คุณวิมล โรมา ค่ะ ยกตัวอย่างการเขียนแผน KM ในโครงการในระดับ Agenda base
เป็นตัวอย่างการทำงานของสำนักส่งเสริม ที่ทำ KM ในการพัฒนาเด็ก
เกิดจากมีการทำเรื่องพัฒนาการเด็กมาหลายปีแล้ว ซึ่งปัญหายังคงอยู่ เรามาทบทวนสถานการณ์ปัญหาว่า ขณะนี้พัฒนาการเด็กมีปัญหาอะไร เราก็พบว่า เด็กมี IQ ต่ำลง พัฒนาการล่าช้ากว่ากำหนด และเยอะทุกด้าน ปรากฏว่า สาเหตุหลักเกิดจากการเลี้ยงดู จากเรื่องอาหาร การขาดสารอาหารไอโอดีน และจากการส่งเสริมพัฒนาการไม่เหมาะสม
ความจริง มีหลายปัจจัยที่จะส่งเสริมพัฒนาเด็ก สิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้มาได้อย่างไร ก็คือ Knowledge vision ที่กำหนด ทำให้เกิดการมาประชุมร่วมกัน เชิญผู้เกี่ยวข้องในการทำงานด้านพัฒนาการเด็กมา ตั้งแต่ กรมอนามัย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษา สภาการศึกษา อาจารย์มหาวิทยาลัย ทั้งหมดที่ทำเกี่ยวกับเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ คุณหมอสมศักดิ์ให้ review ข้อมูลผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมเอกชน ก็ได้ mapping หาคนทำงานจริง ที่มีประสบการณ์ตรงมา share และมาตั้ง vision ร่วมกัน ได้ vision ว่า "เด็กมีพัฒนาการสมบูรณ์แข็งแรง ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา"
วิธีการ share เพื่อการ ลปรร. ก็คือ
สิ่งต่างๆ เหล่านั้น เป็นสิ่งที่เราได้จาก explicit และ tacit knowledge จากผู้เชี่ยวชาญสำนักการจัดการความรู้ กับสำนักส่งเสริม กำลังทำกันตรงนี้ เป็นกระบวนการ sharing และได้มาซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้
ขณะเดียวกัน เรา share วิธีการด้วยว่า ถ้าเราทำแค่นี้จะได้หรือไม่ กรมอนามัยทำฝ่ายเดียวคงไม่ไหว จึงจะทำเป็นวงใหญ่ ให้เป็นนโยบายระดับประเทศต่อไป
ตอนนี้มี 3 ประเด็นในแผน มี Knowledge 3 ตัว ที่กำลังขับเคลื่อน และมีกลุ่มเป้าหมาย เราต้องหา setting ลง ได้แก่ ศูนย์เด็กเล็กซึ่งเป็นแหล่งรวม ทั้งแกนนำชุมชน อสม. อบต. และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ได้ลองทบทวนสิ่งที่ได้ทำมา และลองทำดู ขณะนี้ทำยังไม่เสร็จ เพราะวางแผนไว้ 2 ปี และแผนนี้เป็นแผนปีที่ 1 และแผนนี้เมื่อใช้เสร็จ ก็ต้องตามไปดูต่อไป