แม่ครับ ผมไม่อยากมาโรงพยาบาล....


สวัสดีครับ

มีเรื่องเล่าที่ผมให้ความสนใจ และอยู่ในความทรงจำพอสมควรครับ

เมื่อวันพุธที่ผ่านมาได้ไปเยี่ยมผู้ป่วยรายหนึ่งที่บ้านของเขาเอง  ตอนพักเที่ยงวัน

จุดเริ่มต้นคือ

        ผู้ป่วยรายนี้ผมพบครั้งแรกเมื่อเจ้าหน้าที่  อนามัย  มาปรึกษาว่าผู้ป่วยอาการผิดปกติ  ดูเหนื่อยเเละเพลีย ซีดร่วมด้วย  ชวนมา รพ หลายวันไม่มา

    วันนั้นท่านจึงพามาด้วยตนเอง

    เราก็รับไว้รักษา สองสามวันแรกนั้นผมดูอยู่คิดว่าเขาเริ่มดีขึ้นจากที่เป็นปอดบวม  ซีด

   แต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ทราบข่าวว่าชักแล้วส่งต่อที่รพ จังหวัด

    แต่เมื่อเย็นวันอังคาร  จนท ท่านเดิมก็มาปรึกษาว่า  ผป  กลับมาเเล้ว  เพราะสมัครใจไม่รักษาต่อที่รพ จังหวัด  ตอนนี้เอาท่อช่วยหายใจออก  สภาพเมื่ออยู่ที่บ้านก็ปกติดี

  หายใจเหนื่อยเล็กน้อย  พูดคุยรู้เรื่องดี  และไม่มีไข้เเล้ว

 

   เราจึงปรึกษากันว่าจะวางแผนการดูแลต่ออย่างไร

   เพราะว่าจะเอาคนไข้มารักษา  คนไข้ก็ไม่ยอมมา

  จึงตัดสินใจที่จะมาดูอาการเเละเยี่ยม  พูดคุยกับ ปผ และญาติ

 

  เที่ยงของวันที่ 14 เราเดินทางมา ผมมากับพี่แวว  พยาบาลผู้ซึ่งรับผิดชอบงานนี้โดยตรง

  เราพบผู้ป่วยนอนอยู่ในบ้าน 

  มีผู้คน ญาติพี่น้องมากมายที่มาเฝ้าคอย ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน

  จนพี่พยาบาลออกความเห็นว่า  คนเยอะแบบนี้อาการคงไม่ดีแล้วมั้งค่ะหมอ

 

  แต่เมื่อเราเข้าไปเห็นคนไข้  เราก็พบว่าสภาพที่เราเห็นนั้น  ดีกว่าที่เราคาดคิดไว้มาก  พูดคุยรู้สึกตัวดี  ดูดน้ำ  และนมได้  มีเพียงอาการเหนื่อยเล็กน้อย

  ผมและพี่พยาบาลเข้าไปข้างๆเตียงและทักทาย

  ผมอยู่ที่หัวเตียง กำมือเขาไว้พร้อมพูดคุย  สื่อสาร

 สิ่งที่สำคัญคือการชักชวนให้ผู้ป่วยไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาล  เพราะน่าจะไหวอยู่

  แต่ก็ชวนหลายครั้ง  อธิบายอยู่หลายอย่าง  ทั้งผมเองและพี่พยาบาล และญาติๆ

  แต่เขาก็ปฏิเสธ........

 

 เหตุผลที่ไม่อยากไป  คือเขาอยากอยู่ที่บ้าน  และไม่แน่ใจว่าจะหายหรือไม่  ถ้าหากต้องจากไป  การอยู่ที่บ้านในวาระสุดท้ายคือสิ่งที่เขาต้องการ

  และเขาบอกกับทีมเรา  และญาติๆว่า  ถ้าเขาสามารถอยู่ได้จนถึงวันจันทร์นี้  เขาก็จะมา รพ

 ทำให้ผมเองก็  สุดท้ายเคารพในการตัดสินใจของเขา

 เเต่เมื่อดูแนวโน้มแล้ว  อาจจะไม่ไหว

  กระบวนการสื่อสาร  ดูแล  ในวาระนั้นๆจึงเป็นกระบวนการของการดูแลในวาระสุดท้ายของชีวิต

  ด้วยความเคารพในการตัดสินใจของผู้ป่วย  แม้ว่าจะขัดกับความรู้สึก  และความต้องการของเราบ้าง

  แต่ก็ต้องยอม

 

  ผมรวบรวมสติพอสมควร  เพื่อพูดคุยเรื่องราว  ประเด็นสำคัญๆ  ในการดูแลวาระแห่งการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญของชีวิตนี้

   เรื่องของวาระจิตสุดท้าย  เรื่องการมา และการไป  ความสำคัญของการดูแล  และหล่อเลี้ยงวาระสุดท้าย

 

   เริ่มต้นที่จิตที่เป็นกุศลตลอดเวลา   การผ่อนคลายและยึดเหนี่ยวกับเรื่องใด

    เราชวนเขาระลึกถึงสิ่งที่เป็นกุศลสูงสุด  เขาตอบว่าสิ่งที่ประทับใจ  คือการบวชภาคฤดูร้อน  และการช่วยแม่ทำงาน

    ผมเชื้อเชิญเขาร่วมกันแผ่เมตตา  พร้อมๆกัน  และแผ่ส่วนบุญให้กับคนที่เราอาจจะติดค้าง

   แนะนำญาติว่ารู้จัก  หรือนับถือศรัทธาพระรูปใด  หรือมีญาติเป็นบรรพชิตหรือไม่ อยากให้พามาเยี่ยม

  

  ในวิถีแห่งการสื่อสารถึงเรื่องราว  ความจำเป็นกิจที่ต้องกระทำช่วงท้ายๆนี้  เป็นทักษะที่ผมก็ได้เรียนรู้

  จากการลองปฏิบัติ  

  เราจากเขามาด้วยความเข้าใจ  ด้วยความสบายใจทั้งสามฝ่าย  ผู้ป่วย  ญาติ  ทีมดูแล

 

  สิ่งที่เราทำได้คือ  จนท อนามัยจะ On IV  ที่บ้าน  มีญาติคนหนึ่งมีถึง O2  จะเอามาให้ผู้ป่วย

   แม้การดูแล  เล็กๆน้อยๆนี้จะไม่อาจจะช่วยให้เขาหายได้  แต่ก็ให้เขาสามารถเปลี่ยนผ่านไป ได้อย่างสันติสุข  อบอุ่นด้วยการดูแลของญาติๆ

 วันนี้ 16  มค  ผมติดตาม  ถามอาการเพิ่ม  ทราบว่าเขาดีขึ้นกว่าเดิมมาก

  ขอให้เขาดีขึ้นจนถึงวันจันทร์  ตามที่เราตกลงกันไว้

คำสำคัญ (Tags): #eol
หมายเลขบันทึก: 235663เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2009 22:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 04:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

อ่านแล้วเศร้ากับการเจ็บป่วยของผู้คนบนโลกนี้

สิ่งหนึ่งที่ดีใจ

คือสวดภาวนาทุกเช้าให้กับทุกคนบนโลกนี้ ก่อนทำงาน

และสวดภาวนาให้กับผู้ที่เจ็บป่วยทุกคน

ขอให้เขาหายจากอาการเจ็บป่วยโดยเร็ววัน

ทำได้เพียงเท่านี้ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้วชื่นชมและรู้สึกดีใจแทน ผป. ค่ะ ที่ได้รับการดูแลจากคุณหมอและทีมพยาบาลที่มีคุณภาพ

แง่มุม...ของการเคารพการตัดสินใจของผป. ยอมรับในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และช่วยสนับสนุนทางเลือกที่ผป.ตัดสินใจเลือก เป็นประเด็นที่น่านับถือมากค่ะ

และสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าหมอ พยาบาล ทีมผู้ดูแลไม่มีความเข้าใจและยอมรับในวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อของผป.

ส่งกำลังใจให้เขาผ่าน...ไปได้จนถึงวันจันทร์ นะคะ

(^__^)

สวัสดีครับ ทุกคนล้วนตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มความสามารถ แต่ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่ทำให้ไม่บรรลุตามหวัง และปัจจัยเหล่านั้นบางครั้งเราต้องยอมจำนนด้วยเหตุผลนานัปประการ ขอให้กำลังใจคนทำงานครับ

ใกล้ถึงวาระสุดท้ายของชีวิตผู้ป่วยส่วนใหญ่เลือกอยู่ในที่ที่เขาคุ้นเคยคือบ้านค่ะ..

ถ้าเป็นดิฉันก็คงเลือกที่จะอยู่บ้านค่ะ..

เป็นกำลังใจให้คนทำงานค่ะ

สวัสดีค่ะ

* แวะมาเป็รกำลังใจให้คุณหมอแผ้ป่วยค่ะ

* จะรอคอยพบเขาในวันจันทร์ตามที่คาดหวังค่ะ

 *สุขกายสุขใจนะคะ

ชื่นชมกับหลักจิตวิทยาของคุณหมอ และทีมงาน ที่พยายามอย่างเต็มที่ และชื่นชมคุณหมอเคารพการตัดสินใจของคนไข้ ทั้งพึ่งพระศาสนามาช่วยเยียวยาภายในจิตใจ ขอภาวนาให้คนไข้ของคุรหมอหายวันหายคืน...อีก 2 วันจะถึงวันจันทร์แล้ว...สาธุ

สวัสดีครับอาจารย์ ณัชชา Natcha เฉลิมกลาง Chalermklang

ยินดีท่รู้จักครับ

ขอบคุณที่ร่วมแบ่งปันครับ

สวัสดีครับอาจารย์P  คนไม่มีราก

ขอบคุณนะครับ

 

แง่มุม...ของการเคารพการตัดสินใจของผป. ยอมรับในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และช่วยสนับสนุนทางเลือกที่ผป.ตัดสินใจเลือก เป็นประเด็นที่น่านับถือมากค่ะ

ขอบคุณครับP Col.boonyarit

ขอบคุณครับอาจารย์P  คุณลดา   ได้รับกำลังใจแล้วครับ

การตายท่ามกลางญาติที่อบอุ่น น่าจะเป็นการตายอย่างสมศักดิ์ศรีนะคะคุณหมอ

สวัสดีค่ะ

- ตามมาเป็นกำลังใจให้คนทำงานทุกท่านค่ะ

- ชื่นชมกับการทำงานด้วยหัวใจบริการ

- การทำให้ผู้ป่วยตายอย่างสมศักดิ์ศรี นั้นน่าชื่นชมยิ่งค่ะ

- ระลึกถึงเสมอค่ะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท