เรื่องราวกำลังมัน ผมก็กำลังเมามันกับการวิเคราะห์เพราะรู้สึกสนุกกับท่านผู้อ่านที่แหย่ตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย ต่อมความคิดกระเจิดกระเจิง อิอิ
คราวที่แล้วผมบอกว่าลูกของนางเอกที่เกิดมา (แม้ข้อเท็จจริงจะได้ความว่านางเอกผ่านการมีเพศสัมพันธ์จะสัมพันธ์ด้วยดีหรือไม่ดีก็ตามกับผู้ชายเพียงคนเดียวคือพระเอก) เป็นลูกที่ชอบด้วยกำหมายของพ่อเลี้ยงบดินทร์ ผมว่าหลายคนคงจะผิดหวัง แต่..ยังก่อนเรื่องมันไม่จบแค่นี้หรอกครับ เพราะกฎหมายเขาก็เป็นห่วงผู้มีสิทธิได้รับมรดกจริงๆจะเสียประโยชน์หากเด็กที่คลอดออกมาไม่ใช่ทายาทของเจ้ามรดกตัวจริง ก็เลยเขียนทางแก้เอาไว้ว่าอย่างนี้ครับ
“มาตรา ๑๕๔๔ การฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตร ผู้มีสิทธิได้รับมรดกร่วมกับเด็กหรือผู้จะเสียสิทธิรับมรดกเพราะการเกิดของเด็กอาจฟ้องได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(๑)ชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามีตายก่อนพ้นระยะเวลาที่ชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามีจะพึงฟ้องได้
(๒)เด็กเกิดภายหลังการตายของชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามี
การฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตรในกรณี (๑) ต้องฟ้องภายในหกเดือนนับแต่วันรู้ถึงการตายของชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามี การฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตรในกรณี(๒) ต้องฟ้องภายในหกเดือนนับแต่วันที่รู้ถึงการเกิดของเด็ก แต่ไม่ว่าเป็นกรณีใด ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นสิบปีนับแต่วันเกิดของเด็ก
ให้นำมาตรา ๑๕๓๙ มาใช้บังคับแก่การฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตรตามวรรคหนึ่งโดยอนุโลม”
กรณีในละคร จะเห็นได้ว่าเป็นไปตามกรณี (๒)เด็กเกิดภายหลังการตายของชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามี ถ้าถามว่าในตัวละครใครล่ะที่มีสิทธิได้รับมรดกร่วมกับเด็กหรือผู้จะเสียสิทธิรับมรดกเพราะการเกิดของเด็ก กรณีนี้พระเอกในฐานะเป็นลูกย่อมจะเป็นทั้งผู้มีสิทธิได้รับมรดกร่วมกับเด็กและเป็นผู้เสียสิทธิรับมรดกแต่ไม่ทั้งหมด เพราะมีคนมาแบ่งมรดกคือลูกนางเอกที่เกิดใหม่ในฐานะบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของพ่อเลี้ยงบดินทร์ นั่นเอง อิอิ มันวุ่นวายเหลือเกิน เรามาลองคิดกันเล่นๆไหมครับ ว่า ถ้าท่านเป็นพระเอกและท่านรู้ว่าเด็กคือลูกของท่าน ท่านจะฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตรไหม กรณีในละครดูไม่ค่อยยุ่งยากในการแบ่งมรดกเท่าไหร่ แต่ถ้าพระเอกมีพี่น้องหลายคนจะเห็นได้ชัดเลยว่าสัดส่วนในการแบ่งมรดกจะเปลี่ยนไป ผมจะยกตัวอย่างให้เห็นจะจะครับ
สมมุติว่า พินิจนัย มีพี่น้องสองคนคือ พินิจนำ และพินิจน้อย (ทำไมชื่อต้องยุ่งยากอย่างนี้..อิอิ) มีพ่อชื่อพ่อเลี้ยงบดินทร์ ซึ่งก่อนตายได้เจ็ดวันเอาหนูกานพลูมาเป็นเมียจดทะเบียนสมรสกัน พอพ่อเลี้ยงบดินทร์ตายถ้าไม่ทำพินัยกรรมไว้ สมมุติว่าทุกคนรู้ว่ากานพลูท้อง ถ้าแบ่งทรัพย์มรดกตามปกติ พินิจนัย พินิจนำ พินิจน้อย กับลูกคนใหม่จะได้คนละหนึ่งส่วนเท่ากัน และกานพลูในฐานะภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายก็จะได้หนึ่งส่วนเท่ากับทายาทชั้นบุตร ถ้ามีเงินสด ๕๐ล้าน ทุกคนก็จะได้คนละ ๑๐ ล้าน แต่ถ้าฟ้องศาลไม่ให้รับเด็กที่เกิดมาใหม่เป็นบุตรของพ่อเลี้ยงบดินทร์ได้สำเร็จ สัดส่วนในการรับมรดกก็จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นได้คนละ ๑๒.๕ ล้านบาท เห็นหรือยังครับ....
แต่ในเรื่อง เมื่อคืนก่อนเห็นในละคร นางเอกเชิญทนายความมาปรึกษา ทนายประจำตระกูลบอกว่าไม่ต้องห่วงเพราะพ่อเลี้ยงบดินทร์ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้กานพลูและลูกมากกว่าพินิจนัยเสียอีก ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง พินัยกรรมที่พ่อเลี้ยงบดินทร์ทำไว้ศักดิ์สิทธิ์กว่าลำดับผู้มีสิทธิได้รับมรดก หมายถึงว่าต้องยึดเอาพินัยกรรมเป็นหลัก พินัยกรรมจะเขียนยกทรัพย์มรดกให้กับคนภายนอกไม่ยกให้ลูกซึ่งเป็นผู้สืบสันดานเลยก็ได้ ดังนั้นถ้าพินัยกรรมของพ่อเลี้ยงบดินทร์เขียนให้กานพลูและลูกมีสิทธิในมรดกมากกว่าพินิจนัยก็ต้องเป็นไปตามนั้นครับ.....(ใครที่สงสัยว่าลำดับในการรับมรดกเป็นอย่างไร ตามไปดูที่นี่ครับ บ้านทรายทอง(๒))
เรามาย้อนตอบคำถามว่าถ้าท่านเป็นพระเอกและรู้ว่าลูกในท้องเป็นของท่าน ท่านจะฟ้องไม่ให้รับเด็กเป็นบุตรไหม...ผมว่าต้องมีคนคิดว่าถ้าเป็นเขาก็จะไม่ฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตร เพราะถ้าเรื่องนี้ไม่มีพินัยกรรม แล้วไม่ฟ้องคดีดังกล่าว ครอบครัวเขาจะได้มรดกมากกว่าใครอื่น ลองไปย้อนดูในตัวอย่างสมมุติว่าไม่มีการฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตร ลูกของการพลูจะได้ ๑๐ ล้าน พินิจนัยได้อีก ๑๐ ล้าน กานพลูอีก ๑๐ ล้านรวมทั้งครอบครัวเป็นสามสิบล้าน ถ้าฟ้องได้สำเร็จกานพลูกับบดินทร์ได้คนละ ๑๐ ล้านรวมทั้งครอบครัวเป็น ๒๐ ล้าน เป็นคุณๆจะฟ้องไหมครับ แฮ่.....
คราวที่แล้วมีผู้นำเสนอความคิดเห็นและถามกลายๆว่าแล้วแต่งงานกันได้เหรอแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง ผมเปิดดูกฎหมายแล้วก็ไม่เห็นมีมาตราไหนที่ห้ามแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงแต่งงานกัน และก็ไม่ห้ามพ่อเลี้ยงแต่งกับลูกเลี้ยงด้วย คำว่าแม่เลี้ยงหรือพ่อเลี้ยงในที่นี้หมายถึงไม่ใช่พ่อแม่จริงๆของอีกฝ่ายซี่งมาแต่งงานกับแม่หรือพ่อจริงของอีกฝ่ายหนึ่ง งงไหม ผมว่าไม่งงนะ แต่ไม่ได้หมายถึงพ่อเลี้ยงหรือแม่เลี้ยงในภาคเหนือที่ถือเป็นคนรวย อย่างเช่น แม่เลี้ยงกุ้งเจ้าของไร่กาแฟนับพันไร่แห่งปางมะผ้า เป็นต้น เป็นกอ เป็นเหล่า....อิอิ อ้อ แล้วก็ไม่ใช่โกเลี้ยงข้างบ้าน ที่แอบไปปีนต้นหมากดูมวยชกหลังวัด พอนักมวยพร้อมบนเวที กรรมการสั่งพี่เลี้ยงลง โกเลี้ยงแกก็ปีนต้นหมากลงพร้อมกับบ่นอุบอิบว่า กูอยู่ตรงนี้มันยังเห็น ไม่ดูก็ได้วะ...เอิ้กๆๆ
แต่ถ้าเป็นเรื่องบุตรบุญธรรมกับผู้รับบุตรบุญธรรม กรณีนี้ต้องว่ากันตามกฎหมาย(คือเป็นบุตรบุญธรรมหรือผู้รับบุตรบุญธรรมตามกฎหมาย ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานของรัฐแล้วและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว) กรณีนี้มีกฎหมายกำหนดชัดเจน อย่างนี้ครับ
“มาตรา ๑๔๕๑ ผู้รับบุตรบุญธรรมและบุตรบุญธรรมจะสมรสกันไม่ได้”
แต่เมื่อมันเป็นเรื่องของคน ถ้าฝ่าฝืนล่ะมันจะเกิดอะไรขึ้น กฎหมายได้กำหนดทางแก้เอาไว้แล้ว โดยกำหนดไว้ในมาตรา ๑๕๙๘/๓๒ ว่า “การรับบุตรบุญธรรมย่อมเป็นอันยกเลิกเมื่อมีการสมรสฝ่าฝืนมาตรา ๑๔๕๑” ก็ถือว่าไม่เป็นไม่เปินมันแล้วพ่อบุญธรรม แม่บุญธรรม ลูกบุญธรรม เป็นสามีบุญธรรม เอ๊ย...เป็นสามีภรรยากันตามอยากก็แล้วกัน ฮ่าๆๆ
ถ้าเอามาเทียบเคียงกับในละครเรื่องนี้ก็คงได้กระมัง เลิกแล้วการเป็นแม่เลี้ยงลูกเลี้ยง เป็นผัวเมียกันดีกว่า เพราะไม่มีกฎหมายห้าม และก็ไม่มีใครห้าม สังคมจะว่าอย่างไรก็เป็นเรื่องของสังคม แล้วคนในสังคมที่ไปว่าเขารู้หรือไม่ว่าที่นางเอกต้องเป็นแม่เลี้ยงพระเอกเพราะอะไร ลูกของนางเอกเกิดจากใคร แล้วนางเอกรักใคร พระเอกรักใคร แล้วถ้าเขาจะแต่งกับใครหรืออยู่กันเฉยๆกับใคร แล้วมันเป็นเรื่องของเขาหรือเรื่องของใคร....คิกคิก....
เขียนมาถึงตรงนี้ มันก็ยังจบไม่ได้อยู่ดี ช่วยตามผมต่ออีกสักตอนแล้วกันนะ....นึกว่าสงสารเหอะ...อิอิ
อิอิ....มาแว้ว...
ท่านคะ...อยากรู้แบบกระทันหันว่า...บิดาและบุตร สามารถร่วมภรรยาเดียวกันได้ไหมคะ
กับถ้าสมมติว่า บดินทรไม่ตาย แล้ว รู้ว่าลูกของเขาจริงๆแล้วเป็นหลานของเขา จะเรียกลำดับญาติกันอย่างไงคะเนี่ย
ปล. ชอบมนตรีเล่นละครค่ะ ตั้งแต่เรื่องแรกมาเลย..ยังจำวาทะนี้ได้....."น้ำเป็นของปลา"
สวัสดีครับ อ.จันทร์รัตน์ นักเรียนแถวหน้า อิอิ
ถ้าพ่อเลี้ยงบดินทร์และทุกคนรู้ความจริง พ่อเลี้ยงบดืนทร์ก็เพียงไปจดทะเบียนหย่ากับกานพลู แล้วกานพลูก็ไปชอจดทะเบียนสมรสใหม่กับพินิจนัย ถ้าภายใน ๓๑๐ วันก็ต้องพิสูจน์ว่า ที่กานพลูท้องนั้นท้องกับพินิจนัยมิใช่ท้องกับบดินทร์ครับ ถ้าเจ้าหน้าที่ไมจดทะเบียนสมรสให้ก็ต้องไปฟ้องศาลครับ ฟ้องที่ศาลเยาวชนและครอบครัวครับ ตอบให้เสียเลยก่อนจะสงสัยว่าฟ้องที่ศาลไหน อิอิ
อ้อ..ขอโทษ พ่อเลี้ยงบดินทร์ตายแล้ว จดทะเบียนหย่าไม่ได้ แต่เมื่อกานพลูเป็นหม้ายแล้ว เท่ากับไม่มีคู่สมรสก็ไปจดทะเบียนใหม่ได้ แต่จะติดปัญหาที่ ๓๑๐ วัน ก็ต้องไปพิสูจน์ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของพินิจนัยครับ อย่างนี้ก็ไม่มีใครว่าอะไร เว้ยแต่คนไม่รู้ก็จะตำหนิพินิจนัยว่าเอาเมียพ่อมาเป็นเมียตัว แต่ก็ไม่ผิดกฎหมายครับ
ขอโทษอ.จันทร์รัตน์ยังตอบไม่หมก อิอิ
ถ้าบดินทร์ไม่ตาย วิธีที่ดีที่สุดก็ต้องยกเมียให้ลูกไปจดทะเบียนใหม่ แล้วบดินทร์ก็เป็นตุณปู่ไปก็แค่นั้น แก่แล้ว ผมจะแนะบดินทร์ไปบวชซะ..เอิ้กๆๆ
มาตามอ่านลิขิตกามเทพ
และเอาข่าวมาฝากค่ะ
ดร.วิชช์ จีระแพทย์ คว้ารางวัล"วิทยานิพนธ์"ดีเยี่ยม
เป็นอัยการค่ะ
ตามมาอ่าน "ลิขิตกามเทพ" ค่ะ ^_^ ปกติไม่ค่อยได้ดูทีวีเลย อิอิ มาอ่านในภาคของท่านอัยการแล้วสนุกดีค่ะ ได้ความรู้ด้วย
ขอบคุณค่า ..
สวัสดีครับน้องฝุ่น
รับมุขทัน....อิอิ...
สวัสดีครับคุณพี่ศศินันท์
ก่อนอื่นต้องขอชมภาพใหม่ว่ายิ่งสดใสกว่าเก่า เป็นสาวสองพันปีเลยนะครับ อิอิ
ท่านอธิบดีวิชช์ ท่านเป็นคนเก่งมาก ผมเข้ามาเป็นอัยการใหม่ก็เห็นชื่อท่านในฐานะนักวิชาการ เขียนบทความหลายเรื่องครับ แต่ไม่เคยรู้จักตัวจริงท่านครับ เพราะผมรับราชการวนเวียนเฉพาะภาคใต้ไม่เคยไปภาคอื่นครับ ส่วนท่านอยู่ทางภาคอีสานและภาคกลาง ท่านเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราชาวอัยการท่านหนึ่งครับ
ขอบคุณคุณพี่ที่แจ้งข่าวครับ
สวัสดีครับน้อง เนปาลี
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ ต่อไปคงต้องดูละครประกอบเพื่อให้เกิดความมันในการอ่านวิเคราะครับ อิอิ ทำให้น้องเราเสียเวลาทำอย่างอื่นหรือเปล่าเนี่ย...
โอ้ยยย หนังหรือกฏหมายทำมึนกันแน่ แม่เลี้ยงลูกเลี้ยง จะเป็นลูกหรือจะเป็นหลาน ฮ่าฮ่า หนังไทยสุดยอดดดด
ไม่ได้อ่านตอนแรกๆ มาอ่านตอนสามเลย อิอิ แต่ก็มันส์อยู่เหมือนเดิม
ดีไม่ดี คราวหน้านักประพันธุ์ และผู้กำกับต้องมาให้คุณอาช่วยเขียนบทด้วยซะแล้ว จะได้มันส์ยิ่งขึ้นไปอีก
อิอิ
^___^
สวัสดีหนูแนน
ตามไปอ่านเรื่องเลือกตั้งที่ออสเตรเลียมาแล้วสนุกดี ดีใจที่คนไทยใช้สิทธิกันเยอะถึง ๖๐กว่าเปอร์เซนต์
ตอนนี้นิยายประเภทนี้เขาเรียนนิยายยุงชุม บ้าง นิยายเน่าได้ใจบ้าง อิอิ ถ้าจะรู้เรื่องทั้งหมดก็ต้องถอยไปอ่านตอนหนึ่งเป็นเรื่องย่อ ตอนสองตอนสามวิเคราะห์ข้อกฎหมาย ถ้ายังมีก็วิเคราะห์ต่อในตอนสี่ ถ้าไม่มีตอนสี่ก็จะเป็นเรื่องคุณธรรมจริยธรรมในละครเรื่องนี้ครับ
ขอบคุณ อ.ธ วั ช ชั ย ครับ
เมื่อเช้าโพสต์โดยไม่ได้สวมแว่นครับ แล้ว copy ใน word มาแปะครับ และก็เพิ่งเห็นตอนที่อาจารย์บอกนี่แหละครับ ขอบคุณครับ แก้แล้วครับ
สวัสดีค่ะ ท่านพี่อัยการ
(ต่อค่ะ)ดิฉันไม่ได้ติดตามละครเรื่องนี้ค่ะ ...แต่อยากทราบว่าลูกในท้องของนางเอกน่ะ จริงๆแล้ว....ลูกใครคะท่าน อยากรู้แค่นี้ก่อนค่ะ...เพราะถามแม่ลูกสาวคนเล็กก็บอกว่าไม่เห็นว่าไปได้กับใครให้เธอเห็น...เฮ้อ........
สวัสดีครับคุณติ๋ว
เด็กในท้องนางเอกเป็นลูกของพระเอก เพราะพระเอกข่มขืนนางเอกก่อนนางเอกจะแต่งงานกับพ่อพระเอกครับ ต้องย้อนกลับไปอ่านตอนที่ ๑ แล้วละครับจะได้รู้เรื่องย่อ อิอิ
สวัสดีครับท่านอัยการชาวเกาะ
ผมอ่านทีละหีด ไม่เข้าใจก็หลบไปอ่านแต่ต้นใหม่หลายหน...จึงเข้าใจครับ
แต่ว่าเรื่องนี้สงสารโกเลี้ยงครับ...ไม่รู้แกถดลงทีละหีดหม้าย...ถ้าแขบเป็นเรื่องแน่...ต้นหมากเขาพังเหม็ดครับ
ขอบพระคุณครับ
ขอบคุณพี่บ่าว นายช่างใหญ่
ที่แวะเข้ามาเยี่ยม ผมไปอ่านบันทึกของพี่บ่าวเดาว่าน่าจะมีปัญหาที่โทรทัศน์ แต่พอไปหยอกพี่บ่าวแล้วลืมเขียนครับ เพราะสมัยก่อนที่บ้านผมรับซ่อมวิทยุโทรทัศน์ได้เรียนกับช่างหีดหุ้ยครับ ช่างแกสอนให้อ่านสีที่ทรานซิสเตอร์ เทคนิคว่าถ้าไม่มีอะไหล่เอาตัวไหนแทนไปพลางก่อน ป่านี้ลืมเหม็ดแล้ว อิอิ
สวัสดีครับท่านอัยการชาวเกาะ
เฉลยแล้วครับ...นักเรียนช่าง...อันตราย
เรื่องค่าสีของรีซิสเตอร์ นี่จำขึ้นใจครับ
ดำ น้ำตาล แดง ส้ม เหลือง เขียว น้ำเงิน ม่วง เทา ขาว ทอง เงิน ไม่มีสี ครับ...ของหากินครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณพี่บ่าวมากครับ
รีซิสเตอร์ผมยังจำผิดเลย แต่ตอนนั้นผมเพิ่ง ๑๑-๑๒ ปี พ่อขายวิทยุทรานซิสเตอร์ จักรเย็บผ้า (ผมยังเคยซ่อมจักรเป็นตีนกุ้งได้เลย)
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ พี่องุ่นคนสวย
เอ..ไม่เห็นน่าจะกลัว เพราะเจ๊องุ่นมีตระกูล แซ่เฮ อีกตระกูลนึง อิอิ
ลงไปภูเก็ตเมื่อไหร่อย่าลืมพาครูเสือและพ่อครูบาไปด้วยนะ จะตั้งหน้าตั้งตารอ
ขอบคุณที่ชมครับ
อ่านแล้วได้ทั้งบันเทิงและเริงปัญญาอย่างครบครัน แต่ก็จนมุมที่จะแลกเปลี่ยนใด ๆ ... แต่ก็ยังติดใจตัวเองที่ยังไม่ได้แลกเปลี่ยนเรื่อง "จันดารา" ... เพราะเรื่งนี้ผมชื่นชอบมาก โดยเฉพาะในมิติทางวรรณกรรม โดยครั้งหนึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นนวนิยายแนวจิตวิทยาเรื่องแรกของไทยเลยทีเดียว...
...................
ขอบพระคุณครับ
ขอบคุณ อ.แผ่นดินที่แวะมาทักทายครับ
ผมอ่านบันทึกอาจารย์แล้วนึกทุกครั้งว่าสมัยเราเป็นนักเรียนแล้วมีอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นแบบ อ.แผ่นดิน ความคิดอ่านของเราจะบรรเจิดขนาดไหน เด็กนิสิตเหล่านั้นโชคดีจริงๆครับ
สวัสดีครับคุณ
คราวหน้าอยากอ่านเรื่องอะไรละครับ บอกก่อนล่วงหน้าก็ได้เพราะผมใช้เวลาสอง-สามวันนี้ปั่นอุทธรณ์ฎีกาไป ๕ เรื่องแล้วครับ วันนี้ตั้งใจจะให้เสร็จสัดสามเรื่องก็จะเบามือ หานิยายมาวิเคราะห์ได้อีกครับ