เขียนดีจังเลยครับ เห็นด้วยอย่างมาก นักการเมืองที่ยกเลิกการใช้ไม้เรียว คิดน้อยไปหน่อย มุ่งแต่คะแนนเสียง ผลก็คือทำร้ายเด็กอีกหลายๆคน(เด็กมีความหลากหลาย คงต้องใช้หลายๆวิธี ซึ่งน่าจะมากกว่าครูที่ลงโทษนักเรียนด้วยอารมณ์หรือรุนแรงเกินกว่าเหตุ
ขอบคุณกับเหตุผลดีๆ
ขอบพระคุณท่านอาจารย์ ธนิตย์ สุวรรณเจริญ สำหรับข้อเสนอแนะดีๆ จากผู้มีประสบการณ์ตรง อย่างเช่นอาจารย์ครับ
+ กวินน้องรัก....
+ อืม...ตอนเที่ยงพี่เข้าไปอ่านแล้วค่ะที่ ร.ร...แต่ไม่ได้ ลปรร.
+ กลับมาตอนเย็นก็อ่านอีก 2 รอบค่ะ...
+ อืม...ตอนเด็ก ๆ พี่ก็โดนครูตีค่ะ...เพราะพี่ซ่าส์มาก..ก๋ากั่นด้วยค่ะ... + มีเพื่อนหลายคนที่ไม่สนใจเรียนก็โดนตี....ตอนมัธยมปลายก็ยังเคยโดนตีค่ะ
+ ก็ไปเล่นบอลพลาสติกกับเพื่อนชาย..ทั้งชุดนักเรียน..ป้าเครือเกี่ยวมากับร่มและบิดที่ต้นแขนและหยิกที่ขา...โอ้ย...สุดซึ้งค่ะ...แต่จำได้ว่าท่านไม่ใส่อารมณ์ค่ะ..
+ ดังนั้นในความทรงจำของพี่...พี่ไม่เคยเจอครูแบบนี้..จำได้ว่าครูสมัยนั้น..เวลาจะตีเรารับรู้ได้ว่าท่านตีแบบมีเหตุผล...สมเหตุสมผล...เหมาะสมกับความผิด....
+ ที่ ร.ร.พี่อ๋อยก็ตีค่ะ...แต่ก่อนตีเราจะพูดคุยกันก่อน...
+ เวลาพี่จะตีเด็ก...พี่จะไม่ตีด้วยอารมณ์แต่จะตีด้วยรอยยิ้ม...พร้อมกับพูดคุย...
+ ถ้าพูดถึงการตีเด็ก...ใน ร.ร.พี่อ๋อยตีเด็กมากที่สุดค่ะ...เพราะอยู่งานกิจการนักเรียน
+ สรุป คือว่า...พี่เห็นด้วยว่าการตีเด็กยังจำเป็นอยู่ค่ะ....
+ แต่ต้องตีด้วย..ใจ...เติมเต็มด้วยเหตุผล...ใส่รอยยิ้ม...ไม่ใช่ใส่อารมณ์
+ อิ อิ...."จะตีลูกก็ตีพอให้หลาบจำ อย่าใช้อารมณ์ เรื่องทั้งหมดก็มีเท่านี้ล่ะนา"
สวัสดีค่ะ คุณกวิน..
ใบไม้ตามมาอ่านในฐานะที่ถูกพาดพิง..
ในประเด็นของการใช้อำนาจโดยทำให้กลัวนั้น ใบไม้เข้าใจค่ะ แต่ยังขอยืนยันว่า ให้คนปรับพฤติกรรมด้วยความเข้าใจย่อมดีกว่าให้เขายอมทำอะไรโดยมีความกลัวเป็นแรงขับ นั่นหมายความว่า เมื่อใดที่ไม่ขู่ให้กลัว ก็จะไม่ทำ ใช่หรือไม่ ในขณะที่ หากสามารถสร้างความเข้าใจให้เขาได้ เขาก็ทำต่อไป เพราะเห็นในประโยชน์ จริงไหม
ไม่ได้ปฏิเสธการใช้อำนาจ แต่ต้องใช้ให้ถูกกาละเทศะ ใช้เพื่อควบคุมคนที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน หรือใช้เพื่อเป็นกรอบในวงกว้างได้ค่ะ แต่ถ้าใช้ไม่ดูตาม้าตาเรือ นอกจากจะไม่ได้ใจคนแล้ว ระวังคนใช้จะบ้าอำนาจโดยไม่รู้ตัวนะเออ..
เห็นด้วยกับครูอ๋อยค่ะ.. ตีเด็กต้องดีด้วยใจ..เติมเต็มด้วยเหตุผล..ใส่รอยยิ้ม..ไม่ใช่ใส่อารมณ์..
การลงโทษด้วยความปรารถนาดีและสร้างความเข้าใจควบคู่ไปด้วยนั้น ย่อมมีประสิทธิภาพ และปรับพฤติกรรมนักเรียนได้มากกว่าการลงโทษเฉย ๆ
เด็ก ๆ รับรู้ได้ค่ะว่า โดนลงโทษด้วยความรัก..^__^..
การถูกลงโทษด้วยความรักดีกว่าโดนปล่อยปละละเลย ไม่สนใจใยดีเป็นไหน ๆ อย่างน้อยเขาก็ต้องการให้มีคนเห็นความสำคัญของเขาบ้าง..
อืม...ตอนเด็ก ๆ พี่ก็โดนครูตีค่ะ...เพราะพี่ซ่าส์มาก..ก๋ากั่นด้วยค่ะ... + มีเพื่อนหลายคนที่ไม่สนใจเรียนก็โดนตี....ตอนมัธยมปลายก็ยังเคยโดนตีค่ะก็ไปเล่นบอลพลาสติกกับเพื่อนชาย..ทั้งชุดนักเรียน..ป้าเครือเกี่ยวมากับร่มและบิดที่ต้นแขนและหยิกที่ขา...โอ้ย...สุดซึ้งค่ะ...แต่จำได้ว่าท่านไม่ใส่อารมณ์ค่ะ.
พี่อ๋อย แอมแปร์~natadee เขียนซะเห็นภาพเลยนะครับ ตอนวัยรุ่นพี่ก็ก๋ากั่นน่าดูเลยเนอะ
ที่ ร.ร.พี่อ๋อยก็ตีค่ะ...แต่ก่อนตีเราจะพูดคุยกันก่อน เวลาพี่จะตีเด็ก พี่จะไม่ตีด้วยอารมณ์แต่จะตีด้วยรอยยิ้ม...พร้อมกับพูดคุย...ถ้าพูดถึงการตีเด็ก...ใน ร.ร.พี่อ๋อยตีเด็กมากที่สุดค่ะ...เพราะอยู่งานกิจการนักเรียน
เป็นกำลังใจให้นะครับพี่ สู้ๆ
นมัสการพระคุณเจ้าขอบพระคุณมากๆ ครับ เป็นทางออกที่ดีครับ ว่าด้วยเรื่อง ทางสายกลางที่พระคุณเจ้าชี้แนะ