เขียนคิ้วทาปาก ผู้รากมากดี


 เพื่อนของผู้เขียนชื่อ เล่นว่า นาย จ.   เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยอุบีราชธานน (มหาวิทยาลัยที่กำลังมีข่าวอาจารย์ทำอนาจารลูกศิษย์) ผู้เขียนดันไปแซวนาย จ. ว่า

"งัยล่ะมึง ยังไม่โดนจับอีกหรือวะ คดีที่มึงทำอนาจารนักศึกษา"

นาย จ. ตอบว่า

"มึงอย่าล้อเล่นไป กูยิ่งเศร้าอยู่เพราะภรรยาอาจารย์ท่านนั้นเขาสอนร่วมกะกู  ลูกเขาเพิ่ง ป.2 ลูกเขาจะโดนเพื่อนถามมั้ย แล้วเด็กมันจะเสียใจมั้ย เลิกพูดเถอะเรื่องมันเศร้า"

จากการสนทนากันครั้งนั้นทำให้ผู้เขียนฉุกคิด ได้ว่า ผู้เขียนได้ทำการ พิพากษา อาจารย์ที่มีข่าวกระทำลวนลามลูกศิษย์ ท่านนั้น ไปเรียบร้อยแล้ว ว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยลืมนึกถึงครอบครัวของอาจารย์ท่านนั้นว่าจะมีสภาพความรู้สึกเช่นใด เมื่อหัวหน้าครอบครัว ถูกสังคมพิพากษาว่ากระทำความผิด

ผู้เขียนนึกถึงคำคมที่ว่า  "ทำความดี 100 ครั้งมักจะไม่ค่อยมีคนสนใจที่จะจดจำ แต่หากเมื่อใดก็ตามที่เราทำผิด แม้เพียงสัก 1 ครั้ง จะไม่มีใครลืม (ทำความดีไม่มีคนจำ ทำระยำ หล่ะคนจำดี)

นาย จ. (เรียนเอกภาษาอังกฤษ) รุ่นพี่ซึ่งเป็นโยมอุปฐากท่าน .วชิรเมธี เคยจ้างวานให้นาย จ. สอนภาษาอังกฤษให้กับท่าน ว.วชิรเมธี   ต่อมานาย จ. ส่งประกวดกวีนิพนธ์ เรื่อง หมอนรองรถไฟฟ้า กับ  "Young Thai Artist Award 2004" ของ SCC  ได้รางวัลชมเชยและได้ตีพิมพ์รวมเล่มท่าน ว.วชิรเมธี  ได้กรุณาเขียน คำนิยม  ให้กับนาย จ. ด้วย  เล่าซะยาวแค่จะโยงเกี่ยวกับทฤษฎี Six Degrees of Separation

สำหรับภาพวาดด้านล่างคือผลงานที่ผ่านเข้ารอบโครงการ "Young Thai Artist Award 2004" ของ SCC ชื่อภาพ "นางโชว์ 2" โดย นายชูศักดิ์ ศรีขวัญ มหาวิทยาลัยศิลปากร

ชื่อภาพ "นางโชว์ 2" โดย นายชูศักดิ์ ศรีขัวญมหาวิทยาลัยศิลปากร

ที่มาของรูป http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/A3296450/A3296450-14.jpg 

เมื่อดูภาพ "นางโชว์ 2" ซึ่งเป็นผลงานของคุณชูศักดิ์ ศรีขวัญ ทำให้ผู้เขียนนึกถึง โคลงกระทู้ "เขียนคิ้วทาปาก ผู้รากมากดี" ที่แต่งโดย คุณ อัศนี พลจันทร (นายผี) ที่ว่า


เขียน  รูปอสุระแสร้ง                 แสยะเหยอ
คิ้ว      ขมวดตาเผลอ               สติพลั้ง
ทา      สีสอดสีเออ                    ดูเอก จริงแม่
ปาก   ก็ป้ายแดง ดั้ง-                หักหู้หัวหยอง

เขียนหน้าเขียนตาเหมือน อสูร ยิ้มแสยะ เผยอปาก
คิ้ว อสูร ขมวดเขม้น ตาเถลือกถลน (ทำเหมือนคน เผลอไผ ไร้สติ พลั้ง (Punk) พลาด)
ทาปาก แดง สอดทา ลิปสติก (Lip Stick) ดู เหมือน (นาง) เอก จริงนะแม่คุณ
นอกจากทาปากแดง แล้ว ดั้งยังแฟบหัก หัวหู ดูหยิกหยอง (ทรงผม แอฟโฟร (afuro) ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา)

ผู้      เพียรประพฤตพ้น             เพรงสมัย 
ลาก  กระโปรงยาวไป                ป่าแก้ว
มาก  หมู่มิตรมีวัย-                    หนุ่มหนุ่ม
ดี     บ่ดี บ่แคล้ว-                      คลาดเคล้าคลอคลึง

ผู้(หญิง) สมัยนี้ มีความเพียรพยาม ที่จะแต่งตัว ให้ผิดไปจากสมัยก่อน
ลาก กระโปรงยาว  (ผ่าถึงสะโพก) ไป วัด/สวนสาธารณะ
เดินไปในหมู่ ผู้ชาย ที่มีวัยหนุ่มๆ
ลืมตระหนักว่า ดีงาม หรือ ไม่ดีงาม แต่ที่แน่ๆ แต่งหน้าทาปากแบบนี้ ใส่กระโปรงแบบนี้ หากไปเดินใน วัด หรือในสวนสาธารณะ ที่เปลี่ยวๆ  ก็ต้องโดน ลงแขก แน่ๆ (บ่แคล้วคลาด (ถูก)เคล้าคลอ และคลึง)

ตาสูสูส่ายแสร้ง                         แสนกล
ค้อนกระหลับกระเหลือกจน         จวบทะเล้น
สูเอยอิ่มตาตน                           เต็มอิ่ม
สูว่างตาสูเว้น                            ค่อยค้อนคราวหลัง


(แต่งตัวโป๊) ยั่วให้คนมอง ทำชำเลืองสอดส่ายสายตาให้ผู้ชาย ดูมีเลศกล ยิ่งนัก
แสร้งทำเป็นมองค้อน กระหลับกระเหลือก เหมือนคนทะเล้น 
เธอจ๋า (แต่งตัวโป๊) ยั่วให้คนมอง จนฉันมองจนอิ่มสายตา
เธอจ๋า (แต่งตัวโป๊) ว่างเปล่า ล่อนจ้อน แบบนี้จะโทษคนมองได้อย่างไร วันหลัง แต่งตัว ดีๆ แล้วค่อยมา มองค้อนคนมอง ดีกว่า

อ่าน โคลงกระทู้ "เขียนคิ้วทาปาก ผู้รากมากดี" ที่แต่งโดย คุณ อัศนี พลจันทร (นายผี)  แล้วทำให้นึกถึง เพลงมองอะไร  ซึ่งขับร้องโดย ศรีสุดา รัชตะวรรณ ที่ว่า

มองอะไร คนอะไร  มองมองไปทำไมยิ้มมา เหม่อมองสองตา แปลกหนายังมาทำเปิ่น
ทำตะลึงมองละลาน มันรำคาญมองนานเหลือเกิน เมื่อมองฉันเมิน เก้อเขินสะเทิ้นเมินเก้อ
อย่ามองเกี้ยว อย่าจ้องแห่งเดียวนักซี เธอจ้องอย่างนี้ฉันอายเต็มที อุ้ยมองดีดีซิเธอ
เอ๊ะมองแล้วทำหลิ่ว เลิกคิ้วทำเหม่อ จ้องมองตาค้างนั่งเผลอ อ้าปากทำไมเออชะเง้อมองอะไร

ท่านผู้อ่านทราบหรือยังว่าคนมองเขามองอะไร? 

สำหรับโคลงท่อนที่ว่า "ลากกระโปรงยาวไป ป่าแก้ว" คำว่า ป่าแก้ว ในที่นี้อาจแปลว่า วัด ก็ได้ หรืออาจแปลว่า สวนสาธารณะ/พระราชอุทยาน ก็ได้ โดยเทียบกับ ตำนานศรีปราชญ์ ซึ่งรวบรวมเรียบเรียงโดย  พระยาปริยัติธรรมธาดา (แพ ตาละลักษณ์) เมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งได้ อรรถาธิบาย ถึง ป่าแก้ว เอาไว้ความว่า

เมื่อครั้งที่ สมเด็จพระนารายณ์ ทรงเสด็จประพาส  ป่าแก้ว (พระตำหนักนารายณ์ราชนิเวศน์ พระยาเดโช ถูก ลิงอุจจาระ รดศีรษะบรรดาทหารเห็นเป็นเรื่องขบขันจนมิสามารถที่จะกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ได้ สมเด็จพระนารายณ์ทรงบรรทมอยู่จึงตื่นขึ้น แล้วจึงตรัสถามบรรดาเหล่าเสนาอำมาตย์ แต่เหล่าบรรดาเหล่าเสนาอำมาตย์ ไม่มีใครกล้ากราบบังคมทูลเพราะกลัวจะไม่สบพระราชหฤทัย สมเด็จพระนารายณ์จึงเรียกมหาดเล็กมาถาม มหาดเล็กผู้นั้นทราบพระราชอัธยาศัย จึงกราบบังคมทูลด้วยคำคล้องจองว่า พะย่ะค่ะ ขอเดชะ วานระ ถ่ายอุจจาระ รดศีรษะ พระเดโช สมเด็จพระนารายณ์ ทรงพอพระทัยเป็นอย่างมาก จึงพระราชทาน ราชทินนาม ศรีปราชญ์ แก่ มหาดเล็กผู้นั้น ครั้นเมื่อ ศรีปราชญ์เดินทางกลับถึงยังพระนครศรีอยุธยา พระมหาราชเจ้าเชียงใหม่ ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในฐานะตัวประกันเชลยศึก ได้ตั้งคำถาม ถามศรีปราชญ์ในเชิงสัพยอก ไว้ความว่า


พระมหาราชเจ้าเชียงใหม่ ;  ศรีเอยพระเจ้าฮื่อ             ปางใด๋ 
ศรีปราชญ์                      ;  ปางเมื่อพระเสด็จไป         ป่าแก้ว
พระมหาราชเจ้าเชียงใหม่ ;  รังสีบ่สดใส                     สักหยาด
ศรีปราชญ์                      ;  ดำแต่นอกในแผ้ว            ผ่องเนื้อนพคุณ



พระมหาราชเจ้าเชียงใหม่ ;  ราชทินนามศรีปราชญ์นี้พระเจ้าแผ่นดินทรงฮื่อ(ทรงให้)ปางใด๋กัน 
ศรีปราชญ์                      ;  ปางเมื่อทรงเสด็จประทับ ณ ป่าแก้ว (พระตำหนักนารายณ์ราชนิเวศน์) 
พระมหาราชเจ้าเชียงใหม่ ;  ได้รับ ราชทินนามศรีปราชญ์แต่ไฉนจึงดูไม่มีสง่าราศรีสักหยาดหยด 
ศรีปราชญ์                      ;  ถึงภายนอกจะดูไม่มีสง่าราศรีเพราะตัวดำแต่ภายในผ่องแผ้วไปด้วยทองนพคุณ

(ทว่าในปัจจุบันนักวิชาการทางภาษาเชื่อว่า ศรีปราชญ์ไม่มีตัวตนจริงและไม่ได้แต่ง(โคลง) กำสรวลศรีปราชญ์  นะครับฮาๆเอิ๊กๆ)


ด้วยเหตนี้ คำว่า ป่าแก้ว ในที่นี้ จึงแปลว่า วัด ก็ได้ หรืออาจแปลว่า สวนสาธารณะ/พระราชอุทยาน หรืออาจจะแปลว่า มหาวิทยาลัย ก็ได้ โดยเทียบกับ

  • จินดามณี (แก้วสารพัดนึก)
  • จินดามณี (ชื่อแบบเรียนเล่มแรกของไทย)
  • คำว่า แก้ว โบราณใช้ประกอบคํานาม เพื่อให้มีหมายความว่า สิ่งนั้นมีค่ามาก เป็นที่รัก หรือดีเยี่ยม เช่น นางแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว  ลูกแก้ว, แก้วตาดวงใจ
  • เช่น นกแก้ว  แปลว่า นกที่ฉลาดดีเยี่ยม (พูดภาษาคนได้)

    1.
    ป่าแก้ว แปลว่า ป่าไม้อันมีค่ามาก ป่าไม้อันเป็นที่รัก ป่าไม้ที่ดีเยี่ยม (สวนสาธารณะ) ก็ได้
    2.
    ป่าแก้ว แปลว่า วัด ก็ได้เพราะ บริเวณ วัด เป็น เขตอภัยทาน  ห้ามฆ่าสัตว์ ด้วยเหตุนี้ เขตวัด จึงถือว่าเป็นเขต ป่าแก้ว
    3.ป่าแก้ว แปลว่า มหาวิทยาลัย ก็ได้ เพราะป่าไม้ มีต้นไม้ นานาพันธุ์ ฉันใด มหาวิทยาลัย ก็มี สหวิทยาการ นานาชนิดฉันนั้น  ป่าไม้มีต้นไม้ อันแผ่ขยายกิ่งก้านสาขา ฉันใด  มหาวิทยาลัย ก็มี วิชา หลาย (กิ่งก้าน) สาขาฉันนั้น ด้วยเหตุนี้ มหาวิทยาลัย จึงถือว่าเป็น ป่าแก้ว ด้วยประการฉะนี้

ตามทรรศนะของผู้เขียน เห็นว่า นายผี ย่อมเลือกใช้คำว่า ป่าแก้ว เพื่อให้แปลได้ทั้ง 3 ความหมาย นั่นคือ หมายถึง วัด และสวนสาธารณะ และมหาวิทยาลัย  แต่หากผู้อ่าน จะตีความคำว่า ป่าแก้ว ให้หมายถึงวัดแล้วล่ะก็  ก็จะได้ความ ตามบริบทของโคลง ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่า

การไปวัด นั้นก็เพื่อ ไปกระทำกิจวัตร อันมีจุดมุ่งหมายเพื่อความหลุดพุ้นจากห้วง สังสารวัฏ  ทว่าในสังคมปัจจุบัน  คนรุ่นใหม่ใช้วัดเป็นสถานที่พรอดรัก เช่นชวนกันไปเดินชมนกชมไม้ ชวนกันไปถ่ายรูป ซึ่งวัดนั้นมิใช่สถานที่พักผ่อนย่อนใจ หากแต่ วัด เป็นสถานที่ที่ ใช้กระทำ กิจวัตร อันมีจุดมุ่งหมายเพื่อความหลุดพุ้นจากห้วงสังสารวัฏ
เพื่อชี้วัดความเป็นอริยบุคคล เพื่อความวัฒนาถาวรในโลกุตรธรรมซึ่งเป็นบรมสุข  ด้วยเหตุนี้ผู้ไปวัด พึงสำรวมกาย สำรวมวาจา และสำรวมใจ จึงจะถือว่า ได้ไปถึงวัดอย่างแท้จริง หากไปวัดโดยไม่ สำรวมกาย สำรวมวาจา และสำรวมใจ ก็ย่อมถือว่าท่านไปไม่ถึงวัด



เช่นเดียวกับการไปมหาวิทยาลัย นั้นก็เพื่อ การไปศึกษาหาความรู้  มิใช่การไปเพื่อพึงหวัง ล่อเสือ ล่อตระเข้  ด้วยการแต่งหน้าทาปาก ใส่เสื้อรัดติ้ว นุ่งกระโปรงสั้นเต่อ เพราะครูบาอาจารย์นั้นย่อมมิใช่ผู้กำจัดกิเลสสังโยชน์เบื้องต่ำได้ดังเช่นพระอรหันต์  และแม้แต่พระสงฆ์องคะเจ้าผู้มีอินทรีย์สังวร เมื่อถึงคราวที่ท่านจะต้องเทศนาโปรดญาติโยม พระคุณเจ้าทั้งหลายยังต้องใช้ ตาลปัตร  กำบังหน้า เวลาเทศน์  ก็ด้วยเพราะต้องการให้ผู้ฟัง ได้ฟังแต่ธรรมจากท่านเท่านั้น มิใช่มัวแต่มองหน้าหลงรูปกายของตัวท่าน และในทางกลับกันก็เพื่อป้องกันตัวท่านเองมิให้จักษุประสาท  รับรู้ปรุงแต่ง  สุขเวทนา ทุกขเวทนา อันจะเกิดจากภาพที่ได้พบได้เห็น เบื้องหน้า นั่นเอง



หากกวีนิพนธ์ คือเครื่องสะท้อนสังคม  นายผีย่อมได้ใช้โคลงสี่สุภาพ เขียนคิ้วทาปาก ผู้รากมากดี   สะท้อนสังคมในยุคของนายผีได้อย่างสุขุมลุ่มลึก  สำหรับในยุคปัจจุบัน นักดนตรีวง Sead  (เสียด) ได้ใช้ เพลงแรดมหาลัย เป็นเครื่องสะท้อนสังคม แต่ทว่ายังขาดความสุขุมลุ่มลึก แต่ก็ทำให้เกิดข้อสะกิดใจ ว่าด้วยเรื่อง การแต่งกายได้มากโขทีเดียว (
ผลงานของนักดนตรีวง Sead  (เสียด)   มีขายตามแผงเทปดีเจสยาม น้องท่าพระจันทร์) เนื่องจากเนื้อหาในเพลงไม่เหมาะสมกับผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โปรดแดรกเมาส์ (drag mouse)  เพื่ออ่านเนื้อหาของเพลงได้ที่นี่ --->

ก็แต่งเนื้อ แต่งตัวออกไปเรียน นุ่งกระโปรงสั้น เสื้อรัดอก ออกไปเรียน ใครเห็นหลงใหล อยากลูบไล้ โคนขาจนถึงในร่มผ้าของเธอ แต่งเนื้อ แต่งตัว "แรด" กันจัง ขึ้นรถ ลงเรือ เดินนั่งจงระวัง มีคนแอบมอง มีคนจ้องมอง อยากได้เธอมาทำเมีย  ระวังกันไว้ สาว ๆ มหาลัย ไอวัวบ้าตัวใหญ่ ระวังไว้ซักหน่อย เดี๋ยวหอยเธอถูกทำร้าย แรดมหาลัย ได้โปรดฟังเอาไว้...นุ่งกระโปรงสั้นเกือบถึงโคนขา เสื้อนักศึกษาสั้นสุดโคนแขน สุดรัดตัวเธอ มองเธอหัวนม นั่นไง ! แล้วไง ! น่าเกลียดไหมเธอ ? แต่งหน้า แต่งตา หยั่งกะลิเก ใครเห็นเขามองไม่ดี๊ ของเธอไม่ดี มันไม่ดี ดูแล้วเหมือนโสเภณี !!!  มันพูดยาก พวกมันเกิดมาด้วยแรด ถึงอกถึงใจ จะพูดยังไงมันคงจะไม่ฟัง อย่าพูดมาก เดี๋ยวมันเฮงซวยนะจ๊ะ เจอดีซักวัน เจอโดนเข้าไป คบเพื่อนแรดมหาลัย แรดมหาลัย แรดมหาลั๊ย แรดมหาลัย แรดมหาลั๊ย แรดมหาลัย แรดมหาลัย...

 

นาย จ. บอกกับผู้เขียนว่า ไม่กล้าโทรไปคุยกะอาจารย์ผู้หญิงซึ่งสอนวิชาเดียวกะนาย จ. เพราะกลัวว่าท่านจะอาย (ผู้เขียนก็ไม่รู้ว่าจะแนะนำเพื่อนยังงัย) แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวอาจารย์ผู้หญิง และขอเป็นกำลังใจให้กับน้องนักศึกษาที่ตกเป็นผู้เสียหายในคดี  บทความนี้เขียนเพื่อสะท้อนว่า การแต่งกายที่ไม่เหมาะสมของนักศึกษาตามสถานศึกษาจนดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดานั้น เปรียบเสมือน การขยับของปีกผีเสื้อ ที่ก่อให้เกิดกระแสลมแผ่วเบา ซึ่งกระแสลมอันแผ่วเบานั้น  กลายสภาพเป็นพายุใหญ่ในอีกซีกโลกหนึ่งในเวลาต่อมา  (butterfly effect) การกล่าวเช่นนี้มิได้เป็นการเพ่งโทษน้องนักศึกษาผู้ตกเป็นผู้เสียหาย หากแต่เป็นการเพ่งโทษ ค่านิยมการแต่งกายของนักศึกษาทั้งระบบ ซึ่งกำลังส่งผลเสีย นั่นคือ เป็นปัจจัยส่งผลทำให้เกิดพายุแห่งกิเลสตัณหา พัดกระหน่ำทำลายล้างศีลธรรมในสังคม ให้จมหายเป็นผงคลีดิน นั่นเอง

 

...................................................................................................................................

 งานเขียนของ อาจารย์ จ. :


...................................................................................................................................

หมายเลขบันทึก: 193836เขียนเมื่อ 12 กรกฎาคม 2008 18:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (34)

สวัสดีครับ น้องกวิน

  • แวะมาอ่าน
  • เขียนคิ้ว ทาปาก
  • ผู้รากมากดี ครับ
  • สบายดีนะครับ
  • เป็นไงบ้าง
  • วันหยุด
  • มีความสุขดีไหมครับ

ขอบคุณครับคุณพี่ ครูโย่ง สบายดีครับ

 

  • มาดูผู้รากมากดีด้วยคน..คนจะงามงามน้ำใจใช่ใบหน้า...คนจะสวยสวยจรรยาใช่ตาหวาน.....ต่อเองน่ะ...
  • อืม..คนสมัยนี้ครูแอนว่าเด็กวัยรุ่นคงเลียนแบบดารา  เท่าที่เห็นดาราแต่งตัว..จะโป๊ก็ไม่เชิง..เปิดให้เห็นรูปร่างมากขึ้น..แฟชั่นการเลียนแบบมีมากขึ้น...ยิ่งใกล้ความเจริญยิ่งรับวัฒนธรรมแย่ๆมา...
  • ต้องอยู่บ้านป่าแม่ฮ่องสอนนี่ค่ะ..ไม่เห็นอะไรเลย..ใช้ชีวิตเรียบๆง่ายๆสบายใจ
  • บางคนแต่งแล้วสวยน่ามอง....แต่บางคนนี่..ยิ่งแต่งยิ่งน่ากลัว..อิอิ
  • ได้ข่าวว่า ครูแอน ใส่ผ้าถุงไปวัด เพื่อทำบุญ วันเกิด อนุโมทนาสาธุ ด้วยนะครับ :)

การจะเข้าวัด คงต้องเลือกวัดค่ะ ต้องเป็นวัดที่มีระเบียบให้คนแต่งตัวเรียบร้อยค่ะ

จินตนาการเชื่อมโยงไปไกลลึกล้ำ คนอ่านตามไม่ทัน เหมาะสมกับ ฉายา ยอดกวี G2K

  •  สวัสดีครับพี่ Sasinanda
  • เขียนคิ้วทาปากสวย จังนะครับ งามสมวัย 
  • โคลงกระทู้  เขียนคิ้วทาปาก ผู้รากมากดี นี้เป็นคำ ประชดประเทียดเสียดสี สำหรับผู้ที่แต่งตัว ไม่เหมาะสม ไปวัดนะครับ สำหรับกรณี พี่ Sasinanda  ที่แต่งตัวได้เหมาะเจาะดูดี จึงถือ เป็นกรณียกเว้นนะครับ

สวัสดีค่ะคุณกวิน

  • ใกล้วันสำคัญทางศาสนา คุณกวินเลยมีบทความเตือนใจมากมายเลยนะคะ...ชอบค่ะ
  • ครูบาอาจารย์ท่านมักสอนว่า...ไปวัด..ให้ถึงวัด...นั่นคือต้องเข้าใจและไปถึงวัดด้วยเจตนาที่จะไปทำจิตใจในสงบ รับธรรมะ ทำบุญกุศล ประกอบกุศลกรรม ไม่ใช่ทำกิริยาที่ไม่สำรวมและประกอบกิจที่ไม่สมควร
  • อ่านแล้วสาธุ อนุโมทนา ได้ปัญญาค่ะ .. เหมือนยกวัดมาไว้ที่นี่เลยค่ะ...คุณกวิน...ฮา...
  • ขอบคุณเรื่องจรรโลงใจค่ะ
  • อ้อเกือบลืม ขออนุญาตนำภาพในไฟล์อัลบั้มของคุณกวิน ที่เป็นรูปคุณฮิโรตาเกะ มาประกอบในบันทึกของคนไม่มีรากได้ไหมคะ จะได้ให้ผู้อ่านได้เห็นภาพที่สมบูรณ์มากขึ้นค่ะ

แวะมาสวัสดีวันหยุดค่ะ

มีความสุขมาก ๆ ในวันหยุดนะคะ..^_^...

 

สวัสดีคุณกวิน

ผมเองก็อยู่ในแวดวงของการเป็นครู  และได้พบเห็นตัวอย่างที่สุ่มเสี่ยง ผู้เป็นครู (ครุ = หนัก = หนักแน่น= เหนื่อยหนัก) ต้องพึงตระหนัก สำเหนียกไว้  ในออสเตรเลีย มีบทบัญญัติเกี่ยวกับจรรยาบรรณของครูที่เข้มงวดมาก และมีโทษสูงถึงขนาดต้องออกจากวิชาชีพครู ถ้าทีการละเมิดต่อความเป็น ครู

ส่วนเรื่องการแต่งหน้าทาปากของคนสมัยนี้ ผมเห็นแล้วก็อดจะตกใจไม่ได้ แม้นิสิตในวัยรุ่นแท้ ๆ ก็ยังแต่งหน้าทาปากเสียจน ผู้ใหญ่บางคนต้องได้อาย ... ทำให้บดบังความสดชื่น น่ารักตามวัยไปเสียหมดอย่างน่าเสียดาย  ผมออกจะชื่นชอบคนที่..สวยและงดงามจากภายในมากกว่า..เพราะมันยั่งยืน คงทน เพียงแต่หน้าที่ของผู้ชายที่ต้องการได้..คู่ชีวิต คนที่จะมาเป็นแม่ของลูก ต้องฉลาดที่จะมองให้ลึกถึงความงามภายใน

สวัสดีครับ

ตามคุณคนไม่มีรากและพี่คนตัดไม้มาติด ๆ

คนปัจจุบันเขามองกันก็แค่ฉาบฉวย  ไม่ค่อยมองลึก ๆ ความงดงามจากภายใน มันขุดยาก เห็นยาก สู้เร็ว ๆ  เหมือน Fast food ไม่ได้ เร็ว สวยงาม น่ากิน แต่ไม่ค่อยมีคุณค่า แถมแพงและยังต้องเป็นทาสทุนนิยมที่คุณคนไม่มีรากชอบว่าไว้อีกด้วย

จะเห็นความงามที่ซ่อนอยู่ได้น่ะ ต้องมี 2 ปัจจัยอย่างน้อยคือ

1. ต้องฉลาดเลือก รู้คิด วิเคราะห์  คุณผู้ชายสมัยนี้ท่านจะฉลาดเท่าทันล่ะหรือ? ยังสงสัย!!!!

2. ต้องใช้เวลา....ก็อีกแหละ..คนสมัยนี้ Pretend เก่งจะตายไป จ๊ะจ๋า เจี๊ยวจ๊าว เพื่อให้คนยอมรับ ไม่ได้จริงใจอะไร ตามมารยาทสังคม แค่นี้ก็ดีถมแล้ว คบกันไป ผลประโยชน์ร่วมกัน ฉันจะได้เป็นที่ยอมรับในสังคมแห่งนี้ไง...เห้อ..เหนื่อยหน่ายพวกเสแสร้งจัง

ไม่งั้นเขาจะว่า...หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คนหรือเล่า

ฝากคุณกวิน ไม่รู้ว่ามีแฟนหรือยัง...แนะนำในฐานะพี่ก็แล้วกัน อย่ามอง อย่าเลือกแฟนแค่คิดว่าเขาจะ...มาเติมเต็มความขาดหายบางส่วนของเรา...ไม่พอหรอก ต้องคนที่มีจิตใจงดงามภายใน อย่างพี่คนตัดไม้ว่าแหละค่ะ

โชคดีมีชัย..ไชโย...ขอให้เจอ..เพ็ชรแท้ ไม่ใช่ แค่...กรวดสีสวยนะจ้ะ

  • ขอบพระคุณท่าน ผอ.ประจักษ์ +คนไม่มีราก +คนต้ดไม้ +คุณหมอจิ๊กกี๊ และมิตรรักอักษรา ทุกๆท่านนะครับ
  • ขอเขียนเพิ่มเติมบทความอีกนิดและสรุปจบสุดท้าย ซึ่งยังไม่ได้เขียนไว้นะครับ

เย้เขียน จบแล้ว.........มีตรงหนัยต้องแก้ อีกหนอ...

คุณกวินคะ

  • ตามมาอ่านค่ะ...เพลงแรดมหา'ลัย นี่ ... ไม่รู้จะว่าไงดี
  • อ่านแล้วขำ ๆ ค่ะ  หายง่วงเลย
  • มาขอบคุณสำหรับปกหนังสือ ไม่ครบห้า ที่คุณกวิน search มาแล้วให้ยืมไปใส่ในบันทึกค่ะ

                       (^__^)     

สวัสดีครับ คนไม่มีราก  เห็นว่า คนไม่มีราก ง่วง น่ะครับเลยหาเพลง คึกคักๆ มาให้ฟัง ขอบคุณครับมาไวจังฮู้ๆ

สวัสดีค่ะคุณกวิน

  • แวะมาเยี่ยมค่ะ
  • สมกับเป็นยอดกวี G2K จริง ๆ 
  • ดื่มด่ำกับบทกวี ...ซะ
  • และได้คติเตือนใจที่ดี
  • แน่นอนค่ะ  ทำความดีไม่มีคนจำ ทำระยำ หล่ะคนจำดี
  • ก็อย่าทำนะ..(บอกตัวเอง)
  • ขอบคุณค่ะ
  • สวัสดีคับพี่หมวย  สีตะวัน 
  • เอิ่ม ครับผม
  • ไม่ทำ (เพราะไม่มีโอกาส) ครับ เอ้ย ไม่ทำเพราะพยามเตือนตัวเองอยู่เสมอๆ ครับ ขอบคุณครับ

สวัสดีเจ้าค่ะ พี่กวินจ๋า

น้องจิมารับความรู้ คิคิ คิดถึงจัง สบายดีไหมเจ้าค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ --->น้องจิ ^_^

สวัสดีค่ะ

* ดีใจจังมีคนคิดถึง

* ต้องรีบมา...ก่อนถูกเบื่อหน่าย

* นึกถึงตอนเป็นสาว...เพื่อนที่เรียนด้วยกันนุ่งสั้นๆ แล้วนำสมุดปิดไว้ที่ปลายกระโปรง

* อาจารย์ชายท่านหนึ่ง...แซวว่าปิดไม่มิดหรอก..ไม่เชื่อเธอออกมาดูซิ....ครูพรรณาต้องเป็นผู้ยืนยัน....เหวอ!

* ขอบคุณค่ะที่ชวนมาอ่าน...

+ หวัดดีน้องกวิน....

+ มาเขียนคิ้วทาปาก ผู้ลากมากดีด้วยคนค่ะ

+ พูดถึงก็ต้องโทษผู้ใหญ่ด้วย..ชอบแต่งตัวเสื้อผ้าชิ้นน้อย ๆ ให้กับยัยหนู....

+ ทำให้เด็กซึมซับตั้งแต่เด็กว่า...อื่อฮึ...ธรรมดา

+ แฮะ ๆ แต่ไม่อยากบอกเลยว่า ครูอ๋อยทาเล็บสีฟ้า เพ้นท์ดอกไม้ด้วย...ไปสอนเด็กนักเรียน

+ รู้เต็มอกว่าไม่เหมาะสมกับอาชีพ.....แต่เพราะสภาวะการณ์ของ 3 จังหวัดแดนใต้

+ ประมาณว่าถ้าจะตายก็ขอให้งามหน่อย....อิ อิ

+ เด็กๆ ชอบ ..บางคนขอจับดู...ครูอ๋อยต้องอธิบายว่าเมื่อไหร่หนูถึงจะทำอย่างครูได้...ทำไมครูถึงทำได้....แต่อิสลามเค้าห้ามทาเล็บอยู่แล้ว...

+ บันทึกนี้อ่านง่าย สบายใจ ใกล้ตัว ได้ข้อคิดสะกิดใจดีจังค่ะ....

+ รักษาสุขภาพกายและใจด้วยค่ะ

สวัสดีครับ กวิน

        ในทางกลับกัน อาจารย์ผู้นั้นก็ไม่ได้สนใจ หรือสนใจ แต่มไห้ความสำคัญเลยว่าจะเกิดอะไรกับครอบครัวของตนเองบ้าง หากคนอื่นเขารู้น่ะครับ

        พี่ว่าไม่แปลกหรอกที่ใครสักคนจะด่วนตัดสินไปแบบนั้น แม้แต่คนที่อาจจะพูดว่า อย่าไปตัดสินเขา ในใจจะแว้บคิดหรือเปล่า ถ้าไม่คิดสิ พี่ว่าแปลกดีครับ & คงต้องดูกรณีอื่นๆ ด้วยว่า ยังคงรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ดีเพียงไร

        จุดสำคัญอยู่ตรงนี้หรือเปล่าครับ คือเมื่อแว้บคิดไปแล้ว ฉุกคิดได้ว่า (หรือมีกัลยาณมิตรมาเตือนว่า) ไม่เกิดประโยชน์อันใด แถมยังอาจไปทำร้ายคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดอีกด้วย ก็จึง "หยุด" แล้วอาจจะไปคิดในเชิงแก้ไข / สร้างสรรค์ ว่า ถ้าเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นกับคน องค์กรหรือชุมชน ของเรา เราจะทำอย่างไรถึงจะดีขึ้น

..คุณน้องกวิน..

 ...พี่พยายามอ่านบทความและทำความเข้าใจอยู่หลายรอบ..สัมผัสได้ถึงความเสียใจของลูกน้อยกลอยใจและแม่ คิดต่อไป..ได้ความว่าแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับจิตใจเด็กที่ไม่ได้ก่อกรรมแต่ต้องมารับผลที่ผู้ให้กำเนิดทำเต็มๆ..ผ้าขาวเปื้อนง่ายซักยากน่าห่วงจริงๆ ส่วนแม่..เพื่อนๆคงต้องช่วยประคับประคองจนกว่าจะผ่านพ้นไปได้... เรื่องป่าแก้ว..มื่ออาทิตย์ที่แล้วลูกน้อยกลอยใจของพี่ไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าบ้านค้อ..3วัน สอบถามความเข้าใจเรื่องวัดได้คำตอบเป็นที่น่าพอใจ...ไปวัดต้องไปให้ถึงวัดจริงๆ...ขอบคุณที่ให้ความรู้เรื่องเขียนคิ้วทาปากและบทวิจารณ์ดีๆค่ะ

  • สวัสดีครับ   โก๊ะจิจัง แซ่เฮ ^๐^! 
  • พี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้น้องจิ นะครับน้อง
  • หยุดยาวอย่าลืมกลับสุพรรณ มาทำบุญวันพระใหญ่วันพระโต นะ น้องจิ สู้ๆๆๆ กับการเรียนเด้อ....
  • สวัสดีครับคุณพี่คุณครู พรรณา ผิวเผือก
  • ฟังจากที่พี่เล่ามา การแต่งตัว ว๊อบๆแวมๆ นี่ก็มีมานานแล้วนะครับ ขอบคุณมากๆ ครับ
  • คิดถึงนะครับ เห็นหายเงียบไป บทความที่เขียนส่วนมาก ก็มีแต่อาจารย์ภาษาไทยอย่างคุณพี่+ท่าน ผอ. ประจักษ์ และท่านอื่นๆ อีกเล็กน้อย ที่จะช่วยเป็นกำลังใจ ฮาๆเอิ๊กๆ เมื่อหายหน้าไปคนเขียนคิดถึงครับ
  • สวัสดีคับคุณแม่น้อง แอมแปร์ (พี่อ๋อย)
  • แฮะ ๆ แต่ไม่อยากบอกเลยว่า ครูอ๋อยทาเล็บสีฟ้า เพ้นท์ดอกไม้ด้วย...ไปสอนเด็กนักเรียน+ รู้เต็มอกว่าไม่เหมาะสมกับอาชีพ.....แต่เพราะสภาวะการณ์ของ 3 จังหวัดแดนใต้
  • เด็กๆ ชอบ ..บางคนขอจับดู...ครูอ๋อยต้องอธิบายว่าเมื่อไหร่หนูถึงจะทำอย่างครูได้...ทำไมครูถึงทำได้....แต่อิสลามเค้าห้ามทาเล็บอยู่แล้ว...
  • เด็กมักจะเลียนแบบผู้ใหญ่นะครับ
  • เชื่อว่าคุณพี่ครูอ๋อยมีคำตอบที่น่าพึงพอใจสำหรับเด็ก  :)
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนนะครับ รักษาสุขภาพด้วยเช่นกันนะครับพี่...
  • สวัสดีครับอาจารย์ บัญชา ธนบุญสมบัติ (พี่ชิว)
  • ขอบคุณครับ พี่
  • จุดสำคัญอยู่ตรงนี้หรือเปล่าครับ คือเมื่อแว้บคิดไปแล้ว ฉุกคิดได้ว่า (หรือมีกัลยาณมิตรมาเตือนว่า) ไม่เกิดประโยชน์อันใด แถมยังอาจไปทำร้ายคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดอีกด้วย ก็จึง "หยุด" แล้วอาจจะไปคิดในเชิงแก้ไข / สร้างสรรค์ ว่า ถ้าเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นกับคน องค์กรหรือชุมชน ของเรา เราจะทำอย่างไรถึงจะดีขึ้น??
  • เป็นทรรศนะที่ดีมากๆ เลยนะครับ
  • การเปลี่ยนมาคิดในเชิงสร้างสรรค์  เพื่อหาแนวทางแก้ไข
  • การแก้ที่ดีที่สุดก็คือ ต้องแก้ที่ตัวเราก่อนนะครับ ผมคิดว่า :) 

 

สวัสดีครับพี่ nussa-udon 

จะเกิดอะไรขึ้นกับจิตใจเด็กที่ไม่ได้ก่อกรรมแต่ต้องมารับผลที่ผู้ให้กำเนิดทำเต็มๆ..ผ้าขาวเปื้อนง่ายซักยากน่าห่วงจริงๆ ส่วนแม่..เพื่อนๆคงต้องช่วยประคับประคองจนกว่าจะผ่านพ้นไปได้...

นาย จ. บอกกับผู้เขียนว่า ไม่กล้าโทรไปคุยกะอาจารย์ผู้หญิงซึ่งสอนวิชาเดียวกะนาย จ. เพราะกลัวว่าท่านจะอาย (ผู้เขียนก็ไม่รู้ว่าจะแนะนำเพื่อนยังงัย) แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวอาจารย์ผู้หญิง และขอเป็นกำลังใจให้กับน้องนักศึกษาที่ตกเป็นผู้เสียหายในคดี  บทความนี้เขียนเพื่อสะท้อนว่า การแต่งกายที่ไม่เหมาะสมของนักศึกษาตามสถานศึกษาจนดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดานั้น เปรียบเสมือน การขยับของปีกผีเสื้อ ที่ก่อให้เกิดกระแสลมแผ่วเบา ซึ่งกระแสลมอันแผ่วเบานั้น  กลายสภาพเป็นพายุใหญ่ในอีกซีกโลกหนึ่งในเวลาต่อมา  (butterfly effect) การกล่าวเช่นนี้มิได้เป็นการเพ่งโทษน้องนักศึกษาผู้ตกเป็นผู้เสียหาย หากแต่เป็นการเพ่งโทษ ค่านิยมการแต่งกายของนักศึกษาทั้งระบบ ซึ่งกำลังส่งผลเสีย นั่นคือ เป็นปัจจัยส่งผลทำให้เกิดพายุแห่งกิเลสตัณหา พัดกระหน่ำทำลายล้างศีลธรรมในสังคม ให้จมหายเป็นผงคลีดิน นั่นเอง

 เรื่องป่าแก้ว..มื่ออาทิตย์ที่แล้วลูกน้อยกลอยใจของพี่ไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าบ้านค้อ..3วัน สอบถามความเข้าใจเรื่องวัดได้คำตอบเป็นที่น่าพอใจ...ไปวัดต้องไปให้ถึงวัดจริงๆ...ขอบคุณที่ให้ความรู้เรื่องเขียนคิ้วทาปากและบทวิจารณ์ดีๆค่ะ

อนุโมทนาสาธุครับพี่

ปล. นาย จ. บอกว่าอย่าใส่ชื่อจริง นามสกุลจริงเลยเป็นการให้เกียรติกันเกินไป ก็เลยขอใช้นามแฝง ไปพลางๆก่อนนะครับ 

สวัสดีค่ะคุณกวิน

แวะเข้ามาทักทาย และชื่นชมคะ  ตามอ่านงานหลายชิ้นนะคะ แต่ก็ไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้ มาอ่านวันนี้ชอบมากคะในการแต่งกลอน  (ตัวเองเขียนไม่เป็น อิอิ)ท่านกวินสามารถโยงเรื่องหนึ่ง ไปยังอีกเรี่องหนึ่งได้อย่างแยบยลเชียวค่ะ อ่านไปนั่งคิดไปว่า เก่งจังทำไมคิดไปได้ อิอิ

แอบตามไปฟังเพลงที่มีแล้ว อ่านเนื้อเพลงก็ขำๆ ดี ขอบคุณนะคะ

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ ศุภราภรณ์  (Ranee) ครับกระผม เรียกน้องกวิน ก็ได้ครับ บทความนี้ก็ปรับแก้มาหลายรอบแล้วครับ ข้อคิดดีๆ ก็ได้จาก เพื่อนๆ พี่ๆ สมาชิก G2K นี่ล่ะครับขอขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นที่ได้แสดงไว้นะครับ ก็ฝากพี่ ศุภราภรณ์  ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ดูแล นักศึกษาที่แต่งกายไม่สุภาพด้วยนะครับ คงไม่ถึงกับต้อง บริภาษ พวกเขาเหล่านั้นว่า "วางท่าโก้ โอหัง หัวโจก ลวงโลกแล้ อยู่เยี่ยงมหาโจร" เวลาพูดต้องพูดไวๆ แล้วนักศึกษาจะอึ้ง ทึ่งครับ ว่าทำใมอาจารย์ พูดจาคล้องจองจัง แล้วเขาก็จะสะกิดใจ การเฝ้าระวัง นั้นย่อมดีกว่า การแก้เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วนะครับ การแนะนำตักเตือน เล็กๆ น้อยๆ จากครูบาอาจารย์นั้น ส่งผลที่ยิ่งใหญ่มหาศาลต่อนิสิตนักศึกษา นะครับ ขอบคุณครับ 

สวัสดีค่ะ

* เรื่องการแต่งกาย....สิทธิส่วนบุคคล....คนมองคิดอย่างไรก็เพราะคนแต่งแต่งอย่างนั้น....กระดาษห่อของขวัญสร้างความรู้สึกให้ผู้รับก่อนของขวัญเสมอ

* บางคนซื้อของขวัญเพียงแค่มองกระดาษห่อ....โดยไม่สนใจสิ่งของที่อยู่ภายในด้วยซ้ำ

* ครูพรรณาก็คิดถึงคุณกวินทรากร...ที่มักมี เรื่องราวดีๆ น่าสนใจ....และเหมาะกับยุคสมัยมานำเสนอ...แต่ทำอย่างไรแนวคิดเหล่านี้จะถึงผู้อ่านก่อนเกิดเหตุการณ์...

* เป็นกำลังใจให้ค่ะ

คุณกวิน

  • บันทึกนี้ ร้อนแรง เป็นประเด็นน่าสนใจมากเลยนะคะ
  • มาตามอ่านข้อคิดเห็นของหลาย ๆ ท่านยังได้ความคิดใหม่ด้วย โดยเฉพาะที่อ.พรรณาท่านว่าไว้...เรามักจะวิพากษ์ วิจารณ์ ให้ข้อคิด ติติง บางครั้งก็ต่อว่า...อาจถึงขั้น..ส่อเสียด...
  • แต่ที่น่าคิดคือ...ควรทำอย่างไรให้แนวคิดนี้ไม่กลายเป็น...วัวหายล้อมคอก มากกว่า

                           (^__^)

  • ให้ความคิดเห็นไม่ถูกเลยครับ
  • ปกติด้วยจรรยาบรรณของการเป็นคุณครู
  • น่าจะแบ่งได้ว่า เป็นอย่างไร
  • แต่น่าสงสารคนเป็นภรรยาและลูกน้อยจริงๆๆด้วย
  • ขอบคุณครับที่ทำให้เห็นมุมมองอีกแบบหนึ่ง

ขอบคุณ คนไม่มีราก และอาจารย์ขจิต ครับ ง่วงแหล่ว พรุ่งนี้มาตอบครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

หน้าสวย ดอทคอม เครื่องสำอางนำเข้าจากเกาหลี ญี่ปุ่น คุณภาพเยี่ยม เป็นแบรนด์ใหม่ 100% ยังไม่มี shop ในเมืองไทย ราคาไม่แพง แต่รับรองว่าคุณจะติดใจในคุณภาพ มากมายหลายยี่ห้อ เช่น elssme, relian, insiti, monplay, vos, vov, cat และอื่น ๆ ลองแวะเข้ามาชมกันซิคะ www.nasuai.com

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท