บทเรียนง่ายๆของคนที่อยากเป็นพ่อ


 

วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของจุมพล (โกไข่) น้องชายของผม จึงถือโอกาสนำบันทึกที่เขาเขียนถึงป๋าเมื่อป๋ามีอายุครบ ๘๐ ปีมาให้อ่านกันครับ

เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ผมอายุ 25 ปี จบชั้นม.ศ.5 จากโรงเรียนอำนวยศิลป์พระนคร ตั้งใจสอบเอ็นทรานซ์เข้าเรียนคณะสถาปัตย์  จุฬาฯ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าตัวเองความสามารถไม่ถึง (ฮา..)


ผมยังจำความรู้สึกวันนั้นได้ดี...วันที่ผมรู้ผลว่าเอ็นฯไม่ติด ป๋าเข้าไปธุระที่กรุงเทพฯพอดี แล้วก็แวะมาหาผมกับจี้อ้อยที่แฟลตแถวเอกมัย ผมแจ้งข่าวนี้กับป๋าด้วยอารมณ์อันขมขื่น เพราะกลัวว่าป๋าจะดุเอาว่า ทำไมถึงทำไม่ได้

“ไม่พรือ...อย่าเสียใจ...จุมก็ลองคิดดูใหม่ว่า จริงๆแล้วชอบอะไร แล้วก็ไปหาที่เรียนใหม่” ป๋าพูดง่าย..สั้น..กระชับ แต่แฝงด้วยความเข้าใจลูกอย่างหมดสิ้น ผมงงปนดีใจเพราะคิดไม่ถึงว่า คนเป็นพ่อจะเข้าใจอารมณ์ของลูกได้ง่ายและรวดเร็วถึงเพียงนี้


บทเรียนที่หนึ่ง
เมื่อลูกเข้ามาสารภาพในความผิดพลาดบางอย่างของชีวิต  คนเป็นพ่ออย่าไปซ้ำเติมลูก เพราะนั่นแสดงว่าเขากล้าที่จะพูดความจริงกับเราและพร้อมยอมรับผิด พ่อจึงควรหาวิธีพูดเพื่อถนอมความรู้สึกในเบื้องต้น แล้วค่อยหาแนวทางชี้แนะให้เขาเดินต่อไป เพราะชีวิตเป็นของเขา ไม่ใช่ของเรา


หลังจบจาก ว.ค.จันทรเกษม สาขาวิชาดนตรีศึกษา เอกเปียโนโทขลุ่ย ด้วยปริญญาเกียรตินิยม (คุยสักนิด อิอิ..)ผมยังคงทำงานหาประสบการณ์เล่นดนตรีกลางคืนตามสถานบันเทิงต่างๆ โดยที่ป๋าไม่เคยชวนให้ผมรีบกลับมาช่วยงานทางบ้านเลย (ป๋าพูดเสมอว่าบุคคลควรอยู่ในสถานที่อันสมควรตามอาชีพ)

ครั้งหนึ่งป๋ามาประชุมที่โรงแรมเซ็นทรัลลาดพร้าว ในขณะที่เพื่อนๆของป๋า พาลูกตัวเองมาร่วมประชุมด้วยเพื่อให้เรียนรู้และเตรียมสืบต่อกิจการ แต่ป๋ากลับชวนเพื่อนๆ มานั่งดูผมบรรเลงเปียโนที่ล๊อบบี้บาร์ แล้วคุยกับเพื่อนๆว่านี่ลูกผมๆ โดยที่ไม่เคยเดือดร้อนใจต่ออนาคตของกิจการเหมือนเพื่อนๆคนอื่นเลย พ่อค้าคนหนึ่งที่มีกิจการเล็กๆอยู่ในจังหวัดพังงา กลับมีความสุขที่ได้มาเห็นลูกชายนั่งบรรเลงเปียโน ในโรงแรมระดับห้าดาวกลางกรุงเทพมหานคร

บทเรียนที่สอง
เมื่อลูกได้ทำสิ่งที่ลูกรัก คนเป็นพ่อต้องแสดงความภาคภูมิใจในตัวลูกให้ลูกและสังคมได้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อเป็นกำลังใจให้เขาได้เดินต่อไป เพราะเส้นทางชีวิตของคนเรา มีเรื่องที่ต้องการกำลังใจอีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคนในครอบครัว

ในสังคมของการเล่นดนตรีกลางคืน มีทั้งสุราและนารี และเป็นอาชีพเต้นกินรำกินที่ใครๆในยุคนั้นต่างไม่ให้เกียรติเท่าที่ควร ป๋ากลับบอกให้ผมได้ทำสิ่งที่ผมรักต่อไปเพื่อหาความเชี่ยวชาญ เพราะป๋าเชื่อมั่นว่าการปฏิบัติตัวของป๋า จะเป็นตัวอย่างไม่ให้ผมออกนอกลู่นอกทางไปได้ แม้เราจะอยู่ห่างกันตั้งแปดร้อยกว่ากิโล

ผมไม่เคยกินเหล้าและดูดบุหรี่เลย (แต่ถ้าอากาศดี..อาจดื่มเบียร์เล็กน้อย แหะๆ) เพราะตลอดชีวิตของป๋า...ป๋าไม่เคยทำ

ผมไม่อยากมีกิ๊กเลย ทั้งๆที่ในแวดวงอาชีพของผมมีเรื่องของผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย ก็เพราะป๋าไม่เคยมีกิ๊ก..ป๋ามีแต่กั๊ก คือกั๊กความรักไว้ให้มะเพียงคนเดียว (ฮา..) และผมเห็นแล้วว่า “รักเดียวใจเดียว” ที่ป๋าปฏิบัติกับมะ คือความสุขที่สุดของชีวิตอย่างหนึ่ง

บทเรียนที่สาม
การทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีของพ่อ คือการสอนลูกที่ดีที่สุด
 

ผมทำงานดนตรีอยู่ในกรุงเทพฯทั้งเล่นดนตรีแบ๊คอัพให้นักร้องดังๆในแกรมมี่ ส่งเพลงประกวดจนได้รางวัลมากมาย เป็นโปรดิวเซอร์ให้นักร้อง...ทั้งทำให้เขาดังและไม่ดังอีกเพียบ แต่ผมไม่เคยลืมบ้านเกิดเลย ทุกครั้งที่ผมกลับบ้าน ป๋า , ผมและโก้ฑูรจะคุยกันเรื่องบ้านเมืองของเราได้เป็นวันๆ  ป๋าเคยบอกว่า ไม่ว่าเราจะสำเร็จในอาชีพอย่างไร วันหนึ่งเราต้องหาวิธีทำงานเพื่อบ้านเกิด ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง และป๋าก็แสดงให้เราเห็นมาตลอดชีวิต นั่นคือการทำงานในอาชีพของตัวเองพร้อมๆกับการเป็นอาสาสมัครในหน่วยงานต่างๆของจังหวัด...อย่างเอาจริงเอาจัง

เมื่อได้มีโอกาสทำอัลบั้มเพลง “เพลินเพลงพังงา” ,  “เพลงภูเก็ต” , “โกไข่..ทะเลจีนใต้” “โกไข่กับนายสน”ชุดที่1และ2 ในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ หากเพลงไหนผมแต่งเอง ผมจะสอดแทรกภาษาถิ่นลงไปในเพลงทุกเพลง จนทุกคนรู้จักผมจากเพลง สัญญาหน้าอ๊าม , หัวใจฉุดขุ่ย , ไม่พรือ , อย่าแขบ , หนุ่มโกปี้อ้อ , คนขาดหุ้น ฯลฯ

เดือนกรกฎาคม ปีพ.ศ.2549 สโมสรโรตารี่ทุ่งคา ภาค3330 โรตารี่สากล ได้มอบรางวัล “ SERVICE Above Self ” (รางวัลบุคคลที่บริการในสาขาอาชีพดีเด่น) ให้กับผม เนื่องด้วยประเด็นการพยายามอนุรักษ์ภาษาถิ่นอันดามันผ่านบทเพลงอย่างจริงจัง

ปีพ.ศ.2550 ผมแต่งเพลง “อยู่อย่างยั่งยืน” ใส่ในอัลบั้ม “โกไข่กับนายสน” ชุดที่1(ในสังกัดจีเอ็มเอ็มแกรมมี่) ซึ่งเป็นเพลงภาษาถิ่นที่ผสมผสานกับภาษากลาง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความงามของปักษ์ใต้บ้านเรา จนผมได้รับรางวัล “เพชรในเพลง” จากคุณหญิงไขศรี แสงอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในสมัยนั้น เนื่องในโอกาสวันภาษาไทยแห่งชาติ โดยสำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร เป็นผู้จัดการประกวด  วันนั้นป๋าลงทุนขึ้นเครื่องไปนั่งยินดีกับผมในโรงละครแห่งชาติด้วย...เรามีแต่รอยยิ้มให้กัน

บทเรียนที่สี่
เมื่อพ่อเห็นลูกประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ควรสอดแทรกแนวคิดเรื่องของสังคมเข้าไปในชีวิตของลูกสักเล็กน้อย ไม่ใช่ปล่อยให้เขาหาแต่เงิน เงิน เงิน โดยไม่ลืมหูลืมตา เพราะเรื่องราวในชีวิตของคนๆหนึ่ง มีองค์ประกอบอีกมากมายที่มีคุณค่ามากกว่าเงินหลายเท่าทวีคูณ


จากการทำงานเรื่องเพลงภาษาถิ่นอันดามันนี้เอง ทำให้ผมได้มีโอกาสเข้าไปแสดงหนังเรื่อง “มหาลัยเหมืองแร่” เพราะพี่เก้ง จิระ มะลิกุล (ผู้กำกับฯ) ชอบเพลง “ไม่พรือ” เป็นอย่างมาก เราได้นัดกินกาแฟกันที่ตึกแกรมมี่ ชั้น33  เพราะพี่เก้งชวนให้ผมเข้าไปทำดนตรีประกอบในหนังเรื่องนี้  จนเลยเถิดไปรับบทเป็น “โกต๋อง” (เจ้าของร้านกาแฟหน้าเลือดที่หลอกขายยาแดงคนดง) วันที่หนังเรื่องนี้ได้เข้าไปชิงรางวัลสุพรรณหงส์ ซึ่งปีนั้นจัดเพื่อรำลึกเหตุการณ์สึนามิที่เขาหลัก ผมยังจำภาพจี้นวลได้เป็นอย่างดี เพราะจี้เป็นคนเดียวในครอบครัวเราที่กล้าเดินไปถ่ายรูปผมกับดาราคนโน้นคนนี้ (คงจะชื่นใจที่น้องได้เป็นดารา อิอิ) แต่วินาทีที่สำคัญกว่ามาถึง เมื่อ “สน เดอะสตาร์” ได้รับรางวัลดาราประกอบชายยอดเยี่ยม  ภาพที่สนกำลังรับรางวัลด้วยสีหน้าที่ดีใจแบบสุดๆคือภาพที่จี้นวลถ่ายไว้ได้  (สนเอาภาพนี้ไปแขวนไว้ที่หัวนอนของแม่) วันที่จี้นวลอัดรูปนี้มาให้ สนแทบน้ำตาไหล  สนบอกกับผมว่าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ แล้วพูดต่อว่า พี่น้องบ้านนี้น่ารักดีนะ ถ่ายให้โกไข่แล้วยังมาถ่ายให้ผมด้วย

ความน่ารักและความรักของพี่น้องเราทั้งห้าคนไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ  สมัยเด็กๆหลังอาหารมื้อเย็น ป๋ามักเรียกลูกๆทั้งครอบครัวมานั่งล้อมวงร้องเพลง เล่นกีต้าร์ เคาะกล่องกระดาษกันด้วยความสนุกสนาน ถึงเวลามีของกินอะไรที่พิเศษ ป๋าก็สอนให้พี่แบ่งปันให้น้อง บางครั้งเหลือแล้วก็ให้แบ่งไปให้เพื่อนๆด้วย

ผมคงไม่ได้ทำอะไรต่อมิอะไรมากมายที่กรุงเทพฯ ถ้าไม่มีความรักจากโก้ฑูร พี่ชายคนเดียวที่เป็นที่ปรึกษาของผมในทุกๆเรื่องตั้งแต่ผมยังเป็นเด็กจนเติบใหญ่ (รวมทั้งเรื่องไม่ยอมให้ผมเอาเพลง “สัญญาหน้าอ๊าม” ออกจากอัลบั้มเพลงภูเก็ตด้วย)

ผมได้ทำงานดนตรีที่ผมรักจนถึงที่สุด เพราะความน่ารักของจี้น้อยกับจี้อ้อยที่ได้เข้ามาช่วยป๋าผ่อนคลายเรื่องธุรกิจและการเงินในครอบครัว ทำให้ผมไม่ต้องกังวลเรื่องต้องกลับมาช่วยป๋าดูแลร้านจำเริญภัณฑ์ จนวันนี้จี้น้อยกับจี้อ้อยจัดการแปลงโฉมร้านจำเริญภัณฑ์กลายเป็นร้านน่ารัก ขายดิบขายดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งเป็นตัวตั้งตัวตีในการไปยกบ้านให้ป๋ากับมะอยู่ที่เขาช้าง..จนผมพลอยได้สบายกับเขาไปด้วย (แหะๆๆ)

 

บทเรียนที่ห้า
พ่อต้องสอนให้ลูกๆรักกัน ช่วยเหลือกัน อย่าเอาเปรียบซึ่งกันและกัน และเมื่อความรักในครอบครัวอุดมสมบูรณ์จะได้มีเวลาไปเผื่อแผ่ให้กับครอบครัวอื่นๆด้วย  เมื่อหน่วยของสังคมที่เล็กที่สุดอบอุ่นเช่นนี้  สังคมในลำดับต่อมาก็จะอบอุ่นและแข็งแรงตามไปโดยอัตโนมัติ


เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ป๋าอายุครบ 60 ปี ด้วยความรักที่ป๋ากับมะหล่อหลอมพวกเรามา พี่น้องทั้งห้าคน  จึงออกแรงกันจัดงานให้ป๋าที่หอประชุมโรงเรียนสตรีพังงา ปีนี้ป๋าอายุครบ 80 ปี แสงเทียนแห่งความรักความอบอุ่น จึงถูกจุดขึ้นอีกครั้งที่บ้านเขาช้าง

บทเรียนสุดท้าย
คนเป็นพ่อคน แม้จะมีภารกิจมากมาย ต้องไม่ลืมกตัญญูกตเวทีต่อพ่อของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะที่เรามีวันนี้ได้ ก็เพราะพ่อ (และแม่) ได้วางแนวทางให้เราเดินมาตลอดนั่นเอง

ปี 2552นี้ ผมอายุครบ 45 ปี...ป๋าอายุครบ 80ปี แสดงว่าตอนป๋าอายุ 35 ปี ป๋ากับมะตัดสินใจให้ผมเกิดมาชมโลกใบนี้ (ฮิฮิ) ชมไม่ชมเปล่า อย่าให้เสียชาติเกิด ผมเลยแต่งเพลงร้องเพลงกล่อมโลกซะงั้น

ขอให้ป๋าจำเริญ (ชื่อป๋า..ไม่ใช่คำอวยพร ฮา..) แข็งแรงและอยู่เป็นมิ่งขวัญของลูกๆเพื่อจะได้เป็นพ่อดีเด่นของสังคมอย่างนี้ตลอดไป   (ไม่ต้องรอรางวัลจากสถาบันไหน..พวกเราชิงประกาศเสียก่อน...ไชโย ไชโย ไชโย)

หมายเหตุ : เขียนไปก็ขำตัวเองไป เพราะในชีวิต..ยังไม่เคยได้เป็นพ่อให้ใครเลยสักคน (ว้า! แย่จัง...อิอิ)

หมายเลขบันทึก: 410973เขียนเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2010 04:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 14:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

จันทร์อรุณสวัสดิ์ค่ะท่านอัยการ

เวลานั่งรถทัวร์ก็จะได้ฟังเพลงน่ารักๆ ของโกโข่กับนายสน ดูมิวสิคซะได้อมยิ้มทุกทีค่ะ

เพิ่งทราบว่ามีเพลงแต่งของท่านอัยการด้วย อยู่อย่างยั่งยืน เพราะ รักนิรันดร์ไหมคะ :)

ขออาราธนาคุณพระศรีฯ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดโกไข่ ค่ะ

สวัสดีค่ะ

ชอบฟังเพลงของโกไข่ หลาย ๆ เพลง เลยค่ะ

เพิ่งได้ทราบเบื้องหลังของเพลงวันนี้เอง

และก็เพิ่งทราบอีกแหละค่ะ ว่า โกไข่เป็นน้องชายท่าน

ชอบเพลงใน มหาลัยเหมืองแร่

เคยนำเพลง มหาลัยชีวิต - โกไข่กับนายสน มาบันทึกไว้ด้วยค่ะ เพลงนี้ชอบมาก

ขอให้โกไข่ สุขสันต์วันเกิดนะคะ  ขออำนาจแห่งคุณความดีทั้งหลายดลบันดาลให้มีความสุขตลอดไปค่ะ

สวัสดีค่ะท่านอัยการ

ครู ป.1 ก็เป็นแฟนคลับ"โกไข่กับนายสน"

(ซึ่งตะแรกไม่ทราบว่าใครคือโกไข่ ใครคือนายสน..หุหุ)

ชอบเพลง"เรื่องหมาๆค่ะ.."มากที่สุด

ขอให้โกไข่อายุมั่นขวัญดีเป็นที่รักของทุกคนต่อไปนานๆๆๆๆค่ะ

สวัสดีค่ะ

กราบคารวะ "ป๋า" มาด้วยความเคารพ นับถือและศรัทธา  ในความเป็น "ครู" ที่เข้าใจปรัชญาการจัดการศึกษา  และ ปรัชญาพหุปัญญา ที่ประเทศชาติต้องให้วงการศึกษามุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นไปตามปรัชญานี้คือ "ความเข้าใจผู้เรียน เห็นความสำคัญของผู้เรียน และส่งเสริมให้ผู้เรียนแตกฉานในศักยภาพของตนเอง  และความแตกต่างด้านความสามารถ"

อยกให้เรื่องเล่าที่คล้ายกันมาตั้งแต่ต้น  เป็นหนังสือออนไลน์ค่ะ   ด้วยความระลึกถึงเสมอค่ะ

ใช่ๆ เพลงน้องหมา นั่นแหละคะ ชอบเพลงเดียวกัน ชอบมิวสิค ไอเดียแปลกดี ขอบคุณพี่เยาว์ ค่ะ :)

ขอบคุณครับน้องปู

เพลงของโกไข่ส่วนใหญ่เขาแต่งเอง แต่แทบทุกเพลงผมจะได้รับรู้ก่อน ช่วยกันวิจารณ์เนื้อหาของเพลง ช่วยกันปรับเนื้อหาบ้าง เช่น เพลง "ด้วยรัก" ที่มีเพลงกล่อมเด็ก "ไกเถือน" ผมเป็นคนแนะนำและจดเนื้อเพลงให้ เพลงสัญญาหน้าอ๊าม ที่ฮิตมากในเขตภูเก็ตพังงา แต่ไม่ได้ขายให้แกรมมี่ มีผม โกไข่ และน้อย (น้องสาว) เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ร่วมเพราะเราถือว่าทำเพลงเพื่อสังคม ไม่ได้ทำเพื่อการค้า คนภูเก็ตเอาไปใส่สปอต เอาไปเปิดในผับ เอาไปทำอะไรเราไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์เลย

อยู่อย่างยั่งยืนเป็นผลงานของเขาแต่ก็ส่งมาให้วิจารณ์ก่อนส่งแกรมมี่อยู่ดี อิอิ

ขอบคุณสำหรับคำอวยพร เดี๋ยวจะแจ้งโกไข่ให้ครับ

ขอบคุณครับครูอิงที่ติดตามผลงานของน้องชาย

เขาเป็นน้องสุดท้องที่มีความสามารถทางด้านดนตรี หลังจากตามผมไปเล่นดนตรีตั้งแต่ ๗ ขวบ

ขอบคุณแทนโกไข่สำหรับการอวยพร จะแจ้งให้โกไข่ทราบครับ

ขอบคุณครับพี่คิม

หนังสือออนไลน์ชื่อ "ความรัก..ความสุขที่พอเพียง" ส่งภาพปกไปให้แล้ว กำลังรอการผลิตอยู่ครับ อีกไม่นานคงได้อ่านครับ

อ้อ..แจ้งข่าวไก่ฟ้าพญาลอ แตกใบเยอะแล้วครับ

ขอบคุณมากๆครับครู ป.๑

เพลงนี้ผมได้ฟังครั้งแรกตอนไปเรียนที่สถาบันพระปกเกล้า โกไข่เขาเอามาให้ฟัง แต่เร็วมากบอกให้เขาลดสปีดลง คือคนร้องสนุกกัน ถ้าเป็นคนใต้ฟังรู้เรื่อง แต่คนภาคอื่นจะฟังไม่ทัน เนื้อหาก็สนุกดี แต่ไม่นึกว่าจะฮิตขนาดนี้ กลายเป็นโดนใจวันรุ่น อิอิ

                        

ครอบครัวของท่านอัยการชาวเกาะนี่ เป็นมหาวิทยาลัยครอบครัวมากจริงๆเลยนะครับ ทุกคนต่างเป็นนักเรียน ได้งอกงามและเติบโตไปทุกด้าน ขณะเดียวกันก็เป็นครูชีวิตของกันและกัน เป็นสภาพแวดล้อมเพื่อความงอกงามในชีวิต เป็นพลังชีวิตให้ทะเยอทะยานใฝ่ดีและเป็นความบันดาลใจใฝ่สำเร็จในสิ่งที่มีคุณค่าต่อจิตใจและมีความหมายต่อสังคม

งานเขียนให้พ่อของโกไข่เป็นบันทึกภาพสะท้อนความรักให้พ่อที่น่ารักมากจริงๆครับ  เห็นไปด้วยว่าโกไข่เป็นนักอ่านชีวิตและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตอย่างละเมียดละไมไปเป็นวัตถุดิบสำหรับการทำงานสร้างสรรค์ ไม่รู้ว่าผมได้เคยฟังผลงานของโกไข่โดยที่ไม่รู้บ้างหรือเปล่า เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องเลยว่าใครเป็นใคร แต่อ่านกระแสความคิดและมุมมองโลกในงานเขียนเล็กๆของโกไข่แล้ว ก็รู้สึกได้เลยละครับว่าเขาเห็นชีวิตผู้คนรอบข้างเป็นตัวโน๊ตและท่วงทำนองดนตรี วัตถุดิบอย่างนี้แปรไปเขียนเพลงก็ไพเราะครับ วาดรูปได้ก็ต้องงาม เขียนเป็นหนังสือก็ต้องเป็นวรรณกรรมชีวิตที่น่าอ่านและให้อนุสติเป็นความบันดาลใจในชีวิตให้คนอื่นๆได้

ความกตัญญูทั้งต่อผู้คนและถิ่นเกิด ความรักผู้อื่นเยี่ยงความเป็นพี่น้อง การเป็นโอกาส สร้างโอกาส และเป็นสภาพแวดล้อมในการพากันทำสิ่งดีทั้งต่อตนเองและต่อสังคม การมีชีวิตที่เรียนรู้และงอกงามภายในไปด้วยนี่ เป็นพลังชีวิตที่ทำให้คนตัวเล็กๆมีจิตใหญ่และทำสิ่งงดงามได้ดีจริงๆเลยนะครับ

ได้กระทบไหล่พี่โกไข่ใน GTK นี่เอง

เพิ่งทราบค่ะว่าโกไข่เป็นน้องชายคุณอัยการ...

ตัวอย่างของพ่อที่ดีจะช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจต่อลูก  ทำให้ลูกคิดดีตามไปด้วยสมแล้วทีู่ลูกๆจะยกย่องและเทิดทูนให้คุณพ่อเป็นพ่อดีเด่นในสังคม  โดยไม่ต้องให้ใครเขามายกย่อง....ชื่นชมจริงๆค่ะ

แล้วคนที่ไม่มีโอกาสเป็นพ่อนี่ควรทำอย่างไรดีค่ะคุณอัยการ อิๆๆๆ

เป็นบทความที่อยากอ่านซ้ำอีกหลายๆครั้ง

เป็นบทเรียนที่มีคุณค่า ยากจะหาเหมือน

เป็นเรื่องราวที่บ่งบอกถึงความรัก ความผูกพันที่ควรแก่การเอาอย่าง

กระผมขอชื่นชมทุกท่านเลยครับ

ท้ายนี้กระผมขอฝากส่งคำอวยพรวันคล้ายวันเกิดถึงโกไข่ที่นับถือด้วยนะครับ

ขออำนาจแห่งความดีงามที่โกไข่ได้สร้างมาโปรดคุ้มครองและดลบันดาลให้โกไข่

รวมถึงบุคคลอันเป็นที่รักของโกไข่ทุกท่านประสบแต่สิ่งดีงาม ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและภยันตรายทั้งปวงเทอญ

และขอเป็นกำลังใจให้ได้เป็นคุณพ่อโดยเร็ววันนะครับ

ขอบคุณท่านอาจารย์วิรัตน์เป็นอย่างยิ่งที่มาเติมเต็มในบันทึกนี้

ความรักของผู้คนในครอบครัวย่อมเกิดจากร่มโพธิ์ร่มไทรที่ให้ความร่มเย็นปกป้องคุ้มครองลูกหลาน ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมให้กับเขา ประคับประคองให้เขาลุกขึ้นเดิน วิ่ง ด้วยตัวเขาเอง ให้เปรียบเสมือนเลี้ยงนก ถ้าเลี้ยงแบบนกป่า ลูกจะมีอิสระในการดำรงชีวิตและสามารถสู้ชีวิตด้วยตนเอง ถ้าเลี้ยงแบบนกกรงก็จะต้องอาศัยผู้อื่นเลี้ยงและคอยรับอาหารจากผู้ป้อนให้ ซึ่งไม่มีวันที่นกตัวนั้นจะมีความคิดที่เป็นอิสระ

โกไข่มองโลกในทัศนะของเขาแต่ก็ไม่ลืมที่จะให้เครดิตกับพี่น้องและพ่อแม่ ถ้าครอบครัวเราไม่ปลูกฝังความรักความอบอุ่นให้กันและกัน ไม่ให้ความคิดอิสระแก่กัน โกไข่ก็คงมองแต่ในกรอบที่ถูกกำหนดไว้

พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเพลงภาษาใต้แบบฮกเกี้ยนทำให้เด็กภูเก็ตหันกลับมาเรียนรู้ภาษาถิ่นมากขึ้น ผมสนับสนุนน้องในขณะที่ผมเป็นประธานเขตพื้นที่การศึกษานำร่อง ๑ ในห้าของประเทศ ในแวดวงการศึกษาจังหวัดภูเก็ตได้รับการกระตุ้นเรื่องภาษาถิ่นอย่างได้ผล ในฐานะเป็นผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ร่วมกับน้อง เราตกลงกันไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงในอัลบั้มเพลงชุด "เพลงภูเก็ต" ถือเป็นสิ่งที่ครอบครัวของเราให้กับสังคม เราขายซีดีแผ่นแรกเราบริจาคเพื่อการกุศลทันที ๑๐ บาท ถ้าเป็นธุรกิจเขาจะให้เพลงได้รับทุนคืนก่อนถึงจะบริจาค จึงไม่แปลกที่สถานีวิทยุทุกสถานีในจังหวัดภูเก็ตกระหน่ำเปิดเพลงชุดเพลงภูเก็ตกันสนั่นเมืองโดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา

ความสุขจากการให้ทำให้ครอบครัวของเรามีความสุขจริงๆครับ

ขอบคุณครับครูกีร์

โกไข่เป็นน้องสุดท้องในครอบครัวที่พี่ๆรักเขามาก

จริงๆแล้วเราทำประกาศนียบัตรสลักลงในแผ่นอลูมิเนียมเป็นประกาศนียบัตร "พ่อแม่ดีเด่นของลูก" มาหลายปีแล้วครับ สลักคำสอนของพ่อกับแม่ และคำมั่นสัญญาของพวกเราทั้งห้าคนว่าจะเป็นคนดีและยึดมั่นคำสอนของพ่อและแม่ทำความดีเพื่อสังคมครับ

คนที่ไม่มีโอกาสเป็นพ่อ ก็สามารถเป็นแม่พิมพ์ที่ดีให้กับคนรุ่นหลังได้ครับ.

ขอบคุณครับคุณวุฒิชัยแทนโกไข่ด้วยนะครับ

จะนำคำอวยพรไปบอกโกไข่ให้ครับ

ประทับใจจริงๆ อ่านแล้วเห็นภาพ แล้วก็คิดถึงพ่อตัวเอง วันพ่อปีนี้เราไม่ได้กลับบ้านไปหาพ่อ(ก็ไม่ค่อยได้ไปหรอก นอกจากสงกรานต์)

ขอให้มีความสุขมากๆ กันทุกคนนะคะ

ขอบคุณครับคุณศิริวรรณ

อย่าลืมนะเวลากลับบ้าน อย่าลืมโทร.หากัน

จุมพล(โกไข่)ทองตัน

กราบขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้และได้แสดงความเห็นครับ (ขอบคุณโก้ฑูรที่เอามาโพสต์ด้วยครับ..บทความในบ้านหลังเล็ก ได้ออกมาเห็นโลกกว้างแล้ว อิอิ..) ความดีที่พอมีอยู่บ้างที่พวกเราพี่น้องทั้งห้าคนได้ปฏิบัติ เป็นเพราะการสอนของป๋ากับมะ โดยมีภาพของสังคมที่อบอวลไปด้วยความงามของความรัก เป็นแรงบันดาลใจครับ และขอขอบคุณคำอวยพรในวันเกิดให้ผมด้วยครับ ขอให้พรทั้งหมดกลับไปที่ทุกท่านอย่างท่วมท้นทวีคูณนะครับ

ศรัทธาในตัวคุณลุงจำเริญเป็นทุนเดิม  เนื่องจากทำงานเพื่อสังคมด้วยกัน คุยกัยรู้เรื่องในทุกๆเรื่องตลอดจนแอบเอาการดำเนินชีวิตและวิธีการเลี้ยงดูลูกของคุณลุงไปใช้กับครอบครัวตัวเอง  ขอให้ครอบครัวนี้เป็นไอดอลของคนอีกหลายคนต่อไป

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท