สุดสัปดาห์ที่ผ่านพ้นมา ฉันได้เข้าประชุมร่วมกับทีมงานที่มีภารกิจบริการในลักษณะเป็นด่านหน้าของร.พ.จำนวน 20 หน่วยงาน โดยทุกหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมมีการบ้านที่ต้องเตรียมตัวก่อนเข้าประชุมอยู่ 3 ข้อ ข้อแรก ให้รายงานภารกิจของหน่วยงานว่ามีอะไรบ้าง ข้อที่ 2 ให้แจ้งปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติภารกิจ และข้อสุดท้าย การพัฒนาเพื่อแก้ปัญหา แต่ละหน่วยงานส่งผู้เข้าร่วมประชุมได้ 2-3 คน
การประชุมมีเจ้านายใหญ่เป็นโต้โผ ก่อนการประชุมเรากำหนดกติกาการประชุมว่า ให้พูดทีละคน หากเรื่องที่พูดออกไปมีการพาดพิงถึงหน่วยงานใด ขอให้หน่วยงานนั้นๆนิ่งฟังให้จบพร้อมบันทึกคำบอกเล่าที่ได้ยินว่าสะท้อนคำถามอะไรบ้างที่พาดพิงแล้วควรให้คำตอบ ถ้าถูกพาดพิงแล้วทนรอให้ครบรอบไม่ได้ต้องการจะตอบคำถามทันที ให้ยกมือเพื่อขอเวลาในการตอบได้
พิธีกรคอยจัดคิวเชิญตัวแทนหน่วยงานให้ได้พูดครบหน่วย บรรยากาศการประชุมราบเรียบดีกว่าที่คิด ไม่มีการพูดคุยกันเอง มีผู้พูดแค่คนเดียว ทุกคนต่างฟังการนำเสนอของเพื่อน ทำให้การประชุมดำเนินการเสร็จสิ้นลงก่อนเวลาที่กำหนด ทั้ง 20 หน่วยงานได้นำเสนอการบ้านที่เตรียมมาได้หมดทุกหน่วย
ผลการประชุมที่เกิดขึ้นให้เนื้อหาที่ทำให้มองเห็นความเคลื่อนไหวด้านคุณภาพที่เกิดขึ้นในแต่ละหน่วยบริการที่จัดเป็นบริการด่านหน้าในหลายๆมุม เช่น รู้ว่าหน่วยไหนมีการพัฒนางานด้วยตนเองไปมากน้อยแค่ไหน มีนวตกรรมเชิงระบบอะไรเกิดขึ้นในบริการด่านหน้าบ้าง เกิดขึ้นที่ไหนบ้าง จุดอ่อนในการบริหารงานของหน่วยสนับสนุนมีอะไรบ้าง จุดอ่อนในการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงาน หรือในระหว่างงานมีอะไรอยู่บ้าง
ก่อนการประชุมจะมาถึงตอนสรุป ฉันปลีกตัวจากการประชุมกระโดดขึ้นรถตู้ของร.พ.เดินทางต่อมายังหาดใหญ่เพื่อเตรียมตัวศึกษาดูงานที่ร.พ.หาดใหญ่ในวันต่อมา
ระหว่างการเดินทางน้องแป๊ดผู้มีเมตตาประสานงานจองที่พักในหาดใหญ่ไว้ให้เธอได้โทรศัพท์มาตรวจสอบว่าทีมเราเดินทางกันถึงที่ไหนแล้วพร้อมนัดหมายสถานที่ที่จะเจอกัน เป็นอันว่าเย็นนั้น ทีมฉันเดินทางถึงหาดใหญ่ทุ่มครึ่ง และได้พบพ่อครู อัยการชาวเกาะ ลุงเอก น้องอึ่งอ๊อบ น้องแป๊ด เม้ง และทีมบล็อกเกอร์ในมอ.อีกหลายคนที่ร้านอาหาร อิ่มอร่อยกันแล้วก็พากันเดินทางต่อ ไปสู่ที่พักแสนสวยที่น้องแป๊ดจองให้
แม้ว่าเวลาที่เข้าไปถึงโรงแรมจะดึกแล้วก็มิใช่อุปสรรคที่จะทำให้งดวงสนทนาแลกเปลี่ยนกันในระหว่างกลุ่มของเรา ห้องพ่อครูคือที่ซึ่งเราสุมหัวคุยกัน มีพ่อครู ฉัน เม้ง อึ่งอ๊อบ และแป๊ด เราคุยแลกเปลี่ยนกันในเรื่องของการพัฒนาคน ซึ่งสุดท้ายเรามาจบลงที่โจทย์หนึ่งว่า หากต้องเป็นกระบวนกรเพียงหนึ่งเดียวในองค์กร จะขับเคลื่อนองค์กรต่ออย่างไรดีหนอ ถ้าหากในขณะขับเคลื่อนนั้น ผู้อยู่เหนือกว่าคาดหวังผลสำเร็จในระดับสูงอย่างยิ่ง
ข้อสรุปแลกเปลี่ยนที่ได้มีว่า ให้ดำเนินการแบบสปายไวด์คูลเลอร์ค่ะ ฉันให้ความหมายไว้อย่างนี้ค่ะ
สปาย (SPY) ซุ่มซ่อนสืบเสาะหาทีมงานที่จะขยับศักยภาพให้มาทำงานด้วยกันได้
ไวด์ (WIDE) รวบรวมผ่านการมอบหมายภารกิจให้เป็นทีมงานโดยผู้ที่อยู่เหนือกว่า
คูลเลอร์ (Cooler) ทำแบบใจเย็นๆ ต่อยอดทีละน้อยๆ ระหว่างทำสรุปบทเรียนนำเรียนผู้อยู่เหนือกว่าให้ได้รับรู้ความก้าวหน้าและข้อจำกัดที่มีในการทำงานเป็นระยะๆ เพื่อเขาจะได้ให้ความสนับสนุนเมื่อเสนอขอขึ้นไป
5 ก.ย.2551
ไม่มีความเห็น