ลปรร. R2R ครั้งที่ 3 รพ.ป่าติ้ว


แม่พลอยได้เล่าบรรยากาศไปแล้วใน แด่เดือนแห่งความรักไหววน...เวียนในทุกอณูหนแห่ง

...

เช้าวันอังคาร เรานั่งรถจากยโสธรมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลป่าติ้ว... เป็นความรู้สึกที่ดีสองข้างทางมีต้นไม้ร่มครึ้มเป็นแนว แสงแดดอบอุ่นทาบทอ พี่แก้ว...บอกว่าไม่ต้องรีบ "ป่าติ้วใกล้แค่นี้เอง"...เป็นคำบอกเล่าที่ข้าพเจ้าบอกต่อเครือข่าย...

วันนั้นเราทักทายกันด้วยรอยยิ้มและความคุ้นเคย

ในช่วงเช้าเป็นเรื่องของการพูดคุยในเรื่องการเก็บข้อมูล เป็นการพูดคุยกันจริงๆ ที่ไม่ใช้การมาบรรยายเชิงวิชาการ ความเชื่อส่วนตัวของข้าพเจ้ามองว่า "หากเรานำความวิชาการมาบอกเล่าพูดคุยสบายๆ ได้นี่ช่างเป็นอะไรที่สุดยอดเยี่ยมเลย..."

วันนั้นเราเริ่มต้นที่เรื่องเล่าของญา เกี่ยวกับการลดการปนเปื้อนในผ้าที่ส่งซัก งานชิ้นนี้เป็นงานวิจัยที่เกิดขึ้นเป็นทีมอย่างที่เป็นธรรมชาติมาก เป็นงานของหน่วยสนับสนุนที่ชวนกันแบบง่ายๆ แบบไม่ต้องเป็นคำสั่งใดใดเลย มาพร้อมเพรียงช่วยกันทำด้วยใจ

กิ่ง...เป็นน้องใหม่ที่เข้ามาในครั้งนี้ สลับกันกับพี่ตื๋อ กิ่งได้ให้ข้อคิดเรื่องการสัมภาษณ์ที่ใช้ภาษาแบบบ้านๆ แบบไม่ต้องเป็นทางการ ซึ่งการต่อยอดของกิ่งทำให้งานของญานั้นเปิดกว้างขึ้นในเรื่องของการเก็บข้อมูล

จากนั้นก็เรื่องโมเดลการฉีดอินซูลินของหญิงและพี่ติ๋ม จำได้ว่างานนี้ครั้งก่อนเป็นประเด็นที่น่าสนใจที่ทำให้หลายๆ คนนำมาพูดคุยกันแตกยอดและต่อยอดทางความคิดอย่างมาก พี่ปีหรือเภสัชกรจำปีที่เดินทางร่วมไปกับข้าพเจ้า เสนอเรื่องแผนผังเครือญาติเพื่อนำมาใช้เป็นส่วนเสริมในโมเดลเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมในผู้ป่วยเบาหวาน...

ส่วนกิ่ง...เสนอมุมมองการพิจารณาในเรื่องการจำแนกผู้ป่วย ซึ่งกิ่งมองว่า "เราอาจเข้าใจว่าเขาฉีดอินซูลินผิดวิธี แต่จริงๆ แล้วอาจไม่ใช่อาจมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง"

และพี่นิได้เสริมต่อยอดเรื่องกรณีผู้ป่วยรายหนึ่งที่ให้หลานช่วยฉีดยา ซึ่งเมื่อวิเคราะห์จริงๆ แล้วมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวกับควบคุมน้ำตาลไม่ได้ และการฉีดอินซูลิน ซึ่งในรายนี้หากว่าหลานไม่อยู่ก็ไม่ได้ฉีดอินซูลิน ซึ่งพี่นิบอกต่อหญิงว่าน่าจะนำประเด็นนี้มาพิจารณาร่วมในการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วย

ข้าพเจ้าค่อนข้างชอบบรรยากาศ...

เป็นการช่วยกันคิดช่วยกันมองและที่สำคัญ บรรยากาศอย่างนี้หากว่าในห้องที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของวิชาการจะคร่ำเคร่งกว่านี้ แต่สำหรับวันนี้คือ ความเรียบง่ายและความเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน

สำหรับทัย...ครั้งนี้เธอมาอย่างห้าวหาญและมั่นใจอย่างมากเลย

เธอได้เสนอการลดรอบการซัก และนำไปสู่การลดต้นทุนของการซักผ้าได้ เวลาลด ราคาลด และที่สำคัญเธอมีเวลาเพิ่มมากขึ้นที่จะไปทำภาระกิจในส่วนอื่น

ส่วนอ๋อย...วันนี้อ๋อยได้หัวข้อวิจัยเพิ่ม ต่อยอดจากงานวิจัยเดิม ข้าพเจ้านั้นชอบที่อ๋อยพูดถึงเทคนิคเพิ่มเติมในการทำไม้พันสำลีที่ใช้สำหรับ pap smear ที่ว่านำเทคนิคในการใช้น้ำมาพันไม้พันสำลีแทนการใช้กาว เธอเพิ่มเทคนิคด้วยการนำไปอบแห้ง ทำให้สำลีติดแน่นมากขึ้น

จากที่งานตรวจภายใน ทนใช้ไม้พันสำลีที่ทากาว วันนี้ได้เปลี่ยนมาใช้เทคนิคตามข้อค้นพบของน้องอ๋อย - หน่วยสนับสนุน ที่สำคัญจากเดิมที่ต้องสั่งซื้อไม้พันสำลีสำหรับ pap smear ที่ผลิตจากการใช้กาว วันนี้ที่โรงพยาบาลป่าติ๋วได้นำเทคนิคของน้องอ๋อยมาใช้ และช่วยลดต้นทุนในการสั่งซื้อได้ด้วย

อีกท่านหนึ่งที่อดจะชื่นชมไม่ได้ คือ พี่คำผิว ที่วันนี้อาสาเข้ามานำเสนอความก้าวหน้าทั้งจากตนเองและงานของป้าสร้อย... มีที่ไหนที่เจ้าหน้าที่คนงานจะมานำเสนอความก้าวหน้างานวิจัยแทนพยาบาลได้ จะเห็นก็มีที่นี่แหละ...ชื่นชมอย่างยิ่งเลย

วันนี้ทั้งวันล้วนเป็นวันที่ดี บรรยากาศการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และใจที่เปี่ยมด้วยการแบ่งปันแนวคิดเชิงสร้างสรรค์เพื่อต่อยอดงานวิจัยของกันและกัน

ดีใจ ดีใจ... ที่ได้มาร่วมกระบวนการ R2R ที่ป่าติ้ว... ที่สำคัญได้เจอพี่ศรีด้วย

 

๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓

 

หมายเลขบันทึก: 337904เขียนเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2010 22:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม 2013 06:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ตามมาดูค่ะ

มาให้กำลังใจ รพ ป่าติ้วนะคะ

สวัสดีครับ

มาเยี่ยม มาเรียนรู้ ดีใจการการที่มีทีมงานช่างคิด สุขใดไหนจะเท่า เราช่วยกัน ชื่นชม ครับ

คือว่าหลายคนที่ตกหลุมรักอาจารย์กะปุ๋มไปซะแล้ว

วันนี้คนทัพหลัง อย่างคนจ่ายกลาง ขึ้นไปตรวจที่ OPD ด้วยอยากจะเล่าความรู้สึกถึง พลังของคนทัพหน้า ได้เห็นพลังอย่างหนึ่งที่แฝงออกมาของทีมพนักงานเปลที่ได้ร่วมกันปรับบริการ เพื่อความปลอดภัย และความสุขใจของผู้รับบริการขณะรอตรวจ  ด้วยเข้าใจพื้นฐานที่ว่าธรรมชาติของผู้ป่วยและญาติไม่ควรจับแยกให้จากกัน  ด้วยแววตาที่ฉายแววแห่งมิตรภาพ แบบมีชีวิตชีวา   พลังนี้อาจเกิดจากคำพูดที่ใครบางคนที่ได้พร่ำบอก ( Empowerment )กับพวกเค๊า และเป็นคนเดียวกันที่พวกเราชาวป่าติ้วที่ได้ตกหลุมรักไปแล้วอย่างไม่รู้ตัว  และพวกเราจะขอใช้พลังนี้สร้างสรรค์งานต่อไปค่ะ

   วันนี้น้องอ๋อยยังบอกว่า น้องทัย เกิดเอ๊ะ !!  ขึ้นในใจ ว่าทำไมเช้านี้มีแต่คนมีความสุข เจอใครก็หัวเราะกันทั้งนั้น เลย.......คงใช่นะกับความสุขเล็กๆที่พวกเรา ต้องร่วมกันสร้างให้คงอยู่ และขอฝากความสุขที่ยิ่งใหญ่นี้ไปถึงคนที่พวกเราหลงรักด้วย......   

   น้องอ๋อยอ่านบันทึกนี้ แล้วยิ้มใหญ่เลย และฝากขอบคุณ อาจารย์อีกครั้ง ที่ได้กรุณาชี้แนะ

  ✿อุ้มบุญ✿

วันพุธที่ ๒๔ ก.พ ขออนุญาต เป็นลูกศิษย์ ด้วยคนนะท่าน หนังสือเชิญ กำลัง รอลงนามครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท