เมื่อได้มีโอกาสเข้าร่วมการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้นวัตกรรมสร้างเครือข่ายเพื่อการพัฒนาคุณภาพที่ยั่งยืน ระดับภูมิภาค (ภาคกลาง + ภาคใต้) ที่ทำให้เข็มขัดสั้นได้รับความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับ SHA มากมาย จำได้มั่ง ไม่ได้มั่ง และต้องกลายเป็นคนเกาหลี ชื่อ "มึน จัง คับ" ไปเมื่อบล็อกที่แล้วก็จริง

แต่

สิ่งที่เป็นตราประทับลงไปในดวงใจดวงน้อยๆ ดวงนี้ กลายเป็นได้เจอหญิงสาวครับ  แบบว่าปลื้มมมมมมาก ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอหญิงสาวที่มีเสน่ห์อย่างยิ่งตอนมาเข้าร่วมการประชุมเลยจริงๆ นะครับเนี่ย แทบจะลั่นล้า วิ่งไปกระโดดเต้นบัลเล่ต์กลางถนนรัชดาภิเษกเลยทีเดียว

แค่นั้นยังไม่พอ เธอคนนี้ทำให้ผมรู้สึกว่า

เมื่อเธออยู่กับผู้ทรงคุณวุฒิ เธอเป็นผู้ฟังที่ดี สนใจใฝ่หาความรู้ จดความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการเอาไปพัฒนาโรงพยาบาลของตัวเอง และท่วงท่าต่างๆ เรียบร้อยมาก ดูดี๊ ดูดี

เมื่อเธอต้องขึ้นบรรยาย โห ไม่นึกไม่ฝันว่าเธอจะกลายเป็นคนที่มีอารมณ์ขัน ลูกเล่นในการนำเสนอนั้นแพรวพราวหาตัวจับได้ยากจริงๆ แม้จะมีหลุดทองแดงซัมเมอร์ออกมาบ้าง แต่นี่แหละเป็นเสน่ห์ที่กินขาด เห็นแล้วปลื้มมมมม

เพราะเนื้อหาที่เธอสื่อถึงการทำ Outcome Mapping เพื่อร่วมทำงานกับชุมชน โดยใช้มิติในการเข้าถึงจิตใจตามแนวคิดของ SHA กับโรงพยาบาลที่เธอเป็นบุคลากรอยู่นั้น บ่งบอกถึงความเข้าอกเข้าใจพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมากจริงๆ รู้วัฒนธรรม สังคม ความเป็นอยู่ต่างๆ และใช้ความเป็นบุคลากรทางการแพทย์เข้าไปพัฒนาสุขภาพและสุขอนามัยของคนในชุมชน ด้วยการใช้วิธีการอิงแนวทางของพระเจ้าในการรักษา โดยไม่มีลูกซองหรืออาก้ามาเกี่ยวข้องแต่ประการใด (เพราะถ้ามีมาเกี่ยวเมื่อไหร่ ก็คงตัวใครตัวเผือกแน่นอน)

และเธอก็ขอต่อด้วยการก้าวข้ามไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนด้วยการใช้วิธีการทางสุขอนามัยต่างๆ ที่ทำให้คนในชุมชนนั้นสามารถคิดต่อยอดเองไม่ต้องพึ่งใครในการสร้างรายได้ ผลิตสินค้าขึ้นชื่อ อย่างปลาเค็มตากแห้งที่ไม่มีสารพิษตกค้าง วิธีการต่างๆ ในการผลิตสินค้าที่แก้ปัญหาเรื่องฤดูกาลได้ รวมถึงแปรรูปและทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้  โดยที่เธอขอแค่เป็นคนสนับสนุนด้วยการหาตลาดให้ ที่สำคัญก้าวไกลไปถึงเมืองนอกด้วยนะเออ สุดยอดจริงๆ

ยังไม่พอเนื่องจากเธอ Hot มากครับ ได้บรรยายต่อในเรื่องของการมีส่วนร่วมของเภสัชกร ในการใช้มิติจิตใจตามแนวคิด SHA เข้ามาอิงกับงานที่ทำ ซึ่งผมอยากจะลุกขึ้นปรบมือ Standing Ovation ให้ทีเดียว เพราะนอกจากการบรรยายจะเด็ดสะระตี่ หัวเราะกันดังไป 3 บ้าน 8 บ้าน  แต่เนื้อหาที่บอกเล่าถึงการเอาใจเขามาใส่ใจเราด้วยการบริการผู้ป่วยแบบ One Stop Service คือ ผู้ป่วยตรวจเสร็จนั่งรอได้เลย ยาจะมาเสิร์ฟให้ถึงที่ พร้อมคำแนะนำที่ผ่านการกลั่นกรองมาดีมากให้ผู้ป่วยได้รับทราบถึงการปฏิบัติตน การใช้ยาที่พระเจ้าประทานมาเพื่อให้หายจากโรคที่ทำให้ผู้ป่วยนั้นไว้วางใจ และยังคำนึงถึงว่าช่วงเดือนรอมฎอน การกินยาจะต้องปรับเปลี่ยน รวมทั้งคิดถึงวัฒนธรรมการเลือกกินยากับกินอาหาร เพราะถ้าให้เลือกระหว่างกินยากับกินกับข้าว ไม่ว่าใครก็ขอสะบัดบ็อบใส่ยาก่อนทั้งนั้น  จึงมีการเลือกยาที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมการกินของคนในชุมชนอีกด้วย เธอคิดลึกซึ้งถึงขนาดนี้เลยทีเดียว ซึ่งผมฟังแล้วอยากจะไปรักษาที่นี่ตะหงิดๆ ทันที แม้ใจจะแอบกลัวอาก้าส่องโป้งก็เถอะ

จากที่ได้รู้จักมักจี่กับสตรีผู้นี้ผ่านการได้พบเจอ ได้ฟังแนวทางดีๆ โดยการใช้มิติทางด้านจิตใจในแนวทางของ SHA เลยยิ่งทำให้ยิ่งตอกย้ำว่า SHA นี้ มีประโยชน์อย่างยิ่ง ในการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีความเอื้ออาทร และคิดถึงใจเขาใจเราอย่างลึกซึ้ง ที่สำคัญเข้าถึงชุมชนจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างเข้มแข็งจริงๆ

ทั้งหมดทั้งปวงทำให้ผมปลาบปลื้มสตรีผู้นี้มากมายจริงๆ ครับ ซึ่งแน่นอนไม่ได้ปลื้มแบบชายหนุ่มวัยขบเผาะ อยากกระเทาะหญิงสาวแต่ประการใดนะครับ  แต่ปลื้มจากทุกสิ่งที่เธอทำเพื่อชุมชนของเธอ และการนำสิ่งดีๆ ที่ได้ทำแล้วประสบความสำเร็จมาเผยแพร่ ซึ่งทำให้คนฟังอย่างผม มีความสุขกับความเป็น SHA ตลอดจนแอบสะท้อนถึงแนวทางการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลายๆ อย่าง ที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ถ้าคุณๆ ท่านๆ ใหญ่เบ้งทั้งหลายคิดจะทำ (แต่ไม่รู้ว่าคิดหรือเปล่า)  ผมเลยขอยกย่องสตรีคนนี้ให้เป็น "สตรีในดวงใจ" ของผมคนหนึ่งเลยทีเดียว

และสตรีผู้นี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ คือ เภสัชกรสวยๆ จากโรงพยาบาลหนองจิก จ.ปัตตานี อย่าง ภญ.สีตีแอเสาะ ดือเร๊ะ หรือ "พี่เซ๊าะ คนสวย" ผู้นี้นี่เอง