การจัดการความรู้ของสำนักงาน
การจัดการความรู้ในสำนักงานเริ่มเข้ามาเนื่องจาก ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ในหมวดที่ 3 มาตรา 11 “ส่วนราชการมีหน้าที่พัฒนาความรู้ในส่วนราชการ เพื่อให้มีลักษณะเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ โดยต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสารและสามารถประมวลผลความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วและเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งต้องส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถ สร้างวิสัยทัศน์และปรับเปลี่ยนทัศนคติของข้าราชการในสังกัดให้เป็นบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและมีการเรียนรู้ร่วมกันทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการให้สอดคล้องกับการบริหารราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามพระราชกฤษฎีกานี้”
จากนั้นก็มีตัวชี้วัด 4.3 ระดับความสำเร็จของการค้นหาความรู้ใหม่ของหน่วยงานด้วยการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยเน้นกิจกรรมชุมชนนักปฏิบัติและมีเกณฑ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมโดยบุคลากรของหน่วยงานเข้าร่วมกิจกรรมตามแผนจัดการความรู้ทุกกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 นอกจากนี้ยังต้องมีการบันทึกและเผยแพร่บนเว็บไซด์อีกด้วย
กิจกรรมชุมชนนักปฏิบัติ
การที่จะทำให้กิจกรรมชุมชนนักปฏิบัติเกิดโดยให้บุคลากรของหน่วยงานเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 นั้น ค่อนข้างยากในสำนักงานที่เจ้าหน้าที่มักต้องออกท้องที่อยู่บ่อยๆ จริงอยู่แม้หากไม่นับผู้ติดราชการก็ยังสามารถผ่านตัวชี้วัดได้ แต่เจ้าหน้าที่บางท่านจะไม่ได้มีโอกาสสัมผัสกิจกรรม จึงทำให้เกิดแนวคิดจัดกิจกรรมชุมชนนักปฏิบัติตามกลุ่มงานเพื่อให้การพูดคุยได้คุยในเรื่องที่สนใจตรงกัน และสามารถพูดคุยได้ตามเวลาที่แต่ละชุมชนว่างตรงกัน โดยคิดว่าขอเพียงให้กลุ่มงานเดียวกันหันหน้ามาพูดคุยเรื่องงานที่ตัวเองทำก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ส่วนการจัดการให้มีการพูดคุยกันอย่างเป็นธรรมชาติและต่อเนื่องนั้นคงต้องใช้เวลาสักระยะ
ทีมงาน
ในการดำเนินการก็ต้องมีผู้ช่วยเป็นคุณอำนวยในแต่ละชุมชนเพื่อให้มีการติดตามเรื่องการดำเนินกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่องและมีผู้ทำการบันทึกองค์ความรู้เพื่อเผยแพร่ในเว็บไซด์ จึงจัดทำคำสั่ง KM Team ของสำนักงานโดยมีตัวแทนจากแต่ละกลุ่ม/ฝ่ายเป็นทีมงาน
Gotoknow.org
จากการได้เข้าร่วมในชุมชน gotoknow พบว่าเป็นชุมชนที่นอกจากเราจะเข้าไปเรียนรู้เรื่องของการจัดการความรู้แล้ว ยังทำให้เกิดความรู้สึกอยากแลกเปลี่ยน และนำเอาสิ่งที่ตัวเองรู้เข้าไปนำเสนอด้วย จึงนำเอามาใช้ร่วมในกิจกรรมชุมชนนักปฏิบัติของสำนักงาน โดยให้แต่ละชุมชนเปิดบล็อกของตัวเอง และให้บันทึกการพูดคุย หรือการสรุปองค์ความรู้ไว้ในบล็อกของแต่ละชุมชนเพื่อเผยแพร่ให้ผู้อื่นเข้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้
การให้รางวัล
คิดว่าการชิงรางวัลจะช่วยกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่หันมาอ่านบันทึกในบล็อกเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันมากขึ้นและเห็นประโยชน์ในการบันทึก จึงได้จัดทำคำถามชิงรางวัลโดยให้เจ้าหน้าที่ต้องมาอ่านในบล็อกเพื่อตอบคำถาม นอกจากนี้ยังได้จัดทำรางวัลชุมชนนักปฏิบัติดีเด่นเพื่อกระตุ้นกิจกรรมนี้ให้ต่อเนื่องและมีคุณภาพ โดยทำคำสั่งคณะกรรมการตัดสินโดยใช้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภายนอกและเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน เพื่อทำการประเมินจากบันทึกในบล็อก นอกจากนี้ในการมอบรางวัลแต่ละครั้งจะกระทำในการประชุมประจำเดือน เพื่อเป็นการเผยแพร่กิจกรรมและย้ำให้เจ้าหน้าที่หันมาสนใจในเรื่องการจัดกิจกรรมชุมชนนักปฏิบัติ
ผล
- การมีทีมงานที่เป็นตัวแทนจากกลุ่ม/ฝ่าย ทำให้สามารถติดตามกิจกรรมได้ และมีผู้รับผิดชอบในกิจกรรมชุมชนนักปฏิบัติของแต่ละชุมชน
- การบันทึกในบล็อกต้องใช้เวลาเรียนรู้วิธีการ โดยเฉพาะเรื่องการแทรกรูปภาพ ซึ่งทำให้บล็อกมีความน่าสนใจขึ้น แต่ KM Team ของทุกชุมชนก็สามารถเรียนรู้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว บางชุมชนเริ่มมีการเขียนบล็อกเพิ่ม บางชุมชนพูดคุยกันมากกว่าที่กำหนดตามแผน ซึ่งนับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี
- การให้รางวัลแต่ละครั้งเป็นการกระตุ้นที่ดี มีผู้มาสอบถามวันเวลาหมดกำหนดส่งคำตอบ มีการเข้าไปอ่านบล็อกของแต่ละชุมชนมากขึ้น แต่ผู้สนใจเรื่องการชิงรางวัลเป็นผู้หญิงทั้งหมด
ขอบแสดงความยินดีกับทีมงานที่ได้รางวัล อยากให้มาเขียนบ่อยๆ จะได้ช่วยกันทักทายสมาชิกจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 14 ครับ
เห็นด้วยที่เจ้าหน้าที่ผู้หญิงของ สสภ.14 ให้ความสำคัญกับการร่วมแสดงความคิดเห็น หรือร่วมกิจกรรมต่าง ๆ มากกว่าผู้ชาย หรือว่าจริง ๆ ผู้ชายเป็นประเภทรักนะแต่ไม่แสดงออก อิอิ