ลิขิตกามเทพ(จบ)


การแบ่งมรดกของคู่สมรสไม่ใช่ได้ครึ่งหนึ่งตะพึดตะพือ

ในตอนแรกผมเขียนแหย่เอาไว้นิดหนึ่งว่า เรื่องนี้น่าสงสัยพอจดทะเบียนปุ๊บ ผัวตายได้สมบัติครึ่งหนึ่งเลยเหรอ เรื่องนี้ต้องขยายครับ เพราะเนื่องจากในบทละครย่อที่ผมซื้อมาเขาบอกว่า “หลังงานศพ กานพลู ได้ส่วนแบ่งมรดกคนละครึ่งกับ พินิจนัย ผมเป็นห่วงตรงที่ชาวบ้านจะเข้าใจว่า จดทะเบียนปุ๊บมีสิทธิได้รับมรดกครึ่งหนึ่งปั๊บ นะซิครับ เดี๋ยวจะได้ตีกันตาย

          ที่ผมกลัวคำว่าครึ่งหนึ่งก็เพราะเวลาแบ่งมรดกในกรณีผัวเมียจดทะเบียนสมรสกัน ถ้าอยู่กินกันมาครอบครัวสร้างฐานะกันใหญ่โตขึ้นมีทรัพย์สินมากมาย เกิดผัวตายขึ้นมา ทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันนั้น ถึงแม้เมียจะทำกับข้าว เช็ดบ้านถูเรือน ป้อนข้าวป้อนน้ำให้ลูก ไม่เคยไปช่วยทำการค้าเลย ก็ถือว่าเมียเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่ง  ทรัพย์ที่จะเป็นมรดกได้ก็จะต้องเป็นทรัพย์ส่วนที่เป็นของคนที่ตายไปจะเอาทรัพย์ที่เป็นของคนอื่นมาแบ่งเป็นมรดกไม่ได้ ดังนั้นเมื่อผัวตายจึงต้องเอาทรัพย์สินที่ทำมาหาได้หลังจากจดทะเบียนสมรสมาแบ่งครึ่งกันก่อน ส่วนของเมียครึ่งหนึ่งก็แบ่งไป ขอยกตัวอย่าง

            เขียวเสวย เป็นพ่อค้า ได้อกร่องเป็นภรรยา สมัยที่ยังไม่ได้สมรสกัน เขียวเสวยก็หามีทรัพย์สมบัติอะไรไม่ คงถีบจักรยานขายกล้วยน้ำว้าอยู่ พ่อแม่ก็ตายหมดแล้ว  แต่อกร่องเห็นเขียวเสวยหนักเอาเบาสู้จึงยอมเป็นคู่ชีวิตด้วย  เขียวเสวยสะสมเล็กสะสมน้อยจนซื้อจักรยานยนต์มือสองได้มาคันหนึ่ง ซื้อกล้วยไปขายได้ไกลขึ้นมีรายได้มากขึ้น จนพัฒนาตัวเองมาขายผลไม้สด แล้วพัฒนามาเป็นผู้ขายส่งผลไม้ จนในที่สุดเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า มีบุตรด้วย ๒ คน มีทรัพย์สินประมาณ ๑๐๐ ล้านบาท ความเหน็ดเหนื่อยกับการทำงาน ในที่สุดเขียวเสวยล้มป่วยและตาย การแบ่งมรดกก็จะต้องแบ่งให้อกร่องก่อน ๕๐ ล้าน ที่เหลืออีก ๕๐ ล้าน จึงจะเอามาเป็นมรดก เขียวเสวยไม่มีพ่อและแม่เพราะสิ้นบุญไปก่อน การแบ่งกรณีมีภรรยาผมได้เขียนไปเมื่อตอนที่แล้วว่า ทายาทมีสิทธิคนละ ๑ ส่วนเท่ากันและภรรยาที่จดทะเบียนก็มีสิทธิได้ ๑ ส่วนด้วย ดังนั้นอกร่องจึงได้อีก ๑๖ ล้านเศษ ลูกสองคนได้ คนละ ๑๖ ล้านเศษ เช่นกันเพื่อความแน่ใจของท่านผู้อ่าน เพื่อความรู้ของท่านทั้งหลายผมขอยกกฎหมายเต็มๆเกี่ยวกับส่วนแบ่งของภรรยาในการแบ่งมรดกจะได้รู้เอาไว้ มิได้แช่งให้เป็นหม้าย อิอิ นี่ครับมันเป็นยังงี้

          “มาตรา ๑๖๓๕ ลำดับและส่วนแบ่งของคู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่ในการรับมรดกของผู้ตายนั้น ให้เป็นไปดั่งต่อไปนี้

          (๑) ถ้ามีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙ (๑) (ผู้สืบสันดาน) ซึ่งยังมีชีวิตอยู่หรือมีผู้รับมรดกแทนที่แล้วแต่กรณี คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นมีสิทธิได้ส่วนแบ่งเสมือนหนึ่งว่าตนเป็นทายาทชั้นบุตร (กรณีกานพลูก็จะเป็นกรณีนี้แหละครับ)

          (๒) ถ้ามีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙(๓)(พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน) และทายาทนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือมีผู้รับมรดกแทนที่ หรือถ้าไม่มีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙(๑) แต่มีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙(๒)(บิดามารดา) แล้วแต่กรณี คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นมีสิทธิได้รับมรดกกึ่งหนึ่ง

          (๓) ถ้ามีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙(๔)(พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน) หรือ (๖)(ลุง ป้า น้า อา) และทายาทนั้นยังมีชีวิตอยู่ หรือมีผู้รับมรดกแทนที่ หรือมีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙(๕) (ปู่ ย่า ตา ยาย) แล้วแต่กรณี คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่ มีสิทธิได้รับสองส่วนในสามส่วน

        (๔) ถ้าไม่มีทายาทดั่งที่ระบุไว้ในมาตรา ๑๖๒๙ คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นมีสิทธิได้รับมรดกทั้งหมด

           ทีนี้ หันกลับมาที่ละครของเรากันดีกว่า บดินทร์เพิ่งจดทะเบียนสมรสกับกานพลู โดยที่บดินทร์มีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลก่อนแต่งงานกับกานพลู พอแต่งกับกานพลูปุ๊บ ไม่ใช่ว่ากานพลูจะมีสิทธิในทรัพย์ทั้งหมดครึ่งหนึ่งหรอกครับ แต่ที่ในละครเขียนไว้อย่างนั้นมันก็เป็นไปได้ตรงที่พ่อเลี้ยงบดินทร์ไม่มีทายาทอื่นคงมีแต่พินิจนัยซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน เมื่อบดินทร์ถึงแก่ความตาย ทรัพย์มรดกจึงตกแก่ทายาทก็คือพินิจนัยคนเดียว  แต่การแบ่งมรดกก็มาเข้าข้อที่ว่าพ่อเลี้ยงบดินทร์มีภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายจึงต้องแบ่งให้ภรรยาชอบด้วยกฎหมายหนึ่งส่วนเท่ากัน  สมมุติว่ามีมรดก ๑๐๐ ล้าน พินิจนัยกับกานพลูจึงได้คนละหนึ่งส่วน(คนละ ๕๐ ล้าน)ด้วยประการฉะนี้...(แต่ไม่ใช่เพราะกฎหมายกำหนดให้แบ่งครึ่งนะครับ)

           แต่ถ้าพินิจนัย มีน้องชายแบบที่ผมยกตัวอย่างตอนที่แล้ว คือ พินิจนำกับพินิจน้อย การแบ่งมรดกก็จะเปลี่ยนไปครับ กานพลูจะได้ ๑ ส่วน พินิจนัย พินิจนำ และพินิจน้อย ก็จะได้คนละ ๑ ส่วน ก็จะกลายเป็นว่าได้คนละ ๒๕ ล้านบาทครับคราวนี้เห็นชัดเลยใช่ไหมครับว่าพอแต่งปุ๊บไม่ได้ครึ่งหนึ่งปั๊บ

         เรื่องย่อในละครที่ซื้อมาว่าอย่างนั้น แต่ตัวอย่างละครในทีวีนั้นทนายบอกว่าพ่อเลี้ยงบดินทร์ยกมรดกให้กานพลูกับลูกมากกว่าให้กับพินิจนัยเสียอีก ผมก็สงสัยอีกนั่นแหละเพราะพ่อเลี้ยงบดินทร์ยังไม่ได้มีอะไรกับหนูกานพลูเลย และเพิ่งจดทะเบียนได้เจ็ดวัน จะเขียนพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ให้กับกานพลูกับลูกเชียวหรือ นี่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็คงต้องรบกันในส่วนของพินัยกรรมว่าปลอมหรือไม่ปลอมกันแน่...ผมไม่ทราบว่าต้นฉบับเรื่องนี้เป็นอย่างไร บทละครเป็นอย่างไร มีการแก้ไขเพิ่มเติมกันต่อหรือไม่ เพราะมันขัดกับเหตุผลที่ผมว่า แล้วคุณว่าไหม..อิอิ

           ผมเป็นห่วงละครเรื่องนี้ ที่มีวัยรุ่นดูแล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นพระเอกพอไม่พอใจแฟนก็จะข่มขืน ถ้าฝ่ายหญิงรู้จักรักษาสิทธิตัวเองก็แล้วไป แต่ถ้าคิดแบบละคร หลังจากพระเอกข่มขืนแล้ว นางเอกก็ไม่กล้าแจ้งความ แล้วเช็ดน้ำตาป้อยๆบอกพระเอกว่า ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ..(ฮิฮิ..เวรกรรม)  ต่อมาพระเอกหลงรักนางเอกหัวปักหัวปำ เขาคงจะเป็นเช่นนี้ละก้อ...เป็นเวรกรรมของสังคมเลยเชียวแหละ...

            ผมแทบจะหาคุณธรรมในละครเรื่องไม่เจอเลย ใครหาเจอช่วยบอกหน่อยนะครับ.....เพราะผมดูแล้ว...พ่อเลี้ยงบดินทร์ก็มักมากในกาม พินิจนัยก็คิดเอาชนะผู้หญิงด้วยการข่มเหงรังแก นางเอกถูกข่มขืนครั้งแล้วครั้งเล่าพูดเป็นอยู่คำเดียว...ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ...ภาดา ก็เห็นผู้หญิงเป็นเครื่องเล่น เภรีก็ถือว่าเป็นลูกคนรวยอยากได้อะไรต้องได้ ภูษิตก็ชอบเที่ยวดื่มของมึนเมาชักชวนพระเอกให้เที่ยวแล้วหาผู้หญิงให้ พิบูลย์ดีหน่อยตรงที่เป็นคนรักเดียวใจเดียวถึงแม้จะมีแม่(จันทร์เพ็ญ)ที่ขาดไร้คุณธรรมไปซักหน่อย สงสัยว่าถ้าจะเอาส่วนดีก็คือเมื่อรู้ว่ามันไม่ดีก็อย่าไปเอาตัวอย่าง...เอามันเป็นบทเรียนสอนใจว่าอย่าทำอย่างนี้..... 

            ถึงบทจบเสียที คราวนี้จบได้ในสี่ตอนแฮะ....คอยติดตามเรื่องใหม่นะครับ ใครอยากอ่านเรื่องอะไรแจ้งมาแล้วกันนะครับ จะพยายามจัดให้ แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่ศาลกำลังเร่งตัดสินคดีเพื่อไม่ให้ค้างปี งานผมค่อนข้างจะเยอะสักหน่อย อาจจะช้าไปบ้างก็ต้องขออภัยล่วงหน้าครับ

          ขอสักนิดเหอะ ขอมีส่วนร่วมทางการเมือง วันนี้อย่าลืมไปเลือกตั้งเด้อ...มีบัตรสองแบบ แบบสัดส่วนมีชื่อพรรคเขียนไว้ให้แล้ว แบบแบ่งเขตจำเบอร์ผู้สมัครให้ดี  ทีนี้ก็ "กาแม่งเลย" อิอิ ผมเอามาจากในการ์ตูนครับ ลูกชายเขา print วางไว้ที่โต๊ะคอม แล้วเขายังบอกไว้ด้วยนะครับว่า "ให้กากบาทเท่านั้นนะครับ อย่าไปเขียนด่าใครในนั้น ไม่แนวหรอก" อิอิ

หมายเลขบันทึก: 155466เขียนเมื่อ 23 ธันวาคม 2007 07:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 16:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

เรื่องนี้ มีประโยชน์มากค่ะ

อ้อ ไปเลือกตั้งหรือยังคะ

ติดตามรายงานได้ หลายทาง สรุปไว้แล้วค่ะ

สวัสดีครับพี่ศศินันท์

แล้วเรื่องอื่นของผมมีประโยชน์น้อยหรือครับ อิอิ ขอโทษ ล้อเล่ง....อิอิ

ไปใช้สิทธิตั้งแต่เช้าแล้วครับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ คุณอัยการ

  • มาตามหาสาระ ในละครยุงชุม
  • เห็นไหมคะ คุณอัยการ
  • แค่เข้ามาอ่าน ก็ประเทืองปัญญา อย่าบอกใคร
  • ความจริง ละครยุงชุม น่าจะศึกษากฏหมายให้ดี ๆ
  • ก่อน ทำหนัง ทำละครนะคะ คุณอัยการว่าไหม
  • คนจะได้เข้าใจได้ถูกต้อง
  • ลูกหลานไทยจะได้มีปัญญา จากการดูหนัง
  • ไม่งั้น คุณอัยการเหนื่อยตาย
  • ต้องมาตามแก้ไขความเข้าใจผิด ซะทุกเรื่องไป
  • เฮ้อ ๆๆๆ
  • ไปเลือกตั้งมาแล้วค่ะ ...อิอิ.....
  • จะได้ไม่ใครถามว่าคนไทยหรือเปล่า
  • สวัสดีวันเลือกตั้งค่ะ
  • ไปเลือกตั้งมาแล้วค่ะ
  • กาแม่งเลย โอ้ยโหย่ น่ากลัวมั่ก ๆ ค๊า อิอิ
  • ผู้จัดละครไทย ไม่ว่าจะเป็นคนเขียนบทหรือผู้กำกับ ไม่ค่อยศึกษารายละเอียดในการสร้างละครเท่าไหร่
  • stardust เคยอ่านข่าวเจอว่า ที่เกาหลี เวลาเค้าจะสร้างละครเรื่องหนึ่งขึ้นมา เค้าจะศึกษาข้อมูลละเอียดมาก อย่างมีครั้งหนึ่ง รัฐบาลอยากให้ประชากรของเค้า แต่งงานมีครอบครัว มีลูก เค้าถึงกับเรียกประชุมผู้สร้างละคร/หนัง ไปคุยเกี่ยวกับบทหนังบทละคร ให้พระเอกนางเอกแต่งงานมีลูก มีครอบครัวกันด้วยนะคะ
  • มิน่า ละครเกาหลี ถึงได้ฮิตติดใจคนดูมาก ๆ เลย เพราะเค้าใส่ใจขนาดนี้ ว่ามั้ยคะ

สวัสดีครับน้องหมอกุ้ง

ผมดูละครบางเรื่องมีฉากว่าความในศาลก็เห็นได้ชัดว่าผิดแน่นอน เวลาเข้าไปในห้องพิจารณาหันหน้าเข้าหาศาล ซ้ายมือเราจะเป็นฝ่ายโจทก์ ขวามือเราจะเป็นฝ่ายจำเลยครับ มีละครหลายเรื่องที่อัยการซึ่งเป็นโจทก์ไปอยู่ขวามือ มันมั่วกันได้....ผมนั่งดูไปบ่นไปจนภรรยาบอกว่าคุณไปบอกเขาซิ เลยต้องหาทางออกมาเขียนบล๊อกนี่แหละ อิอิ

สวัสดีครับน้องฝุ่นเอ..หรือจะเรียกละอองดาว อิอิ

การ์ตูนที่ลูกชายพิมพ์ออกมาเขียนอย่างนั้นจริง แถมยังมีอีกว่าคราวนี้ดีหน่อยไม่หันตูดไปให้....) ผมเห็นว่ามันทะลึ่งเกินไปก็เลยไม่เอามาเขียน แต่เป็นการ์ตูนที่วัยรุ่นเขาส่งให้กันเพื่อชวนกันไปเลือกตั้ง เอาเหอะถึงมันจะทะลึ่งหรือไม่สุภาพไปบ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องของการตั้งใจที่จะให้เข้าถึงวัยรุ่นให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันให้มาก ก็อภัยให้ อิอิ

ละครเกาหลีต้องยอมรับว่ากระเทือนไปทั้งโลกเมื่อละครเรื่องแดจังกึมออกสู่สายตา เพราะความรอบคอบในการจัดวางเรื่องวัฒนธรรมที่จะนำเสนอต่อสาธารณะ ทราบว่าทางรัฐบาลเข้าไปดูแลด้วย หนังของเขาจึงยิ่งใหญ่ เมื่อคืนก็ดูจูมงตอนจบ หนังของเขาดูแล้วก็ทำให้คนรักชาติ และคอยดูหนังเรื่องใหม่ที่เน้นให้คนทำการค้า เขาวางแผนทำงานอย่างเยี่ยมยอด แล้วของเราล่ะ มีแต่พระเอกข่มขืนนางเอก ง่ะ....

 

  • มาเมาท์ต่อค่ะ
  • พูดถึงความไม่เนียนของหนังไทย
  • แล้วเดี๊ยน อัดอั้น  อิอิ
  • เรื่องฉาก ที่ศาล ยายกาแฟไม่สันทัด
  • แต่ฉาก โรงพยาบาล นี่ขอให้บอก
  • เห็นฉาก โรงพยาบาล ในหนังยุงชุมเนี่ยนะ
  • คนไข้ป่วยหนัก ใกล้ตาย ที่ รพ.
  • โอ้โห  เห็นแล้วคิดในใจ
  • มันสมควรตายจริง ๆ
  • เอ้อ  แต่บางที ไอ้ที่ควรตายไม่ตาย
  • ไอ้ที่ ไม่ควรตายดันตาย
  • ฮู้ย ๆๆ ไม่รู้จะบ่นให้ใครฟัง
  • ไม่เนียนจริง ๆ เล้ย

ฮ่ะๆ มันพะยะค่ะ

เรื่องไม่เนียน หมอกุ้งเคยดูเรื่องสะพานรักสารสินไหม เรื่องเกิดที่ภูเก็ต พระเอกเป็นคนขับรถสองแถว กับนางเอกซึ่งเรียน ว.ค.ภูเก็ต สมัยนั้นรักกันเพราะนางเอกนั่งรถพระเอกไปเรียนหนังสือ แล้วแอบรักกันถูกผู้ใหญ่กีดกัน ก็เลยพากันไปใช้ผ้าขาวม้าผูกเข้าด้วยกันแล้วกระโดดลงสะพานสารสินจนตายด้วยกันทั้งคู่ ทีนี้ในความเป็นจริงหาดทรายแก้วกับสะพานสารสินมันอยู่ใกล้กันมากนั่งรถไม่ถึงสามนาทีก็ถึงแล้ว แต่ในหนัง พวกที่ขับรถไปตามพระเอกนางเอกมันขับกันอยู่นั่นแหละสักห้านาทีได้ คนภูเก็ตดูแล้วก็รำคาญ อิอิ

อ้อ ดีนะที่เป็นหนังไทยสมัยนี้ ถ้าเป็นสมัยก่อนยังร้องเพลงจนจบก่อนตาย หมอกุ้งเคยดูไหม อิอิ

สวัสดีครับท่านอัยการชาวเกาะ

              แรกหัวเช้าอ่านทีหนึ่งแล้ว ไม่ทันได้รู้เรื่องดีที ผู้ใหญ่บ้านผมโก้เหวว ๆ ว่าให้แขบ อิไปเลือกตั้งแล้วไปเที่ยวต่อ...เลยไม่ทันรู้เรื่องครับ...

             หวันเย็นหลบมาจากเที่ยวฟาร์มโชคชัยที่มวกเหล็ก...มาเริ่มอ่านใหม่...ทำความเข้าใจ...ก็พอเข้าใจมั่งครับ...

             เขาทำละครให้คนหลายชั้นแล...แล้วให้แปลเอาเอง...ใครยืนอยู่จุดไหนก็จะมีมุมมอง ณ จุดนั้น...ต้องทำใจครับ...

                                  ขอบพระคุณครับ

ขอบคุณพี่บ่าวที่แวะมาทักทาย

ละครเขาทำมาให้คนดูเพื่อความมันในอารมณ์ แล้วแต่คนดูจะคิดอย่างพี่บ่าวว่า แลให้มันมีประโยชน์มันก็มีประโยชน์ แลว่ามันไร้สาระก็มันไร้สาระ  แลแบบนักกฎหมายก็คิดแต่เรื่องกฎหมาย แล้วแลแบบนายช่างพี่บ่าวไม่บอกมั้งเหอ ว่ามันเป็นพรือ อิอิ

สวัสดีค่ะ

จบจริง ๆ หรือค่ะ

เรื่องต่อไปท่านจะกำกับเรื่องไหนต่อค่ะ

อยากรู้จัง

อย่างนี้ต้องติดตามต่อฉบับหน้าเสียแล้วค่ะ

สวัสดีครับคุณเพชรน้อย

จบจริงๆครับ ช่วงนี้งานเยอะมากครับ ผมต้องนั่งเขียนอุทธรณ์ฎีกา แก้อุทธรณ์แก้ฎีกาหลายเรื่องครับ แต่ละเรื่องก็เหมือนเขียนวิเคราะห์ละครตอนหนึ่งเลยครับ บางทีอ่านอุทธรณ์จำเลยแล้วหมั่นไส้ครับ เช่น จำเลยไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน ไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้จะมีโทษรุนแรง การจำคุกจำเลยระยะสั้นไม่เป็นผลดี ควรให้โอกาสจำเลยได้สร้างความดีเพื่อแก้ไขตัวเอง ฯลฯ ก็ทีเอามีดไปฟันเขาทำไมไม่คิดละว่าคนอื่นเดือดร้อน ก็เลยต้องเขียนแก้อุทธรณ์

จะเขียนเรื่องไหน หลังจากมาเขียนบล๊อกที่นี่แล้วขึ้นอยู่กับแรงเชียร์ครับ ใครอยากอ่านวิเคราะห์ละครเรื่องใดก็บอกมา ผมก็จะเขียนให้ทันทีทันควันเหมือนกัน เดี๋ยวจะหาว่ารู้ไม่จริง อิอิ แล้วคุณเพชรน้อยอยากให้เขียนถึงละครเรื่องไหนละครับ...

อ้าว..จบแล้วหรือคะ..มัวไปคิดเรื่อง อยากให้ G2K เป็นอย่างไร ? กับฝันหวานถึง วันดวลสะเดา ละคงละคอนเลยไม่ได้ดูซะงั้น....อิอิ

เรื่องต่อไปขอ บ่นไปบ่นมาได้สองร้อยกว่าๆ นะคะ... หาเจอไหมคะว่าช่องไหน...ถ้าไม่เจอก็ไม่ต้องแปลกใจค่ะ...เพิ่งตั้งชื่อเรื่องให้เดี๋ยวนี้เอง...ว่างๆ จะมาแต่งนิยายค่ะให้ค่ะ....แหะๆ (อำอัยการ มีความผิดติดคุกไหมคะ...)

 

  • ตามมาดูละครตอนจบค่ะ
  • อิอิ เจอละครของ อ.สร้อย ชื่อเรื่องคุ้นๆมากเลยค่ะ กำลังทำใจว่าคงต้องเอามือก่ายหน้าผากต่อไป เฮ้อละครเรื่องใหม่ของบ้านเรานี่เริ่มเรื่องก็ชักไม่สนุกแล้วค่ะ

สวัสดีครับคุณจันทรรัตน์

กำลังสงสัยว่าหายไปไหน อิอิ

ผมว่ามันก็ดีนะแต่งนิยายขึ้นมา แต่งแบบเรื่องย่อเลยนะ ผมก็จะวิเคราะห์ข้อกฎหมาย แข่งกับ"หนึ่งคนวาด หนึ่งคนแต่ง" เป็น "คนหนึ่งเขียน คนหนึ่งวิเคราะห์" อิอิ

สวัสดีครับคุณ P 

ตั้งแต่วันเลือกตั้งเขามัวไปลุ้นผลคะแนนกันหมด ไม่ค่อยมีใครเข้ามาอ่าน อิอิ เลยเหงาปากไม่ค่อยได้ต่อปากต่อคำกับใคร เอิ้กๆ

อยากดูเรื่อง "บ่นไปด่ามาได้สองร้อยกว่าๆ" ไหมครับ ฮิฮิ

ได้รับความรู้มากเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท