ในการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งนี้ ท่านผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 10 นพ.ชัยพร พรหมสิงห์ นำเข้าสู่การประชุม ท่านฝากไว้ว่า
กรมอนามัยเน้นความสำคัญของการส่งเสริมสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ ได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพชมรมผู้สูงอายุอย่างน้อย 1 ชมรม ต่อ 1 อำเภอ โดย ให้ชมรมผู้สูงอายุสามารถจัดกิจกรรมเพื่อดูแลอนามัยในช่องปากด้วยตนเองของสมาชิก และพึ่งพาบริการจากภาครัฐตามความจำเป็น และมุ่งหวังให้กลุ่มผู้สูงอายุมีฟันใช้งานได้อย่างเหมาะสม
และจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความว่า "เวลาไม่มีฟัน กินอะไรก็ไม่อร่อย ทำให้ไม่มีความสุข จิตใจก็ไม่สบาย ร่างกายก็ไม่แข็งแรง" สะท้อนว่า สุขภาพกาย สุขภาพใจ สุขภาพช่องปาก ควบคู่กัน เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูแลควบคู่กันไป
ทางสาธารณสุข ได้เริ่มมีการวางแผน เริ่มแรกที่เราได้ร่วมด้วยช่วยกัน เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ในโครงการฟันเทียมพระราชทาน ซึ่งมีผลตอบรับที่ดีมาก ทำให้ผู้สูงอายุหลายท่าน พ่ออุ๊ยแม่อุ๊ยมีฟันใช้เคี้ยวอาหารได้ค่อนข้างดี
มาถึงจุดหนึ่ง มาคิดกันว่า การใส่ฟันเทียมก็เป็นเรื่องที่ดีส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ทั้งหมด สิ่งที่ดีที่สุด น่าจะเป็นการไม่มีการสูญเสียฟัน ดีกว่าที่จะไปทำฟันเทียม ก็คือ ต้องให้มีการดูแล และพบว่า ผู้สูงอายุหลายคนยังมีฟันเต็มปาก สวย ยิ้มแล้วดูดีมาก แสดงว่า หลายๆ ท่านก็มีสุขภาพช่องปากที่ดี และมีการดูแลอย่างดีมาแล้ว
ตรงนี้ จึงเกิดกิจกรรมการส่งเสริม และสนับสนุนโดยเฉพาะ ให้กับผู้สูงอายุ ซึ่ง
เราจะทำได้อย่างไร ก็คิดได้ว่า กลุ่มที่อยากให้มีพฤติกรรมทั่วไปในการดูแลสุขภาพทั้งกาย ใจ สุขภาพช่องปาก ดี ก็จะมี 3 ประเด็นใหญ่ๆ
ดังนั้น นอกจากการดูแลสุขภาพกาย ใจ แล้ว ก็ต้องรวมการดูแลในเรื่องของสุขภาพช่องปากเข้าไปด้วยอีกเรื่องหนึ่ง
มาอ่านและมาเชียร์คะ ^_^