หน่วยที่เราทำงานอยู่จะมีคนไข้เบาหวานมาหาก็ต่อเมื่อคุมน้ำตาลไม่อยู่ น้ำตาลเกินกว่า 180 เมื่อไรเป็นถูกส่งมาให้หน่วยของเราดูแลและดำเนินการส่งเสิรมสุขภาพ ที่ตรังมีอาหารให้กินเยอะแยะมาก เช้าขึ้นมาก็มีหมูย่าง ซาละเปาแล้วคนไข้มาถึงเราจึงประเมินเรื่องวิถีชีวิตก่อน
ปกติที่หน่วยจะให้บริการวันละ 1-2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งราวๆ 7-8 คน ทำสมาธิก่อนเริ่มทำกลุ่ม โภชนากรสอนเรื่องอาหาร ถ้าวันไหนไม่มีคนไข้น้ำตาลเกิน 180 ก็จะชวนคนไข้ที่คุมน้ำตาลได้มานั่งคุยกันเรื่องการดูแลเท้า มีปัญหาเรื่องไตรึยัง เป็นต้น
การประเมินวิถีชีวิตนะมีทั้งเรื่องของการกินอาหาร การออกกำลังกาย ความเครียด ประเมินแล้วก็ให้ความรู้เรื่องอาหารว่ามีผลต่อเบาหวานอย่างไร สอนไปแล้วก็จะนัดใหม่ให้มาพบอีกครั้ง มาพบหมอและมาที่หน่วยของเราในวันเดียวกันเลย มาแล้วก็จะประเมินเพื่อตามดูว่าการปฏิบัติของคนไข้เหมือนเดิมอยู่รึเปล่า
เรื่องของอาหารนะ พยาบาลไม่ได้สอนสัดส่วนอาหาร โภชนากรเป็นผู้เสริมความรู้ให้ ทำงานไปจะรู้เลยว่า ถ้าสัมพันธภาพกับคนไข้ไม่ดีเราจะโดนคนไข้หลอกเอาว่าเปลี่ยนอาหารแล้ว ที่รู้ว่าคนไข้หลอกเอาก็ดูจากระดับน้ำตาลที่สูงปรี๊ดนะแหละ แต่ถ้าสัมพันธภาพดี คนไข้จะบอกหมดเลยว่าไปกินอะไรมาบ้างในช่วงที่ผ่านมา
มารู้จักสุนทรียสนทนา ก็เลยนำมาใช้ในกิจกรรมที่ทำกับคนไ้ข้เบาหวาน ก็รู้ว่าคนไข้เขาชอบนะ ก็ได้ยินคนไข้เขาพูดกันว่า "เออ ดีนะ ดีมากวันนี้ ไม่ถูกหมอด่า ไม่ต้องเข้าอบรม วันนี้ดีจริงที่ได้พูดเสียที"
เวลาชวนคุยเืรื่องออกกำลังกาย เราจะบอกเรื่องออกกำลังกาย 3-5 วันต่อสัปดาห์ และชวนออกท่าทางบ้าง เราได้ยินเขาคุยเล่ากันเรื่องออกกำลังกายกันว่า "ดีนะการออกกำลังกาย ออกกำลังกายไม่ต้องออกไปนอกบ้านก็ได้" และได้ยินคุณป้าคนหนึ่งบอกว่า "ออกกำลังกายโดยยกแข้งยกขาบนเตียงก็ได้ แค่ขยับก็ใช่แล้วการออกกำลังกาย"
แสนสุข มะนะโส
พยาบาลวิชาชีพ
หน่วยส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลตรัง อ.เมือง จ.ตรัง