พ่อรักแม่ตั้งแต่ตอนไหน?
(พ่อธรรมดาๆ ของฉัน)
พ่อ แม่มักจะสลับกันเล่าให้พวกเราฟังเสมอในวัยเด็ก
“แม่ทำงาน เก่ง รวดเร็ว อ่อนหวาน” พ่อบอกอย่างนั้น แค่ความอ่อนหวานประโยคสุดท้าย พวกเราก็ได้ไม่ถึงครึ่งของแม่ ย้อนภาพชีวิตวัยรุ่นของผู้ใหญ่วัย 70-80 ปัจจุบัน อยากเห็นภาพชัดเจนต้องนวนิยายเรื่อง “ปริศนา” ของท่านชายพจน์ นั่นใกล้เคียงในบางส่วนของชีวิตคนคู่นี้
เมื่อเล็กๆ พ่อมักจัดถาดสไลด์คู่ใจ เรียงลำดับเหตุการณ์ที่อยากเล่าให้พวกเราฟัง คืนละ สองถาดสามถาด จากภาพขาวดำแสนคลาสิก จนมีสีสันแปลกๆ แต่ก็ให้อารมณ์ต่อเนื่อง ไม่แสบสัน เหมือนปัจจุบัน ภาพผู้หญิงนุ่งกระโปรงบานเพราะถูกบังคับด้วยเส้นลวดดัดเป็นโครงอ่อนๆ ซ่อนข้างใน ที่เราแอบเรียกสุ่มไก่แล้วขอยืมแม่ไปใช้ใส่เล่นละครที่โรงเรียนบ่อยๆ ทรงผมที่ดัดลอน กับการตกแต่งภาพถ่ายสมัยนั้น ทั้งแก้ม ตา คิ้ว โดยรวมแล้วหน้าตาผู้หญิงยุคแม่ก็เหมือนกันไปหมด แต่ภาพเก่า ๆ จากแผ่นสไลด์และโปสการ์ดก็ทำให้เรารู้สึกซึมซับภาพและบรรยากาศยุคก่อนโน้น จนบางทีนึกว่าตัวเองเป็นปริศนาบ้าง เจ้าสาวของอานนท์บ้าง
(ครอบครัวธรรมดาๆ)
“ แม่” เป็นเพียงผู้หญิง ธรรมดาที่โชคดีได้แต่งป็นภริยาพ่อ ทำงานด้วย เป็นแม่ศรีเรือนด้วย ไม่มีบกพร่องตอนไหน ยกเว้นเรื่องขับรถยนต์ แต่เราไม่โทษแม่หรอกเพราะแม่ขี่จักรยานไม่เป็น และโชคดีที่แม่ขับรถยนต์ไม่เป็น แม่จึงกล้านั่งรถยนต์ที่ลูกแต่ละคนเพิ่งจะเริ่มหัดขับเป็นใหม่ ๆ มีแม่คนเดียวที่จะบอกว่า เลี้ยวเลยๆ ตอนที่เราจอดรถรอที่จะเลี้ยวขวาเข้าซอยบ้านที่ไม่มีสัญญานไฟ
บ้าน เรารับประทานอาหารสามมื้อ แถมอาหารว่างเช้าและบ่าย ทุกมื้ออาหารจานหลักต้องมีขนมหวานๆ ปิดท้าย แม่บอกว่าพ่อติดนิสัยกินหลายมื้อมาตั้งแต่เด็กๆ ชีวิตในเวลาต่อมาจึงยังคงปฏิบัติไป ถ้าเป็นยุคเศรษฐกิจแบบพอเพียงนี้ เราคงจะลดอาการคิดถึงแม่ลงไปหลายช่วงเวลา เพราะมื้ออาหารน้อยลง...เมื่อเด็ก ๆ คิดถึงแม่มากแค่ไหน ปัจจุบันไม่ได้ลดน้อยลงไป แต่รู้สึกเสียใจที่ทำหน้าที่ลูกกันได้ไม่ดีพอเท่าที่แม่ทำให้...
(ยังมีต่อรีบส่ง งาน...เพราะกลัวมีใครมานอนรอ หลับรอ)
อ่านต่อ...ได้สักครึ่ง...หนึ่งของ แม่คงดี(1)
สวัสดีเจ้าค่ะ คุณครูดาวลูกไก่ คนสวย คิคิ
น้องจิแวะมาเยี่ยมคุณครูคนเก่ง....รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ น้องจิจะคอยติดตามอ่านบันทึกของคุณครูเจ้าค่ะ คิคิ
เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ----> น้องจิ ^_^
อือม์น้องจิ เป็นตัวแทนสิงห์ปืนไวด้วยเหมือนกันนะคะ
พี่โดนเคี่ยว...เข็ญจากน้าอึ่งอ๊อบและพี่เนปาลีนั่นล่ะค่ะ บอกว่าจะมานอนรอ หลับรอก็แล้ว สงสัยจะว่าเราไม่จริง...^^
ขอบคุณครับที่นำเรื่องนี้มาเล่า
อ่านแล้วคิดถึงแม่เลย
ขอบคุณค่ะอาจารย์ขจิต หายไปไหนเกือบครบ 48 ชั่วโมงแล้วนะคะ ชาว G2K ตกใจ ต่อไปต้องทิ้งร่องรอยไว้แล้วค่ะ เห็นมีลูกศิษย์บ่นจะส่งการบ้าน บางคนก็รอไปฟังเฉลยตั้งหลายบันทึก (หรือเป็นกลลวง ไม่เคยจะเฉลยคะ)
อ่านแล้วทำให้คิดถึง"แม่"จังเลย..ดีครับคุณ..ดาวลูกไก่ผมเอวก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะครับ ขอให้มีความสุขน่ะครับ.......*-*
ขอบคุณในกำลังใจค่ะจากคุณ THEONE ค่ะ
เหมือนเป็นความรู้สึกบกพร่องในความรักของตัวเองที่มีเพื่อแทนพระคุณแม่ได้ ไม่มากเท่าที่แม่ให้ค่ะ จำและช้ำใจเสมอ คำที่ว่า "แม่เลี้ยงลูกกี่คน กี่คน ได้ แต่ทำไมลูกหลายคนเลี้ยงแม่คนเดียวได้ ไม่เท่า..."
อั้นแน่ะๆ ได้ยินนะ ใครนินทา ^^ ก็บอกว่าจะนอนรอ-หลับรอ ก็เลยเผลอหลับตาไปจริงๆ (เจ้านายไม่อยู่นี่) เลยพลาดมาเป็นคนแซวอันดับที่ 1
คุณแม่ของคุณพี่คนนี้..จากเรื่องเล่าแล้วเป็นแม่ศีรีเรือนจริงๆ ด้วย ให้เป็น "ปริศนา" ของท่านชายพจน์เลย ส่วนคุณลูกน่ะเป็นเจ้าสาวของอานนท์หรือเปล่า?
วันนี้ในเมล์ของต้อมกับพี่สาวคนสวยก็คุยเรื่อง "แม่" ค่ะ บังเอิญจริงๆ ^^
แฮ่ะๆ พิมพ์คำว่า "แม่ศรีเรือน" ผิด..
เนปาลี จ๊ะ ตื่นๆๆ แล้วยัง?
ตื่นตั้งนานแล้ว....ตั้งตี 4 แน่ะ ลุกขึ้นมาอ่านต้นฉบับครั้งแล้วครั้งเล่า ขีดๆ ฆ่าๆ ทิ้ง ไปตั้งเยอะ แต่ก็ยังเหลือที่ต้องหั่นทิ้งอีกบานเบอะ สงสัยก่อนสงกรานต์นี้ไม่ทันเสียแล้ว โดนคนบ่นแน่ๆ ฮือๆ
ตามไปอ่านแล้วค่ะ..อมยิ้มมาแล้วด้วย ^^
อ่านแล้วคิดถึงแม่ จะรีบอ่านตอนต่อไปก่อนนะลูกใกลเลิกเรียนแล้ว
คิดถึงแม่ ขึ้นมา น้ำตามันก็ไหล อยากกลับไปซบลงที่ตรงตักแม่...
ความเห็นคุณวัชรา ทำให้คิดถึงเพลงแม่ กับเรื่องที่คุยกับลูกสาวค่ะ
เพลงแม่มีอิทธิพลมากขนาดเมื่อลูกสาวของเราเป็นเด็กวัย 7-8 ขวบ ครูร้องเพลงนี้แล้วคงสอดแทรกเรื่องเล่าที่เร้าใจ "แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง.." เธออินมาก จะน้ำตาไหลทุกครั้ง เวลานี้ก็ยังเป็นอยู่..เด็กซึมซับเรื่องดีๆ ได้เร็ว..ค่ะ
ถึงแม้ว่าผมจะอยู่ไกลแม่ แต่ผมก็ได้ติดต่อกับแม่เกือบทุกวัน
ตั้งแต่เล็กจนโตผมไม่เคยทำให้แม่เสียใจและผิดหวัง ผมไม่ชอบฟังเพลงแม่ ไม่ว่าเพลงไหนต่อหน้าคนอื่น เพราะว่าเจ้าน้ำตามันชอบไหลออกมาผิดเวลา
ชอบแอบฟังคนเดียวปล่อยให้เจ้าน้ำตามันไหลออกมาเต็มที่
คิดถึงแม่ที่สุดในโลกครับ !!!
คุณวัชราทำให้เราคิดถึงแม่เวลาเรามีปัญหาเรียนร้องเพลงไทยเดิมค่ะ
สมัยเรียนมัธยม คุณครูเจ้าป้า (เป็นเจ้าจริงๆ ของเชียงใหม่นะ) จะมีไม้เรียวยาว ๆ คอยตีโต๊ะ (555 รอดตัว) แต่ก็สยอง เจ้าป้าจะดุมาก ท่านจะให้นักเรียน ร้องเพลง เอ่อ เออ เอ๊อ เอ๊อ...เอ๊อ เออ ๆๆๆ อีกสัปดาห์สอบตัวต่อตัว..ตายละวา มีแม่เท่านั้นช่วยได้ รอดตัวไปค่ะ ได้ครูสอนพิเศษร้องเพลงไทยเดิม เสียงอ่อนหวานจับใจ แต่ อิอิ ลูกร้องเสียงยังหลงทางอยู่ค่ะ แต่ยังดีได้ สอบได้เกรดเอ...เพราะใคร ถ้าไม่ใช่แม่เรา ^^
แม่ศรีเรือน ยังคงได้ใจชายไทยเสมอ อิ อิ :)
ขอบคุณครับ พี่หม่อม
นั่นแน่...อาจารย์ Wasawat Deemarn ต้องมีแม่ศรีเรือนมัดใจอยู่ด้วยแล้วแน่ๆ เลย สวัสดีวันหยุดยาวที่สุดในชีวิต ที่ไม่ต้องยื่นใบลาประสาลูกจ้างประชาชนนะคะ
แน๊ะ...มาอีกรายแล้ว สงสัยว่าจะเป็นทีเด็ดเคล็ดลับได้แน่ ๆ เลยนะคะ เดี๋ยวจะลองหัดเขียนจากหลังไปหน้า...
จะได้ดอกไม้หรือได้ขัน ถัง กะละมัง... (เข้ากั๊นเข้ากันกับเทศกาลสงกรานต์ ฮ่าๆ)
แบบตีลังกานี้ น่าจะเป็นแบบหลังนะคะ ^^
...จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไปนะคะ แม่ยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้เลยค่ะ...(ไม่กล้าให้อ่าน กลัวแม่งอแงค่ะ)...
คุณแม่ดิฉันปกติอยู่เชียงใหม่ แต่ช่วงนี้มาธุระที่เมืองกาญจน์เสร็จแล้วก็เลยพักอยู่กับดิฉันที่อยุธยาค่ะ เดี๋ยวหลังสงกรานต์จะพาไปส่งบ้านหลานที่กรุงเทพ นานๆจะได้มีโอกาสปรนนิบัติคุณแม่ค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณ naree suwan อยู่กับเขาอย่างคุ้นเคยดีที่สุดค่ะ แต่บางทีก็ทรมานนะคะ คิดๆ แล้วยังขนลุกไม่หายเวลาที่มองเจ้าพวกนี้มันเกาะอยู่...เหมือนมันกำลังซนๆ แน่ะค่ะ...