ประกาย~natachoei ที่~natadee
นาง ประกาย ประกาย~natachoei ที่~natadee พิทักษ์

จับตาไข้หวัดใหญ่ระลอกที่สอง


      หลังจากที่ประมีการประชุมกรรมการ ICC เมื่อวานนี้ ได้มีการพูดคุยถึงการเตรียมการว่าควรจะจับตาดูสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ที่จะระบาดมาใหม่ระลอกที่สอง  ทำอย่างไรจะได้ทราบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้น ให้เข้มงวดในการเฝ้าระวัง เตรียมการรับการรบาด น่าจะได้มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการในผู้ป่วยที่สงสัย มากขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้นอนรักษา จะได้ดูว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่กลับมาระบาดระลอกที่สองหรือยัง

      วันนี้ได้รับ faxรายงานโรคไขหวัดใหญ่ H1N1 ว่ามีนักเรียนในโรงเรียนป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่พันธ์ใหม่ H1N1 และมีบุคลากรทางการแพทย์ป่วยอีกหนึ่งราย วิเคราะห์สถานการณ์คิดว่าน่าจะงานเข้าอีกแล้ว

      อ่านข่าวกระทรวงสาธารณสุข งานเข้าอีกแล้ว จะต้องรีบเตรียมการและเร่งประชาสัมพันธ์ให้มากกว่านี้ให้ประชาชนได้ตระหนักและรู้จักวิธีการป้องกัน และรีบมาฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ H1N1

 

          วันนี้ (27 ม.ค.) ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมวอร์รูมโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามความคืบหน้าสถานการณ์โรคและการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดทั่ว ประเทศ โดยนพ.ศิริวัฒน์กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์โรครอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงประมาณไม่ได้ เนื่องจากพบการระบาดในพื้นที่ชนบทห่างไกล ในวงแคบ เช่น โรงเรียน ค่ายทหาร อีกทั้งประชาชนไม่ค่อยมีการตื่นตัวเฝ้าระวังโรค จึงได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด และสาธารณสุขในทุกพื้นที่ และอสม.ร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์การป้องกันเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ 2009
       
       “สำหรับในรอบวันที่ 18-24 มกราคม 2553 ผู้ป่วยรายใหม่ 46 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ยอดสะสมผู้เสียชีวิต 198 รายเท่าเดิม จากการเฝ้าระวังจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ในโรงพยาบาลทั่ว ประเทศ พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นใน 6 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น อ่างทอง จันทบุรี ชลบุรี สมุทรปราการ และเชียงใหม่ โดยพบผู้ป่วยในพื้นที่ชนบทมากขึ้น” นพ.ศิริวัฒน์กล่าว
       
       นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในการประชุมครั้งนี้ ได้เร่งรัด 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ให้ทุกจังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีพฤติกรรมป้องกันโรค 4 พฤติกรรม ได้แก่ ปิดปาก จมูกเวลาไอจาม และใช้หน้ากากอนามัยเมื่อป่วย เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจาย ล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงการเข้าไปในที่มีคนแน่นแออัด และหยุดงาน หยุดเรียน เมื่อป่วยเป็นเวลา 7 วันจนหายเป็นปกติ 2.ให้โรงพยาบาลทุกแห่ง เร่งรัดแจ้งให้กลุ่มเสี่ยง 5 กลุ่มเสี่ยงเป้าหมาย ให้เข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้ครบโดยเร็ว และดำเนินการตามแนวทางที่กรมควบคุมโรคกำหนดอย่างเคร่งครัด และ 3.ให้ อสม.เคาะประตูบ้านให้ความรู้และให้กลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ทั้งที่ขึ้นทะเบียนแล้วและที่ตกสำรวจให้ไปฉีดวัคซีน
       
       “หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ เชื่อจะมีผู้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น ตั้งเป้าภายในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม ต้องมีผู้ได้รับได้รับวัคซีนครบ 2 ล้านโดส และเตรียมเร่งฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ให้กลุ่มบุคลากรทางแพทย์ เนื่องจากในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบมีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ไปแล้วรวม 30 ราย ในกลุ่มผู้พิการทางสมอง เตรียมจัดรถเคลื่อนที่ให้บริการวัคซีน ถึงบ้าน หลังพบกลุ่มดังกล่าวเดินทางรับวัคซีนน้อย เนื่องจากไม่สะดวกแก่การรับวัคซีนที่โรงพยาบาล” นพ.ศิริวัฒน์ กล่าว
       
       ด้าน นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า วัคซีนที่ลงทุนฉีดให้กลุ่มเสี่ยง 2 ล้านโดส ในวงเงิน 600 ล้านบาท ครั้งนี้ จะมีผลในการป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทยสูงมาก หากฉีดครบทุกคนได้เร็วเท่าใด จะเป็นประโยชน์มาก กล่าวคือ คนไทยกลุ่มเสี่ยงมีภูมิต้านทานโรค 1.8 ล้านคน หากคนกลุ่มนี้ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอาจจะป่วยได้ 1 แสนคน ป่วยมากต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 1 หมื่นคน และอาจเสียชีวิต 100 คน
       
       “นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคได้รับแจ้งจากประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ตกสำรวจและไปขอรับการฉีด วัคซีนจากโรงพยาบาลภาครัฐ ขณะนี้ยังมีบางโรงพยาบาลให้บริการเฉพาะหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 3เดือนขึ้นไปเท่านั้น เนื่องจากในช่วงแรกคาดว่าจะได้รับวัคซีนมาบางส่วน ไม่พอฉีดกลุ่มเสี่ยงทั้ง 5 กลุ่ม จึงเลือกหญิงกลุ่มตั้งครรภ์เป็นกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนก่อน แต่ขณะนี้วัคซีนมาครบ 2 ล้านโดสแล้ว จึงขอให้โรงพยาบาลภาครัฐทุกแห่งฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ให้ทั้ง 5 กลุ่มเสี่ยงพร้อมกันได้เลย ซึ่งโรงพยาบาลส่วนใหญ่ได้ดำเนินการแล้ว” นพ.มานิตกล่าว
       
        นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ในโรงพยาบาลเอกชน พบมีโรงพยาบาลเข้าร่วมโครงการ 212 แห่ง และกำลังมีโรงพยาบาลเอกชนขอเข้าร่วมโครงการเพิ่มอีก 43 แห่ง ซึ่งจะทำให้มีโรงพยาบาลเอกชนเข้าร่วมการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ร่วม 255 แห่ง ซึ่งโรงพยาบาลจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขไม่คิดค่าบริการวัคซีน และค่าเข็มฉีดยา เนื่องจากรัฐบาลให้การสนับสนุนในการฉีดวัคซีนอยู่แล้ว
       
       นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการรับวัคซีนมากที่สุดในขณะนี้ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จำนวน 2,000 คน ส่วนผู้รับวัคซีนทั่วประเทศขณะนี้มีรวม 53,000 ราย สำหรับแนวทางการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่บางประเทศเริ่มใช้ยาฉีดพารามิเวียร์ แทนโอเซลทามิเวียร์นั้น ขณะนี้พบเพียงที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนประเทศไทยอยู่ในระหว่างการวิจัย และทดลองประสิทธิภาพที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ซึ่งหากพบประสิทธิภาพดี และผ่านการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เตรียมสั่งซื้อและนำมาใช้รักษาผู้ป่วยทันที เนื่องจากการรักษาเหมาะสำหรับผู้ป่วยอาการหนัก ที่มีปัญหา เรื่องการรับประทานยาโอเซลทามิเวียร หรือยาพ่น ซานามิเวียร์ และผู้ที่มีปัญหา เรื่องของการดูดซึมยาในกระเพาะอาหาร

          ขอบคุณข้อมูลข่าวจากกลุ่มงานระบาดวิทยา สสจ.ขอนแก่น

หมายเลขบันทึก: 331852เขียนเมื่อ 28 มกราคม 2010 18:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

ขอบตุณข้อมูล เพื่อช่วย ให้ ทันโรค ทันโลกค่ะ พี่สาว

สบายดีไหมคะ

พอลล่างานเข้า เหนื่อยมากเลยค่ะ

ตอนนี้กำลังฟังข่าวจากทีวีอยู่ค่ะไก่

ที่จ.สตูลหญิงมีครรภ์ฉีดวัคซีนไข้หวัด2009 แล้วทารกตายในครรภ์

ถึงจะใช่จากวัคซีนรึเปล่าก็ทำให้คนกลัวนะ

1.

สวัสดีคะน้องสาว ทันโรค ทันเวลาควบคุมป้องกันให้ได้อย่าให้แพร่ระบาดอีกจะดีที่สุด เดี่ยวงานเข้าอีก

พี่สาวสบายดีคะ วันที่ 3-5 กพ. 53 พี่ไปเมืองนนท์นะคะ  ไประชุมที่ รร.ริชมอนด์ จะได้เจอกันไหม คะ คิดถึงมาก ๆ จะพาไปทานข้าวร้านใกล้ ๆ โรงแรม อร่อยมาก บรรยากาศดีมาก ๆ ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไปไกล ๆ

2.

P
นาง...มณีวรรณ ตั้งขจรศักดิ์
เมื่อ พฤ. 28 ม.ค. 2553 @ 19:11

ขอบคุณคะนาง

ไก่ยังไม่ได้กลับบ้านเลยคะกำลังตามข่าว และคิดว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ H1N1ขึ้นกับความสมัครใจนะคะ ไม่บังคับ และผู้รับบริการต้องได้รับข้อมูลมากที่สุดเพื่อช่วยในการตัดสินใจนะคะ

มาติดตามข่าว hot issue ค่ะ คงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากกว่าเดิมอีกรอบแล้วล่ะค่ะ ปกติเป็นหวัดง่ายมาก ขอบคุณมากค่ะสำหรับการนำเสนอข้อมูลสำหรับสุขภาพเสมอ และแวะมาด้วยระลึกถึงด้วยค่ะ

พี่ไก่คะ..

  • ลำปางก็เป็นหวัดกันเยอะเชียว
  • ไม่รู้ว่าเพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลงแบบแปลกๆหรือเปล่า
  • ดีนะคะที่นักศึกษาบอกว่า..
  • เขาล้าสมัยเป็นแค่หวัด 2008 ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ อิอิ
  • รักษาสุขภาพนะคะ

มาบอกว่าน้องสบายดี เพิ่งไปโรงพยาบาลที่ท่าท่วง กาญจนบุรีมาครับ...

6.

P
พิชชา
เมื่อ พฤ. 28 ม.ค. 2553 @ 23:23
#1825686 [ ลบ ]

สวัสดีคะน้องพิซซา ดูแลสุขภาพนะคะ ขอให้ปลอดภัยจากไข้หวัดใหญ่นะคะ

ล้างมือบ่อย ๆ ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อป่วย นะคะ นักศึกษาที่ป่วยควรหยุดเรียนนะคะ

7.

P
ขจิต ฝอยทอง
เมื่อ ศ. 29 ม.ค. 2553 @ 18:58

สวัสดีคะอาจารย์ขจิต สบายดีแล้วได้ไปโรงพยาบาล ซักจะสงสัย

เตรียมตัวเป็นจ้าวบ่าวไหมคะ ไปตรวจสุขภาพ 555 พี่จะรอฟังข่าวดีนะคะ จะไปกทม.นะคะ ว่าจะมีโอกาสเจอกันไหม อาทิตย์หน้า 3-5 กพ.53

ขอขอบคุณข้อมูลที่น่าสนใจมาก ทำให้ทันข่าวคราวและเฝ้าระวังได้ครับ

5.

P
Sila Phu-Chaya
เมื่อ พฤ. 28 ม.ค. 2553 @ 20:34

สวัสดีคะอาจารย์

ผ่านไปได้อย่างไร ขอโทษด้วยนะคะไม่ได้ตอบข้อคิดเห็น

อาจารย์ดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรง ดื่มน้ำมาก ๆ น้ำผลไม้ช่วยได้คะ

เป็นหวัดก็อย่าลืมสวมหน้ากกาอนามัยนะคะ ล้างมือบ่อย ๆนะคะ

ถ้าอาการไม่ดีขึ้นในสองวัน ควรพบแพทย์นะคะ

10.

สวัสดีคะอาจารย์สันติ

ยินดีนะคะที่อาจารย์ติดตามข่าวและนำไปบอกเล่าต่อ 

อาจารย์อย่าลืมเตรียมการป้องกันการระบาดในโรงเรียนด้วยนะคะ

ถ้าอาจารย์อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมแจ้งมาได้เลยนะคะ

ยินดีเป็นศูนย์บริการข้อมูลคะ

ทางใต้ ยังกลัววัคซีนกันอยู่นะครับ ข่าวลือก็มาก

13.

P
นาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี
เมื่อ พ. 03 ก.พ. 2553 @ 18:02

สวัสดีคะอาจารย์หมอเต็ม

สรุปแล้วตอนนี้อาจารย์ฉีดวัคซีนหรือยังคะ ดูแลสุขภาพนะคะ

ที่ขอนแก่นเริ่มมีบุคลากรป่วยอาทิตย์ละรายสองรายแล้วคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท