กลุ่มที่ 6 เรื่องนี้ หมอวีระ จาก รพ.แม่จัน เชียงราย มาเล่าให้ฟังค่ะว่า

• ที่ รพ.ศรีสะเกษ ใช้วิธีทำงานนอกเวลาในช่วงเย็น เป็น OT นอกเวลา ช่วงวันพฤหัสเย็น มีการตรวจ ขูดหินปูน และทาฟลูออไรด์วาร์นิช มี oral health care ซึ่งทำทั้งส่งเสริมรักษา และได้เรื่องการตรวจด้วย
• ที่ รพ.ลำทับ กระบี่ (รพ. 30 เตียง) อยู่บนเขา ตัวเขาเองมาใหม่ แต่เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกลุ่มสุขศึกษา ก็ได้มรดกในส่วนนี้ ทำงานเชื่อมโยงกับกลุ่มต่างๆ ใน รพ. เลยมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับฝ่ายเวชปฏิบัติ จึงใช้โครงสร้างนี้ในการทำงานใน รพ. เพราะเขามองแล้วว่า แบบตรวจของเรา หรือว่าการทำลำพัง เป็นการแยกส่วนว่าทันตฯ มาทำอย่างเดียว จึงใช้ความเป็นน้อง ประสานความช่วยเหลือจากส่วนนี้ ใช้เครือข่ายของ อสม. ชุมชน ในการทำงานด้วย
• ที่ รพ.แม่จัน เชียงราย (90 เตียง) ใช้ลักษณะของการมีชมรมผู้สูงอายุเดิม ในการทำงาน และเราเริ่มต้นคือ เวลาเริ่มอะไรก็จะเป็นบริบทของ รพ.ผมก็ต้องเริ่มจากกลุ่มของผู้นำทั้งหมด
• เราใช้การจัดในกลุ่มของตัวแทนผู้สูงอายุในชุมชนแต่ละกลุ่ม เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยน โดยผมเป็นมดตัวใหญ่ (Modulator ค่ะ) ก็คุยกับเขา ไปเรื่อยๆ และมีทีมส่งเสริม ทีมฝ่ายการพยาบาลเข้ามาร่วมคุย
• แต่โชคดีของ รพ.ผม คือ ในส่วนที่มีงานเข้ามา เช่น สายสัมพันธ์แม่ลูก โครงการที่เป็นนโยบายนี่ เราจะมีทีมหนึ่งในการมาวิเคราะห์กันว่า จะมา manage กันอย่างไร โดยไม่ได้แบ่งแยกกันว่า นี่คืองานทันตฯ นี่คืองานส่งเสริม เวลาฝ่ายไหนมีงานก็เข้ามาคุยในวง เหมือนโต๊ะ เก้าอี้ ทุกคนเป็น partner และทุกคนเป็น leader ของงานด้านนี้ มันก็คล้ายๆ ฝ่ายเวชปฏิบัติ แต่กลุ่มผมเป็นกลุ่มงานลอย เหมือนลูกโป่ง ไม่ได้ fix กับฝ่ายไหน มีเวชปฏิบัติ ทันตฯ พยาบาล รพ.ส่งเสริมสุขภาพ ก็เลยคุยกันทีเดียว ก็เลยได้งานใน part นี้
• ที่ รพ. ทำเป็นสหสาขาวิชาชีพ โดยที่ใช้งานเราเข้าไปมีบทบาทในการตรวจ ในการสร้างมากขึ้น ก็ทำไปแล้ว
• ที่ รพ.คลองลาน น้องบอกว่า รพ.มีหลายเตียง เพราะว่าอยู่มา 2 ปี ผมก็เลยตีว่าเขามี 60 เตียง ทำอิงกับเป้าหมาย ใช้เครือข่ายในการทำ แต่ลักษณะอิงอยู่กับแบบฟอร์มที่ให้ไป ทำตามนั้น แต่สุดท้ายน้องก็ได้เรียนรู้ว่า น้องได้ออกไป link ต่อกับกลุ่มอื่นๆ เพราะการที่น้องไปอยู่เป็นทันตแพทย์ใหม่ การ link การเชื่อมต่อมีความลำบาก สุดท้ายคือ เขาก็ยอมรับในแง่ของการมีสายสัมพันธ์กับกลุ่มอื่น
• ที่ สสจ. สมุทรสาคร ... เขากระตุ้น CUP ทั้งหมด แต่กระตุ้นไปแล้วมีร่วมมืออยู่ 2 ที่ ตอนนี้กำลังกระตุ้นต่อ เป็นที่ที่ 3 มี กระทุ่มแบน มองสิ่งที่เขาดีดี และให้เห็นประโยชน์ ใช้เครือข่ายเดิมของผู้สูงอายุมาทำงาน ให้เกิดประโยชน์ คล้ายกับแม่จัน ก็จับแกนนำ และมองเหมือนกันว่า เราอย่าไปแย่งงาน หรือ double งาน ให้มันเยอะขึ้น ไม่ใช่ว่า ส่งเสริมเขาจัด เราก็ไม่จัด แต่เรามา plan ก็จะทำให้เกิดงาน double ขึ้น
• ที่บ้านแพ้ว ทำได้ และทำได้อย่างเห็นผลค่อนข้างเยอะ เพราะว่ามีเงินให้ และส่วนของการดำเนินเป็นเอกชนพอสมควร เพราะว่าถ้ามีเกณฑ์ มีทิศทางที่ค่อนข้างชัดเจนก็จะไปได้ค่อนข้างชัด ตรงนี้เป็นผลดีอันหนึ่งที่เขา และผลการดำเนินงานของเขาก็คือ ส่วนใหญ่เหมือนกับว่า ทำงานก็ต้องเอาใจเข้ามาแลก และการวางแผนงาน การดำเนินงานที่ค่อนข้างชัดเจน และ
• ที่ สสจ.ลำปาง ... บอกว่าไปถามอาสาสมัคร ยกกันพึ่บพั่บเลย น่าชื่นชม เพราะว่า สมัครกันเยอะ แต่ก็เลือกใช้ในโครงสร้างที่แข็งแรง และ รพ.ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และโดยพี่บุญเกิด ตรงนี้ เขามีความภูมิใจว่ามี output ออกมาค่อนข้างชัดเจน ส่งรายงานมาแล้ว ก็แสดงถึงความคืบหน้า

สิ่งหนึ่งที่กลุ่มเป็นห่วงร่วมกันมาก มาก คือ เรื่องการจัดการงบประมาณ คือ เราไม่สามารถพูดได้ถ้างบประมาณไม่ชัดเจน ว่าโครงการนี้จะเดินได้อย่างราบรื่น ซึ่งความเห็นร่วม ซึ่งบอกว่า การจัดการงบประมาณแบบว่า วางไปเลย อย่าง area based คือ เราโดนวางจาก สปสช. จริงๆ แล้ว ถ้าเราวางเป็นนโยบายไปจากเบื้องบน ... กลุ่มก็เลยคิดว่า เราควรจะฝากขึ้นไป ว่าถ้ามีการกำหนดตัวชี้วัดลงมา ในส่วนของงบประมาณ area based ที่ชัดเจน เช่น การมี โครงการ sealant ต้องอยู่ใน area based ผู้สูงอายุต้องใส่ในนี้ และวัดตัวชี้วัดรวมกันทั้งประเทศออกมา จะทำให้ไม่ต้องไปผลักดันอีกทีในส่วนของจังหวัด ในเป้าหมายที่ชัดเจน อย่างจังหวัดผม เกิดส่งเป้าหมายผู้สูงอายุมา 1,500 คน ก็ต้องใส่ตัวชี้วัดไปในนั้น ตามเงื่อนไขมาเลยตั้งแต่แรก ... ก็ขอฝากไว้

มีคำพูดดีดี ที่พบในกลุ่มนี้ก็คือ ... "มองสิ่งที่เขามี มาทำให้เกิดประโยชน์"

รวมเรื่อง การส่งเสริมป้องกันโรคในช่องปาก 7-8 สค.51