ไขมันทรานส์อัตรายต่อสุขภาพ เมื่อเข้าไปอยู่ในร่างกาย
ในบางประเทศ เช่น เดนมาร์ก แคนาดา สหรัฐฯบางรัฐเช่น แคลิฟอร์เนีย เป็นต้น จะออกกฏหมายห้ามขายผลิตภัณฑ์ อาหาร ที่มี ไขมันทรานส์ เพราะเป็นสิ่งอันตรายต่อชีวิต หลายอย่าง ซึ่งนอกจากมีในน้ำมัน ที่ใช้ความร้อนสูงตามที่เราทราบกันเป็นส่วนใหญ่ จริงๆแล้วยังมีในอาหารที่ใช้
เนย น้ำมันต่างๆที่เติมถูกเติมไฮโตรเจน เพิ่มเพื่อให้น้ำมันหรือเนย แข็งตัว ดั้งนั้นอาหารที่ผลิตประกอบด้วยเนย น้ำมัน การนำไปอบ ไปทอด ย่างทาน้ำมัน เนยแล้วไปปิ้งย่าง ฯ ก็มีโอกาสเป็นอาหารที่มีไขมันทรานส์ ได้ และอาหารทอดที่ใช้น้ำมันเก่าแล้วเก่าอีกจนมีเศษผงสีดำติดอาหาร ก็ยิ่งเพิ่มการเป็นมะเร็งมากขึ้น
ช่วยระวังไม่ซื้อกิน เพราะมะเร็งบางอย่างเป็นขั้นสุดท้ายแล้วถึงทราบว่าเป็นมะเร็งมันอยู่ในร่างกายนานได้โดย เจ้าของร่างกายมาทราบตอนใกล้เสียชีวิตมีมากทีเดียวเมื่อถึงเวลาที่ทราบขั้นสุดท้าย บางคนแก้ไขไม่ได้แล้ว เพราะมันอยู่เต็มไปทั่วร่างกายแล้วเพราะเราทุกคนมีเซลล์เป็นล้านๆเซลล์
หากมีสิ่งที่เป็นสาเหตุก่อให้เกิดมะเร็งแค่โรคเดียวก็รักษากันแบบกลุ้มใจ ทุกข์ใจ ฯโดยกว้างทุกคนทราบก็เศร้าใจไปด้วย อยากช่วยก็ช่วยอะไรไม่ได้มากเพราะเป็นไปแล้ว ก็เป็นกำลังใจให้กินอาหารที่ไม่ไปเพิ่มการเจริญเติมโตของมันเท่านั้นที่ทุกคนทำได้ก่อน และเป็นกำลังใจให้แก่กัน เพื่อสู้กับมันที่อยู่ในร่างกาย อย่ายอมแพ้มัน
ซึ่งเอ่ยแบบนี้เพราะได้ทราบได้รู้จักคนเป็นมะเร็งมากมายที่บางคนอยู่ได้อีกนาน บางคนทราบเดือนเดียวก็เสียชีวิต หรือบางคนช่วยกันบอกว่าให้กินต่างๆนาๆจนเลือกไม่ถูก แต่ก็เสียชีวิต บางคนให้ผ่าตัด บางคนไม่ให้ผ่าตัด ออก ฯลฯ ซึ่งทุกคนก็พยามยามช่วยให้ผู้เป็นมีชีวิตรอดไปนานๆ
ดั้งนั้นคนที่ยังไม่ทราบว่าเป็นหรือไม่ ก็ต้องใส่ใจเรื่องอาหารด้วย เพราะอาหารเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งและอีกหลายๆโรค กับร่างกาย การใส่ใจสุขภาพก่อนเป็นโรค ปัจจุบันนี้สำคัญมาก อย่าให้เป็นโรคก่อนแล้วถึงหันมาใส่ใจ ซึ่งบางครั้งอาจจะช้าช่วยไม่ทัน
อันตรายที่เกิดจากไขมันทรานส์
1. ทำให้ เอช ดี แอล (HDL)โคเลสเตอรอล ลดลง และแอล ดี แอล(LDL)โคเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น
2. ทำให้ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มขึ้นร้อยละ 20-30 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
3. มีความสัมพันธ์กับทารกแรกคลอดน้ำหนักต่ำ
4. ทำให้ระดับอินซูลินในเลือดสูงขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน
5. ลดการตอบสนองต่อ บี-เซลล์ และทำให้การแพร่พันธุ์ของที-เซลล์ ในระบบภูมิกันเพิ่มขึ้น
6. เพิ่มความผิดปกติของสเปิร์ม และทำให้การตั้งครรภ์มีปัญหา
7.ลดการตอบสนองของเม็ดเลือดแดงต่ออินซูลิน
8.ยับยั้ง การทำงานของเอนไซม์ ที่เกี่ยวข้องกับผนังเซลล์
9. ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของขนาดเซลล์ จำนวนเซลล์ ประเภทของไขมันและส่วนประกอบของกรดไขมัน ในเนื้อเยื่อไขมันเปลี่ยนแปลงไป
10. เพิ่มการเกิดอนุมูลอิสระ สาเหตุการเกิดมะเร็ง
11. เพิ่มอัตราการเป็นโรคหัวใจและโรคเบาหวานชนิด ไม่พึ่งอินซูลิน
ข้อมูลจาก คณะอุตสาหกรรมการเกษตรมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
โครงการเผยแพร่ผ่านสื่อหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
การกินผักธรรมชาติมากๆและผลไม้ที่ไม่หวานมาก กินข้าวกล้อง
อาหารที่ปลอดสารพิษ เนี้อสัตว์ที่ไม่มีไขมันติดฯลฯ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมากๆ
ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี
ความเห็น (10)
สวัสดีค่ะ
- ขอขอบคุณน้องดาที่กรุณาเขียนเพื่อเป็นความรู้แก่เด็ก ๆค่ะ
- ขอขอบคุณแทนเด็ก ๆ ด้วยนะคะ
- และขอแนะนำโรงเรียน ICU บนดอยค่ะ
http://gotoknow.org/blog/krukimgtk/333955
ขอบคุณ คุณกานดามากค่ะ เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก ซึ่งทุกคนควรใส่ใจ ก่อนจะทานอะไรควรหยุดคิดและพิจารณาให้ดีเสียก่อน
โรคมะเร็ง สาเหตุส่วนใหญ่มาจากอาหารการกิน... ครูใจดี เมื่อก่อนก็ได้ค่อยระมัดระวัง มีอะไรให้ทานก็ทาน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย...
ขออนุญาตนำบทความของคุณกานดา เผยแพร่กับเพื่อนครู และนักเรียนนักคะ
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะคุณครูคิม
ค่ะเด็กๆได้ความรู้ นำไปเสริมกับที่คุณครูสอนได้มากขึ้น เพราะการเรียนเรื่องไขมันจากอาหารบางทีไม่ได้อธิบายเรื่องไขมันทรานส์ ค่ะ ขอบคุณนะคะสมัยๆเด็กๆเราก็เรียนทุกคนได้รับการสอนว่าต้องกินอาหารให้ครบ 5หมู่ ทุกวันแต่ในแต่ละวันไม่มีใครจดไว้เลยว่าวันนี้กินไปกี่อย่างกกี่หมู่ สารอาหารครบไหม น้อยคนที่จะปฏิบัติได้ทุกวัน และถูกต้อง จริงๆแล้วต้องบอกต้องสอนให้จำให้ปฏิบัติจริง โดยเฉพาะหมู่ไขมัน กินมากกินน้อย สำคัญมากค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณครูใจดี
ยินดีค่ะและดีใจ ค่ะที่นำข้อมูลไปสอนหรือบอกเด็กๆ
และขอบคุณนะคะช่อดอกไม้งาม
สวัสดีค่ะคุณบุษรา
กุหลาบสวยงามมาก ขอบคุณมากนะคะ
ขอให้มีความสุขทุกๆวัน เช่นกันค่ะ
สุขสันต์วันแห่งความรักค่ะพี่กานดา ฝันดีนะคะ
สวัสดีค่ะคุณpoo
ขอบคุณค่ะ มีความสุข และฝันดี ทุกคืนทุกวัน เช่นกันนะคะ
อนันต์ ทิมา
ทุกวันนี้ไม่ทานน้ำมันตามร้านสะดวกซื้อเลย ตื่นเช้า oil pulling ด้วยน้ำมันมะพร้าวฯและอาบน้ำไปพร้อมกัน เสร็จบ้วนทิ้ง และทานต่อประมาณครึ่งอม ดื่มน้ำ (เพื่อสุขภาพ)..ไม่ซีเรียส ..แล้วแปรงฟันด้วยเกลือแกง..มันหายเลี่ยนดีจริง ทานอาหารส่วนมากใช้อบด้วยหม้ออบพัดลมร้อน ไม่ใช้ไมโครเวฟ ..อบพอสุกก็พอ...ผัดอาหารด้วยน้ำ...โรยข้างด้วยงาคั่วป่น ๒ ซ้อน ทุกวันไม่เป็นตะคริว (เคยกินนมสดบวกโยเกิร์ตหลังอาหารเย็น และเช้า ๒ แก้ว ผลขับรถเป็นตะคริวที่นี้วเท้า จึงมาแก้โดยทานงาดำวันละ ๒ ช้อนโต๊ะ อาการไม่เกิดขึ้น(ข้อมูลบอกว่างามีแคลเซี่ยมมากกว่านม ๖ เท่า)...อีกอย่างคือทานน้ำกลั่นย่นางวันละประมาณ ๖๐ ซีซี(คนปกติสามารถทานได้ถึง๑๕๐ ซีซี)มันมีสารเบต้า-แคโรทีน วิตามินเอสูง แทนนิน สารพวกนี้รวมทั้งน้ำมันมะพร้าวเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและปรับให้ภูมิต้านทานที่ผิดเพี้ยนกลับปกติและฟื้นฟูเซลล์ด้วย..ทานขมิ้นชัน๔แคปซูลก่อนนอน ๑ ชั่วโมง...แถมน้ำต้มเห็ดหลินจือแห้งอีก ทานแทนน้ำเลย(ทุกวันนี้เราล้อมรอบไปด้วยสารพิษ ลองขับรถขึ้นสะพานทุกแห่งใน กทม.มองไปรอบๆ จะเห็นหมอกควัน นั่นคือคาร์บอนมอนนอกไซด์ น้ำมันดิน ฝุ่นละออง แกส ฯลฯ จากรถเมล์ รถดีเซล และการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ...นั่นคืออนุมูลอิสระทั้งนั้น และยังมากินน้ำมันทรานส์เพิ่มเข้าไปอีกและพืชผักที่ฉีดยาฆ่าแมลงโดยไม่คำนึงถึงผู้บริโภค(ปกติเขาฉีกสามวันก็ขายเกินนั้นหนอนลงอีก)..บวกกับน้ำยาอาบศพอีกแรง(จึงควรลวกผักถ้าไม่ปลูกเอง)....ชาตินี้จะยอมตายเพราะมะเร็ง มีผู้ป่วยมะเร็งคนหนึ่งพูดว่าผมกินแต่ข้างกล้องอย่างเดียวก็อยู่ได้..งงจริงๆ.....บางครั้งผมก็ทานข้าวกล้องหุงผสมถั่วเขียว ถั่วแดง ดำ แล้วแต่โอกาส ...พอนะงานหน้าว่ากันใหม่ www.rugcheevit.com 081-9761377
สวัสดีค่ะ คุณอนันต์ ทิมา
กินอาหารเพื่อสุขภาพที่ถูกต้องมากๆเลยดีมากค่ะอยากให้ผู้อื่น นำไปปฏิบัติอย่างที่คุณเล่าให้ทราบกันมากๆ โรคต่างๆจะได้ไม่เกิดกับร่างกาย หรือเป็นอยู่แล้วจะได้ดีขึ้นนะคะ ค่ะข้าวกล้องกับธัญญพืชอื่นๆที่หุงไปด้วยกัน กินเปล่าๆก็อร่อยค่ะ น่าเสียดายมากๆที่มีผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยไม่ยอมกินข้าวกล้อง และใช้คำพูดที่ฟังแล้วเราไม่อยากได้ยิน คือ....กลืนไม่ลง......ทั้งๆที่บางคนกินแล้วหายจากการเป็นมะเร็งก็มี คือ ข้าวกล้องหอมนิล ขอบคุณมากๆนะคะคำบอกเล่าให้ทราบจะเป็นประโยชน์ต่อผู้แวะอ่านมากๆค่ะ
น้ำสมุนไพรค่ะ ทำดื่มนะคะ ....น้ำฟักทอง.... ชาดอกกุหลาบมอญสด......
น้ำมะตูมแห้ง ..... น้ำต้มแกนกล้วย..... น้ำชาข้าวเหนียวดำ......
น้ำใบย่านาง ..... น้ำดอกอัญชัน+ ใบเตย ....... น้ำสกัดจากมังคุดต้มสุก