ภาพการทำน้ำมันมะพร้าว และการระเหยน้ำออกจากน้ำมัน


การทำไม่ยาก หาอุปกรณ์ที่อยู่ในบ้านทำ ถ้าอยากเห็นน้ำมันเร็วให้ทำแบบโบราณ หัวกะทิ 1 กก. เคี่ยว 1 ชั่วโมง

               

                   


 

                          


               

 

 

                        


         แบบ โบราณ ที่ เคี่ยวจากหัวกะทิสด สกัดร้อน ได้น้ำมัน100% ที่เป็นสีเหลืองอ่อน สาเหตุจากการที่เวลาเคี่ยวแล้วมีเนื้อกะทิติดก้นกระทะขูดออกช้าเกรียมเสียก่อนจึงทำให้น้ำมันเป็นสีเหลีองแต่จะหอมเป็นพิเศษ ถ้าทำไม่ติดกระทะเลยน้ำมันก็จะใสเหมือนสกัดเย็นคือใสเหมือนน้ำ  แต่ไม่ว่าจะสีไหน ประโยชน์เหมือนกัน กรดไขมันอยู่ครบทุกชนิด     

              

                         


    หัวกะทิที่ซื้อมาจากแม่ค้าที่ไม่ผสมน้ำ      ผสมน้ำอุ่นๆ เท่ากัน 1 ต่อ 1


                         


    นำหัวกะทิเทใส่ แล้วใส่น้ำอุ่นๆ ผสมลงไปเท่ากัน คือ1 ต่อ 1 แล้วปิดฝา

     ตั้งวางไว้ใน    ห้อง  18 ชั่วโมง  (ถ้า 12 ชั่วโมงไม่มีน้ำมันใส สาเหตุจากอากาศ หรือมีสิ่งเจือปน ขั้นตอนการทำไม่สะอาดฯให้ตักครีมกะทิชั้นบนลงกระทะเคี่ยวแบบโบราณ จะได้น้ำมันใส และเคี่ยวง่ายกว่าการเคี่ยว กะทิ สด)

 

                      


จะเกิดการแยกชั้น 5 ชั้น 1. ฝ่า 2.น้ำมันใส 3.ครีมโปรตีน กะทิ 4. น้ำหมัก 5. โปรตีนกัม 

 

                


              เปิดฝ่า ชั้น 1 จะมองเห็นน้ำมันใส ตักเฉพาะที่มองเห็นขึ้นมากรองก่อนแยกขวดไว้ต่างหากได้เลยโดยไม่ต้องระเหยน้ำ เพราะอยู่บนครีมกะทิที่ไม่เป็นน้ำมันและไม่มีน้ำ  ส่วนที่เหลือที่มีฝ่า น้ำมันที่ยังมี และครีมโปรตีน 3 ชั้นขึ้นมากรองอีกครั้งๆนี้จะมีน้ำติดมาบ้างเมื่อหยดหมดแล้ว ต้องเอาน้ำออก


 


การตักกรอง  ครั้งดียว หรือ 2 ครั้งแล้วแต่ความสะดวกของผู้ทำ



        การ   ระเหยน้ำ ออกจากน้ำมัน


      


ตัก ชั้น 1  2  3 ขึ้นกรองทั้งหมด หริอเปิด ฝ่าชั้น 1 แล้วตักน้ำมันใส ชั้น 2 ออกมากรองก่อนแล้วแยกใส่ขวด ที่เหลือตักกรองอีกครั้งๆนี้ 2 ต้องทำการระเหยน้ำก่อนใส่ขวด โดยมี 2 วิธี( 1.)นำหม้อใส่น้ำตั้งไฟให้เดือด ๆแล้วเบาไฟ หาตะแกรงวางบนปากหม้อ นำน้ำมันที่ได้จากกรอง ตั้งแล้วใช้ช้อนหรือทัพพีคนไปมาจะมีฟองอากาศปุดๆ คนจนไม่มีฟองอากาศปุดๆ ก็หยุดแล้วยกมาตั้งวางไว้จนตกตะกอน  ถ้าจะเก็บไว้นาน ตั้งไว้หลายๆวัน(7วัน)จนมั่นใจว่าน้ำระเหยหมดแล้วค่อยบรรจุขวด การระเหยน้ำแบบนี้น้ำมันเก็บไว้ได้หลายปี แต่ถ้ารีบใช้ก็ใช้ได้ทันทีเมื่อระเหยน้ำเสร็จ (วิธีของสถาบันวิจัยพืชสวนกรมวิชาการเกษตร)

   ( 2.) เป็นวิธีที่กานดาคิด ให้นำน้ำมันที่ได้จากการกรอง แช่เย็น เมื่อแข็งเป็นไขขาว ยกออกมา แล้วเจาะหรือดันก้อนน้ำมันขึ้น จะเห็นน้ำอยู่ใต้ภาชนะให้เอาน้ำทิ้งไปให้หมด  พอน้ำมันละลายก็ใส่ขวด หรือชอบแบบแช่เย็น ก้ใส่ตู้เย็นไว้ เวลา จะใช้ก็ใช้ช้อนตัก ใส่ปาก หรือลงกระทะทำอาหารได้   ถ้าไม่นำน้ำออกจากน้ำมัน จะทำให้น้ำมันเหม็นตึๆ และเกิดเชื้อรา ถึงแม้จะใส่ตู้เย็นก็เกิดเชื้อราดำที่ก้นภาชนะ

    ชั้นฝ้าและครีมกะทิ ที่อยู่บนผ้าขาวบาง ถ้าไม่เสียดายก็ทิ้งไป แต่ถ้าเสียดายให้นำลงกระทะพร้อมทั้งบิดผ้าที่กรอง 8 ชั้นให้น้ำมันลงกระทะด้วย เปิดไฟอ่อนๆเคี่ยวอย่าให้ติดกระทะจะใด้น้ำมันใสอีก

 ถ้าใช้หลายอย่างควรแบ่งแยกขวดเพื่อสะดวกในการหยิบใช้ ในชีวิตประจำวัน

ว่าจะไม่มีการอธิบายนะคะเพราะกลัวไม่อ่านกันแต่ก็ต้องอธิบายค่ะโดยเฉพาะการระเหยน้ำ สำคัญมากของการทำน้ำมัน โดยเฉพาะ การที่จะนำน้ำมันมะพร้าว เป็นของฝากผู้ใหญ่ ของเยี่ยมคนไข้ ฯทำกันนะคะถ้าสงสัยฝากคำถามไว้นะคะ


ด้วยความปรารถนาดี  กานดา แสนมณี


หมายเลขบันทึก: 302495เขียนเมื่อ 1 ตุลาคม 2009 18:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

สวัสดีค่ะ คุณ กานดา น้ำมันมะพร้าว และ คุณครู ภาทิพ

นีนานันท์ มารายงานความคืบหน้าค่ะ

ลองทำแล้ว สงสัยว่า ตอนใส่น้ำอุ่นในหัวกะทิ น้ำคงจะร้อนเกินไป อนามัยมากไปหน่อย  อิ อิ  เพราะพอตั้งทิ้งไว้ ถึง 24 ชั่วโมง  ก็ยังไม่มีวี่แววแยกชั้นเลย  ก็เลยกลับไปอ่าน ของคุณครู ภาทิพ ประกอบด้วย  ไม่เห็นคุณครูภาทิพพูดถึงน้ำอุ่นเลย  จึงคิดเองว่า น่าจะต้องเป็นน้ำไม่ร้อนถึงจะทำให้แยกชั้น 

จากนั้น ก็เลยตักเฉพาะกะทิข้นๆ ที่ลอยอยู่ทั้งหมดขึ้นมาใส่หม้อหุงข้าวไฟฟ้า  แล้วต้มให้เดือดแล้วเดือดอีก หลายๆ ครั้ง พร้อมคนไปด้วย  แต่ใช้เวลาค่อนข้างนานค่ะ  เพราะหม้อไฟฟ้าจะตัดไฟเป็นwarm เป็นระยะๆ  ส่วนดีก็มีตรงที่พอหม้อเริ่มเย็น ก่อนกดสวิทต์ต้มใหม่ ก็ถือโอกาสคนพร้อมขูดก้นหม้อไปด้วย  พร้อมคอยเทน้ำมันใสๆ ออกมาเป็นระยะๆ  ใส่ที่กรอง

การกรอง นีนานันท์ใช้กระชอนกรอง อันเล็กๆ ประมาณเส้นผ่าศูนย์กลางเท่าปากถ้วยกาแฟ  แล้วรองในกระชอนกรองด้วยสำลีอนามัยสะอาดที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยวิธี sterilized ซ้อนไว้ซ้อนไปมาหลายๆ ชั้นบนกระชอน แล้วใช้ชามกระเบื้องสีขาวไม่มีลาย รองน้ำมันไว้ ได้น้ำมันค่อนข้างใสสีไม่ไม่เหลืองมาก  จากนั้นก็นำชามน้ำมันไปเข้าไมโครเวป  เวปโดยใช้ไฟอ่อนเบอร์ละลายน้ำแข็งในตู้เย็น ใช้เวลา 3 นาที  จากนั้นก็วางไว้ให้เย็น ตักใส่ขวดโหลแก้ว 

เพิ่งถึงขั้นตอนตรงนี้ค่ะ  ยังไม่แน่ใจว่าควรนำโหลแก้วน้ำมันใส่ตู้เย็น หรือ วางไว้บนโต๊ะที่อุณหภูมิห้องเฉยๆ ดี ถือโอกาสปรึกษาค่ะ..

ส่วนสำลีที่กรองน้ำมัน ก็พับทบแล้วบิดน้ำมันเก็บไว้  แล้วสำลีที่ยังชื้นด้วยน้ำมันก็นำมาทาผมทาผิว ก่อนอาบน้ำสระผมค่ะ 

รอคำตอบที่ปรึกษานะคะ  ขอบคุณค่ะ..

 

สวัสดีค่ะ คุณ นีนานันท์

ตามที่เล่ามาทำถูกแล้วนะคะแต่เป็น สกัดร้อน เมี่อใช้สำลีกรองแล้ว ก็ใช้ได้เลยค่ะ ถ้าชอบแบบแข็ง ก็นำน้ำมันไปแช่เย็น ถ้าชอบใช้แบบน้ำมันใส ก็ใส่ขวดใช้ได้เลยค่ะ สำลีสุดท้ายก็ทำถูกค่ะ ส่วนสาเหตุ ที่ไม่เป็นน้ำมันนั้น ไม่แน่ใจคุณนีน่านันท์ ใช่หัวกะทิ คั้นเอง หรือ ซื้อจากตลาด น้ำมันอาจมีสิ่งเจือปน การใช้น้ำอุ่นผสมนั้น ถ้าร้อนมากเกิน น้ำมันจะลอยขึ้นบนเลย ซึ่งดูเหมือนน้ำ ก็ปล่อยให้ครบ 12 -18 ชั่วโมงให้เป็นน้ำมันมากๆก่อนแล้วค่อยกรอง ใช้สำลีหลายแผ่นซ้อนกัน ก็กรองได้แบบที่คุณทำ แต่ถ้าดูแล้วไม่เป็นน้ำมันใน 12 ชั่วโมงก็ตักหัวครีมกะทิ ลงเคี่ยวเลย การใช้หม้อหุงข้าว ถ้าไม่ให้กดบ่อย ก็หาอะไรค้ำ สวิทซ์ไว้เลย จนกว่าเคี่ยวเสร็จ ต้องคนตลอดเวลาอย่าให้ติดก้นหม้อ เคี่ยวจนเสร็จ พอเย็นแล้วค่อยกรองมากๆก็ได้นะคะ การสกัดรัอนได้น้ำมันกรองเสร็จใช้ได้ทันที แต่สกัดเย็น ต้องระเหยน้ำก่อนเก็บ ซึ่งสำคัญมาก ถ้าไม่ระเหยน้ำออกจากน้ำมัน ๆจะขึ้น ราและเหม็น การใช้ทำอาหาร จะกระเด็น มาก เพราะมีน้ำหมักปน การสก้ดเย็นใช้น้ำอุนๆผสมก็จะแยกชั้นเร็ว ถ้าทุกอย่างสะอาด ก็เป็นน้ำมัน ถ้าไม่สอาดไม่ได้น้ำมันค่ะ และอากาศด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ กานดา น้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวที่ได้ สีอ่อนกว่าภาพน้ำมันในแก้วนี้ค่ะ   

ผ่านไปหลายวันแล้ว กลิ่นยังเหมือนเดิม เป็นกลิ่นหอมๆ ของขนม นีนานันท์วางโถแก้วไว้บนโต๊ะเฉยๆ ไม่ได้ใส่ตู้เย็น มีคำถามใหม่ค่ะ..

1.  การใส่ตู้เย็น จะทำให้น้ำมันชื้น เพราะการกลั่นตัวของน้ำไหมคะ

2.  เก็บน้ำมันมะพร้าวไว้ข้างนอก เหมือนน้ำมันพืชทั่วๆ ไป ที่เราซื้อมาใช้ทำกับข้าวเป็นขวดๆ  เปรียบเทียบกับเก็บน้ำมันมะพร้าวในตู้เย็น  ควรเก็บแบบไหนจะดีกว่า..

3.  น้ำมันมะพร้าวที่ได้จากการไม่ผ่านการเคี่ยวในกระทะด้วยความร้อน จะมีกลิ่นหอมแบบขนมไหมคะ  และน้ำมันที่ได้จากการตักรอบแรก ตักแบบดีๆ ให้ไม่มี น้ำ สามารถเก็บไว้โดยไม่ต้อง นึ่ง ระเหยน้ำ ไหมคะ..

4.  น้ำอุ่นที่ผสมในหัวกะทิ  อุณหภูมิน่าจะประมาณไหนคะ  นีนานันท์กำลังคิดว่า จะนำน้ำอุ่นจากเครื่องทำน้ำอุ่นอาบน้ำ  ประมาณนั้นได้ไหมคะ  คราวที่แล้วใช้น้ำต้มเดือดแล้วยังอุ่นแบบร้อนจัดอยู่ผสมหัวกะทิ  มีความรู้สึกตอนผสมว่า ดูกะทิจะข้นๆ  หรือว่าเวลาผสมนี้ จะห้ามคนด้วยหรือเปล่าคะ..

รบกวนนะคะ  ขอบคุณค่ะ..

 

สวัสดีค่ะคุณ นีนานันท์

- มะพร้าวแก้วที่ให้ชมนี้ ทำแบบโบราณค่ะ แล้วกะทิติดกระทะบ้าง จึงเป็นสีนี้แต่หอมมากเมื่อใส่ตู้เย็นเวลากลืนจะหอมพิเศษ

- ดีแล้วค่ะที่วางไว้เฉยๆก่อนหากยังมีน้ำอยู่ก็จะระเหยออกไป น้ำมันยิ่งใส กลิ่นหอมอ่อนๆ

( 1. ) การใส่ตู้เย็นถ้าปิดฝา น้ำมันก็ปกติ กรณีน้ำออกจากน้ำมันหมดจริงๆไม่มีความชื้นค่ะ ( กานดาใช้แบบแช่เย็น ดีมากค่ะ)

( 2. ) แบบสกัดเย็น100% ระเหยน้ำหมดจริงๆ เก็บไว้ได้เหมีอนน้ำมัน ทั่วไปไว้ได้หลายปีและไม่ตกตระกอนหรือผลึก ไว้ในตู้เย็นหรือ ในห้อง ก็เหมือนกันค่ะ แต่แบบ เคี่ยว ไว้ในห้องนานไม่ได้ ตกผลึกก้นขวด มีกลิ่นเปลี่ยน แต่ถ้าไว้ในตู้เย็นไม่เป็นไรค่ะ การใส่ตู้เย็นต้องปิดฝาทุกครั้ง ก่อนตักใช้ให้คลายความแข็งก่อนค่อยใช้ช้อนตัก

-แต่ถ้าใช้กับผิว ใช้หลังเล็บหัวแม่มือขูดเบาๆแตะผิวก็ละลายทันที และไม่เลดะปากขวด ตักใส่ปากก็ง่ายอร่อยเหมือนช็อกโกแลตจืดๆ ถ้าต้องการให้ผมดกดำใช้วิธีกินก็ได้ไม่จำเป็นต้องนวดหร์อหมักผม ได้ผลเหมือนกัน ลดไขมันเดิมออกจากร่างกายด้วย มีผู้ใช้ได้ผลหลายคน ไขมันเก่าที่หน้าท้องหายไปด้วย

( 3. ) ใช่ค่ะหอมแบบขนมแบบไทยๆของเรา เวลาแช่เย็นกลืนก็จะหอมอย่างนั้นโดยเฉพาะการเคี่ยวจากหัวกะทิสด ใหม่

การตักน้ำมันครั้งแรกที่น้ำมันใสอยู่ บนครีมกะทิไม่ต้องระเหยน้ำก็ได้ ค่ะแต่ต้องเป็นน้ำมันล้วนๆนะคะไม่มีฝ้าหรือครีมปนขึ้นมาถ้าปนน้ำมันจะขุ่น ก็นำหม้อน้ำร้อนปิดฝาตั้งไว้ในกระติกหรือกล่องโฟมนำน้ำมันไปวางคู่กันอุรหภูมิประมาณ 50 องศาฯสักพักน้ำมันก็ใสค่ะ หรือจะตั้งวางอย่างที่คุณนีนานันท์ทำก็ได้ค่ะ

( 4.) คำว่าน้ำอุ่นๆ คือน้ำจากกระติกน้ำร้อนที่ไม่ร้อนมาก หรือน้ำร้อน ผสมน้ำเย็น หรือจากเครื่องน้ำอุ่นก็ได้ค่ะคุณนีนานันท์คิดดีค่ะ ไม่ว่าจะใช้หม้อหุงข้าวมาเคี่ยวหรือมาใช้น้ำอุ่นจากเครื่อวน้ำอุ่นที่อาบน้ำ เผื่อมีคนที่ไม่สะดวกหลายๆอย่างทำแบบคุณบ้าง ก็ได้น้ำมันเหมือนกัน ดีคะประยุกต์การทำที่ใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ในบ้านหรือในห้อง ทำได้ ช่วยกันคิด ช่วยกันบอก ขอบคุณนะคะ ดีมากเลย

- อย่างที่คุณครูภาทิพ หมักในขวดน้ำ ก็เช่นกัน เป็นตัวอย่างให้ผู้อื่นอยากทำได้อย่างหนึ่งเพราะอุปกรณ์หาง่ายต้ดเพื่อตักน้ำมันก็ง่าย โดยเฉพาะการที่จะนำไปสอนเด็กๆในโรงเรียน เพราะขวดหาง่ายไม่ต้องเสียดาย ก็จะขอนำแบบอย่างไปสอนบ้าง ขอบคุณคุณครูภาทิพเช่นกันที่มีตัวอย่างดีๆเพื่อสอนเพื่อบอกต่อให้ทำใช้เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน

-การทำสกัดเย็นผสมหัวกะทิกับน้ำอุ่นๆจะได้น้ำมันเร็ว อย่างเมื่อวานกานดา ทำ ไม่ถึง 18 ชั่วโมง ได้น้ำมันต้กใช้ในทันทีได้เลย

ผสมลงไปแล้วต้องคนให้เข้ากันแล้วถึงปิดฝานะคะ.

ตอนนี้ทำขายแล้วค่ะ ผลการตอบรับดีมาก 

เอาวิธีการทำน้ำมันของพี่กานไปใช้ได้ประโยชน์มาก ๆ

ประสบการณ์หลังทำำน้ำมันมะพร้าว (ประมาณ 10 ครั้ง)

เรื่องการระเหยน้ำออก & การกรอง สำคัญมาก ๆ

- ถ้าระเหยน้ำออกจากน้ำมันไม่หมด ถ้าไว้นานน้ำมันจะมีกลิ่นเหม็นหืน แต่ถ้าใช้เร็วหมดเร็วจะไม่มีกลิ่น

- ถ้ากรองไม่ดี ยังมีตัวกะทิปนมาด้วย น้ำมันจะไม่ใส จะเป็นสีขุ่น จะทำให้มีกลิ่นเหมือนกัน ปกติจะกรอง 2 รอบ

  คือ รอบแรกหลังจากแยกชั้นน้ำมันแล้ว และ รอบสองคือหลังจากการระเหยน้ำออกแล้ว 

  ถึงจะนำบรรจุขวด ผลที่ได้น้ำมันจะใสมาก ๆ

- เคยทดลองทำหลายครั้ง ซื้อกะืทิทั้งหัวทั้งหางที่ร้าน บางครั้งได้น้ำมันน้อย ได้มาก และไม่ได้น้ำมันเลยก็มี

  เลยลองใช้วิธี ซื้อที่ร้านเอาแต่หัวกะทิ แล้วมาผสมน้ำอุ่น ผลที่ได้ น้ำมันออกเยอะมากอย่างที่พี่บอกจริง ๆ 

  แล้วได้น้ำมันเร็วมาก ๆ เช่นกัน


รบกวนถามค่ะ

หลังจากที่ระเหยน้ำแล้ว ที่พี่บอกว่าเอาไว้ 7 วันถึงบรรจุขวด นั่นหมายถึงเราต้องเปิดฝาเอาไว้หรือเปล่าคะ

คือปกติทำเสร็จแล้วจะไว้ในโหลแก้วปิดฝา แล้วค่อยบรรจุขวดขาย


สวัสดีค่ะคุณ Gay

ดีใจมากนะคะที่ทำขายได้แล้วและยินดีด้วยค่ะที่ผลตอบรับดี ค่ะใช่แล้วการระเหยน้ำสำคัญมากต่อการทำน้ำมันมะพร้าวออกจำหน่าย แต่ถ้าทำใช้เองเราทำบ่อยเราสามารถตักนำส่วนที่ไม่มีน้ำนั้นมาใช้เอง น้ำมันตรงนั้นคือสกัดเย็น บริสุทธิ์ 100 % อย่างแท้จริง คือไม่โดนความร้อนเลยนั่นเอง 

ตอบคำถามนะคะ ....... ต้องเปิดฝาค่ะ เพื่อให้ความชื้นที่อาจยังมีอยู่ในน้ำมันระเหยออกไปจนหมดถึงต้องรอเพื่อความแน่ใจประมาณ 7 วัน เราทำ เราวาง เราจะทราบได้ด้วยตนเองว่าความชื้นยังมีไหม พอที่จะบรรจุขวดได้หรือยัง การทำจำหน่ายเวลารับจำนวนขวดการสั่งซื้อมา ควรบอกให้ลูกค้ารอสัก 7 วัน (กรณีทำไม่ทันนะคะ) และการรอ 7 วันนั้นน้ำมันหากมีตะกอนหลงเหลืออยู่ก็จะนอนก้นน้ำมันใสแจ๋วเราก็รินเทส่วนใสนั้นลงขวด เราไม่ได้ใช้เครื่องระเหยน้ำช่วย เราต้องใจเย็นสักนิดเพื่อความมีคุณภาพที่ดี น้ำมันไม่เหม็นหลังจากลูกค้าใช้ ทำให้ลูกค้าเชื่อถือ มั่นใจว่าเราผลิตดีได้คุณภาพจริงๆ เขาก็จะซื้อตลอดไปและมีการบอกต่อ เพราะน้ำมันที่ผลิตอย่างที่สอนนั้นมีคุณภาพอยู่แล้วเพียงแต่ทำการระเหยน้ำให้ดีเท่านั้นนะคะ 

ขอบคุณมากนะคะ

เข้ามาบอกกล่าวเล่าให้ทราบ มีอะไรเข้ามาถามได้นะคะ ที่บันทึกล่าสุดของการเขียนบันทึกก็ได้ค่ะ


พี่กานดาค่ะ

พี่น่ารักมาก ๆ เลยที่แบ่งปันเรื่องน้ำมันมะพร้าว ตอนนี้ทำขายผลตอบรับดีขึ้นเรื่อย ๆ 

ผิวหน้านู๋ใสมาก ๆ รวมถึงคุณแม่ด้วย ไปไหนมีแต่คนทักว่าหน้าใสทำให้ขายน้ำมันมะพร้าวได้อีกหลายขวด

นู๋มุ่งมั่นมากเลยพี่ ขายถูกมาก ๆ อยากให้คนไทยได้ใช้ของดีของคนไทย

นู๋ทำขวดเล็ก ๆ ด้วยนะคะ ขายคนที่มีรายได้น้อย เค้าจะไปซื้อในห้างฯก้อราคาสูง

-----------------------------------------------

ขอถามอีกนิดนึงนะคะพี่

นู๋ไม่มั่นใจเรื่องฝุ่น เพราะเปิดฝาทิ้งไว้ 7 วัน เลยต้องเอามากรองอีกรอบ

ผลคือ น้ำมันมะพร้าวลดลงไปอีกเยอะมาก ๆ เพราะจับอยู่ในผ้าขาวบางค่อนข้างเยอะ นู๋ก็ไม่กล้าบีบ

กลัวกะทิที่นอนก้นจะลงไปด้วย แต่ผลที่ได้น้ำมันมะพร้าวใสสมใจเลยค่ะ

อยากถามพี่กานดาว่า พี่ใช้วิธีแบบนู๋หรือเปล่าคะ คือ ต้องกรองอีกรอบ หรือว่า พี่เปิดฝาทิ้งไว้ 7 วันแล้วไม่กรอง เอามาบรรจุขวดเลยคะ


ขอบคุณพี่กานดาอีกครั้งค่ะ

น้องเก๋ค่ะ

สวัสดีจ๊ะน้องเก๋

ดีจังค่ะหน้าใสทั้งคุณแม่และนู๋เก๋ ลูกค้าเห็นก็อยากใช้อย่างสบายใจ ทดลองใช้เกี่ยวกับสุขภพอย่างอื่นด้วยตนเองด้วยนะคะ จะได้บอกลูกค้าได้ว่าได้ผลอย่างไรใช้อย่างไรเช่น ปวดท้องผลจากการทานพริกหรือกระเพาะให้ผู้ที่เป็นลองใช้น้ำมันมะพร้าว มีอาการรู้สึกจะเจ็บคอหรือมีเสมหะหรือจามจะเป็นหวัดหรือไอ ใช้น้ำมันมะพร้าวทันที  ก็จะไม่เป็นดักโรคให้ทัน ผู้เป็นโรคกระเพาะเรื้อรังใช้น้ำมันมะพร้าวทำอาหารจะหายนะคะหรือใช้น้ำมันมะพร้าวแทนยา ทานได้บ่อยๆในขณะที่ไม่สบาย คนที่เป็นรังแค คัน ผมแตกปลาย หายดีมาก ก่อนนอนหรือหลังอาบน้ำ ทาส้นเท้า ง่ามนิ้วทั้ง 8 บ่อยๆ จะรู้สึกดีมากค่ะ  

ถ้าไม่มั่นใจเรื่องฝุ่น ก็ไว้ในตู้กับข้าวหรือหาฝาอะไรโปร่งๆครอบไว้ กรองแล้วเสียดายบนผ้า ก็ใช้กระดาษกรองหรือกระดาษทิชชู่อย่างดีเพียงแผ่นเดียวก็กรองได้ใสค่ะ เคยทำแบบน้องเก๋ทั้ง 2 แบบค่ะแบบไหนดีเราก็ใช้แบบนั้นนะคะ หรือไม่ก็กรองครั้งแรกให้ใสไว้เลยค่ะ พอบรรจุขวดก็ไม่ต้องกรองอีก เราจะมองเห็นที่นอนก้นภาชนะอยู่แล้วไม่ต้องเทลงไป ทำน้ำมันเก่งแล้วก็ชวนคุณแม่ลองทำสบู่น้ำมันมะพร้าวและครีมทาส้นเท้าน้ำมันมะพร้าว นะคะจะได้เพิ่มสินค้าขายได้อีก


พี่กานดาคะ

ตอนนี้ยอดขายน้ำมันมะพร้าวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มแรกทำ 5 โล / 10 โล /ตอนนี้ทำ 25 โลแล้วค่ะ ทำทุกอาทิตย์เลยนะคะ อยากให้ลูกค้าได้ใช้น้ำมันที่สดใหม่เสมอ

มีเรื่องรบกวนถามพี่กานดาเกี่ยวอีกแล้วจร้า?

เกี่ยวกับการระเหยน้ำ

1. ระยะเวลาที่เราระเหยน้ำปกติแล้วใช้เวลากี่นาทีคะ (นู๋ใช้เวลา 60 นาที) ใช้เวลาเยอะไปมั๊ยคะ นู๋ไม่มั่นใจกลัวน้ำระเหยออกไม่หมด พี่กานดาใช้เวลาเท่าไหร่คะ

2. ขั้นตอนการระเหย ถ้าไม่มีฟองปุด ๆ ตั้งแต่ตั้งไฟครั้งแรก นั่นหมายถึงเราตักแยกน้ำมันออกจากน้ำดีใช่มั๊ยคะ นู๋ "งง" ว่าทำไมไม่มีฟองอากาศเลย ทำให้ไม่มั่นใจว่าเราระเหยน้ำได้หมดมั๊ย

3. นู๋ใช้ทัพพีคนสักพักแล้วหยุดคน สลับกันไป 1 ช.ม. แบบนี้ถูกต้องมั๊ยคะ 


สรุปผลการระเหยน้ำ: ถ้านู๋ตักน้ำมันโดยติดน้ำเปรี้ยวมาด้วยเยอะ เวลาระเหยน้ำจะใช้เวลานานมาก มีนฟองอากาศปุด ๆ ขึ้นมาตลอดเลยค่ะ ใช้เวลา ช.ม. ครึ่ง เลยทีเดียว


ขอบพระคุณพี่กานดามาก ๆ เลยนะคะที่แนะนำสิ่งดี ๆ ให้ ครั้งที่แล้วนู๋สอบถามเรื่องกรองน้ำมันรอบที่ 2 หลังจากระเหยน้ำแล้ว นู๋ทำแบบที่พี่กานดาแนะนำ คือ กรองผ้าขาวบางแค่ชั้นเดียว ผลที่ได้คือ น้ำมันก็ยังใสเหมือนเดิมและไม่ติดผ้าขาวบางมากด้วยค่ะ

เก๋จร้าา


สวัสดีจํะน้องเก๋

ดีมากๆเลยนะคะมียอดจำหน่ายมากขึ้น ดีใจด้วยค่ะ

ตอบนะคะ

1. 60 นาทีนานพอควร นานหรือไม่นานก็อยู่ที่ปริมาณน้ำมันด้วย และน้ำกับความชิ้นที่ติดมาจากการกรอง  เราทำบ่อยๆเราจะทราบอยู่แล้วว่าตักน้ำหมักขึ้นมหรือเปล่า พอไม่มีฟองอากาศก็หยุดได้เลย หรือบางทีการตักแทบจะไม่มีน้ำพอระเหยน้ำก็จะเร็วขึ้นมากแค่ไล่ความชื้นออกไปเท่านั้น พอตั้งวางไว้อีก 7 วันก็ดีมากๆแล้วค่ะ

2. ใช้แล้วค่ะ ตักขึ้นมาโดยไม่มีน้ำขึ้นมา การระเหยน้ำก็จะเร็วขึ้นมาก มีหรือไม่มีน้ำ ต้องทำการระเหยน้ำทุกครั้งนะคะ นอกเสียจากว่าเราจะไว้ใช้เอง ตรงนี้คือน้ำมันบริสุทธิ์ที่เยี่ยมมากจ๊ะ แต่ควรใช้ให้หมดเร็ว

3. ใช้ทัพพีช่วยคนไปมาทำถูกแล้ว หากไม่มีฟองอากาศก็มั่นใจได้แล้วว่าน้ำมันไม่มีน้ำแล้ว  ไม่ต้องรอให้ถึง 1 ชั่วโมงก็ได้  ตั้งวางไว้ไล่ความชื้นเท่านั้น หรือแบ่งน้ำมันครั้งละน้อยต่อครั้งในการทำระเหยน้ำก็ได้

น้ำเปรี้ยวๆ จากครีมที่ไม่เป็นน้ำมันหรือน้ำหมักหากเราระวังไม่เขย่าหรือบี้ น้ำมันก็จะไม่เปรี้ยว อีกไม่นานจะชำนาญขึ้น เพราะการทำแต่ละครั้งเราก็จะทราบจุดผิด จุดระวัง ปัญหา ฯ แล้วนำมาพัฒนาแก้ไขได้นะคะ  การกรองถ้าหากระดาษชนิดกรองไม่ได้ ลองกระดาษม้วนชนิดอย่างดีดูนะ ที่เป็นแผ่นใหญ่ ใช้ชั้นเดียวหรือ 2 ชั้นลองทดลองดู  ก่อนทิ้งบีบน้ำมันออกก่อนนะ เป็นการช่วยผ้าขาวบางได้วิธีหนึ่ง

สอบถามเพิ่มได้เสมอนะคะ



พี่คะ 

1. กระดาษม้วนแผ่นใหญ่ ชื่อเรียกว่าอะไรเหรอคะพี่ แล้วนู๋จะไปซื้อร้านขายของจำพวกอะไรคะ 

2. พี่หมายถึงเราใช้ผ้าขาวบางวางชั้นแรก แล้ววางกระดาษม้วนลงไปชั้นบนสุด ถูกต้องมั๊ยคะ


พี่แนะนำอะไรนู๋ทำหมดเลยล่ะคะ


น้องเก๋

1. เช่นใน ท็อปซุปเปอร์มาเก็ต  หรือหาไม่ได้ก็ใช้ม้วนเล็กบางยี่ห้อได้ เรียงหลายแผ่นลองทดลองกรองดูนะหรือกระดาษในกล่องที่เป็นแผ่นสีเหลี่ยมก็ได้สะอาดและเนียนดี ลืมนึกไปว่าจากกล่องก็มีไม่ต้องแบบม้วนก็ได้ สะอาดใช้ได้

2. ใช้กระดาษอย่างเดียวจ๊ะ หรือกรองที่ละน้อยดูนะว่าน้ำมันผ่านหรือไม่

ค่ะสิ่งใกล้ตัวราคาไม่แพงและสะดวกทิ้งได้เลย  กระดาษที่กรองโดยเฉพาะต้องทราบเบอร์ขนาดเคยซื้อมาแพงด้วยแต่กรองน้ำมันไม่ผ่านหนาไป ไม่ค่อยมีขาย ถ้าน้องเก๋จะลองใช้ ก็ถามหาซื้อที่ขายพวกอุปกรณ์เคมีนะ เราลองหลายแบบดูอย่างไหนสะดวกก็ใช้สิ่งนั้นนะคะ

พี่กานดาคะ

ใช่กระดาษทิชชู่แผ่นหนา ๆ อย่างดีหรือเปล่าคะ

ขอบพระคุณพี่มาก ๆ เลยนะคะ

ทดลองใช้หลายๆยี่ห้อดู ว่าแผ่นไหนกรองได้ดี นะคะ

นู๋แวะมาทักทายและถามอีกแล้วจร้าพี่กานดา

น้ำมันแต่ละล๊อตที่สกัด สีน้ำมันบางครั้งขาวจั๊วะเลย บางครั้งสีเหลืองนวล ๆ ไม่ทราบเป็นเพราะอะไรหรือคะพี่ คือเป็นสีเหลืองตั้งแต่สกัดเสร็จใหม่ ๆ เลย แต่นั่นก็คือสีธรรมชาติไม่ได้ทำอะไรเลย คนที่ซื้อไปเค้าสงสัยว่าทำไมเป็นสีเหลือง แต่กลิ่นมะพร้าวก็ยังหอมเหมือนเดิม พี่เคยเป็นมั๊ยคะ

ขอบคุณพี่กานดามาก ๆ ค่ะ

ขอให้พี่มีแต่ความสุขตลอด ๆ เลยนะคะพี่

ถ้าเราระเหยน้ำด้วยไอน้ำ เราต้องปิดฝาไหมค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท