มีวันหนึ่งที่บันทึกของฉัน มีครูคนหนึ่งเข้ามาคุยด้วย แล้วทำให้เรามีเรื่องราวที่คุยกันเรื่องของเด็กต่อยาว จำได้ว่าเหตุที่ชักชวนครูมาเกิดจากฉันไปชวนครูคุยขึ้นก่อน นับแต่ได้คุยเรื่องของเด็กตลอดมา เด็กนั้นได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าที่ฉันตั้งธงบอกว่า เด็กๆนั้นเขามีใจพิสุทธิ์ มีใจใสและบริสุทธิ์อยู่ทุกคนโดยผู้ใหญ่มองไม่เห็นนั้นเป็นความจริงในโลก
ไม่ได้แวะเข้ามาบล็อกซะหลายวัน แวะเข้ามาเมื่อวานก็ได้เรื่อง ครูเขามารายงานเรื่องของเด็กๆที่ได้คุยกันเรื่อยๆ เรื่องอยู่ที่นี่นะค่ะ ใครอยากรู้ไปอ่านดูได้ ที่ฉันเขียนบันทึกนี้ขึ้นมาด้วยอยากคุยเรื่องเด็กๆนะเอง
ครูเล่าเรื่องของเด็กให้ฟังว่า ครูได้ชวนเด็กๆคุยเรื่องการเล่นพนัน อันเป็นต้นเรื่องซึ่งทำให้ครูไม่สบายใจ จนชักนำให้ฉันกับครูได้คุยกันต่อๆมาอีกหลายครั้ง
ในรายงานของครูเขานะ เขาบอกว่าคุยกับเด็กแล้วครูจึงรู้ว่า ที่ครูพิพากษาไปก่อนว่า เด็กๆนั้นจะชอบเล่นการพนัน จนติดเป็นนิสัยจนโตนั้น เป็นตัวครูที่พิพากษาไปก่อน ทั้งที่เด็กเขารู้ตัวเขาดีกว่าว่าตัวเขาทำลงไปเพราะอะไร เพียงแต่เขานั้นด้อยเดียงสา ฐานะครูจึงทำให้ห่วงลูกศิษย์ซะมากจนทำให้พิพากษาเด็กลงไป นี่คือคำที่เด็กพูดเล่าออกมาให้รู้และครูได้สรุปเขียนเล่ามาค่ะ
"ผู้ปกครองไม่ว่ากล่าว คิดว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่คิดจะไปเล่นเป็นอาชีพเมื่อเติบโตขึ้นนั้น เด็กเหล่านี้ยังไม่ได้คิด และมีความรู้ความเข้าใจว่าการเล่นการพนันเป็นอบายมุข"
คำพูดที่เด็กๆบอกครูนั้น บอกให้รู้ว่าเขาด้อยเดียงสาในบางเรื่องซึ่งเป็นเรื่องของบางสิ่งรอบตัวเขาที่ผู้ใหญ่เป็นแบบอยู่ทุกวัน มันยังบอกให้รู้อีกว่า เขาเดียงสาและรับรู้กับสิ่งที่โรงเรียนสอนด้วยหนา รวมทั้งมีเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจทำอะไรลงไป ฉันว่าคนเป็นผู้ใหญ่นั้นควรได้ไตร่ตรองและใคร่ครวญก่อนกล่าวคำพิพากษาเด็กว่าควรชื่นชมหรือต่อว่านะค่ะ
ความนี้ได้มาจากการที่เหล่าเด็กแก้วทั้ง 12 (ที่ถ้าเขาเป็นหญิงกันทุกคนฉันจะเรียกเขาว่า นางสิบสอง ) ต่างถูกครูขานชื่อมาเก็บตัวไว้ เพื่อให้ทำกิจกรรมที่ครูมอบหมาย
ในระหว่างการทำกิจกรรมที่มอบหมาย เด็กได้เรียนและรู้จักตัวตนแท้จริงของเขาแล้วเล่าออกมาให้ครูรู้ผ่านการถาม เป็นฉันแหละที่แนะให้ครูทำกิจกรรม และนี่คือคำที่เด็กๆบอกออกมา “ที่ต้องมาอยู่ในห้องภาษาอังกฤษกับครูคิมทุกวัน แทนที่จะไปทำกิจกรรมกลางวันร่วมกับเพื่อน ๆ ตอนแรกอึดอัดและเป็นกังวล กลัวครูคิมจะลงโทษ ภายหลังเมื่อให้ทุกคนค้นหาตนเอง ก็ทำให้เป็นสุขและพอใจ”
เรื่องที่เด็กเล่ามันบอกให้รู้เลยว่า เด็กเขารู้ว่ามีคำพิพากษาเกี่ยวกับตัวเขาซึ่งเป็นเรื่องที่เขาก็รู้ตัวว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องการเล่นพนัน แต่เขาไม่รู้ว่าที่เขาลองทำตามผู้ใหญ่ทำอย่างปกตินั้น เหตุใดจึงต้องคำพิพากษาจากครู ความไม่เข้าใจครูทำให้เขารู้สึกอึดอัดจนกระทั่งเกิดความกลัวด้วยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรกับตัวเอง
ผลจากกิจกรรมทำให้ครูเข้าใจเด็ก อีกทั้งครูได้เชื่อม G2K ให้เด็กเรียนรู้ เด็กกลุ่มนี้ได้สะท้อนให้ครูรู้ว่าเขานั้นคิดเป็นแม้ครูจะไม่ได้สอน ขอเพียงแต่โอกาสไม่ต้องสอนเขาก็ได้ เมื่อครูให้โอกาสผลจึงทำให้เขาตื่นรู้ว่าเขาทำอะไรได้บ้าง อีกทั้งเรื่องที่แท้ที่เขาอยากทำมันยังมี
ผลสะท้อนความคิดที่เด็กเขาเรียนรู้จากตัวเขานั้น ได้ก่อผลที่น่าชมขึ้นมาแล้วค่ะ
เขามีกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่ฉันรู้สึกว่ามันวิเศษอย่างยิ่ง เด็กทั้ง 12 คนคือผู้ทำให้เกิดขึ้น มันวิเศษพร้อมทั้งทึ่งที่เขาต่อยอดความรู้และแตกหน่อจากตัวเขาสอนตัวเองได้ดีกว่าที่ครูเอาแต่พูดพร่ำสอน เชื่อไม่เชื่อดูภาพนี่ซิค่ะ
เห็นภาพกันแล้ว มองเห็นมั๊ยว่า เด็กเขาสดใสและมีชีวิตชีวายิ่งแล้ว และเขาเรียนกันสนุกสนานอย่างยิ่ง นี่แหละค่ะวิธีเรียนที่แท้ของเด็ก
เรื่องที่นำมาเล่า บอกฉันว่านอกจากเด็กๆจะได้เรียนโดยครูไม่ต้องสอน มันยังมีความรู้หลายๆอย่างแฝงอยู่ในเรื่องราวที่เห็นในภาพ ซึ่งทำให้ฉันตั้งโจทย์กับตัวเองไว้ให้หาคำตอบ
ไหนๆก็เอ่ยตอนต้นแล้วว่า เด็กๆคือเหตุจูงใจให้มาเขียนบันทึกเรื่องนี้ขึ้น เด็กเขาเป็นครูให้ได้เรียนรู้ค่ะ จึงฝากคำถามเตือนใจไว้ตามหาคำตอบต่อไป
1. ดูภาพของเด็กๆกันแล้ว รู้สึกอย่างไรกับตัวเองบ้าง
2. เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองบ้างจากความรู้สึกในข้อ 1 ที่เกิดขึ้น
ส่วนเด็กๆนั้น หากว่าได้เข้ามาอ่าน ขอให้ถามคำถาม 2 ข้อที่ฝากไว้ด้วยนะค่ะ แล้วมาบอกคำตอบแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันหน่อยค่ะ
ชื่นใจและชื่นชม ในความรู้ที่เด็กๆช่วยให้บทเรียน ชื่นชมครูดีที่ช้าได้ จนสามารถสร้างคุณค่าทางใจที่ใหญ่หลวงให้เกิดขึ้นกับเด็กและตนเอง
ขอบคุณเด็กๆและครูค่ะ
15 มค.2552
ชีวิตนี้มีมิติ
มิควรด่วนวางใจ
ทักษะใดเกิดแต่จิตซ้ำซ่อนซ้อนซับ
พร้อมจะขับเคลื่อนกายพฤติกรรมยากเกินยั้ง
เพียงอาจบางบุญกรรมเบี่ยงเบนเป็นคุณ
และเพรงกาลกุศลต้นธารอดีตชาติ...อาจแตกต่าง
อย่างไรก็...ชาติภพนี้
อันใดมิใช่ทักษะพึงเสี่ยงก็เลี่ยงละ
สารานุสาระแห่งชีวิตหอมหวานเบิกบานปีติ
อีกหลากอีกล้านแสน
กว่าจะสิ้นลมหายใจ...มนุษย์ก็มิอาจเสพสิ้น
รอคอยสุปฏิปัณโณผู้แสวงหา
...
ชื่นชมแด่ความปรารถนาดี
ยินดีต่อความมีน้ำใจ
ลึกซึ้งกับดวงหทัยโอบอ้อม
...
อายุบวร
สุดยอดคุณครู ต้องเรียนรู้จากเด็กครับ
สวัสดีค่ะ หมอ คนน่ารักของครูอ้อย
รักษาสุขภาพนะคะ รักและคิดถึงเสมอ
สมเป็น อาจารย์ หมอเจ้ เป็นทั้งครู เป็นทั้งหมอ สุดยอด ค่ะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับ ชื่นชมในแนวคิด อยากให้ครูทุกคนได้เข้ามาอ่าน ครูอาชีพเพื่อชาติครับ
ความคิดและข้อเสนอแนะดีดีนะคะ มาบูชาครูค่ะ
สวัสดีค่ะพี่หมอเจ๊
ครูคิมไปบอกใยมดที่บ้าน
ให้มาดูที่บันทึกพี่หมอ
นึกว่าเค้ามีดูหมอกัน อิอิ
วันนี้ที่ทำงานใยมดกำลังยุ่ง
มีโจรขึ้นหอพักนักเรียนค่ะ
ได้เงินไปสองพันกว่า เมื่อวานเอาอีกแล้ว
ไปแย้วๆๆๆๆๆๆ
โชคดีมีความสุขค่ะพี่หมอเจ๊
จากครูคิม ครับอาจารย์
ครูสร้างคนดี เป็นศรีแผ่นดิน ทั่วถิ่นศรัทธา บูชาคุณครู
สวัสดีค่ะตามพี่คิมมาเช่นกันค่ะ
ขอขอบคุณเรื่องราวดีค่ะ
ความรักที่ครูมอบให้นอกจากวิชา ช่วยปั้นแต่งเด็กให้มีภูมิคุ้มกันในจิตใจให้ทำสิ่งดีดี..ขอบคุณบันทึกนี้..ชื่นใจในความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ของเด็กๆค่ะ
สวัสดีวันครูค่ะ ... ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่ได้รับค่ะ
สวัสดีครับ
ขอแสดงความชื่นชมด้วยคนครับ
สวัสดีค่ะคุณพี่หมอ
พี่ตาเป็นทั้งครูทั้งหมอจริงๆ
แต่ไม่ใชคอหมูย่าง อิอิ (ครูหมอ = คอหมู) อิอิ
ตามมาอ่านแล้ว เรื่องนี้มีข้อคิด
คสวัสดีครับ หมอเจ็ ครูคิม พามา ดีครับได้อ่านสิ่งที่เป็นสาระที่เป็นประโยชน์
คุณเคยฉุกคิดไหมว่าเพลงนี้ช่างเป็นกุศโลบายในการฝึกเด็กๆ ให้คิดแบบสาวหาต้นตอ “สมุทัย” (เหตุที่ทำให้เกิดผล) ได้ดียิ่งนัก แม้จะไม่เป็นเหตุเป็นผลจริงจังอะไรในทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็เป็นวิธีฝึกทักษะแห่งการ “คิดอย่างเชื่อมโยง” ไม่หยุดอยู่ที่คำตอบเพียงชั้นเดียว นี่นับเป็นร่องรอยของกระบวนการเรียนรู้แบบไม่รู้ตัว คือเรียนผ่านการร้องเล่น
.........
ยิ่งทำให้ภาพที่เห็นในบันทึกนี้มีคุณค่ายิ่งขึ้นค่ะครู
ขอบคุณที่นำเพลงนี้มาเล่า ให้เห็นคุณค่าของมรดกไทย วัฒนธรรมไทยด้วยค่ะ
.........
...ฝนเอยทำไมจึงตก
ฝนตกเพราะกบมันร้อง
กบเอยทำไมจึงร้อง
กบร้องเพราะท้องมันปวด
ท้องเอยทำไมจึงปวด
ท้องปวดเพราะข้าวมันดิบ
ข้าวเอยทำไมจึงดิบ
ข้าวดิบเพราะไฟมันดับ
ไฟเอยทำไมจึงดับ
ไฟดับเพราะฟืนมันเปียก
ฟืนเอยทำไมจึงเปียก
ฟืนเปียกเพราะฝนมันตก
............
เพื่อจะเพิ่มความคาดหวังให้ทุกภาคส่วนมีคนดีและคนเก่งดูแลแก้ไขได้พร้อมๆ กัน แม้ว่าสังคม “บัวสี่เหล่า” ก็ยังจะคงดำเนินต่อไป
ขอบคุณค่ะครู
สวัสดีค่ะ
เรื่องบางเรื่องเราอาจไม่รู้เท่าเด็ก ...สิ่งที่เรามีมากกว่า คือ อายุค่ะ เรื่องใหม่ ๆ ในปัจจุบัน คำพูดแปลก ๆ ในสมัย เรา ๆ ไม่มี แต่วันนี้ เด็กสอนให้เราได้เรียนรู้ค่ะ
แวะมาดูกิจกรรม มาอ่านข้อคิดดีๆ ค่ะ
มีความสุขเสมอๆนะคะ
ขอบคุณค่ะ
แวะมาเยี่ยมอีกรอบนะคะ..มาขอบคุณที่ไปเยี่ยมและถามคำถามที่ตรงใจน้องมากมาก
ดีใจค่ะ..ที่มีมิตรภาพบนG2Kที่สวยงาม
มาขอบพระคุณอาจารย์หมอครับที่ให้ความกรุณา ก่อนอื่นต้องขออนุญาตเรียนว่า ผมไม่ได้เป็นครูและอยู่ในแวดวงของการศึกษา ครับ แต่ทำงานราชการในชนบทห่างไกลมาค่อนข้างนาน ที่ทำงานอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 90 กม.เห็นด้วยกับอาจารย์หมอ ครับ เคยได้ยินได้ฟังผู้รู้หลายท่านกล่าวว่า "เด็กก็เหมือนผ้าขาว อยู่ที่ผู้คนในสังคมจะแต่งแต้มสีอะไรลงไป" ขอบพระคุณอีกครั้งครับอาจารย์หมอ
สวัสดีค่ะคุณพี่หมอที่เคารพและนับถือ
สวัสดีค่ะคุณพี่หมอ