"หนาวปานใด ร้อนปานใดก็บ่ขาด" ... อย่างน้อยๆ ก็จะมีคน 10 คน 5 คน มาประชุมร่วมกัน
คุณพวงทองสรุปเรื่องราว เรื่องเล่า การทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพช่องปากของชมรมผู้สูงอายุ จากทั้ง 10 กลุ่ม ไว้ในที่นี้ค่ะว่า
จากทั้งหมด สรุปได้ว่า ใน 10 กลุ่ม ซึ่งชมรมของเรามีการแลกเปลี่ยนกันในวันนี้ มีกลุ่มด้านหลังบอกว่า "หนาวปานใด ร้อนปานใดก็บ่ขาด" ... อย่างน้อยๆ ก็จะมีคน 10 คน 5 คน มาประชุมร่วมกัน
ตรงนี้สิ่งที่คุณพ่อ หรือคุณแม่พูดออกมานี่ ถ้าเราจับได้จริงๆ ก็จะรู้ว่า มันรวมสิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราคิด ออกมาที่ตรงนั้น เพียงแต่เราต้องไปจับเท่านั้น
แต่ถ้าจะจับเป็นภาษาทางกลาง สำหรับคนกรุงเทพ เพื่อไปหาวิธีการสนับสนุนนี่ละก็ จะสรุปได้ว่า
-
ทั้ง 10 กลุ่ม กิจกรรมของชมรมจะมีความคล้าย หรือซ้ำกันในเรื่องของกิจกรรม ที่จะไปเป็น รวมพลัง ก็จะเป็นการออกกำลังกายก่อน ต่อมาก็เรื่องสุขภาพ และหลังจากนั้นก็จะเป็นกิจกรรมเรื่องของสุขภาพช่องปาก
-
เรื่องของฟัน ก็เป็นเรื่องของการให้ความรู้ และนอกจากการให้ความรู้ ก็จะมีการปฏิบัติตัวอีก ก็จะเป็นเรื่องของไปตรวจฟัน
-
และบางชมรมก็จะลึกไปจนถึงมีแบบฟอร์ม แบบันทึก เพื่อการนำไปหาหมอ เพื่อรับการรักษา
-
และบางที่ก็มีเรื่องการทำฟันเทียมให้ บางแห่งได้ถึง 80 รายใน 1 เดือน (ก็คือ ชัยภูมิ)
-
และต่อเนื่องไปจนถึงประกาศให้คนอื่นรู้ เรื่องของการเข้าไปประกวดผู้ที่มีฟันดี เพื่อส่งเสริมให้คนอื่นอยากดูแลฟัน
-
เพราะฉะนั้น ในกรณีของ สว. ที่ดูแลตนเองไม่ได้ ก็จะมีเพื่อนช่วยเพื่อนต่อไป
-
นอกจากนี้เราก็ไหลเวียนถึงการจูงลูกจูงหลาน เรื่องในครอบครัว คือ ไม่ให้เด็กกินขนมกรุบกรอบ ไม่ขายขนมในร้าน เป็นต้น
-
และในตัวของพวกเราเองบางคน ก็จะมีเรื่องของการลดการกินหมาก
วิธีการโดยรวมของ 10 กลุ่ม ที่สรุปมาได้ คิดว่า เป็นวิธีการที่เด่นๆ ตรงนี้ ก็คือ
-
การที่มีแกนนำ ไปให้การดูแล ซึ่งเป็นความละเอียดเพิ่มขึ้นในแต่ละหมู่บ้าน
-
สุดท้ายก็จะให้มีความรับผิดชอบที่ชัดเจน ในเรื่องการเป็นกลุ่ม เช่น กลุ่มเองหน้าที่รับผิดชอบ คือ ควรดูแล 10 ครอบครัว
-
นอกจากนี้บางที่ก็มีการพัฒนา โดยไปขอการสนับสนุนจาก อบต. สสส. การขอความช่วยเหลือจากเพื่อนนอกชมรม ก็จะมีหมอมา
-
ส่วนนวัตกรรมที่เราค้นพบในตอนนี้ เท่าที่เสนอ มาก็คือ เรื่องไม้คนฑา
สรุปตัวสุดท้าย คือ ความภูมิใจ ได้แก่ ชื่อ ที่ตั้ง คำ หรือ ความ หรือ สุภาษิตที่บอก ถ้าเป็นเกี่ยวกับเรื่องช่องปากเอง เราก็จะเห็นว่า ความภูมิใจที่พวกเราบอกกันมา คือ
-
การที่มีประโยชน์ต่อผู้อื่น ได้เป็นแกนนำ มีความรู้ สอนคนอื่นได้
-
ตัวเองก็จะได้ในเรื่องของ การดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกวิธี เรื่องราคาถูก เรื่องประโยชน์ ความสะอาดของฟัน
-
ดึงเอาภูมิปัญญาแต่ก่อนเก่ามายกให้คนสมัยใหม่ได้รู้ และเกิดความสามัคคี
นี่คือความภูมิใจในที่ 10 กลุ่มได้ยกมา
ทั้งหมดนี้ในช่วงของ 2 ปีที่เราทำกันมา ไม่ได้หยุดแค่นี้ เพราะว่าถ้ารถไฟขบวนนี้ต้องทำงานต่อ ก็ต้องมีพัฒนาของตัวเอง ว่าในช่วงต่อไป เราอาจขยายสู่ชมรมอื่น หรือเราอาจทำตัวเราให้เข้มแข็งขึ้น หรือเราอาจจะสร้างนวัตกรรมใหม่ จากภูมิปัญญาที่มีของเราต่อไป ก็คงต้องคุยกันต่อ
ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ช่วยร่วมคิด และร่วม share ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ในวันนี้