เมื่อ กวินโดนเพื่อน ตำหนิเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษผิด วากยสัมพันธ์


ขออนุญาต ใช้ กู และ มึง ในบทความ เพื่อรักษา ภัคครีติโทษ

กวิน @18570 พยามแต่งประโยคอังกฤษใส่สัมผัสแบบกลอนไทยว่า 

"beautiful flower is white , look like middle sky nighttime star."

โดน นายเจย์ (อักษรศาสตรบัณฑิต : เอกภาษาอังกฤษ แห่ง มหาวิทยาลัย "สามย่าน") ทักว่าที่ถูกควรใช้ : A white beutiful flower is like splendid star during the night.

 นายเจย์ พูดว่า ถ้ามึงจะใช้ look มึงต้อง เติม s เพราะ flower เป็นเอกพจน์และมึงตก article (a เป็น article บอกประเภทของคำนามว่า flower เป็นเอกพจน์ ไม่ชี้เฉพาะ) ส่วนจะให้กูแต่งเป็นกลอน กูทำไม่ได้หว่ะกูใส่สัมผัสแบบฝรั่งไม่เป็น


ส่วน @18453 "Hello! a teacher (Aj. dhanarun ), be glad that get know that you like this music , I like this music too and like a sentence that

And if by chance that special place
That you’ve been dreaming of
Leads you to a lonely place
Find your strength in love

and like a sentence that translate to the verse in Thai that ,

หากวันหนึ่งถึงวันที่อ้างว้าง         สิ่งที่หวังไม่เป็นอย่างที่เห็น
ใช้ความรักอันทรงค่าฝ่าลำเค็ญ   คุณจะเห็นความเข้มแข็งแห่งความรัก

Thankyou v v much.
"

ต้อง Hello Teacher เพราะมึงกำลังคุยกับครู Teacher ตรงนี้ เป็นสรรพนาม ก็จริง แต่ ในบทสนทา มันเปลี่ยนหน้าที่เป็นนามเฉพาะ ใส่  article ไม่ได้ เพราะมันทำหน้าที่เป็นสรรพนามบุรุษที่สองแล้ว มึงก็ต้องผันกริยา be ให้เข้ากับประธานด้วย ในที่นี้ ประธาน คือ I ต้อง เปลี่ยน be เป็น am แล้วต้องใส่ประธานด้วย ที่ถูกน่าจะใช้ว่า

" I am glad to know that you like this music. I like this music too I am glad to know that you like this music. I like the sentence that..."

ส่วนท่อนที่ว่า "and like a sentence that translate to the verse in Thai that.." ทำไม มึงใช้คำว่า a sentence ล่ะ ประโยค มันเป็น sentence ที่มึงไม่ชี้เฉพาะ คือมึงไม่รู้ว่า เป็น sentence ไหน ถ้าใช้ a นำหน้าแปลว่า มึงไม่เคยเห็นประโยคนั้นมาก่อน มึงควรเขียนว่า "I like the sentence that he translated into the form of Thai poetry."

ส่วน @18464 " Hello! , true my friend  (คนไม่มีราก) a human should choose to take the food that is valuable physical  and spiritual , for good music , be one mind kind food" 

ที่ถูกควรใช้ Hello! , my true friend แต่จริงๆ ควรใช้ว่า "Hello, my dear friend. A human being should take the food that is physically and spiritually valuable. Music is also a kind of spiritual food for mind peace."

dear ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง คนรัก โดยบริบทหมายถึงเพื่อน  ส่วนคำว่า ความสุขสงบ ของจิตใจ น่าจะใช้ mind peace หรือ peace of mind และควรใช้ should take the food ไปเลย one kind ไม่ใช่ one mind

การมีกัลยาณมิตร ก็ดีแบบนี้เพราะเราทำผิด เขารีบเตือนเรา เหมือนที่ คนไม่มีราก เคยเขียนไว้ในอนุทิน@18190 เรื่องการชี้ข้อบกพร่องให้ซึ่งกันและกัน ซึ่งชาวอโศกเรียกว่า "การชี้ขุมทรัพย์"

ปล.กูไม่โกรธมึงหรอก ไอ้เจย์ ที่มึงเตือนกู (เรื่องวากยสัมพันธ์) แต่กูไม่อยากให้มึง คิดลบ  หัด คิดบวก ไว้สิ  :) อย่างน้อย กูก็แต่งกลอนอังกฤษ โดยใส่สัมผัสสระในแบบไทยๆ อย่างไรล่ะ

หมายเลขบันทึก: 202627เขียนเมื่อ 22 สิงหาคม 2008 09:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 18:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

สวัสดีครับอาจารย์ ร่มไม้ใหญ่ใกล้ทาง ขอหัวเราะจำตัวเองด้วยคนครับ 555

  • โอลาล้า...
  • You hit the point !!!!
  •  บางที่รูสึกจั๊กกระเดียมเวลาอ่านภาษาอังกฤษ version Thai
  • มีคนชี้แนะ โดนใจที่สู๊ด
  • ต้องร้อง ว่าล่า...

กวินอยากเก่งภาษาอังกฤษได้สัก 20% ของอาจารย์  Lin Hui นะครับ 555 แต่ก็จะไม่ท้อแท้ และไม่อายที่จะเขียน จะพูด เพราะเผื่อมีแฟนเป็นชาวต่างชาติจะได้ คุยกันรู้เรื่อง ว่ามั้ยครับ

  • เซท์ว่าล่า
  • นั่นปะไร ล่ะ
  • มีแฟนฝรั่งเร็วๆ รับรองว่าฝรั่งเก่งภาษาไทยแน่ๆ 555
  • อ ะ อ่ า ล้ อ เ ล ง
  • คิดถูกแล้วที่มีจะมีแฟน ฝรั่ง
  • แต่บอกได้เลย ว่าเพื่อนนายแน่มาก
  • มีแฟนแล้วอย่าลืมเพื่อน ที่เขาส่งหมัดชกตรงเป้าที่สุด
  • นับถือนับถือ

อาจารย์ครับ ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนนะครับ เรื่องการมีแฟนฝรั่ง ก็พูดเล่นไปนะครับ ส่วนนายเจย์นี่ผมคงไม่ลืมนะครับเพราะมีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับภาษาอังกฤษก็มักจะโทรไปถามมันไม่ก็ แชทคุยกันจน มันเบื่อบอกว่าให้ไปเปิดเวป ดิกส์ชั่นนารี่ดูเอาเองสิวะ..

ผมเคยสงสัย คำศัพท์ บางคำในภาษาอังกฤษ เลยแชทคุยกะนายเจย์ อาจารย์พอที่จะมีความรู้เรื่องภาษาฝรั่งเศสอาจจะชอบบทความนี้ก็ได้เพราะนายเจย์ ก็พอพูดฝรั่งเสศได้เลยยก ตัวอย่างคำในภาษาฝรั่งเศสไว้ด้วย อ่านได้ที่ลิงค์นี้นะครับ แต่ว่า ไร้สาระมากๆ ครับ 555 http://gotoknow.org/blog/kelvin/172023 

สวัสดีค่ะ คุณกวิน

แวะมาเยี่ยมค่ะ หลังจากที่หนูหายหน้าไปค่ะ

สบายดีไหมค่ะ

เป็นเรื่องธรรมดาที่โดนติ เพื่อเราจะได้รู้ในสิ่งที่ถูกค่ะ

เมื่อ กวินโดนเพื่อน ตำหนิเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษผิด วากยสัมพันธ์" @  202627

สวัสดีครับคุณ berger0123 จับใจความได้ว่า คนเราต้องทำผิดเสียก่อน จึงจะรู้ว่า การทำถูกต้องนั้นเป็นเช่นไร ให้ผลเช่นไร ซึ่งส่วนมากคนทำผิดนั้นมีสองจำพวกใหญ่ๆ ก็คือ

1.ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนทำนั้นเป็นความผิด (รู้เท่าไม่ถึงการณ์)
2.รู้ว่าเป็นสิ่งที่ผิดแต่ก็ยังจะทำ

คนสองจำพวกนี้เมื่อถูกกัลยาณมิตร ตักเตือนก็ย่อมจะมี ปฏิกิริยาโต้ตอบที่แตกต่างกัน หากมองในแง่ของกฎหมาย ในทางกฎหมายจะให้ความสำคัญว่าด้วยเรื่องของ เจตนา เป็นสำคัญ นั่นคือ

1.มีเจตนาที่จะทำ 2.ลงมือทำ 3.กระทำการสำเร็จ (ถือเป็นความผิดครบองค์ประกอบ)

ผู้ที่ทำผิดแล้วยอมรับสารรูป เอ้ย สารภาพ (รูป กับภาพ คล้ายกัน) ศาลย่อมลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ผู้ที่กระทำการณ์โดยสำคัญผิด เพราะถูกกลฉ้อฉล หรือกระทำเพื่อป้องกันภยันตรายอันพึงจะเกิดขึ้นเฉพาะหน้า จึงอาจได้รับการยกเว้น ไม่ต้องได้รับโทษ  หรือได้รับโทษน้อย แต่ทว่า การกระทำโดยอ้างว่าไม่รู้ (ตัวบทกฎหมาย)นั้น ไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่จะทำให้พ้นผิด เพราะกฎหมายถือว่าประชาชนย่อมมีหน้าที่ที่จะต้อง รู้กฎหมาย ในชีวิตคนเรา ความไม่รู้ (อวิชา) นั้นมีอยู่มาก เพราะโลกนี้ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยอวิชชา กิเลสตัณหาและอุปาทาน ยังให้เกิดความไม่รู้ ยังให้เกิดความเห็นผิด ความไม่รู้ย่อม ถูกทำลายไปเมื่อตื่นรู้ ส่วนการตื่นรู้นั้นจะตื่นเอง หรือจะตื่นเพราะได้รับการปลูกจากผู้อื่น ก็เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล (individual) คนผู้ตื่นรู้เอง ย่อมประเสริฐ และผู้ที่ตื่นรู้เพราะถูกผู้อื่นปลูกให้ตื่นก็ย่อมประเสริฐเช่นกัน นั่นเพราะคนส่วนใหญ่เมื่อถูกปลุกด้วยการ ดำหนิดำเนียน (ติเตียน) ก็จะเกิด อัสมิมานะ (Superiority) การทำลาย ปมเขื่อง/อัสมิมานะ นี้เป็นเรื่องยาก อุปมาเหมือนกับคนที่นอนขี้เซา มักจะไม่ยินดียินร้ายเมื่อถูกปลุก อัสมิมานะคือความซึมเศร้า ความเกียจคร้าน ความผลัดวันประกันพรุ่ง ความสำคัญตนว่า เดี๋ยวๆ อีก 15 นาทีก็จะตื่นแล้วแต่ขอหลับต่อ แต่เมื่อถูกปุกเร้ามากๆ เข้าจากกัลยาณมิตร ก็จะเกิดโทสะ กระฟัดกระเฟียดขึ้นมาได้ ผู้มีปัญญา จึงมิควรพอใจในความหลับไหล เพราะชีวิตของเรานั้นยังมีเวลาหลับไหลในโลงอีกเยอะ เมื่อเกิดขึ้นมาเป็นคนแล้ว จงมีชีวิตอย่างผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานเถิด  

สวัสดีค่ะคุณกวิน

ตอนอ่านคำตอบของคุณกวินเป็นภาษาอังกฤษต้องสารภาพว่า...อึ้งไปหน่อยหนึ่ง...ขอออกตัวเล็กน้อยที่ไม่ได้ทัก...ในการใช้ภาษาอังกฤษของคุณกวิน...^_^...

ส่วนตัวไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมากมายแค่สอบผ่าน CU-TEP  500 คะแนน (จึงจะเข้าเรียนจุฬา ๆ ได้) ไม่กล้าแก้ไวยกรณ์หรือทักท้วง เพราะความรู้ ประสบการณ์อาจไม่ถึง คนไม่มีรากเองก็ยังใช้ภาษาอังกฤษแบบตามใจฉันอยู่เช่นกัน อีกอย่างภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาหลักของเรา แม้ว่าเราจะปฏิเสธการใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้  เพราะโลกปัจจุบันเป็นโลกาภิวัตน์  เรารับสารต่าง ๆ จากต่างชาติเสียมาก จึงต้องเรียนรู้ ดูออก และต้องอ้างอิงเพื่อให้เกียรติเจ้าของความคิด

...แต่จะน่าอายกว่าหรือเปล่าที่แม้ภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาแม่ ภาษาหลักของเราแท้ ๆ กลับใช้ไม่ถูกหรือไม่สนใจที่จะใช้ให้ถูกต้อง...

ภาษาก็คือ...เครื่องมือชนิดหนึ่ง (ในหลายชนิด) ของการสื่อสาร ติดต่อกัน  ด้วยเหตุนี้แม้จะใช้ภาษาผิดไวยกรณ์ไปบ้าง แต่ถ้าสื่อสารเข้าใจกันได้แล้ว ก็ไม่น่าจะต้องกังวลมากนัก....

ด้วยเหตุผลที่ว่า...จึงไม่ทักท้วงอะไรค่ะ  กลับคิดว่า...คุณกวินนี่มีความอาจหาญ...ในการใช้ภาษาอังกฤษมาก....

และเมื่ออาจหาญในการใช้ภาษาอังกฤษเสียขนาดนี้...ต่อไปคุณกวินคงต้องพัฒนาความรู้และฝีมือในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษมากขึ้น...จนกลายเป็น....ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง...ได้

เพราะคนไม่มีรากเชื่อว่า...ถ้าเราตั้งใจจริงแล้ว เราจะเรียนรู้และทำทุกสิ่งทุกอย่างได้เสมอ...ไม่มีที่เว้นค่ะ

                      (^___^)

ผมแกล้งเขียนให้ผิดนะครับ 555 จะดูหาเรื่องเขียน บทความใหม่ เจ้าเล่ห์มั้ยครับ

  • เหอ..เหอ..พี่ไม่เก่งอังกฤษ
  • ที่แน่ๆคุณน้องกวินเก่งกว่าพี่แน่นอน
  • มีเพื่อนเก่งก็ดีอย่างนี้นี่เอง

สวัสดีครับพี่นุส nussa-udon ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมครับ ถล่มตัวๆๆๆๆ

มาขำๆและมาเยี่ยมค่ะ

ขอบคุณครับคุณพี่  Sasinand   ยิ้มๆ........

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท