ขอบคุณหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2551 หน้า 19 ค่ะ
คอลัมน์ "วิถีชีวิต" เชาวรี ชุ่มขำ รายงาน จเร รัตนราตรี ถ่ายภาพ ค่ะ
อ่านบทความเรื่อง'ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ' กับ 'คำทำนายระทึกขวัญ !!'
ผ่านหนังสือพิมพ์ออนไลน์ที่นี่นะคะ (click ค่ะ)
ขอบคุณ ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ ด้วยค่ะ
สนใจเรื่องนี้ เพราะว่ากลัวไงคะ
^^ทำไงดี เดี๋ยวเดือนหน้าไปอยู่ติดทะเลประเทศไทยตั้งหลายวัน ^^
(หมายเหตุ ดาวลูกไก่ คุณย่าของสาวน้อยขอให้ถ่ายเอกสารไว้เพราะอยากติดตามสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วงลูกหลานค่ะ เลยสแกนเก็บ แต่คิดไปคิดมา มีบันทึกเรื่องนี้ไว้ เพื่อประโยชน์ในการอ้างอิงต่อไปได้ในอนาคตนะคะ)
สวัสดีครับ
สมัยนี้เราติดตามข่าวสารได้รวดเร็ว และสะดวก การจัดเก็บ ค้นหา ก็ง่ายกว่าเดิม
..
ถ้าตรวจสอบย้อนหลังไป จะพบว่ามีคำทำนายน้อยมากที่ตรงกับความจริง คำทำนายหลายอย่างก็ต้องอาศัยการตีความ (ซึ่งตีความได้หลายอย่างอีก) เพราะทำนายไว้กว้างๆ คำทำนายบางอย่างอาศัยข้อมูลปัจจุบันมาประกอบ กลายเป็นการวิเคราะห์ข้อมูล มากกว่าการทำนายแบบเดิมๆ
..
แต่ก็น่าสนใจ น่าติดตามทั้งนั้นนะครับ
สวัสดีค่ะ อ. ธ.วั ช ชั ย
พี่ดาวลูกไก่คะ
อ่านแล้วก็ต้อง...วิเคราะห์ใช่ไหมคะ น้องว่า..เราไม่ควรประมาท แต่ก็ต้องไม่กลัวมากจนเกินไป...กับการทำนาย
ที่ผ่านมาก็ดังที่อาจารย์ธ.วัชชัยกล่าวไว้...คำทำนายบางอย่างอาศัยข้อมูลปัจจุบันมาประกอบ กลายเป็นการวิเคราะห์ข้อมูล
ข้อมูลก็คือข้อมูลค่ะ น้องเชื่อว่า...ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากการกระทำของมนุษย์ค่ะ...
พี่สบายดีนะคะ..^_^...
น้อง คนไม่มีราก ค่ะ
สวัสดีค่ะพี่หมอ หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
สวัสดีค่ะอา (จารย์)จ๊ะ
อ.ธวัชชัยค่ะ
คุณnaree suwan ค่ะ
อ. ธ.วั ช ชั ย
+ สวัสดีค่ะท่านพี่ & ท่านป้าดาว...
+ ห่างกายไปหลายวันค่ะ...ภารกิจของการเป็นหัวหน้างานวิชาการค่ะ
+ อ่านแล้วค่ะ....ชอบคำบอกกล่าวนี้ค่ะ
" เพื่อให้เกิดสติ ตระหนักรู้ ไม่ประมาทกับชีวิต พร้อมทั้งเตือนหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เตรียมรับมือปัญหา เพื่อจะได้แก้ไขทัน คนเราวันหนึ่งต้องตาย เมื่อมีชีวิตอยู่อย่าหายใจทิ้งไปวัน ๆ เร่งสร้างกุศลบารมี และความดี สิ่งนี้เท่านั้นที่จะติดตัวเราไปได้"
+ ประทับใจ เพราะพวกเราชาว G2K ไม่มีใครที่ หายใจทิ้งไปวัน ๆ
+ ป้าดาวขา...พ่อสัมและแอมแปร์แย่งกันใหญ่เลยค่ะว่าหมูตัวไหนเป็นของตัวเอง.....
+ อ๋อยกำลังทำหนังสือเล่มเล็กค่ะ...เป็นหนังสือนิทาน เรื่อง " มะแอและป่าโกงกาง "
+ เหนื่อยกับการวาดภาพประกอบค่ะ.....
+ คิดถึงมากมายค่ะ
ครอบครัวน้องแอมแปร์ ค่ะ
ขอยืม บุญรักษา ของอาจารย์วสวัตดีมารมาใช้หน่อยนะคะ(เจ้าตัวหายเงียบเลย ช่วงนี้ ^^)
+ มาอีกรอบค่ะ.....
+ รู้สึกดีจังเลยค่ะ...ที่แอมแปร์มีเพื่อน โคลิค แล้ว
+ อ๋อยโชคดีตรงที่..อ่านเรื่องราวมาก่อนแล้ว...ทำให้เตีรยมใจไว้
+ แล้วก็ลุ้นว่าเราจะโชคดีไหม...กับการเป็นโคลิคของลูก....
+ สิ่งที่ลุ้นก็ได้รับมาเต็ม ๆ ดีที่แอมแปร์เป็นไม่นาน..20 วัน ที่สุด ๆ เลยค่ะ
+ เด็กบางคนเป็นนานมาก เป็นเดือนสองเดือนเลยค่ะ
+ อ๋อยก็พาแอมแปร์ไปผูกหัวไพลที่ข้อมือและที่คอค่ะ...
+ พาไปเพื่อความสบายใจ....แต่ถ้าตามตำราเขาว่าเด็กยังมีบางสิ่งบางอย่างในร่างกายที่ต้องปรับให้สมดุลย์
+ คิดถึงมากมายค่ะ
น้องอ๋อยแม่น้องแอมแปร์คะ
สวัสดีครับ พี่ดาว
ผมได้ตามเข้าไปอ่านแล้วนะครับ กำลังเรียบเรียงความคิดอยู่ว่ามีข้อคิดเห็นอย่างไร
พอดีเคยเก็บข้อมูลคำทำนายของนักพยากรณ์คนนี้เอาไว้เหมือนกัน ก็เลยนำไปบันทึกเอาไว้ก่อน (เพื่อใช้ในการอ้างอิง)
บันทึกนี้ต่อไปนี้ครับ :
Safety First - 016 : ข้อมูลอ้างอิง กรณีคำทำนายของ ดร.กัญจีรา
ส่วนข้อคิดเห็นนี่ ขอเวลาสักหน่อยนะครับ พอดีวันพรุ่งนี้ (จันทร์ 14 ก.ค. 2551) ผมต้องออกไปประชุมที่ สสวท. ทั้งวันเลยครับ
ปล. เรื่อง Six Degree of Separation นี่ เดี๋ยวผมจะ e-mail ไปคุยด้วยครับ
สวัสดีค่ะพี่ชิว บัญชา ธนบุญสมบัติ
วันนี้คุณบริโภคข่าวจากหนังสือพิมพ์แล้วยังคะ? ยังจ๊ะ ยัง แต่ข่าวนอสตราดามุสหญิงเมืองไทยกับคำทำนายระทึกที่พี่จ๊ะนำเสนอในบันทึกน่าสนใจดีแท้
ไม่ใช่ "เชื่อ" หรือ "ไม่เชื่อ" หากแต่คิด(เอาเอง)ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมล้วนแต่เป็นไปตามกฏแห่งกรรม เพราะฉะนั้นที่ยังอยู่ก็ให้ทำแต่ความดี ตลอดจนจงมีสติและตั้งอยู่บนความไม่ประมาท
สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ ก็คือ ตัวเองอยากได้เจโตปริยญาน เพื่อที่จะอยากรู้ถึงจิตใจ-ความคิดของคนอื่น ทั้งนี้เพราะอยากจะช่วยให้พวกเขาเหล่านั้นสบายใจได้ อุ๊บ!.. คุยต่อเดี๋ยวมียาว ไปดีกว่า
ธุค่า....
คุณ
สวัสดีค่ะพี่ดาวลูกไก่
แวะมาเยี่ยมเยียนพี่สาวค่ะ เป้นยังไงบ้างค่ะสบายดีไหมเอ่ย
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ขอบคุณค่ะ...
ขอทายไป 200 ปี ข้างหน้าเลย...เพราะ คนยุคนีคงไม่ทันได้พิสูจน์ หากแม่น ลูกหลานจะได้ อานิสงค์ไปด้วย..
...ติดตามด้วยใจระทึกค่ะ เหมือนการเฝ้าติดตามข่าวคราวของสาวน้อยคนนี้...
อิๆๆ
น้อง กล้วยแขก ค่ะ
คุณ คนโรงงาน ค่ะ
คุณครูพี่ Gutjang ค่ะ
อย่างไรเสียแล้วในชีวิตคนเราส่วนใหญ่ก็มักแสวงหาความตื่นเต้น และที่สำคัญหากเป็นเรื่องความเสื่อมเสียของผู้อื่นมักเป็นเรื่องที่สนุกคิดสนุกปาก การบริโภคข่าวสารเห็นว่า ณ ปัจจุบันนี้เป็นปัจจัยที่5 ที่มีความสำคัญต่อชีวิตไปแล้ว อย่างน้อยๆ ข่าวบางเรื่องบางคราวก็สามารถสร้างเสียหัวเราะได้ ก็ข่างลุงมักไงครับ ชิมไป จะแก รธณ.ไป ด่าหนังสือพิมพ์ให้ฟังทุกวันเลย 5555555
สวัสดีครับ พี่ดาว
หลังจากเก็บงานที่ต้องทำเสร็จ ก็มีเวลามาครุ่นคิดเกี่ยวกับคำถามที่พี่เคยถามไว้ว่า มีข้อคิดเห็นเกี่ยวกับ "คำทำนาย" นี้อย่างไร
ตามไปอ่านได้ที่นี่ครับ ^__^
ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับ "คำทำนาย" พิบัติภัย
สวัสดีค่ะคุณพัฒนศักดิ์
สวัสดีค่ะ(น้อง)พี่ชิวบัญชา ธนบุญสมบัติ
+ สวัสดีค่ะท่านพี่&ป้าดาว...
+ หอบความคิดถึงมาฝากค่ะ....
+ อ้าวท่านพี่รับด้วย....
+ เป็นอย่างไรบ้างกับงานหลวงและงานราษฎร์...
+ คิดถึงจึงมาหา....มาเพื่อถามว่าเป้นเช่นไรบ้างค่ะ
ขอบคุณท่าน ผอ. นายประจักษ์ ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณแม่อ๋อย คุณพ่อสัม และน้อง แอมแปร์
สวัสดีครับ พี่ดาว
ใช่ภาพวงๆ เป็นแสงสีขาวๆ เทาๆ แบบนี้หรือเปล่าครับ
ถ้าใช่...วงแสงแบบนี้เรียกว่า ออร์บ (orb) ครับ เคยเป็นข่าวฮือฮาเมื่อปีก่อนในนาม "วงแสงจตุคาม"
เรื่องนี้ทำให้ผมต้องเขียนข่าวลง นสพ. นิตยสาร & ไปออก iTV (ก่อนเปลี่ยนเป็น Thai-PBS) ด้วยครับ
ดูคำอธิบายแบบยาวๆ ในเรื่อง ฟิสิกส์เบื้องหลัง 'ภาพวงกลมจตุคามฯ'
ส่วนคำอธิบายแบบสั้นๆ ก็คือ แสงแฟลชจากกล้องไปตกกระทบกับฝุ่น (หรือเม็ดน้ำเล็กๆ) ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศแถวๆ หน้ากล้อง แต่เนื่องจากเม็ดฝุ่นไม่อยู่ในโฟกัส ทำให้ภาพที่ได้ออกมาเป็นวงๆ ครับ
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่า กล้องจะดีหรือไม่ครับ ถ้ามีฝุ่นอยู่ห่างออกไปสัก 1-2 เมตร แล้วเปิดแฟลช (โดยเฉพาะในที่มืดๆ) ก็มักจะติดภาพพวกนี้ออกมา
การที่เกิดกับกล้องดิจิทัลเป็นเพราะระยะจะเลนส์ถึง CCD ที่ใช้รับภาพอยู่ในระยะพอเหมาะ กำลังดี
เรื่องนี้คนที่เชื่อในแนวไสยศาสตร์จะบอกว่า เป็นเพราะเทคโนโลยีดิจิทัลไฮเทคขึ้น ก็เลยจับภาพโอปาติกะได้...เป็นงั้นไป....แต่หากอธิบายอย่างนี้ ก็จะทำให้สงสัยต่อไปว่า แล้วทำไมภาพจากกล้องบางรุ่นถึงเป็น 6 เหลี่ยม?
คำตอบคงไม่ใช่โอปาติกะเป็น 6 เหลี่ยมแน่ๆ ครับ แต่เหตุผลตรงไปตรงมาก็คือ ช่องเปิด (aperture) ของกล้องบางรุ่นไม่ใช่วงกลม แต่เป็น 6 เหลี่ยมนั่นเอง
ถ้าสนใจผมมีข้อมูลเพิ่มเติมที่เคยนำลงใน นิตยสารสารคดี ครับ ยังไงตอนนี้แว่บไปอ่านบทความที่ให้ไว้ก่อนได้ครับ ^__^
ท่าน ผอ. ทนัน ภิวงศ์งาม ค่ะ
อ.พี่ชิวค่ะ
สวัสดีครับพี่ดาวฯ
ตั้งใจจะเขียนตอบตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว แต่มีธุระหลายเรื่อง ช่วงเข้าพรรษาก็เดินทางไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ที่ ตจว.
อ่านบันทึกที่พี่ดาวฯ ฟังแล้วก็น่าคิดนะครับ
พระพุทธองค์ท่านทรงสอนไว้ว่า
อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่บอกต่อๆกันมา
อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาได้ทำตามๆกันมา(ประเพณี)
อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า มันเล่าลือกันกระฉ่อนไปหมดแล้วว่าเป็นความจริง
อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า มันมีอ้างอยู่ในปิฎก(คัมภีร์,ตำรา)
อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า เป็นตรรก หรือการคำนวณ
อย่าได้เชื่อโดยการอนุมานเทียบเคียง หรือคาดคะเนเอาเอง
อย่าได้เชื่อโดยการตรึกตรองเอาตามอาการ
อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า มันเข้ากันได้กับลัทธิความเชื่อ และทฤษฎีของตน
อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า รูปร่างลักษณะน่าเชื่อถือ
อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า ผู้สอนเป็นครูเป็นอาจารย์ของเรา
ฉะนั้นจะต้องใช้สติ ปัญญาคิดพินิจพิจารณาก่อนจึงจะเชื่อ หรือสรุปได้ว่า
อย่าเชื่อในสิ่งที่ยังไม่ได้พิสูจน์ให้ประจักษ์แก่ตน
ความว่าเมื่อเรารับทราบข้อมูลใดแล้วให้ทำใจเป็นกลาง แล้วค่อยใช้สติ หาเหตุหาผล ความน่าจะเป็น ไตร่ตรอง พิสูจน์ให้ชัดแจ้ง ถ้าเราเชื่อทันทีก็เท่ากับงมงายไม่ได้คิด ถ้าเราปฏิเสธทันทีก็เท่ากับมีอคติ งมงายพอ ๆ กัน
ขอบคุณครับ
ลองค้นหาชื่อ ดร.กัญจีราดูเนื่องจากตอนนี้กำลังเป็นทีโด่งดังในโลกออนไลน์กับคำทำนายต่างๆ และพบว่าที่แท้ต้นตอของ forward mail อยู่ที่นี่เอง ดีที่ยังไม่ลบไป เป็นคำทำนายตั้งแต่ปี 2551 นี่ปี 2557 คำทำนายเรื่องน้ำท่วมก็ตรงนี่คะ น้ำท่วมกรุงเทพครั้งใหญ่ 2554 แบบที่ไม่คิดว่าจะเกิดเลย