หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

จะเป็นกลุ่มเสี่ยงซะเองรึเปล่า


ชีวิตที่มีสตินำทาง คือ ชีวิตที่มีวัสัยทัศน์ คนทำงานด้านสุขภาพจึงพึงมีวิสัยทัศน์ในเรื่องสุขภาพของตนเองด้วย จึงจะสามารถให้ความช่วยเหลือผู้อื่นได้เต็มความสามารถ

ตั้งแต่ได้เรียนรู้การสร้าง blog จากการแนะนำของน้องโต้ง สาวสวยแห่งหน่วยเวชศาสตร์ครอบครัว  ร.พ.พุทธชินราชฯ  ก็ได้รับมิตรภาพใหม่ๆยื่นให้เพิ่มขึ้นมากมาย จึงต้องขอบคุณทีมพุทธชินราชฯที่ช่วยเปิดสังคมใหม่ให้รู้จัก

เมื่อ 5 ปีก่อนการทำงานในร.พ. ด้านการรักษาของตัวเองจะเกี่ยวข้องอยู่ 2 field คือ การรักษาเด็ก และ การวางแผนดูแลสุขภาพเจ้าหน้าที่และวางกรอบการตรวจสุขภาพประจำปี  การส่งเสริมสุขภาพที่เคยทำ ก็จะเป็นเรื่องวัคซีนและการป้องกันด้านอาชีวอนามัยในร.พ.เสียเป็นส่วนใหญ่   เพิ่ง 6 เดือนที่ผ่านมานี้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพเพื่อปรับพฤติกรรม  จากนั้นจึงเข้ามาเกี่ยวกับการจัดระบบการดูแลคนไข้เบาหวานทั้งระบบในฐานะที่ปรึกษา

ก็เป็นเรื่องยากมากสำหรับตัวเองในฐานะหมอเด็กที่ต้องมาดูแลเบาหวานผู้ใหญ่  จำได้ว่า เคยรักษา DKA ในคนไข้เด็ก ครั้งสุดท้ายเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ความรู้เรื่องเบาหวานจึงต้องเคาะสนิมมากๆๆๆๆ   เบาหวานและพฤติกรรมในเด็กก็ไม่เหมือนในผู้ใหญ่เสียด้วยซิ

การได้ทำงานเกี่ยวข้องกับการตรวจสุขภาพประจำปี ทำให้ได้คลุกคลีกับข้อมูลสุขภาพของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั้งในและนอกร.พ. ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า เรามัวแต่บอกกันให้ช่วยดูแลสุขภาพประชาชนและช่วยกันตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนลืมดูแลสุขภาพพวกเรากันเองไป   

ข้อมูลการตรวจสุขภาพประจำปี ปี 2550 ที่ได้ตรวจหมออนามัยไปแล้ว เชื่อไหมว่า  20 % ก้าวเข้าใกล้เส้นแดงของ metabolic syndrome  และ 1% มีปัญหาเครียดรุนแรงจนต้องบำบัด  

ข้อมูลนี้ ทำให้ต้องกลับมาทบทวนว่า  ความเชื่อว่า ไม่จำเป็นต้องจัดบริการปรับพฤติกรรมสุขภาพให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข  เพราะเป็นผู้ให้บริการปรับพฤติกรรมเองอยู่แล้ว  และเดิมเจ้าหน้าที่ถูกสั่งให้เป็นแบบอย่างด้านสุขภาพอยู่แล้ว ย่อมมีสุขภาพที่ดี  ควรเชื่อต่อไปหรือไม่ หรือ "คิดใหม่ เพื่อทำใหม่"  ว่า "การเป็นแบบอย่างด้านการส่งเสริมสุขภาพของบุคคลสาธารณสุข"   ควรมีนัยยะมากกว่าการทำตามคำสั่ง

หากควรเป็นนัยยะของการมีวิสัยทัศน์ต่อสุขภาพที่ตนเองพึงประสงค์และลงมือปฏิบัติเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์นั้น 

เมื่อมีวิสัยทัศน์ต่องาน ใช้การมีสตินำทางในการทำงาน  และมีวิสัยทัศน์ต่อสุขภาพของตนเองและใช้สติเตือนตนให้ปฏิบัติแล้ว ก็ต้องมีวิสัยทัศน์ต่อครอบครัวด้วย เพื่อการบริหารเวลาของชีวิตให้ลงตัว 

เมื่อนั้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคน ทุกวิชาชีพ ก็จะเป็นที่พึ่งของคนอื่นได้เต็มความสามารถ 

6 มกราคม 2550

 

 

หมายเลขบันทึก: 157825เขียนเมื่อ 6 มกราคม 2008 23:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:15 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท