ประมาณสัก 10 โมงกว่าๆ เราก็ถึงเมืองกระบี่ คุณหมอเสริมสุข และพี่วรรณี มารับเรา พร้อมกับโชเฟอร์ คุณทูล ขนาดเป็นวันอาทิตย์นะคะ พี่ยังให้เกียรติมารับ และพาเยี่ยมชมธรรมชาติเมืองกระบี่กันก่อนละค่ะ ... พี่ๆ พาทีมเราไปเส้นทางของอ่าวลึก

ที่นี่เป็นร้านอาหารที่พี่เสริมสุข และพี่ณี พาเราไปรับประทานกันก่อนที่จะลงไปท่องป่าโกงกาง เป็นแพกลางลำน้ำค่ะ มีเครื่องประทับเป็นเหมือนมู่ลี่หอยเป็นลวดลายสวยงาม ... พร้อมภาพบนซ้าย คือ หอยชักตีน ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ เพราะว่า เมื่อนำมาลวกด้วยน้ำร้อนแล้ว เขาก็จะโผล่ส่วนแข็งๆ ออกมา คนกินก็สามารถดึงตัวหอยออกมาได้ละค่ะ มาจิ้มกับน้ำจิ้มรสแซ่บ ก็ยิ่งอร่อยขึ้นไปอีกละ + ปูนึ่งสดๆ หวานอร่อย กับ ป ปลาย่าง เนื้อนุ่ม อร่อย จริงๆ ค่ะ

แล้วก็ลงเรือล่องป่าโกงกางกันละค่ะ ... เย็นสบายยามบ่ายๆ แดดร้อนพอควร แต่เย็นค่ะ พี่เสริมสุขบอกว่า ทีมนี้โชคดี เพราะมาถึงแล้วฝนไม่ตก สามารถไปเที่ยวที่ต่างๆ ได้ เพราะว่า กระบี่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองฝน 8 แดด 4 ก็คือ ฝนตกซะ 8 เดือน และไม่ตกซะประมา 4 เดือน ซึ่งเมื่อวาน ฝนก็ยังตกอยู่แล้ว วันนี้ ไม่ตกเลยละ เหมือนกับเป็นใจให้เรามา

ถ้ำหัวกระโหลกหรือถ้ำผีหัวโต ค่ะ เนี่ยะ ... เห็นมั๊ยคะว่า งานนี้ มีมัคคุเทศน์น้อยนำทางด้วย

เขาบอกว่า ... ถ้ำหัวกระโหลก หรือถ้ำผีหัวโต ตั้งอยู่ในเขต ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก กระบี่ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 49 กม. เป็นถ้ำขนาดใหญ่หลายคูหา ตั้งอยู่บนเขากลางน้ำ ล้อมด้วยป่าโกงกาง แต่เดิมภายในถ้ำเคยพบหัวกระโหลกมนุษย์ที่มีขนาดโตกว่าปกติ จึงมีชื่อเรียกว่า ถ้ำผีหัวโต นอกจากนี้ บนผนังถ้ำยังปรากฏภาพเขียนสี ก่อนสมัยประวัติศาสตร์ จำนวนมาก อาทิ รูปคน รูปสัตว์ ตลอดจนรูปอวัยวะต่าง ๆ และมีเปลือกหอยจำนวนมากทับถมกันอยู่ในถ้ำ การไปเที่ยวชมสามารถลงเรือที่ท่าเรือ ... ที่ท่านทั้งหลายในภาพกำลังแหงนดูอยู่ นั่นละค่ะ คือ ภาพวาด

นี่ก็คือ วิวของภายในภูเขาบางส่วนที่สามารถลอดผ่านเข้าไปได้ละค่ะ

สองท่านนี้ด้านขวานี้คือ คุณหมอเสริมสุข (ด้านบนขวา) และพี่ณี ด้านล่างขวาค่ะ ส่วนด้านซ้ายนั้น คือ คุณผู้จัดการแดง หัวหน้าทีมทัวร์ของเราวันนี้ละค่ะ

รวมเรื่อง ลปรร. กิจกรรมทันตฯ ชมรมผู้สูงอายุภาคใต้