<วิถี38> : จักรยานและการเดิน


จักรยาน...และการเดิน

...........................................................................

 ดิฉันเคยเขียนเกี่ยวกับการใช้ชีวิต... ช้าลง หลายครั้ง แต่จำไม่ได้ว่าเขียนบันทึกไว้ที่ไหนบ้าง...

ณ วันว่างวันหนึ่งได้มีโอกาสติดตามกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง และเพื่อนร่วมเดินทางเภสัชกรสาวสวย ไปดูจักรยาน ซึ่งเป็นจักรยานพับได้ หลากหลายรูปแบบ มีทั้งแบบคลาสสิคและแบบออกในแนว sport ซึ่งสำหรับตนเองเป็นคนที่ชอบที่จะใช้จักรยาน ค่อนข้างที่จะถูกใจจักรยาน DAHON ค้ำคอ ในแนวคลาสสิค และ Strida ในแนว sport  

DAHON... ดูเธอสง่างาม สงบ ...นิ่ง นุ่มนวล หากแต่เข้มแข็ง

 

จักรยานพับได้ ค่อนข้างที่จะสะดวกในการพกพา และติดรถไปด้วยเพราะ สามารถนำเก็บไว้ท้ายรถเก๋งได้ ไม่เปลืองพื้นที่เท่าไรนัก กัลยาณมิตรที่ดิฉันติดรถไปด้วยนั้นท่านได้จักรยานมาหนึ่งคัน น่ารักใส่ท้ายรถได้พอดี ราคาไม่แพงมาก ท่านก็นำมาใช้ปั่นมาทำงานระหว่างที่บ้านและมาทำงานที่คณะฯ และใช้เป็นพาหนะในการไปไหนมาไหนในระยะทางที่ไม่ไกลมากในมหาวิทยาลัย

 

ดิฉันมองว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เพราะเป็นหนึ่งทางเลือกของชีวิตและที่สำคัญช่วยโลกด้วยค่ะ ในท่ามกลางกระแสแห่งความวุ่นวายและความเจริญทางด้านเทคโนโลยี กับอีกแง่งามหนึ่งของชีวิตกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่เร่งรีบ เป็นการคืนชีวิตให้กับสังคมและโลก ช่วยในการลดมลภาวะและวิกฤตการณ์โลกร้อนได้

 ยิ่งหากว่าบุคคลนั้นเป็น ครู... อาจารย์ เป็นแม่พิมพ์ที่งดงาม และเป็นผู้ให้ความสำคัญต่อ ธรรมชาติ ดิฉันมองว่านั่นได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างมหาศาล...ยิ่ง... ดิฉันนั้นมักยินดีและร่วมรณรงค์ในการคืนกลับสิ่งต่างๆ ต่อ ธรรมชาติ...และการใช้ชีวิตที่ช้าลง...แต่ทำคุณประโยชน์อย่างมหาศาลต่อ โลก ... มากกว่าการที่ไม่ลืมตาเงยหน้ามองความเป็นไปของสิ่งต่างๆ รอบด้าน 

 Strida...

ในส่วนตัวของดิฉันเอง...

หากอยู่ที่ยโสธรจะใช้การเดิน และปั่นจักรยาน...

และยิ่งตอนนี้อยู่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะเดินค่ะ เดินออกจากบ้านไปออกกำลังกาย เดินไปซื้อของ เพราะการเดินในมหาวิทยาลัยเป็นการเดินที่ค่อนข้างสะดวกและทำได้ เพราะมีทางเดินและร่มไม้ไม่ร้อน... เวลามีคนถามว่าขับรถอะไรมา ดิฉันก็ตอบไปว่า เดินมา คนถามก็มักจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไร แต่ดิฉันก็ได้แต่หัวเราะไม่ได้อธิบายอะไรมากมายนัก 

ไม่ว่าจะเป็นการเดินก็ดี การใช้จักรยานก็ดี...

ต่างทำให้เรานั้นช้าลง...ต่อการพินิจพิจารณา...ความงดงามของ ชีวิตในซอกมุมเล็กๆ... ของความคิดความรู้สึก

 

................................................................................................................

ณ วันหนึ่ง...

ดิฉันเดินออกจากบ้านแต่เช้ามืด แสงสว่างรำไร เสียงนกร้องขับขาน... เสียงไก่ขัน และเสียงเริ่มต้นของ ชีวิต อีกวัน... ดิฉันเตรียมพร้อมกับชุดกีฬาเพื่อ วิ่ง ... วิ่ง วิ่ง และวิ่งค่ะ

 

อากาศสดชื่นมาก ไม่มีรถวิ่งบนท้องถนน เป็นวันที่ดิฉันสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลมาก เป็นการวิ่งทัวร์ในมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้ วิ่งรอบและได้มีโอกาสไปทักทายเพื่อน และพี่...และกัลยาณมิตร

 ได้ทิ้งตัว..ลงบนพื้นหญ้า...สัมผัสกับหยดน้ำค้างที่พรมอยู่บนพื้นผิวหญ้า...และดิน

แหงนมองท้องฟ้า...ใสกระจ่าง... และแสงตะวันที่เพียบไปด้วย คุณค่า วิตามิน D”

นอนเป็นนานสองนาน... กับความเป็นธรรมดาของชีวิตในยามเช้า...

 บางครั้งการที่เราไม่ต้องเร่งรีบกับอะไรมากมายในชีวิตนี้

ผลย้อนกลับทำให้คุณค่าอย่างมากมายต่อความเป็น ชีวิต ของเรา...  

...........................................

 

 

หมายเลขบันทึก: 159982เขียนเมื่อ 18 มกราคม 2008 13:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม 2013 22:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

เยี่ยมยอด ลึกซึ้ง ใน ความคิด และนอกเหนือความคิด ครับ

มองโลกในแง่ดีจังเลยค่ะ ..เห็นด้วย  เราไม่เห็นจะต้องรีบเร่งในชีวิตมากมายเลยนิ บางทีรีบมากก็ลืมมองหาสิ่งสวยงามข้างทาง.. ถึงปลายทางเร็วไป อาจเสียดายก็ได้ ..

  • แวะมาเยี่ยมคนชอบออกกำลังกายครับ
  • แนะนำอ่านเรื่องของคนชอบวิ่ง  อิอิ
  • โทษครับอาจารย์เปลี่ยนรูปแล้วจำไม่ได้  อิอิ
เห็นด้วยอย่างยิ่ง..... กับบทความ ด้วยการชีวิตอย่างรีบเร่ง  เปรียบเทียบกับคนที่รีบเร่งต้องเดินขึ้นภูเขาให้ได้.....เป็นผลสำเร็จ.... นั้นคือ....เป้าหมาย..ของเขา แต่กับอีกคนหนึ่งค่อยเดินขึ้นไป ตลอดทางก็แวะพัก ทักทายกับธรรมชาติรอบตัว เขาก็ถึงที่หมาย เหมือนกัน แต่อาจจะ..ช้า....ไปหน่อย... แต่ .....เขามีความสุขตลอดระยะทางที่เขาเดินทาง  ขออนุญาต ขอบคุณอาจารย์รำพัด โกฏแก้ว มา  ณ  ที่นี้ด้วยค่ะ

พี่แก้วอยู่ มข มานานมาก แต่ไม่ค่อยได้เดิน ไม่ค่อยได้วิ่ง

ตอนนี้ออกมาอยู่นอก มข แล้ว ได้แต่ขี่จักรยานไปซื้อกับข้าวหน้าหมู่บ้าน

ตอนนี้วิ่งไม่ไหว ได้แต่โยคะ หน้าบ้านค่ะ

^__^

 

อยู่ที่นี่ ได้จักรยานมาอันนึง ปั่นได้วันสองวัน เหนื่อยมาก แถวๆ นี้เป็นเนินสูงมั่กๆ จริงๆ ถ้าปั่นทุกวันคงแข็งแรง

สวัสดีค่ะน้องกะปุ๋ม

อยู่ในกรุงเทพก็แย่อย่างตรงที่ขี่จักรยานก็อันตรายมาก ถ้าอยากจะเดินหรือวิ่งที่อากาศดีๆ หน่อยก็ต้องไปสวนสาธารณะ.. แต่ก็ยังดีที่มีที่ให้ไปเดินชมสวนรับอากาศดีๆ บ้างค่ะ

เรื่องการใช้ชีวิตช้าลง พี่ก็ได้เริ่มปฏิบัติแล้ว พอเจริญสติแล้วจะเห็นเลยว่าชีิวิตมันช้าลงเอง ไม่ค่อยโดดตามสังคมหรือกระแสนิยมต่างๆแล้ว ดีมากเลยค่ะ พอมาอ่านที่น้องกะปุ๋มเขียน ก็รู้สึกว่ามีคนรู้สึกแบบเดียวกับเรา ทำให้รู้สึกดีมากค่ะ ^ ^

สวัสดีค่ะ น้องกะปุ๋ม

  • ป้าแดง ก็ชอบเดินค่ะ จักรยานก็ชอบ แต่ตอนนี้จักรยานที่มีก็แก่มากแล้ว ยังไม่มี กะตังค์ซื้อใหม่เลยค่ะ
  • จักรยานแบบน้องกะปุ๋ม เท่ห์ดี แต่คงไม่เข้ากับป้าแดง ซักเท่าไรค่ะ
  • ขอบคุณมากค่ะ อ่านบันทึกนี้แล้วมีความสุขค่ะ

แวะเข้ามาเยี่ยมอีกครั้งค่ะ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ

ได้ข้อคิดดีๆกลับไปทุกครั้ง ... ทุกวันนี้พยายามใช้ชีวิตช้าลง

อย่างที่คุณกะปุ๋มบอก รู้สึกดี ค่ะ คงเป็นอย่างที่ครูเอ บอกนะคะ

เราถึงจุดหมายช้าไปนิดหนึ่ง แต่เราได้ความสุขเพิ่มมามากมาย

ในระหว่างทางเดินนั้น .... คงยึดแนวทาง เช่นนี้ ... ต่อไปเรื่อยๆ

ดีใจจังเลยค่ะ...ที่มีแนวร่วมมากมายเข้ามาพูดคุยกันในเรื่องนี้

....

อยากจะพูดคุยอย่างละเมียดละไมไปทีละคน แต่...กะปุ๋มพิจารณาว่าอย่างนี้นั้นดีแล้ว ไม่พูดหากแต่ยิ่งเข้าใจในกันและกัน... จึงขอยกมือแทรกตัวเข้ามาพูดคุยต่อจาก P'niche แล้วกันนะคะ

จริงๆ แล้วเวลาที่มาอยู่ที่บ้านพักที่ขอนแก่น...กะปุ๋มไม่มีจักรยานแล้วค่ะ มีคันเก่าๆ คันหนึ่ง...เป็นคันที่รวมความรักค่ะ เป็นคันที่ได้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อสิบปีก่อน ที่เพื่อนที่ดีที่รักที่สุดคนหนึ่งซื้อให้ไว้ใช้ตอนเรียน ป.โทจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นนี่แหละค่ะ ...

เมื่อจักรยานคันนี้เขาแก่ตัวลง คุณแม่ก็เพียรนำไปซ่อมให้เมื่อเวลากลับบ้านที่ยโสธร... จนเมื่อสองปีก่อนนำเขากลับมาใช้ที่ขอนแก่นอีกครั้ง... ใช้ไปใช้มา...เจอรุ่นน้องที่มีความลำบากมากกว่า ... ลำบากต่อการที่ต้องพึ่งพาตัวเอง และการต่อสู้ภายในจิตใจ ในท่ามกลางความโดดเดี่ยว ที่มองไปรอบด้านไม่มีใคร กะปุ๋มก็เลยตัดสินใจยกจักรยานคันนี้ให้เธอไป และบอกกับเธอว่า "จักรยานคันนี้" จะทำให้เธอเข้มแข็งขึ้น และสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง แม้จะอยู่คนเดียวก็ตาม... แต่ขออย่างเดียวว่าขอให้เธอปั่นจักรยานคันนี้...ทุกวัน...

...

และทุกวันนี้... บ่อยครั้งที่ดิฉันได้แอบเห็นรุ่นน้องคนนี้ ปั่นจักรยานไปตามซอกซอยต่างๆ ในมหาวิทยาลัย... เพียงแค่นี้ก็รู้สึกมีความสุขแล้วค่ะ

(^_______^)

ปล. จักรยานในภาพนั้นเป็นของคนอื่นค่ะ...กะปุ๋มเพียงขอยืมปั่นเท่านั้นค่ะ...ตอนนี้เดินค่ะ...เดินมากขึ้น

มาชมชาวจักรยานด้วยกันครับผม

 

โห...วันหลังขอไปออกทริปด้วยหน่อยนะคะคุณ นายนะ

ตอนนี้ใช้คันนี้ค่ะ

14062009717_resize

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท