สังเกต...ไหมค่ะว่า...การจบวุฒิปริญญาตรี โท เอก...เป็นเพียงส่วนที่เราได้รับความรู้มาใน ณ ระดับหนึ่ง และนำมาเพื่อเป็นฐานในการบรรจุเข้าทำงาน เท่านั้น... แต่สำหรับสิ่งที่คุณจะต้องหาและเพิ่มเติมเอง นั่นคือ ประสบการณ์ที่สะสมในตัวของคุณเอง...ไงค่ะ... ที่คุณจะต้องนำประสบการณ์นั้นมาเพื่อพัฒนาให้งานในทางที่จะเพิ่มประสิทธิภาพค่ะ... เพราะตามที่ รัฐ กำหนดในแต่ละช่วงปีนั้น...ก็คือ...ประสบการณ์ที่คุณจะต้องเป็นผู้สะสมขึ้น...เปรียบเสมือน...เส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพของคุณและความมั่นคงที่คุณจะต้องสร้างขึ้นมาเองเพื่อปรับความรู้ความสามารถจากเดิมในระดับปฏิบัติงาน ระดับปฏิบัติการ ให้สูงขึ้นเป็นระดับชำนาญการ ระดับชำนาญการพิเศษและระดับเชี่ยวชาญค่ะ...
สวัสดีค่ะ ผ.อ.บุษยมาศ
มาอ่านเพื่อรู้ไว้ใช่ว่า...ก่อนหน้านี้ติดตามอ่านมาตลอดแต่อาจจะไม่มีคห.
มาเพื่อไม่ให้เหงาค่ะ..ขอบคุณสำหรับบันทึกค่ะ
นึกถึงค่ะ
อย่าเอาพวกเราไปเปรียบเทียบกับข้าราชการเลยมันคนละระดับกัน...ข้าราชการเขาดูถูกพวกเรามาก...อย่าว่าเเต่ข้าราชการเลย..ลูกจ้างประจำ ยังดูถูกพวกเราเลย...เคยได้ยินมากับตัวเองเลยว่า..พนักงานราชการคือลูกจ้างชั่วคราวนั้นเเหละ..เปลียนชื่อให้ดูดีเท่านั้นเอง...มันน่าน้อยใจไหมละอาจารย์...ไม่ใช้ว่าหนูโดนคนเดียว เพื่อนก็เคยลักษณะเดียวกัน..เดียวนี้เริ่มทำใจเเล้ว กว่าจะเปลียนเเปลงคงอีก หลายสิบๆปีเหมือนที่อาจารย์เคยบอก ไม่ใช้ว่าจะเปลียนเเปลงง่ายๆ เหมือนข้าราชการกว่าจะพัฒนามาถึงจุดนี้ใช้เวลามาสิบๆปี..รุ่นเก่าๆคงไม่มีหวังเเต่อย่างน้อยรุ่นใหม่คงดีขึ้น...ขอบคุณอาจารย์มากที่ให้ได้เเสดงความคิดเห็น
ตอบ...คุณน้อย...
แต่คุณต้องยอมรับอย่างหนึ่งนะค่ะ...ความจริงก็คือความจริง...ที่นำมาให้อ่านนี้แสดงถึงการเทียบเพื่อกระทรวงการคลังจะได้สะดวกในการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางค่ะ...ที่พวกเขาดูถูกก็ให้เขาดูถูกไปก่อนค่ะ...อาจเป็นเพราะเขาไม่เข้าใจ เขาไม่ทราบว่าความเป็นมาคืออะไร...สักวันเขาทราบ เขารู้ เขาก็จะอายในความคิดของเขาเองค่ะ...ใครจะดูถูกอย่างไรก็ช่าง...แต่เราได้ทำหน้าที่ความรับผิดชอบของเราให้ดีที่สุดก็แล้วกันค่ะ...พี่จะไม่ขอพูดถึงความคิดของแบบเก่า ๆ นะค่ะ...ต่อไปนี้ คงจะได้เห็นอะไรเปลี่ยนแปลงในระบบราชการอีกมากค่ะ...เพราะพี่เข้าร่วมประชุมกับ สำนักงาน ก.พ. ก.พ.ร. ตลอดจะทราบดีค่ะ...แต่ช่วงนี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนแปลงค่ะ...อีกอย่างพวกเราพนักงานราชการเพิ่งจะเริ่มมี...พวกข้าราชการเดิม ๆ ก็ไม่เข้าใจในระบบนี้เท่าไหร่ก็ปล่อยเขาไปค่ะ...สักวันเขาเข้าใจ เขาก็จะละอายใจไปเอง...เดี๋ยวเขาก็จะรู้เองค่ะว่ารัฐต้องให้เขาพัฒนาตนเองอย่างไรบ้าง...สำหรับพวกเราพนักงานราชการ ก็ขอให้ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็แล้วกัน...ยิ่งทำงานในหน้าที่ดีที่สุด...จะแสดงถึงความมีคุณภาพของเรามากเท่านั้นค่ะ...หมั่นศึกษาหาความรู้ด้วยนะค่ะ...เพราะโลกปัจจุบันเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิตค่ะ...ก็เห็นระบบที่รัฐจัดไว้ให้ early ไหมละค่ะ...ให้ไว้เพื่อพวกนี้แหละค่ะ...ถ้าท่านใดทำงานอย่างมีคุณภาพ สู้กับระบบ IT ได้ เขาก็จะไม่ early กันหรอกค่ะ...อย่าลืมว่าเราอยู่ในสังคม...แต่ละคนย่อมมีมุมมองแตกต่างกันค่ะ...ข้าราชการบางคนอาจไม่เป็นแบบที่คุณว่า...แต่คุณอาจไปพบเจอกับข้าราชการที่เป็นแบบที่คุณบอก...ก็ขอบอกว่าอย่าสนใจ...ให้ทำตามที่พี่บอก เราถึงจะทำงานได้อย่างเป็นสุขค่ะ...ถ้าใส่ใจจะไม่สนุกกับการทำงานนะค่ะ...ขอให้นึกถึงว่า ยังมีสิ่งที่เราต้องทำให้บ้านเมืองอีกเยอะค่ะ...แค่นี้...คุณต้องอดทนนะค่ะ...เป็นกำลังใจให้ค่ะ...สู้ สู้ งานนะค่ะ...
พนักงานราชการบ้างหน่วยงาน ก็โดยอำนาจผู้บริหารให้ทำผิดเพราะพนักงานราชการกลัวหรือโดนขู่จะไม่จ้างต่อ โดยเฉพาะเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการเงินต่างๆ เช่นการซื้ออาหารเลี้ยงนักเรียนแล้วเบิกเงินจัดซื้ออาหารเกินจำนวนนักเรียนที่มีตัวตนจริง(มีแต่รายชื่อเรียกว่าเด็กผี)ถ้าพนักงานราชการคนใดไม่เซ็นชื่อเบิกเงินเกินก็จะเลิกจ้างโดยผู้บริหารชั่วๆ นี้ละข้อเสียของพนักงานราชการ
น่าสงสาร ต้นสังกัดก็ไม่มาตรวจสอบ แถมเห็นดีเห็นชอบไปด้วย
ตอบ...คุณ kkk...
นี่คือปัญหาใหญ่ของการบริหารกิจบ้านเมืองที่ดีไงค่ะ...ต่อให้ใช้หลักธรรมาภิบาล...ขึ้นอยู่กับจิตใต้สำนึกของผู้บริหารแต่ละคนค่ะ...น่าเห็นใจนะค่ะ...แต่เราก็ต้องระวังตัวด้วยนะค่ะ...จะเซ็นต์อะไรดูด้วยว่าทุกข์จะมาถึงเราหรือเปล่า...ถ้าเขาจะให้เราเซ็นต์ให้เขาทำบันทึกสั่งการมาค่ะ...เป็นห่วงนะค่ะ...เห็นไหมค่ะ...เราต้องการทำดี แต่ผู้บริหารให้ทำอีกอย่างหนึ่ง...นี่แหละประเทศไทย...ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดีค่ะ...
สวัสดีค่ะ อาจารย์บุษยมาศ
ดิฉันก็เป็นพนักงานราชการอีกคนหนึ่งค่ะ ที่ได้ทำงานสอนมาเป้นเวลา 10 ปีแล้ว ก็ได้แต่รอคอยความหวังว่าต้องมีสักวันที่ทางผู้ใหญ่ในกระทรวงจะมองเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานของเราที่มุ่งมั่นกับเด็กนักเรียน เคยดีใจหลายครั้งเมื่อทาง สพท.แจ้งว่าจะมีการสอบบรรจุครูผู้ช่วยจาก ครูอัตราจ้าง/พนักงานราชการในเขต ที่ทำงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี พอไปสอบก็ยิ่งดีใจมากและขอบคุณงานที่เราทำมา (เพราะข้อสอบที่ออกตรงตามงานที่เราปฏิมาบัติทั้งนั้น) พอประกาศผลสอบกลับไม่มีชื่อเรา ครั้งแล้วครั้งเล่า ปัจจุบันก็มาถึงบางอ้อแล้วว่าการที่ไม่มีชื่อเรา เพราะเราไม่มีเส้น และที่สำคัญไม่มีเงินด้วย สอบถามคนที่เขาได้บรรจุก็บอกเหมือนกันว่า ไม่ตำกว่า 300,000 บาท
ในฐานะที่อาจารย์ได้เข้าประชุมร่วมกับผู้ใหญ่ในกระทรวงอยุ่บ่อยๆ จึงอยากจะขอฝากความหวังไว้กับอาจารย์ช่วยเป็นกระบอกเสียงแทนพวกดิฉันด้วย เพราะไม่รู้จะพึ่งใครได้จริงๆ ไปหาใครก็เจอตอ ใหญ่ๆทั้งนั้น ขอบคุณล่วงหน้าคะ...
ตอบ...คุณชลพรรษ...
บางครั้ง...มันเป็นเรื่องที่เหมือนกับจุกอยู่ที่ลำคอค่ะ...พูดไม่ออก บอกไม่ถูก...ก็อย่างว่าขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของการเป็นผู้บริหารค่ะ...จริง ๆ แล้ว เรื่องแบบนี้มาตั้งนานแล้วค่ะ...เพียงแต่เราหาหลักฐานไม่ได้ เวลาเขาทำเขาไม่แสดงหลักฐาน แต่เราก็ไม่สามารถไประบุว่าเขาได้ค่ะ...ได้แต่ทำใจ ได้แต่นึกคิดว่า ถ้าเราเป็นผู้บริหาร เราคงไม่ทำแบบนั้นแน่ ๆ...แต่การว่ากล่าวใครเขา ถ้าเราไม่มีหลักฐานเราก็ไปว่าเขาไม่ได้นะค่ะ...ก็เป็นกำลังใจให้นะค่ะว่าสักวันหนึ่งคงเป็นวันของเรา...แต่ถ้าไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรค่ะ เป็นกำลังใจให้...ใช่ว่า การเป็นพนักงานราชการ จะขี้เหร่...เพียงแต่รัฐปรับเปลี่ยนรูปแบบในการจ้างใหม่เป็นตามสัญญาจ้าง...ก็ขอให้เราภูมิใจในสิ่งที่เราเป็นนะค่ะ...ตั้งใจทำความดีเท่านั้น...(พอใจในสิ่งที่เรามี เราเป็นค่ะ จะได้สบายใจ) ถ้าเราไม่ได้เป็นข้าราชการ ก็ถือว่าดวง วาสนา ของเราเป็นได้แค่นี้ จะได้สยายใจมากขึ้น อย่าคิดมาก...ตั้งใจทำงานดีกว่า...คิดว่าในอนาคตคงจะดีขึ้นค่ะ...ดีกว่าเราไม่มีงานทำ (ให้คิดเปรียบเทียบกับสิ่งที่ต่ำกว่าเรา อย่าไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่อยู่สูงกว่าเรา จะทำให้ลำบากใจและไม่มีความสุขค่ะ)...สำหรับปัญหาเรื่องการมีเส้น...เสมือนเป็นปัญหาโลกแตกค่ะ...แก้เท่าไรก็แก้ไม่ได้...พอมีเรื่อง ก็ไม่มีหลักฐาน...มันเป็นการยากจริง ๆ ค่ะ...เรื่องแบบนี้มีมา เรียกว่าตั้งแต่รุ่นสมัยก่อนแล้วค่ะ...แก้ยากจริง ๆ...เรียกว่า "ขึ้นอยู่กับจิตใต้สำนึก" ของคน ๆ นั้น ค่ะ...เอาเป็นว่า เรามีหน้าที่สอบ เราก็ไปสอบ ทำให้ดีที่สุด...สักวันคงเป็นของเรา...ถ้าเขามีเส้น ก็ถือว่าคนที่ให้ + คนที่รับ เขาก็ได้รับผลกรรมของเขาไปก็แล้วกัน...เป็นกำลังใจให้นะค่ะ...อย่าท้อถอย...
เรียน อาจารย์บุษยมาศครับ
การเทียบตำแหน่งพนักงานราชการกับข้าราชการทำไมระยะเวลาการรับราชการของพนักงานราชการเมื่อเทียบกับข้าราชการค่อนข้างนานมากเลยครับ
ผมขอยกตัวอย่างกรณีของผมนะครับ ระบบราชการของประเทศเราจะเป็นแบบมีหน่วยงานราชการส่วนกลางกับส่วนภูมิภาค หน่วยงานที่ผมสังกัดอยู่เป็นราชการส่วนกลางที่มีสำนักงานปฏิบัติงานในส่วนภูมิภาค ในส่วนของผมเป็นพนักงานราชการประเภททั่วไป ชื่อตำแหน่งที่ผมทำจะเหมือนชื่อตำแหน่งของข้าราชการ แต่งานที่ผมทำจะเป็นงานแบบเดียวกับข้าราชการที่ปฏิบัติงานอยู่ที่ส่วนกลาง (กรม) ซึ่งผมได้บรรจุเป็นพนักงานราชการเมื่อปีต้นปีงบประมาณ 2549 แต่มีพี่ๆ ที่เป็นข้าราชการ โดยเริ่มรับราชการประมาณ ปี 2546 ปัจจุบัน 2553 จากเดิมซี 3 (ปฏิบัติการ) ปัจจุบัน ซี 6 (ชำนาญการ) รวมระยะเวลารับราชการก็ประมาณ 7 ปี แต่เมื่อดูการเทียบตำแหน่งของกรมบัญชีกลางแล้วผมต้องรับราชการ 10 ปี ถึงจะเทียบได้กับข้าราชการระดับชำนาญการ
อยากให้ทางกรมบัญชีกลางช่วยทบทวนเรื่องระยะเวลาการรับราชการครับ
ตอบ...คุณชาย...
ที่คุณบอกว่าเทียบประสบการณ์กับข้าราชการ ว่าข้าราชการใช้ประสบการณ์ใช้เวลาน้อยกว่าพนักงานราชการนั้น...คือ พี่อยากจะบอกว่า...ในช่วงซี 3 ขึ้นเป็นซี 4 (ในระบบเดิมนั้น) ช่วงนี้ถ้าเป็นระบบเดิม เป็นข้าราชการซี 3 ได้ครบ 2 ปี เขาจะสามารถกระโดดข้ามเป็นซี 4 ได้ค่ะ เพราะมีกระบวนการปรับซี (กฎหมายให้ข้าราชการพลเรือนสามารถทำได้อยู่ค่ะ เพราะพี่ตอนบรรจุใหม่ ซี 2 ได้ครบ 2 ปี พี่ก็สามารถกระโดดปรับพอกเป็นซี 3 ได้ค่ะ...แล้วพอได้ 2 ขั้นอีก เงินเดือนเขาก็จะอัพขึ้นอีก...เรียกว่า มีกระบวนการดำเนินการให้ระดับสูงขึ้นได้ สำหรับข้าราชการ แต่พนักงานราชการเท่าที่ศึกษาไม่มีค่ะ...เพราะว่าเป็นสัญญาจ้างไงค่ะ...ที่คุณบอกว่าพี่ข้าราชการเขาใช้เวลาแค่ 7 ปี นั้น อาจเป็นเพราะว่าในช่วงที่เขารับราชการ เขาได้ปรับพอกซีดังกล่าว + ได้ 2 ขั้นหลายครั้ง จึงทำให้ฐานเงินเดือนเขาถึงขั้นต่ำระดับ 6 (หรืออาจมีปัจจัยอื่นซึ่งข้าราชการเขามีค่ะ ถ้าเป็นข้าราชการด้วยเขาจะทราบค่ะ...) โดยไม่จำเป็นต้องใช้ระยะเวลามานับ แต่ถ้าบางคนไม่ได้ 2 ขั้น บ่อยครั้ง เขาก็จะต้องเดินตามเช่นเดียวกับพนักงานราชการค่ะ...พี่ว่าเวลาไม่แตกต่างกันนะค่ะ ของที่ ม. พี่ เทียบแล้วก็เท่ากับที่กรมบัญชีกลางออกกฎหมายเรื่องการเทียบตำแหน่งมานี่แหล่ะค่ะ...ไม่ได้เอาเปรียบใครหรอกค่ะ...พี่ยืนยัน เพราะอยู่ตรงงานบุคคลมานานค่ะ...จึงทราบที่มาที่ไป...การที่รัฐจะเทียบตำแหน่งสำหรับระยะเวลานั้น เขาต้องศึกษาระเบียบของข้าราชการด้วยค่ะ ว่า เวลาเท่าไรที่จะนำมาเทียบกันค่ะ...เพียงแต่กระบวนการเติบโตของข้าราชการไม่เหมือนกับกระบวนการของพนักงานราชการไงค่ะ...อย่าลืมว่า !...พนักงานราชการเป็นระบบสัญญาจ้างค่ะ...ก็ขอรับรองนะค่ะ...ว่าระยะเวลาไม่แตกต่างกันค่ะ...และที่มหาวิทยาลัยของพี่ ประสบการณ์ของข้าราชการก็เท่ากับพนักงานราชการค่ะ...กรมบัญชีกลางต้องดูเรื่องบุคคลจากส่วนราชการหลาย ๆ แห่งด้วยค่ะ...เพราะไม่เช่นนั้น จะทำให้เกิดการฟ้องร้องในอนาคตค่ะ...
เรียน อาจารย์บุษยมาศครับ
ผมขอขอบคุณอาจารย์ด้วยนะครับที่ได้กรุณาตอบคำถามที่ผมสงสัย ทำให้ผมได้ทราบถึงภาพกว้างรวมถึงที่มาที่ไปของการออกระเบียบการเทียบตำแหน่งของกรมบัญชีกลางครับ
ตอบ...คุณชาย...
ยินดีค่ะ...ขอบคุณค่ะ...
การปรับเงินเดือนของพนักงานราชการ(ตำแหน่งครูศรช.)จะเริ่มได้รับเงินเดือนใหม่เมื่อไรคะ หรือได้แต่ตำแหน่งคะ ช่วยตอบด้วยนะคะ
ตอบ...คุณรถเมล์...
ข้าราชการยังไม่ได้ปรับนะค่ะ...มีแต่ข่าวว่า 1 เมษายน 2554 ถ้าข้าราชการได้ปรับ ลูกจ้างประจำ + พนักงานราชการ ก็คงได้ตามมาค่ะ...
ยากทราบว่าเข็มขัดพนักงานราชการครู อาชีวศึกษา ในชุดปฏิบัติงาน สีอะไรครับ สีน้ำตาล หรือ สีดำครับกรุณาตอบด้วยครับเพราะสับสนอยู่เหมือนกันครับขอบคุณครับ
ตอบ...คุณพยุงศักดิ์...
สวัสดีค่ะ...
อยากให้อาจารย์ช่วยตอบข้อข้องใจให้หน่อยคือว่าผมเป็นครูอัตราจ้างสอนมาตั้งแต่ปี40แล้วสอนแต่บนดอยมาตลอดต่อมาไดัปรับเป็นพนักงานราชการตั้งแต่ปี47(รุุ่นแรก)แล้วสอนอยู่บนดอย(ที่เดิม)อยากจะย้ายมาสอนข้างล่างบ้างก็สมัครสอบใหม่ได้ตอนแรกเงินเดือน11,050บาทพอมาอยู่ที่ใหม่ต้องกลับมาเริมค่าตอบแทน9.530บาทใหม่ที่ผมข้องใจคือว่าเวลาการทำงานต้องมาเริ่มนับใหม่หรือเปล่าเพราะการทำงานต่อเนื่องกันมาตลอดแต่ว่ามาทำสัญญาที่โรงเรียนใหม่ต่อเท่านั้นเองสัญญาเก่าถึง 28ก.พ52สัญญาใหม่เริ่ม1มีนาคม52จนถึงปัจจุบันนี้ผมขอให้อาจารย์ช่วยหาคำตอบให้ผมด้วยนะครับผมไม่รูจะไปถามใครได้มีแต่รู้ว่าพนักงานราชการไม่มีสิทธิย้ายถ้าผมไม่ทำอย่างนี้ผมก็คงแก่ตายที่บนดอยแน่ๆ
ตอบ...ครูดอย...
คุณครูค่ะ ตอนนี้พนักงานราชการ มีการปรับเปลี่ยนเงินเดือนใหม่หรือเปล่าค่ะ จากเดิมเป็นขั้นมาเป็น เปอร์เซ็นต์แทน และไม่ได้เงินตอบแทนอื่น ขอให้คุณครูตอบข้อสงสัยด้วยน่ะค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ
ตอบ...คุณ aor...
คือ แฟนผมกำลังจะสอบเป็นพนักงานราชการพอดีเลยครับ ส่วนตัวผมทำงานเอกชนไม่มีความรู้ในวงราชการมากนัก
มีคำถามอยากถามหน่อยครับ
1. เท่าที่ผมรู้ว่าข้าราชการจะได้เงินวิทยฐานะ จากตารางข้างบนพนักงานราชการเมื่อถึงขั้นตามวิทยฐานะนั้นๆแล้ว จะได้เงินตรงนี้ด้วยไหมครับ
2. ผมเห็นข้าราชการครูกว่าจะเป็นชำนาญการพิเศษได้นี่ต้องทำผลงานกันจะเป็นจะตาย (ลูกผมโดนใบงานเละ) แถมเห็นว่าไม่ผ่านกันเยอะแยะของพนักงานราชการนี่ไหลไปได้เลยเมื่อ อายุการทำงานครบหรอครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับสำหรับคำตอบ
ตอบ คุณโกจัง
ดิฉันเป็นพนักงานราชการของรัฐ มา 7 ปี สอบบรรจุได้ปี 52 จะสามารถนับเวลารวมกับตอนเป็นพนักงานราชการขอ ชำนาญการได้ไหมคะ ตอนนี้สับสนกับข้อมูลมาก ขอบคุณค่ะ
ผมอยากให้มีการเปิดโอกาสให้ลูกจ้าง ตามสถานศึกษาต่างๆ ที่ได้มีลูกจ้างในระยะเวลาตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปได้รับโอกาศให้เป็นพนักงานราชการ จะเป็นไปได้ไหมครับ
หรือหากสถานศึกษาต่างๆ จะขอตำแห่งพนักงานราชการเพิ่มจะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้างครับ
เรียน คุณบุษยมาศ ขอถามว่าพนักงานราชการครู ทำคศ.2ได้มั๊ยครับ หมายถึงทำผลงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ ขอบคุณครับ
แปลกดีนะครับ จุดประสงค์ การจ้าง พนักงานราชการ คือ การไม่จ้างนาน ครั้ง สองครั้ง ก็คงไม่เรียกว่างาน แต่ถ้าจะอยู่ยาว เกิน 17 ปี นี่ เรียกว่า เกือบถาวรคงได้มั้งครับ
ดังนั้นน่าจะมี ระดับตำแหน่งให้เขาก้าวหน้าได้บ้างนะครับ
มีข้อสงสัยอยากถามค่ะ อาจารย์ ขออนุญาตถามนะคะ อาจารย์ คือ1.พนักงานราชการวิชาชีพเฉพาะ กับ พนักงานราชการทั่วไป ต่างกันยังไงคะ อาจารย์2. มีเพื่อนคนนึงทำงานเป็นพนักงานราชการมหาวิทยาลัย และทำการประเมินวิทยะฐานนะ อยากถามอาจารย์ว่า พนักงานราชการทั่วไปหน่วยงานอื่นสามารถประเมินวิทยะฐานะมั้ยคะ3.พนักงานราชการครูแบบทั่วไปสามารถปรับเป็นพนักงานราชการวิชาชีพเฉพาะได้มั้ยคะ เพราะ เพดานเงินเดือนต่างกัน ใช่มั้ยคะ 4.ข้อสุดท้ายนะคะ ดิฉันเป็นพนักงานราชการครูอิสลามศึกษาเป็นตำแหน่งพนักงานราชการที่ มติ ครม.อนุมัติ ให้กรณีพิเศษ ให้แก่ครู้สอนศาสนาอิสลามในโรงเรียนจองรัฐ จำนวน 880 อัตรา ถือว่าตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งพนักงานราชการทั่วไป หรือ พนักงานราชการเฉพาะ คะขอบคุณนะคะอาจารย์ที่เปิดโอกาสในการซักถาม