เป็นนักเรียนสถาบันพระปกเกล้าตอนที่ ๗๑(ความไว้วางใจ๓)


จะทำให้คนอื่นไว้วางใจที่จะมาคุยกันก็จะต้องเรียนรู้ที่จะไว้ใจคนอื่นด้วยเหมือนกัน

                คราวที่แล้วผมเขียนมาถึงเงื่อนไขแวดล้อมความไว้วางใจที่ความสัมพันธ์ทางสังคมบางอย่างที่เป็นพื้นฐานที่จะทำให้เกิดความไว้วางใจและหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงได้

        ขณะที่เขียนบทความนี้ก็มีกรณีที่พันธมิตรบุกยึดสนามบินทั้งสุวรรณภูมิและดอนเมือง ท่าน ผบ.ทบ.เป็นประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม ได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการ,นักวิชาการและภาคเอกชน เพื่อแก้ปัญหาความวุ่นวายในสังคม และมีมติออกมาว่านายกฯควรยุบสภา และพันธมิตรต้องยุติการชุมนุมและออกไปจากสนามบิน

เหตุที่พันธมิตรอ้างในการชุมนุมก็คือเพื่อไม่ให้มีการประชุมสภาแก้รัฐธรรมนูญ แต่แล้วเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นมา เพราะฝ่ายพันธมิตรไม่ไว้วางใจรัฐบาลเนื่องทราบมาว่า ร่างแก้รัฐธรรมนูญของหมอเหวงก็จ่ออยู่ในวาระแล้ว รัฐบาลไม่เสนอก็จริงแต่หมอเหวงเสนอไว้แล้ว อ้าว...เท่านั้นยังไม่พอโฆษกรัฐบาลเองก็ออกมาให้สัมภาษณ์แม้จะไม่ปลุกระดมแต่ก็พูดให้กองเชียร์เข้าใจว่าก็มันสมควรแก้รัฐธรรมนูญนี่...แล้วนี่ถ้าหากเสื้อแดงออกมาเรียกร้องให้แก้รัฐธรรมนูญก็เป็นสิทธิเขา...อยากรู้เหมือนกันว่าโฆษกรัฐบาลพูดเพื่ออะไร อยากจะให้ตีกันหรือ ฝ่ายรัฐบาลอยากแก้ปัญหาโดยไม่ใช้ความรุนแรงเองแต่ยุให้ให้ประชาชนใช้ความรุนแรงกันเองหรือ คำพูดมีเยอะแยะต้องอย่าลืมว่าท่านให้สัมภาษณ์ในฐานะโฆษกรัฐบาลไม่ใช่ผู้นำม๊อบ กรุณาแยกให้ออกด้วยเพราะคำพูดของท่านมันมีผลกระทบ แล้วจะให้ฝ่ายพันธมิตรไว้วางใจรัฐบาลได้อย่างไรล่ะ..เฮ้อ..เวรกรรมประเทศไทย

        เอาเหอะ..เรามาดูภาคทฤษฎีของเรากันต่อ คราวนี้เรามาดูการประเมินความไม่ไว้วางใจ ดูตรงไหนล่ะ...

        ดูความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น มันไม่เป็นไปตามสัญญา ไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น มีการหักหลัง หลอกลวง พูดอย่างทำอย่าง เช่น ปากบอกว่าเราจะไม่ใช้ความรุนแรง แต่จากการประทะกลับมีคนตายจากอาวุธของผู้ปราบปราม

        หรือหากประเมินแล้วเห็นว่าจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เพราะที่ผ่านมากมักจะเป็นอย่างนี้แหละ  หรือว่าไม่ได้รับความร่วมมือ มีบรรยากาศของความระแวงฝ่ายตรงข้าม มีอคติ โกรธแค้น เกลียด เป็นปฏิปักษ์ เป็นฝ่ายตรงข้าม ต่อต้านซึ่งกันและกัน  เหมือนที่เราเห็นกันอยู่ ถ้าเป็นฝ่ายตรงข้ามพูดก็จะผิดทั้งหมด ฝ่ายตัวเองพูดจะถูกทั้งหมด แล้วถ้าไม่มีคนอยู่ตรงกลางแล้วเราจะได้ความจริงหรือ...เพราะคนกลางจะฟังด้วยใจที่เป็นกลาง ฟังทั้งสองข้าง ไม่ใช่ฟังความข้างเดียว..เข้าใจไหม..(อิอิ ตูจะกลายเป็นพวกไม่รักชาติไหมเนี่ย)

        แต่ว่าก็ว่าเหอะ ทั้งฝ่ายที่สนับสนุนเสื้อแดง และฝ่ายสนับสนุนเสื้อเหลือง ถ้าเขารู้จักกันเขาก็จะมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกันอยู่  เช่น นักการเมืองที่เรารู้จักในฐานะเขาเป็นผู้แทนเราเห็นว่าเขาทำไม่ถูกเพราะเขาอยู่ฝ่ายแดง แต่ในฐานะคนรู้จักกันก็อาจจะมีสายสัมพันธ์กันอยู่บ้าง ใช่ไหมครับ ถึงจะชังก็ชังไม่หมดเสียทีเดียว อย่างนี้เป็นต้น

        คราวนี้เมื่อมันเกิดความไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นแล้ว การเจรจามีปัญหา หากจะตั้งใจแก้ปัญหาต่อไปก็ต้องมีการประเมิน ผลเสียและผลกระทบ เพราะเมื่อเรื่องสำคัญไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ผลที่เกิดขึ้นคืออะไร

ที่เห็นชัดคือไม่สามารถระดมความร่วมมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้

ในส่วนสภาพทางด้านจิตวิทยาและทางอารมณ์ แน่นอนครับว่าความโกรธ ความไม่พอใจ รวมไปถึงปฏิกิริยาตอบสนองในทางลบ รัฐอยากให้ทหารเข้ามาควบคุมสถานการณ์จัดการกับพวกพันธมิตร ทหารก็ไม่ปราบปรามประชาชน รัฐก็ผิดหวังกับกองทัพ  พันธมิตรอยากจะให้ทหารปฏิวัติล้มล้างอำนาจรัฐบาลให้มันจบๆเสียที ทหารก็ไม่ปฏิวัติ ทำไปทำมาทหารถูกจวกทั้งสองข้าง ผมไม่แน่ใจว่าผลักทหารเข้ามาอยู่กับพวกเสื้อไม่จำกัดสีไหม...

มีความเสียหายอันเนื่องมากจากความไม่ไว้วางใจระดับใด อาทิ ทำงานต่อไปไม่ได้ ความรุนแรงขยายตัวมากขึ้น การตัดความสัมพันธ์ ตอนนี้เราเห็นภาพค่อนข้างชัดขึ้นว่ารัฐบาลไม่ไว้วางใจทหาร ให้ตำรวจนำหน้าและให้ทหารเป็นเพียงฝ่ายสนับสนุน อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปหากตำรวจใช้กำลังปราบปรามประชาชน ทหารจะทำอะไร....ฝ่ายรัฐที่จะทำหน้าที่จัดการก็ออกมาพูดว่าพันธมิตรเป็นกบฏ(อีกแล้ว) จะให้ศาลเดือดร้อนอีกแล้ว...อิอิ

จะทำอย่างไรให้ความไว้วางใจเกิดขึ้นมาอีก หากฝ่ายรัฐยังคงเติมเชื้อ แบบโต้วาทีด้วยกิริยาอาการหมั่นไส้พันธมิตร กระตุ้นเสื้อแดงอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องรักษาประชาธิปไตย ต้องไปจัดการ ต้องเตรียมอาวุธจะเพื่อป้องกันตัวหรืออะไรก็ตามที เห็นเสื้อแดงพกอาวุธออกข่าวทีวีก็เห็นกันอยู่ เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ทำอะไรไม่ได้(หรือไม่ทำอะไร..) ฝ่ายพันธมิตรจะมีอาวุธบ้างมันจะแปลกอะไรล่ะ...ผมพูดอย่างเป็นกลางที่สุดแล้ว

จะทำให้คนอื่นไว้วางใจที่จะมาคุยกันก็จะต้องเรียนรู้ที่จะไว้ใจคนอื่นด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่รัฐจะบอกพันธมิตรให้ยุติการชุมนุม แต่กูจะอยู่ต่อ..เขาก็คนมีความคิดเหมือนกัน และในความคิดที่เกิดจากความไม่ไว้วางใจ เขาก็มีสิทธิคิดว่ารัฐบาลกำลังวางโครงการต่างๆที่เป็นเมกาโปรเจคส์เพื่อผลประโยชน์ตัวเองและพวกพ้อง ตราบใดที่ยังจัดการไม่เสร็จก็จะไม่ออก ตราบใดที่ย้ายข้าราชการระดับสูงไปคุมพื้นที่ไม่เสร็จ ก็ไม่ออก ตราบใดที่จะโปรยเงินหว่านเพื่อจัดการให้ได้เสียงข้างมากโดยใช้เงินภาษีของพี่น้องประชาชนแทนที่จะใช้เงินของตัวเองยังไม่เรียบร้อย ก็จะไม่ออก เขาก็มีสิทธิคิดเหมือนกันใช่ไหมครับ....(คราวนี้จะโดนเสื้อแดงถีบไหมนี่..อิอิ)

สังคมที่ไว้วางใจกัน เราจะเห็นได้ในชนบทที่มีการไปมาหาสู่กัน พบปะพูดคุยกันเสมอๆ และคนจะน่าเชื่อถือก็จะมีบุคลิกภาพหรือคุณลักษณะพิเศษคือ

จะเป็นคนที่มีความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ในสาขาวิชาต่างๆ สามารถทำงานให้สำเร็จได้ จนทำให้เกิดความเชื่อว่าเขามีความสามารถทำงานตามที่เราคาดหวังได้

เป็นผู้มีศักดิ์ศรี ยึดมั่นให้หลักการบางอย่างที่คนทั่วไปยอมรับได้ โดยประเมินจากความคงเส้นคงวาในพฤติกรรมที่ผ่านมา ไม่ใช่พูดอย่างทำอย่าง

เป็นผู้มีใจโอบอ้อมอารี ห่วงใยผู้อื่น เปิดใจในการพูดคุย

เป็นผู้มีความจริงใจ แม้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของอีกฝ่ายหนึ่งได้ก็ต้องสื่อสารให้เขาได้รับรู้อย่างตรงไปตรงมา

โดยสรุป หากทั้งสองฝ่ายมองว่าการเจรจายังสามารถเกิดขึ้นได้ สิ่งที่ต้องทำคือการฟื้นฟูความไว้วางใจกัน โดยเยียวยาภาวะทางจิตใจ การชดเชยความเสียหาย การแก้ไขข้อผิดพลาดในเวลาที่เหมาะสม การสื่อสารที่เปิดกว้างตรงไปตรงมา สร้างอัตลักษณ์หรือการหาสิ่งยึดเหนี่ยวร่วมกันใหม่ หรือความสนใจร่วมกัน สร้างผลงานร่วมกัน เป็นต้น และหากทำได้ ความไว้วางใจก็จะกลับคืนมาและหันหามาเจรจากันโดยสันติวิธี...

จะมีใครฟังบ้างไหมครับเนี่ย.....

หมายเลขบันทึก: 226032เขียนเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2008 13:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)
  • สวัสดีค่ะ อาจารย์
  • มณีแดงไม่เข้าใจ
  • ไม่เข้าใจจริงๆค่ะ
  • :-))
  • สวัสดครับ
  • ผมอ่านแล้วเครียดครับ
  • ไม่รู้ทำไมเครียด...เครียดที่ทำอะไรไม่ได้อย่างใจคิด
  • เครียดที่ไม่เป็นไปอย่างที่หวัง
  • ขอบคุณครับ อย่าเครียดตามผมนะครับ

สวัสดีครับ

ยุ่งยาก และซับซ้อน เข้าใจยาก

ควรดูตัวอย่างจากอดีต พอจะเห็นภาพบ้าง แต่คงคาดเดาอนาคตลำบากเหมือนกัน

  • สังคมต้องเห็นร่วมกันว่า ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องมีกระบวนการเรียนรู้ใหม่ที่เหมาะสมกับตัวเองและสิ่งอื่นๆรอบตัว

สวัสดีครับมณีแดง

ไม่เข้าใจที่ผมเขียน หรือไม่เข้าใจทั้งสองฝ่าย อิอิ

สวัสดีครับท่าน เสธ.

ผมเครียดกับสถานการณ์นิดหน่อยเท่านั้นเองครับ แต่ก็ยอมรับว่เครียดกับการที่ต่างฝ่ายต่างยั่วยุด้วยคำพูดและการกระทำครับ ก็เลยพยายามไม่ดูข่าว ไม่ใช่ไม่สนใจแต่เพราะไม่อยากเครียดเพราะดูท่าจะพูดกันไม่รู้เรื่อง และทำท่าจะคุมกันเองไม่อยู่ครับ..

สวัสดีครับ อ.ธ.วั ช ชั ย

เหนื่อยใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่างคนต่างเอาตัวเองเป็นใหญ่ ผมชอบที่อ.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ ให้สัมภาษณ์ใน นส.สารคดีเล่มปัจจุบันที่ว่า สองพวกสร้าง "กำแพง" พวกไม่เข้าข้างฝ่ายใด สร้าง "บันได" และ สร้าง "สะพานเชื่อม"

สวัสดีครับ คุณศักดิ์พงษ์ หอมหวล

ถึงเวลาแล้วจริงๆครับ

ไม่อยากได้ยิน ได้เห็นว่าคนไทยต้องฆ่ากัน ขอความกรุณาหันหน้ามาพูดกันเถอะนะคะอย่าให้ในหลวงของเราต้องทรงเสียพระทัยไปกว่านี้เลย

มาช่วยหนักใจค่ะ

กำลังเตรียมงานลงพื้นที่ให้ สสสส1 ค่ะ

คราวนี้ ได้รับมอบหมายให้พาไปดูพื้นที่ที่คนไทยดั่งเดิมกลายเป็นคนไร้สัญชาติ ...

ไปคุยกับชาวบ้านในชนบทแล้ว จะสบายใจกว่า คุยกับคนในเมือง..หรือคนในม๊อบ

จริงๆ นะคะ

สวัสดีครับคุณ yupha หาง Prayoonharn

ถ้าคนเรารับฟังกัน พูดคุยกัน ก็จะเกิดความไว้วางใจ แล้วจะคุยกันรู้เรื่อง ถ้าต่างปิดประตูแล้วใช้กิริยาวาจายั่วยุ ยังไงก็ไม่จบจนกว่าจะมีการเอาชนะกันด้วยความรุนแรง แต่มันจะมีประโยชน์อะไรที่คนไทยต้องฆ่ากันเอง ชนะไปเพื่ออะไร ไม่เข้าใจจริงๆครับ

อ.แหวว ครับ

ตัดสินใจร่วมกระบวนการกับ อ.แหวว ในการไปคุยกับชาวบ้านในชนบท น่าจะสบายใจกว่าจริงๆครับ

สวัสดีคะ..ท่านอัยการ

ตอนนี้ค่อยหายใจออกหน่อย..อบรมจบไปหนึ่งอย่างแล้ว..ที่ดีใจก็คือว่า..จะได้เตรียมทำงานอย่างไม่มีห่วง..ไม่ต้องห่วงอย่างท่านอัยการ..ใครเขาจะคิดอะไร..ก็คงจะทำกันไป..บ้านเมืองเป็นของทุกคนแต่ไม่มีใครจะยอมใคร..เพราะเป็นของทุกคนนี่ไงค้า

สวัสดีค่ะ สุนันทา ซื้อตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ - หาดใหญ่ (ช่วงเดือนกันยายน) แต่ไม่สามารถเดินทางได้เนื่องจากสนามบินปิดค่ะ ปัจจุบันยังไม่ได้ใช้ตั๋วเลยค่ะ และไม่สามารถคืนเงินให้ด้วย ตั๋วจะหมดอายุการใช้ประมาณเดือนมกราคม 52 นี้ค่ะ

สวัสดีครับคุณวลาวัณย์

ยินดีด้วยนะครับที่อบรมจบไปบ้างแล้ว และที่ที่ไม่มีห่วง ราหุลลัง ชาตัง ห่วงของผมเกิดขึ้นแล้ว อิอิ

สัวสัดีครับคุณสุนันทา

ผมซื้อตั๋วจะไปร่วมเฮฮาที่เชียงราย เดินทางพรุ่งนี้แต่ไม่รู้จะได้ไปหรือเปล่า เพราะดอนเมืองยังไม่เปิด

ตอนนี้หาดใหญ่น้ำท่วมครับ แต่มกราน้ำคงลดแล้วครับ อิอิ

สวัสดีครับ แวะมาทักทายครับ ผมคิดว่าเหตุการณ์ใกล้จะยุติแล้ว ..น่าจะออกมาด้านบวกน่ะครับ เพราะเริ่มมีท่าทีการเจรจากันแล้ว ทุกคนต้องช่วยประเทศไทยแล้วล่ะครับ...

สวัสดีคะ

มีสมาชิก ท่านสำคัญ (อ.ขจิต)

แนะนำให้มา ทำความรู้จักกับ

ท่าน >> อัยการชาวเกาะ คร๊า

สวัสดีครับคุณเอกราช

ในที่สุดก็จบลง อย่างน้อยก็ชั่วคราวแล้ว ค่อยหายใจกันคล่องคอหน่อยครับ

ขออภัยที่ตอบช้า มาเฝ้านิวผ่าตัดเอาก้อนเนื้อที่ไทรอยด์ออก แต่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หมอบอกว่าไม่น่าจะใช่เนื้อร้ายครับ ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว ไม่มีปัญหากับเสียง ทุกอย่างเรียบร้อยครับ

สวัสดีครับคุณ อรุฎา นาคฤทธิ์

ยินดีที่ได้รู้จักครับ

..พอได้อ่าน ลืมมาดชายหนุ่มที่ถือไมค์ร้องเพลงอีแซว ที่ปตอ.ไปเลย

..พอได้อ่าน ลืมมาดชายหนุ่มที่ถือไมค์ร้องเพลงอีแซว ที่ปตอ.ไปเลย

คุณต๋งหม่งเหมียวขื่อครับ

ต้องขออภัยที่มาตอบช้า เพราะไปเฝ้าลูกสาวผ่าตัดครับ และพอกลับมาที่บ้านเน็ตถูกตัดไปแล้ว และยินดีให้เขาตัดไปเพราะผมใช้ของการสื่อสารมาตั้งนานแล้ว ใช้ ADSL ความเร็ว 2 Mhz แต่มันก็วิ่งอยู่ที่ 500 กว่าๆเท่านั้น แถมแพงกว่า แมกซ์เน็ต ของทีทีแอนด์ทีอีกครึ่งหนึ่ง ไปต่อรองว่ามีโปรโมชั่นที่ให้ราคาเท่ากันหรือใกล้เคียงกันมีไหม เขาบอกว่าไม่มีก็เลยสั่งยกเลิกไปเลย และมาขอติดตั้งแบบ 3 Mhz เรียบร้อย แต่จะใช้ได้วันพุธครับ นี่แอบเล่นของที่ทำงาน อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท