ในตอนแรกผมเขียนแหย่เอาไว้นิดหนึ่งว่า เรื่องนี้น่าสงสัยพอจดทะเบียนปุ๊บ ผัวตายได้สมบัติครึ่งหนึ่งเลยเหรอ เรื่องนี้ต้องขยายครับ เพราะเนื่องจากในบทละครย่อที่ผมซื้อมาเขาบอกว่า “หลังงานศพ กานพลู ได้ส่วนแบ่งมรดกคนละครึ่งกับ พินิจนัย ผมเป็นห่วงตรงที่ชาวบ้านจะเข้าใจว่า จดทะเบียนปุ๊บมีสิทธิได้รับมรดกครึ่งหนึ่งปั๊บ นะซิครับ เดี๋ยวจะได้ตีกันตาย
ที่ผมกลัวคำว่าครึ่งหนึ่งก็เพราะเวลาแบ่งมรดกในกรณีผัวเมียจดทะเบียนสมรสกัน ถ้าอยู่กินกันมาครอบครัวสร้างฐานะกันใหญ่โตขึ้นมีทรัพย์สินมากมาย เกิดผัวตายขึ้นมา ทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันนั้น ถึงแม้เมียจะทำกับข้าว เช็ดบ้านถูเรือน ป้อนข้าวป้อนน้ำให้ลูก ไม่เคยไปช่วยทำการค้าเลย ก็ถือว่าเมียเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่ง ทรัพย์ที่จะเป็นมรดกได้ก็จะต้องเป็นทรัพย์ส่วนที่เป็นของคนที่ตายไปจะเอาทรัพย์ที่เป็นของคนอื่นมาแบ่งเป็นมรดกไม่ได้ ดังนั้นเมื่อผัวตายจึงต้องเอาทรัพย์สินที่ทำมาหาได้หลังจากจดทะเบียนสมรสมาแบ่งครึ่งกันก่อน ส่วนของเมียครึ่งหนึ่งก็แบ่งไป ขอยกตัวอย่าง
เขียวเสวย เป็นพ่อค้า ได้อกร่องเป็นภรรยา สมัยที่ยังไม่ได้สมรสกัน เขียวเสวยก็หามีทรัพย์สมบัติอะไรไม่ คงถีบจักรยานขายกล้วยน้ำว้าอยู่ พ่อแม่ก็ตายหมดแล้ว แต่อกร่องเห็นเขียวเสวยหนักเอาเบาสู้จึงยอมเป็นคู่ชีวิตด้วย เขียวเสวยสะสมเล็กสะสมน้อยจนซื้อจักรยานยนต์มือสองได้มาคันหนึ่ง ซื้อกล้วยไปขายได้ไกลขึ้นมีรายได้มากขึ้น จนพัฒนาตัวเองมาขายผลไม้สด แล้วพัฒนามาเป็นผู้ขายส่งผลไม้ จนในที่สุดเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า มีบุตรด้วย ๒ คน มีทรัพย์สินประมาณ ๑๐๐ ล้านบาท ความเหน็ดเหนื่อยกับการทำงาน ในที่สุดเขียวเสวยล้มป่วยและตาย การแบ่งมรดกก็จะต้องแบ่งให้อกร่องก่อน ๕๐ ล้าน ที่เหลืออีก ๕๐ ล้าน จึงจะเอามาเป็นมรดก เขียวเสวยไม่มีพ่อและแม่เพราะสิ้นบุญไปก่อน การแบ่งกรณีมีภรรยาผมได้เขียนไปเมื่อตอนที่แล้วว่า ทายาทมีสิทธิคนละ ๑ ส่วนเท่ากันและภรรยาที่จดทะเบียนก็มีสิทธิได้ ๑ ส่วนด้วย ดังนั้นอกร่องจึงได้อีก ๑๖ ล้านเศษ ลูกสองคนได้ คนละ ๑๖ ล้านเศษ เช่นกันเพื่อความแน่ใจของท่านผู้อ่าน เพื่อความรู้ของท่านทั้งหลายผมขอยกกฎหมายเต็มๆเกี่ยวกับส่วนแบ่งของภรรยาในการแบ่งมรดกจะได้รู้เอาไว้ มิได้แช่งให้เป็นหม้าย อิอิ นี่ครับมันเป็นยังงี้
“มาตรา ๑๖๓๕ ลำดับและส่วนแบ่งของคู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่ในการรับมรดกของผู้ตายนั้น ให้เป็นไปดั่งต่อไปนี้
(๑) ถ้ามีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙ (๑) (ผู้สืบสันดาน) ซึ่งยังมีชีวิตอยู่หรือมีผู้รับมรดกแทนที่แล้วแต่กรณี คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นมีสิทธิได้ส่วนแบ่งเสมือนหนึ่งว่าตนเป็นทายาทชั้นบุตร (กรณีกานพลูก็จะเป็นกรณีนี้แหละครับ)
(๒) ถ้ามีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙(๓)(พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน) และทายาทนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือมีผู้รับมรดกแทนที่ หรือถ้าไม่มีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙(๑) แต่มีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙(๒)(บิดามารดา) แล้วแต่กรณี คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นมีสิทธิได้รับมรดกกึ่งหนึ่ง
(๓) ถ้ามีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙(๔)(พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน) หรือ (๖)(ลุง ป้า น้า อา) และทายาทนั้นยังมีชีวิตอยู่ หรือมีผู้รับมรดกแทนที่ หรือมีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙(๕) (ปู่ ย่า ตา ยาย) แล้วแต่กรณี คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่ มีสิทธิได้รับสองส่วนในสามส่วน
(๔) ถ้าไม่มีทายาทดั่งที่ระบุไว้ในมาตรา ๑๖๒๙ คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นมีสิทธิได้รับมรดกทั้งหมด”
ทีนี้ หันกลับมาที่ละครของเรากันดีกว่า บดินทร์เพิ่งจดทะเบียนสมรสกับกานพลู โดยที่บดินทร์มีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลก่อนแต่งงานกับกานพลู พอแต่งกับกานพลูปุ๊บ ไม่ใช่ว่ากานพลูจะมีสิทธิในทรัพย์ทั้งหมดครึ่งหนึ่งหรอกครับ แต่ที่ในละครเขียนไว้อย่างนั้นมันก็เป็นไปได้ตรงที่พ่อเลี้ยงบดินทร์ไม่มีทายาทอื่นคงมีแต่พินิจนัยซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน เมื่อบดินทร์ถึงแก่ความตาย ทรัพย์มรดกจึงตกแก่ทายาทก็คือพินิจนัยคนเดียว แต่การแบ่งมรดกก็มาเข้าข้อที่ว่าพ่อเลี้ยงบดินทร์มีภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายจึงต้องแบ่งให้ภรรยาชอบด้วยกฎหมายหนึ่งส่วนเท่ากัน สมมุติว่ามีมรดก ๑๐๐ ล้าน พินิจนัยกับกานพลูจึงได้คนละหนึ่งส่วน(คนละ ๕๐ ล้าน)ด้วยประการฉะนี้...(แต่ไม่ใช่เพราะกฎหมายกำหนดให้แบ่งครึ่งนะครับ)
แต่ถ้าพินิจนัย มีน้องชายแบบที่ผมยกตัวอย่างตอนที่แล้ว คือ พินิจนำกับพินิจน้อย การแบ่งมรดกก็จะเปลี่ยนไปครับ กานพลูจะได้ ๑ ส่วน พินิจนัย พินิจนำ และพินิจน้อย ก็จะได้คนละ ๑ ส่วน ก็จะกลายเป็นว่าได้คนละ ๒๕ ล้านบาทครับคราวนี้เห็นชัดเลยใช่ไหมครับว่าพอแต่งปุ๊บไม่ได้ครึ่งหนึ่งปั๊บ
เรื่องย่อในละครที่ซื้อมาว่าอย่างนั้น แต่ตัวอย่างละครในทีวีนั้นทนายบอกว่าพ่อเลี้ยงบดินทร์ยกมรดกให้กานพลูกับลูกมากกว่าให้กับพินิจนัยเสียอีก ผมก็สงสัยอีกนั่นแหละเพราะพ่อเลี้ยงบดินทร์ยังไม่ได้มีอะไรกับหนูกานพลูเลย และเพิ่งจดทะเบียนได้เจ็ดวัน จะเขียนพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ให้กับกานพลูกับลูกเชียวหรือ นี่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็คงต้องรบกันในส่วนของพินัยกรรมว่าปลอมหรือไม่ปลอมกันแน่...ผมไม่ทราบว่าต้นฉบับเรื่องนี้เป็นอย่างไร บทละครเป็นอย่างไร มีการแก้ไขเพิ่มเติมกันต่อหรือไม่ เพราะมันขัดกับเหตุผลที่ผมว่า แล้วคุณว่าไหม..อิอิ
ผมเป็นห่วงละครเรื่องนี้ ที่มีวัยรุ่นดูแล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นพระเอกพอไม่พอใจแฟนก็จะข่มขืน ถ้าฝ่ายหญิงรู้จักรักษาสิทธิตัวเองก็แล้วไป แต่ถ้าคิดแบบละคร หลังจากพระเอกข่มขืนแล้ว นางเอกก็ไม่กล้าแจ้งความ แล้วเช็ดน้ำตาป้อยๆบอกพระเอกว่า ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ..(ฮิฮิ..เวรกรรม) ต่อมาพระเอกหลงรักนางเอกหัวปักหัวปำ เขาคงจะเป็นเช่นนี้ละก้อ...เป็นเวรกรรมของสังคมเลยเชียวแหละ...
ผมแทบจะหาคุณธรรมในละครเรื่องไม่เจอเลย ใครหาเจอช่วยบอกหน่อยนะครับ.....เพราะผมดูแล้ว...พ่อเลี้ยงบดินทร์ก็มักมากในกาม พินิจนัยก็คิดเอาชนะผู้หญิงด้วยการข่มเหงรังแก นางเอกถูกข่มขืนครั้งแล้วครั้งเล่าพูดเป็นอยู่คำเดียว...ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ...ภาดา ก็เห็นผู้หญิงเป็นเครื่องเล่น เภรีก็ถือว่าเป็นลูกคนรวยอยากได้อะไรต้องได้ ภูษิตก็ชอบเที่ยวดื่มของมึนเมาชักชวนพระเอกให้เที่ยวแล้วหาผู้หญิงให้ พิบูลย์ดีหน่อยตรงที่เป็นคนรักเดียวใจเดียวถึงแม้จะมีแม่(จันทร์เพ็ญ)ที่ขาดไร้คุณธรรมไปซักหน่อย สงสัยว่าถ้าจะเอาส่วนดีก็คือเมื่อรู้ว่ามันไม่ดีก็อย่าไปเอาตัวอย่าง...เอามันเป็นบทเรียนสอนใจว่าอย่าทำอย่างนี้.....
ถึงบทจบเสียที คราวนี้จบได้ในสี่ตอนแฮะ....คอยติดตามเรื่องใหม่นะครับ ใครอยากอ่านเรื่องอะไรแจ้งมาแล้วกันนะครับ จะพยายามจัดให้ แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่ศาลกำลังเร่งตัดสินคดีเพื่อไม่ให้ค้างปี งานผมค่อนข้างจะเยอะสักหน่อย อาจจะช้าไปบ้างก็ต้องขออภัยล่วงหน้าครับ
ขอสักนิดเหอะ ขอมีส่วนร่วมทางการเมือง วันนี้อย่าลืมไปเลือกตั้งเด้อ...มีบัตรสองแบบ แบบสัดส่วนมีชื่อพรรคเขียนไว้ให้แล้ว แบบแบ่งเขตจำเบอร์ผู้สมัครให้ดี ทีนี้ก็ "กาแม่งเลย" อิอิ ผมเอามาจากในการ์ตูนครับ ลูกชายเขา print วางไว้ที่โต๊ะคอม แล้วเขายังบอกไว้ด้วยนะครับว่า "ให้กากบาทเท่านั้นนะครับ อย่าไปเขียนด่าใครในนั้น ไม่แนวหรอก" อิอิ
สวัสดีครับพี่ศศินันท์
แล้วเรื่องอื่นของผมมีประโยชน์น้อยหรือครับ อิอิ ขอโทษ ล้อเล่ง....อิอิ
ไปใช้สิทธิตั้งแต่เช้าแล้วครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ คุณอัยการ
สวัสดีครับน้องหมอกุ้ง
ผมดูละครบางเรื่องมีฉากว่าความในศาลก็เห็นได้ชัดว่าผิดแน่นอน เวลาเข้าไปในห้องพิจารณาหันหน้าเข้าหาศาล ซ้ายมือเราจะเป็นฝ่ายโจทก์ ขวามือเราจะเป็นฝ่ายจำเลยครับ มีละครหลายเรื่องที่อัยการซึ่งเป็นโจทก์ไปอยู่ขวามือ มันมั่วกันได้....ผมนั่งดูไปบ่นไปจนภรรยาบอกว่าคุณไปบอกเขาซิ เลยต้องหาทางออกมาเขียนบล๊อกนี่แหละ อิอิ
สวัสดีครับน้องฝุ่นเอ..หรือจะเรียกละอองดาว อิอิ
การ์ตูนที่ลูกชายพิมพ์ออกมาเขียนอย่างนั้นจริง แถมยังมีอีกว่าคราวนี้ดีหน่อยไม่หันตูดไปให้....) ผมเห็นว่ามันทะลึ่งเกินไปก็เลยไม่เอามาเขียน แต่เป็นการ์ตูนที่วัยรุ่นเขาส่งให้กันเพื่อชวนกันไปเลือกตั้ง เอาเหอะถึงมันจะทะลึ่งหรือไม่สุภาพไปบ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องของการตั้งใจที่จะให้เข้าถึงวัยรุ่นให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันให้มาก ก็อภัยให้ อิอิ
ละครเกาหลีต้องยอมรับว่ากระเทือนไปทั้งโลกเมื่อละครเรื่องแดจังกึมออกสู่สายตา เพราะความรอบคอบในการจัดวางเรื่องวัฒนธรรมที่จะนำเสนอต่อสาธารณะ ทราบว่าทางรัฐบาลเข้าไปดูแลด้วย หนังของเขาจึงยิ่งใหญ่ เมื่อคืนก็ดูจูมงตอนจบ หนังของเขาดูแล้วก็ทำให้คนรักชาติ และคอยดูหนังเรื่องใหม่ที่เน้นให้คนทำการค้า เขาวางแผนทำงานอย่างเยี่ยมยอด แล้วของเราล่ะ มีแต่พระเอกข่มขืนนางเอก ง่ะ....
ฮ่ะๆ มันพะยะค่ะ
เรื่องไม่เนียน หมอกุ้งเคยดูเรื่องสะพานรักสารสินไหม เรื่องเกิดที่ภูเก็ต พระเอกเป็นคนขับรถสองแถว กับนางเอกซึ่งเรียน ว.ค.ภูเก็ต สมัยนั้นรักกันเพราะนางเอกนั่งรถพระเอกไปเรียนหนังสือ แล้วแอบรักกันถูกผู้ใหญ่กีดกัน ก็เลยพากันไปใช้ผ้าขาวม้าผูกเข้าด้วยกันแล้วกระโดดลงสะพานสารสินจนตายด้วยกันทั้งคู่ ทีนี้ในความเป็นจริงหาดทรายแก้วกับสะพานสารสินมันอยู่ใกล้กันมากนั่งรถไม่ถึงสามนาทีก็ถึงแล้ว แต่ในหนัง พวกที่ขับรถไปตามพระเอกนางเอกมันขับกันอยู่นั่นแหละสักห้านาทีได้ คนภูเก็ตดูแล้วก็รำคาญ อิอิ
อ้อ ดีนะที่เป็นหนังไทยสมัยนี้ ถ้าเป็นสมัยก่อนยังร้องเพลงจนจบก่อนตาย หมอกุ้งเคยดูไหม อิอิ
สวัสดีครับท่านอัยการชาวเกาะ
แรกหัวเช้าอ่านทีหนึ่งแล้ว ไม่ทันได้รู้เรื่องดีที ผู้ใหญ่บ้านผมโก้เหวว ๆ ว่าให้แขบ อิไปเลือกตั้งแล้วไปเที่ยวต่อ...เลยไม่ทันรู้เรื่องครับ...
หวันเย็นหลบมาจากเที่ยวฟาร์มโชคชัยที่มวกเหล็ก...มาเริ่มอ่านใหม่...ทำความเข้าใจ...ก็พอเข้าใจมั่งครับ...
เขาทำละครให้คนหลายชั้นแล...แล้วให้แปลเอาเอง...ใครยืนอยู่จุดไหนก็จะมีมุมมอง ณ จุดนั้น...ต้องทำใจครับ...
ขอบพระคุณครับ
ขอบคุณพี่บ่าวที่แวะมาทักทาย
ละครเขาทำมาให้คนดูเพื่อความมันในอารมณ์ แล้วแต่คนดูจะคิดอย่างพี่บ่าวว่า แลให้มันมีประโยชน์มันก็มีประโยชน์ แลว่ามันไร้สาระก็มันไร้สาระ แลแบบนักกฎหมายก็คิดแต่เรื่องกฎหมาย แล้วแลแบบนายช่างพี่บ่าวไม่บอกมั้งเหอ ว่ามันเป็นพรือ อิอิ
สวัสดีค่ะ
จบจริง ๆ หรือค่ะ
เรื่องต่อไปท่านจะกำกับเรื่องไหนต่อค่ะ
อยากรู้จัง
อย่างนี้ต้องติดตามต่อฉบับหน้าเสียแล้วค่ะ
สวัสดีครับคุณเพชรน้อย
จบจริงๆครับ ช่วงนี้งานเยอะมากครับ ผมต้องนั่งเขียนอุทธรณ์ฎีกา แก้อุทธรณ์แก้ฎีกาหลายเรื่องครับ แต่ละเรื่องก็เหมือนเขียนวิเคราะห์ละครตอนหนึ่งเลยครับ บางทีอ่านอุทธรณ์จำเลยแล้วหมั่นไส้ครับ เช่น จำเลยไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน ไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้จะมีโทษรุนแรง การจำคุกจำเลยระยะสั้นไม่เป็นผลดี ควรให้โอกาสจำเลยได้สร้างความดีเพื่อแก้ไขตัวเอง ฯลฯ ก็ทีเอามีดไปฟันเขาทำไมไม่คิดละว่าคนอื่นเดือดร้อน ก็เลยต้องเขียนแก้อุทธรณ์
จะเขียนเรื่องไหน หลังจากมาเขียนบล๊อกที่นี่แล้วขึ้นอยู่กับแรงเชียร์ครับ ใครอยากอ่านวิเคราะห์ละครเรื่องใดก็บอกมา ผมก็จะเขียนให้ทันทีทันควันเหมือนกัน เดี๋ยวจะหาว่ารู้ไม่จริง อิอิ แล้วคุณเพชรน้อยอยากให้เขียนถึงละครเรื่องไหนละครับ...
อ้าว..จบแล้วหรือคะ..มัวไปคิดเรื่อง อยากให้ G2K เป็นอย่างไร ? กับฝันหวานถึง วันดวลสะเดา ละคงละคอนเลยไม่ได้ดูซะงั้น....อิอิ
เรื่องต่อไปขอ บ่นไปบ่นมาได้สองร้อยกว่าๆ นะคะ... หาเจอไหมคะว่าช่องไหน...ถ้าไม่เจอก็ไม่ต้องแปลกใจค่ะ...เพิ่งตั้งชื่อเรื่องให้เดี๋ยวนี้เอง...ว่างๆ จะมาแต่งนิยายค่ะให้ค่ะ....แหะๆ (อำอัยการ มีความผิดติดคุกไหมคะ...)
สวัสดีครับคุณจันทรรัตน์
กำลังสงสัยว่าหายไปไหน อิอิ
ผมว่ามันก็ดีนะแต่งนิยายขึ้นมา แต่งแบบเรื่องย่อเลยนะ ผมก็จะวิเคราะห์ข้อกฎหมาย แข่งกับ"หนึ่งคนวาด หนึ่งคนแต่ง" เป็น "คนหนึ่งเขียน คนหนึ่งวิเคราะห์" อิอิ
สวัสดีครับคุณ
ตั้งแต่วันเลือกตั้งเขามัวไปลุ้นผลคะแนนกันหมด ไม่ค่อยมีใครเข้ามาอ่าน อิอิ เลยเหงาปากไม่ค่อยได้ต่อปากต่อคำกับใคร เอิ้กๆ
อยากดูเรื่อง "บ่นไปด่ามาได้สองร้อยกว่าๆ" ไหมครับ ฮิฮิ
ได้รับความรู้มากเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ