เมื่อวานนี้น้องผอบแวะมาคุยเรื่องงานกับฉัน ระหว่างพักงานได้ยินเสียงบ่นแว่วๆว่า “น้องหยุดออกกำลังกายไปตั้งเดือนหนึ่งแล้ว ไม่มีเวลาเลย เมื่อสองวันก่อนไปออกกำลังกายใหม่ เหนื่อยมากเลย ไม่รู้ทำไม”
“แล้วทำไมตอนนี้ น้องผอบมีอาการเหนื่อยอีกละ มีโรคอะไรเกิดกับเธอ” ฉันนึกในใจ ก็เธอเคยเล่าว่า “น้องรำคาญตัวเองที่เป็นหวัดบ่อย ไม่สบายบ่อย และก็แพ้อากาศจนหอบด้วย พอน้องถูกส่งไปเรียนเป็นครูสอนแอโรบิก น้องจึงมีโอกาสไปออกกำลังกาย หมอเชื่อไหม ไอ้ที่เคยไม่สบายทั้งหลาย หายหมดเลย“ ด้วยความสงสัยฉันจึงถามเธอว่า “ทำไม น้องจึงหยุดออกกำลังกายไปเสียเล่า ยุ่งมากหรือไง หรือคิดว่าแข็งแรงแล้วเลยหยุด”
เธอตอบว่า “ใช่ค่ะหมอ พอมันสบายไม่ค่อยป่วย น้องชักจะขี้เกียจ ก็ออกกำลังกายติดต่อกันมาตั้ง 2 ปีแล้ว หยุดมั่งคงไม่เป็นไรมั๊ง ”
ฉันให้เธอเล่าว่า ครั้งใหม่นี้ เธอออกกำลังกายวิธีไหน นานเท่าไรถึงได้เหนื่อย เธอบอกว่า “น้องเดินที่หลังบ้าน เดินไปยกแขนชูขึ้นลงพร้อมไปด้วยตลอดเวลา เดินได้ประมาณ 15 นาทีก็เริ่มรู้สึกเหมือนเหงื่อซึม เริ่มเหนื่อยแล้ว ก็เลยเดินต่ออีกหน่อยให้ครบครึ่งชั่วโมง พอลองนับชีพจรดูได้ตั้ง 140 ครั้ง/นาที เท่ากับอัตราหัวใจเต้นสูงสุดของน้องเลย แต่ก่อนตอนออกกำลังกาย ถ้าออกแรงระดับนี้ ชีพจรน้องแค่ 100 ครั้ง/นาที เท่านั้นเอง วันนั้น อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา น้องเลยเดินขึ้นลงบันไดบ้าน 1 ชั้นต่ออีก 30 นาทีให้ได้แรงระดับแอโรบิกอย่างที่หมอเคยบอก ครบ 30 นาทีแล้วก็เดินช้าๆแล้วก็พัก ตอนพักรอตั้งนานกว่าใจที่เต้นแรงจะหาย และนานกว่าจะหายเหนื่อย ” บอกแล้วเธอก็มองหน้าฉันนิ่งนานเหมือนรีรออะไร
ลูกน้องฉันค่อนข้างรู้ใจเธอว่า ถ้ามีท่าทางอย่างนี้ น้องผอบมีอะไรในใจที่อยากถาม แต่ไม่กล้า จึงช่วยเปิดประเด็นคุยต่อว่า “ อบอยากรู้อะไร ก็พูดซิ ดีเราจะได้รู้ด้วย ” คำถามเธอ คือ “ หมอค่ะ ทำไมหนูจึงเหนื่อยเร็วกว่าเดิมนะ ในเมื่อแต่ก่อนเต้นแอโรบิกตั้งครึ่งชั่วโมง ไม่เห็นเป็นไรเลย” ฉันจึงถามว่า “อดนอนไหม กินข้าวอิ่มเกินไปไหม ” คำตอบคือ “ไม่”
ฉันจึงบอกเธอว่า “การที่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ความแข็งแรงที่เกิดหลังการออกกำลังกายจะสะสมอยู่นานไม่มีวันหมดนั้นเข้าใจผิด การออกกำลังกายให้ผลคล้ายกับการเผากระดาษ เปรียบการออกกำลังกาย คือ กระดาษ ความแข็งแรงที่เกิดจากการออกกำลังกาย คือความร้อนที่เกิดจากการเผากระดาษ เมื่อเผากระดาษ ความร้อนจะได้จากไฟและขี้เถ้าที่ยังร้อน เมื่อไฟมอด ขี้เถ้าเย็น ความร้อนก็จะหายไป ประสบการณ์ของน้องผอบ ที่เล่าก็เหมือนกับการเผากระดาษ เคยเผานาน 2 ปี หยุดเผา 2 เดือน อย่าว่าแต่ไฟเลย ขี้เถ้าก็หายไปหมดแล้ว เมื่อมาเริ่มใหม่ก็เลยเหมือนเริ่มเผากระดาษใหม่ ให้ไฟลุกจะได้ให้ความร้อน เมื่อเริ่มออกกำลังกายใหม่หัวใจก็ต้องปรับตัวใหม่ ก็เลยใจเต้นแรงไงเล่า ที่เหนื่อยก็เพราะความแข็งแรงถอยไปเหมือนเมื่อ 2 ปีก่อนไงเล่า”
น้องผอบบอกว่า “น้องไม่อยากติดวัณโรค แต่น้องขี้เกียจ คอยแก้ตัวกับตัวเองว่า เอาไว้ก่อน”
ฉันบอกเธอว่า “ถ้าจะใช้วิธีเดินออกกำลังกาย และเดินให้สนุก ให้ไปที่ blog health2you อ่านเรื่อง 8 วิธีเดินออกกำลังให้สนุกและไม่เบื่อของ อาจารย์ น.พ. วัลลภ พรเรืองวงศ์ ดู มีคำแนะนำดีอยู่ให้เลือก“
30 มกราคม 2551