ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ครับ
<p>จะสังเกตได้ว่า เสียง งอ นี้
มีการเพี้ยนเสียงในหลายๆ คำ เช่นคำว่า เงิน เพี้ยนเป็น เง็น/เงือน
เป็นไปได้ว่า คำว่า งัว
ก็ต้องมาจาก การเพี้ยนเสียง
และมีแนวโน้มที่จะเพี้ยนเสียงไปเป็นเสียงอื่น ตามลำดับ
</p>
<p>ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง ด้านที่
1 ที่เผยแพร่โดยสำนักงานสารนิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ซึ่งกล่าวถึงคำวัว (ววว) นี้
สอดคล้องกับ ศาสตราจารย์ สุทธิวงศ์ พงษ์ไพบูลย์
ซึ่งอรรถาธิบายไว้ในหนังสือ
บาลีสันสกฤตที่สัมพันธ์กับภาษาไทย ว่า
คำว่า วัว เขียน ตามอักขรวิธี สมัยโบราณว่า
ววว (8)
</p>
จากศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
เราจึงพอที่จะอนุมานได้ว่า คำว่า วัว นี้มีใช้มาตั้งแต่สมัย สุโขไทย
และถ้าเขียนว่า งัว ก็ย่อมเขียนว่า งวว
อนึ่ง คำว่า เงือน ได้เพี้ยนเป็น เงิน
ไปเรียบร้อยแล้วในสมัยปัจจุบัน
คำว่า งัว/วัว นี้
ในด้าน คติชนวิทยา (folklore studies) นั้น รองศาสตราจารย์
ดร.ประจักษ์ สายแสง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน คติชนวิทยา แห่ง มหาวิทยาลัยนเรศวร
ไอ้อรรถธิบายเกี่ยวกับเรื่องคติชนวิทยาไว้ความว่า เฒ่าหัวงู แยกได้เป็น เฒ่า และหัวงู
คำว่าเฒ่า ไม่จำเป็นต้องหาความหมาย ส่วนคำว่า หัวงู เป็นคำที่ชวนสงสัย หัวงู
เป็นคำผวนมาจาก หูงัว ถึงตอนนี้จำจะต้องย้อนกลับไปถึงปริศนาของศรีธนญชัยที่ว่า อะไรเอ่ย
รีรีเหมือนใบพลูมีรูตรงกลางข้าง ๆ มีขน คำตอบ
ของปริศนานี้ คือ หูงัว แต่ความหมายเทียบเคียงของ หูงัว
คืออะไรก็พอจะทราบกันอยู่
ถ้าไม่ทราบก็คงไม่ใช่ผู้มีธุรกิจทางคติชนวิทยา เฒ่าหูงัว ผวนแล้วเป็น เฒ่าหัวงู
ถูกใช้ในเชิงความหมายเทียบเคียง (9)จะเห็นได้ว่าในด้าน คติชานวิทยา
ชาวบ้าน นิยมออกเสียงคำว่า วัว
เป็น งัว
<p>สำหรับในประวัติศาสตร์จีนในยุคสามก๊ก พ.ศ. 763 - พ.ศ.
823 เริ่มจากยุคโจรโพกผ้าเหลืองในปี พ.ศ. 726 ที่ออกอาละวาด
จนเป็นเหตุให้บุคคลทั้งสามคือเล่าปี่ กวนอูและเตียวหุย
ได้ร่วมสาบานตนเป็นพี่น้องและร่วมปราบกบฏโจรโพกผ้าเหลือง
(10)
รูปโคยนต์ที่ประดิษฐ์โดยจูกัดเหลียง (ขงเบ้ง)
ตามจินตนาการของชาวเกาหลี (11)
</p>
ในยุคต่อมา จูกัดเหลียง (ขงเบ้ง)
สร้าง
โคยนต์ม้ากล
ขึ้นใช้ลำเลียงเสบียงซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของการบุกกิสานในการบุกกิสานครั้งที่
5 (12)
<p>จากประวัติศาสตร์สามก๊ก ทำให้เราทราบว่า คนจีนรู้จัก วัว/โค มาอย่างน้อยๆ
ตั้งแต่ พ.ศ. 763 - พ.ศ. 823 และคำว่า วัว
(Cow/Ox) ในภาษาจีน ออกเสียงดังนี้ (13)
</p>
<p>สืบค้นด้วยคำว่า Cow</p>
<table border="0" cellpadding="5"><tbody>
<tr bgcolor="#87CEEB">
</tr> <tr bgcolor="#ADD8E6">
</tr> <tr bgcolor="#87CEEB">
</tr> <tr bgcolor="#ADD8E6">
</tr>
</tbody></table>
<p>สืบค้นด้วยคำว่า Ox
</p>
<table border="0" cellpadding="5"><tbody>
<tr bgcolor="#87CEEB">
</tr> <tr bgcolor="#ADD8E6">
</tr> <tr bgcolor="#87CEEB">
</tr>
</tbody></table><p>
แต่เดิมเชื่อว่า
ชนชาติลาวกับชนชาติไทยมีประวัติศาสตร์ร่วมกันมาตั้งแต่โบราณกาล
กล่าวคือชนชาติลาวก็เริ่มอธิบายความเป็นมาเริ่มต้นบรรพบุรุษอยู่แถบเทือกเขาอันไต
(ประเทศมองโกเลีย) เหมือนกัน (14)
ทว่าจาก รายงานเสวนา : คนไทยเป็นใคร มาจากไหน ในแผนที่ประวัติศาสตร์
(สยาม) ประเทศไทย รองศาสตราจารย์ สุรพล นาถะพินธุ
คณบดีคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้กล่าวว่า ‘คน (ไทย) อาจจะอยู่ที่นี่
เริ่มต้นที่นี่ไม่ได้มาจากเขาอัลไต’ เพราะ พบส่วนกระโหลก
ของออสตราโลพิเธคัส ที่เกาะคา จ.ลำปาง อายุนับแสนปี หรือ
พบโฮโมซาเปียนที่ถ้ำลอด จ.แม่ฮ่องสอนอายุ 12,000 ปี
และพบอารยธรรมอื่นๆ กระจายไปทั่วในหลายพื้นที่ (15)</p>
ไม่ว่า ไทยจะมาหรือไม่ได้มาจากเทือกเขาอัลไต
ก็ตาม แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ
ไทยและจีนนั้นมีความสัมพันธ์ กันมาอย่างยาวนาน ฉะนั้น
ไทยจึงได้รับ อิทธิพลทางภาษาจีน เข้ามาใช้ในหน่วยคำไทย
หลายคำต่อหลายคำ อนึ่งคำว่า งัว/วัว/โค นี้
ไทยก็อาจจะ รับมาจากจีนอีกทอดหนึ่ง ฉะนั้น สมมุติฐานข้อที่สอง
(ที่คิดไว้ในใจ) ผู้เขียนเชื่อว่า
คำว่า 牛(niú) เสียง น เป็นเสียงในกลุ่มเสียง
นาสิก อันได้แก่ ง ญ ณ น ม
และคำว่า
牯
(gǔ) ซึ่งแปลว่า วัว ทั้งจีน
และไทย อาจจะรับมาจาก ภาษาบาลี ว่า โค อีกทอดหนึ่ง
แล้วต่างคนก็ต่างออกเสียงเพี้ยนไปตามๆ
กัน
อ้างอิง
(1) สารประเสริฐ,พระ (ตรี นาคะประทีป) .
บาลีสยามอภิธาน. เอกสารกรมการฝึกหัดครู สำหรับปีหนังสือแห่งชาติ
พ.ศ.2515
(2) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม 2552 ดูรายการ คนชอบกล ทางช่อง 3
เวลาประมาณ 00.15 แม่ของ คริส แองเจิล (criss angel) พูดว่า
"ฉันทนดูไม่ได้ที่จะ เห็น วัวเขาโง้ง ขวิดลูกชาย" ก็จึงมาคิดว่า โง้ง
แปลว่าอะไร ถ้า โง้ง แปลว่า โค้ง เป็นไปได้หรือไม่ที่ ค จะเพี้ยนเป็น
ง (เสียงนาสิก) ได้ ฉะนั้นถ้า โค ก็ต้อง เพี้ยนเป็น โง เนื่องจาก
เสียง โอ เสมือนมี ว สะกด (โอว) โค จึง
ต้องเขียนว่า โค(ว)
» โง(ว) » งัว »
วัว (เมื่อสระ โอ =อู+อา ฉะนั้น
โงว/งูว»งัว)
(3) มานิต มานิตเจริญ, พจนานุกรมไทย.--พิมพ์ครั้งที่ 9.--กรุงเทพฯ
: บำรุงสาส์น, 2528. ในหน้าที่ 240 แปลคำว่า เง็นว่า เงิน
ในหน้าที่ 241 แปลว่าคำ เงือน ว่า เงิน
(4) อุดม วโรตม์สิกขดิตถ์. ภาษาศาสตร์เหมาะสมัยเบื้องต้น.
พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : ต้นธรรม ; 2537.
(5) กวิน (นามแฝง). ดอกทอง [cited 2009 january
24]. Available from: http://gotoknow.org/blog/kelvin/168214
(6) กวิน (นามแฝง). น้ำเคี้ยวยูงว่าเงี้ยวยูงตาม [cited 2009
january 24]. Available from:
http://gotoknow.org/blog/kelvin/171136
(7) ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง ด้านที่ 1 [cited 2009
january 24]. Available from:
http://www.info.ru.ac.th/province/Sukhotai/srjsd11.htm
(8) สุทธิวงศ์ พงษ์ไพบูลย์.
บาลีสันสกฤตที่สัมพันธ์กับภาษาไทย. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช
, 2523.
(9) ประจักษ์ สายแสง.
แนวคิดบางประการในการศึกษาคติชนวิทยา.เอกสารประกอบการสัมนาวิชาการเรื่อง
วัฒนธรรมพื่นบ้านเพชรบุรี วันที่ 10 กันยายน 2533 ณ
วิทยาลัยครูเพชรบุรี อ้างใน ชวนกันเป็นขชาวคติชน [cited 2009
january 24]. Available from:
http://www.thai-folksy.com/PSArticle/PS-1-30/a4.html
(10) สามก๊ก [cited 2009 january 19]. Available
from: http://th.wikipedia.org/wiki/สามก๊ก
(11) โคยนต์ของขงเบ้ง [cited 2009 january 19]. Available
from: http://www.thaisamkok.com/forum/index.php?showtopic=7558
(12) จูกัดเหลียง [cited 2009 january
19]. Available from:
http://th.wikipedia.org/wiki/จูกัดเหลียง
(13) Chinese-English Dictionary. Query Result for "ox"
& "cow" [cited 2009 january 21]. Available from:
http://www.mandarintools.com/worddict.html
(14) รายงานเสวนา : ‘คนไทยเป็นใคร มาจากไหน ในแผนที่ประวัติศาสตร์
(สยาม) ประเทศไทย’ [cited 2009 january 19]. Available from:
http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2_print.php?mod=mod_ptcms&ContentID=9670&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai
(15) ต้นกำเนิดอาณาจักรล้านช้าง [cited 2009 january 19]. Available from: http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=buddha_story&topic=200
สวัสดีค่ะคุณกวิน
มาอ่านช้าไปหน่อยค่ะ อ่านแล้วทำให้ได้ความรู้ที่คนไม่มีรากไม่ค่อยจะมีเลย....เก่งภาษาไทยจัด...ก็งี้แหละ ..^_^..
ได้ความรู้ไว้อ้างอิงมากมาย ขอคัดลอกไว้นะคะ
แล้วค่อยมาละเลียด นำออกมาใช้ตามกาละเทศะ
ขอบคุณค่ะ
(^___^)
มาบอกว่า ได้รับหนังสือ "หิโตปเทศ"และเอกสารแล้ว ด้วยความขอบคุณยิ่งค่ะ
จะพยายามอ่านและทำความเข้าใจกับศัพท์ยาก ๆ ค่ะ ...
สวัสดีค่ะ
* ครูพรรณา เล็งเห็นแล้วว่าท่านเป็นอาจารย์
* ขอคารวะ มื้อนี้ข้าขอดื่มให้ท่าน ๓ จอก
* เฮง เฮง เฮง และสุขกายสุขใจนะคะ
สวัสดีครับคุณกวิน
แวะมาทักทายและรายงานตัวว่าขณะนี้สบายดีครับ
ใกล้จะค้นพบโลกของตัวเองแล้ว ตอนนี้ผมไม่ค่อยได้เข้าเน็ตครับ การบ้านเยอะมาก ๆ กิจกรรมที่ไปร่วมก็หลายกิจกรรม ทำให้เวลาหมดไปเร็วมาก ๆ ๆ เลยครับ
คุณกวินคงสบายดีนะครับ