" ครับ
สวัสดีครับ อ.จันทร์รัตน์
กฎหมายเอาชัวร์กระมังครับ เพราะเขียนไว้ในตัวกฎหมายเลยครับว่า สามร้อยสิบวัน เพราะถ้าไปคาบเกี่ยวกันที่สามร้อยวันอย่างอาจารย์ว่า เดี๋ยวจะมีปัญหาว่าลูกใครกันแน่ ยุ่งอีกครับ
ผมก็ได้ความรู้จากอาจารย์เพิ่มขึ้นเหมือนกันว่าจริงๆไม่เกิน ๒๙๔ วัน
สวัสดีครับน้องฝุ่น
ชีวิตจริงลูกเลี้ยงแต่งกับแม่เลี้ยงได้ไหม น่าสนใจนะ...แล้วบุตรบุญธรรมจะแต่งกับผู้รับบุตรบุญธรรมจะได้ไหม ถ้าแต่งแล้วผลจะเป็นยังไง น่าสนใจไหม
อ้า....ถ้าสนใจต้องติดตามตอนสามครับ อิอิ
ว่าไปแล้วที่กฎหมายกำหนดให้ผู้รับบุตรบุญธรรมมีอายุมากกว่าบุตรบุญธรรมถึง ๑๕ ปี ก็เพราะต้องการเลี่ยงไม่ให้ผู้รับบุตรบุญธรรมและบุตรบุญธรรมเกิดความรักใคร่ชอบพอกันเกินไปกว่าความสัมพันธ์ฉันท์บุตรและผู้ปกครอง (ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดคดีพิศวาสฆาตกรรมอย่างกรณีหม่อมลูกปลาได้)
ส่วนเรื่องแม่เลี้ยงลูกเลี้ยง อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่เท่าที่เรียนมา ไม่มีข้อห้ามนะครับ
นอต
สวัสดีครับท่านอัยการชาวเกาะ
วงจรชีวิตเขาผูกเรื่องให้มันวนไปวนมามากหวาวงจรโทรทัศน์เสียหล่าว...แต่พยายามทำความเข้าใจทีละท่อนครับ...
แต่ว่าเลข...๓๑๐...ไม่ใช่บอกเบอร์นะท่าน...อิอิ
ขอบพระคุณมากครับ
ขึ้นต้นสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าครับ ขอให้ท่านอัยการชาวเกาะมีความสุขมากๆ ครับ
ว้าว เริ่มมีเรื่องใครเป็นลูกใครแล้ว
สงสัยต่อไปต้องมีเรื่องทรัพย์สินระหว่างผัว&เมียแน่
จะได้จำไปแบ่งกับยายแก่ผมถูก
สวัสดีครับคุณนอต
ที่เราเรียนมามันไม่มีในกฎหมายจริงๆทั้งลูกเลี้ยงแต่งกับแม่เลี้ยง และพ่อเลี้ยงแต่งกับลูกเลี้ยง แต่...เอาไว้เฉลยกันเต็มๆตอนหน้าดีกว่าครับ อิอิ
หวัดดีพี่บ่าวนายช่างใหญ่
ไม่ได้บอกเบอร์ ถ้าซื้อก่าไม้ถูกหลาว...อิอิ
สวัสดีครับคุณท้ายอาสน์สงฆ์
อ่านจบเรื่องแล้วชวนเมียทะเลาะได้เลย...อิอิ
สวัสดีค่ะ
ตามมาอ่านตอน 2
ลูกใครหว่า?
มาเยี่ยม คุณ
เราอยู่เกาะ เป็นชาวเกาะด้วยกันนะครับ
แต่คนละฝั่งทะเล...
อย่างนี้เขาเรียกว่าลูกนอกสมรสได้ไหมครับ..?
สวัสดีครับคุณเพชรน้อย
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
สวัสดีครับอ. umi
ผมเคยไปเที่ยวเกาะอาจารย์แล้วครับ ตอนลูกสาวเอนทรานซ์ก็แนะนำให้เลือก ม.ทักษิณ ด้วย ม.วลัยลักษณ์ ด้วย แต่ได้ ม.วลัยลักษณ์ครับ
ผมเคยเห็นสถาบันทักษิณศึกษาแต่ไม่เคยขึ้นไป อยู่บนเนินใช่ไหมครับ เพราะตอนลูกชายเรียน ม.อ.กว่าจะไปถึงบางทีก็เย็น ขาไปก็จะไปผ่านขนอมแล้วไปแวะเยี่ยมลูกสาวก่อน แล้วเข้าไปทางเกาะยอ ขากลับก็มักกลับทางพัทลุง ครับ เลยไม่ได้เข้าๆไปเที่ยวสักทีครับ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมครับ