หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ไม่อดก็คุมเบาหวานได้อยู่นะ....ขอแค่ทำจริงจัง


ป้าไปออกกำลังกายทุกเช้า ลุก เดินตั้งกะตี 5 เดินไปตามถนนลาดชันของหมู่บ้านไปยังถนนใหญ่ ไกลออกไปจากบ้านราวๆ 3 กม. เดินไป เดินกลับ เร่งสลับขาให้พอเหนื่อยๆ เหนื่อยก็ลดความเร็วลง เดินไปแล้วเดินกลับ วันไหนฝนตกจะไม่เดินที่ไหน อยู่ในบ้านปั่นจักรยานเอา ป้าออกกำลังกายจนรู้สึกว่าวันไหนไม่ได้ทำมันเหมือนขาดอะไรในชีวิตไปเชียวแหละ

ฉันรู้จักป้าเนียบเมื่อ 7 ปีที่แล้ว  ตอนนั้นป้าเป็นเบาหวาน 20 ปีมาแล้ว  ชีวิต คนไข้เบาหวานของป้าเริ่มด้วยการกินยา 2 ชนิด ยาตัวแรกกินเช้าเม็ด เย็นเม็ดก่อนอาหาร  ยาตัวหลังก็กินเช้าเม็ด เย็นเม็ดแต่กินหลังอาหาร จนป้าคุมเบาหวานได้ดีขึ้น หมอก็ลดยาให้กินเหลือวันละเม็ดเท่านั้น  ป้าไม่เคยลืมกินยาเลย ป้าใช้เทคนิคตื่นนอนแล้วกินน้ำ 1 แก้วทุกเช้าจึงทำให้ไม่ลืมกินยา 

ในปีแรกๆป้าคุมเบาหวานโดยอดอาหาร แต่น้ำตาลของป้ายังสูงเกือบ 200 อยู่เสมอ  ป้าจึงเปลี่ยนความคิดใหม่  ไม่เอาแล้วไม่อดแล้วกินดีกว่า กินแบบยึดคติ  กินแค่ครึ่ง  ดีกว่า”     ทุกมื้อป้ากินข้าว 1 ทัพพี  กินผักทุกมื้อ งดกินเนื้อ หมู กินปลาแทน ลงมือปลูกผักกินเอง ไม่ได้ไปตลาดหลายๆวันก็มีอาหารธรรมชาติรอบบ้านเป็นกับข้าวสบายๆ  กินแล้วเคี้ยวช้าๆ กินแค่ครึ่งเดียว กินผักให้อิ่มไว้  วิธีนี้ทำให้ป้ากินอาหารได้ทุกอย่างไม่ต้องอดเหมือนคนไข้เบาหวานที่เห็นทั่ว ไป ป้าได้กินครบ 3 มื้อและอิ่มด้วยนะ


ป้าเนียบดูแลตัวเองได้ดีมากๆ คุมน้ำตาลได้ต่ำกว่า 120  ความดันเลือดก็ต่ำกว่า 120/80 เดิมป้าไม่ออกกำลังกายหรอก  แต่พอเป็นเบาหวาน ป้าไปออกกำลังกายทุกเช้า  ลุก เดินตั้งกะตี 5 เดินไปตามถนนลาดชันของหมู่บ้านไปยังถนนใหญ่ ไกลออกไปจากบ้านราวๆ 3 กม. เดินไป เดินกลับ เร่งสลับขาให้พอเหนื่อยๆ เหนื่อยก็ลดความเร็วลง  เดินไปแล้วเดินกลับก็ถึงบ้านเกือบราวๆหกโมงเช้าพอดี  วันไหนฝนตกจะไม่เดินที่ไหน อยู่ในบ้านปั่นจักรยานเอา  ป้าออกกำลังกายจนรู้สึกว่าวันไหนไม่ได้ทำมันเหมือนขาดอะไรในชีวิตไปเชียวแหละ

เวลาไปออกกำลังกาย ป้าจะไปพร้อมสามีป้าทุกวัน  สามี ของป้าเล่นกีฬาเป็นประจำทุกวันอยู่ก่อนแล้ว ป้ามีสามีเป็นเพื่อนไปออกกำลังกายด้วยทุกวัน ป้ามีกำลังใจอย่างน่านับถือเชียว ป้าบอกฉันว่า อบอุ่นใจ ชีวิตมีค่า อยากมีอายุยืนยาวอยู่กับลุงเป็นเพื่อนนานๆ

สามีป้าเนียบเล่าให้ฉันฟังว่า การ ออกกำลังกายช่วยรักษาและป้องกันโรคได้เกือบทุกอย่าง อยากเป็นกำลังใจให้จึงชวนป้าออกกำลังกายจะได้แข็งแรงเหมือนลุงที่ไม่เจ็บ ป่วยอะไรเลย ลุงภูมิใจนะ เวลาคนมาถามป้าว่า ทำยังไงเรื่องเบาหวานจึงแข็งแรงดี  ลุงเองรักและเป็นห่วงป้านะ……”

เมื่อ 3 ปีก่อน ป้าคลำพบก้อนที่เต้านมซ้าย ป้าจึงไปทำแมมโมแกรม อัลตราซาวน์ และตัดชิ้นเนื้อตรวจปรากฏว่าเป็นก้อนมะเร็ง  ป้า ก็เลยได้รับการรักษาเบาหวานคู่ไปกับเรื่องมะเร็ง  เต้านมข้างหนึ่งของแกโดนตัดทิ้งไปแล้ว หมอให้ยาฆ่าเซลล์มะเร็งด้วย ณ วันนี้มะเร็งของป้าคุมได้ดี ไม่มีเรื่องอะไรแทรกซ้อน เบาหวานก็คุมได้ดีด้วย 

เดี๋ยวนี้ป้าเป็นแกนนำเบาหวานของร.พ.ไปแล้ว  ทุก ครั้งที่ป้ามาร.พ. ป้าจะช่วยพยาบาลวัดความดันเลือดให้กับคนอื่นๆด้วย  เวลาไปเข้าค่ายเบาหวาน ร.พ.ของฉันจะไปจัดกิจกรรมนอกสถานที่ซะมากกว่า  การทำงานนอกสถานที่นะทีมงานสามารถทำงานได้สะดวก ไม่ต้องพะวักพะวนกับงานประจำที่มีอยู่ในร.พ.   ทีมที่ไปร่วมงานกันมีทั้งโภชนากร พยาบาลในสถานีอนามัย นักกายภาพบำบัด เภสัชกร พยาบาลจากร.พ. และหมอ  


ป้าเนียบก็มาร่วมกิจกรรมค่ายด้วยทุกครั้งนะ  ในค่ายเบาหวานของร.พ.เรา โภชนากรจะให้ความรู้เรื่อง ปริมาณอาหาร เจ้าหน้าที่สถานีอนามัยสอนออกกำลังกายแล้วให้ลงมือฝึกไปด้วย  เภสัชกรสอนและตอบปัญหาเรื่องยา กายภาพบำบัดสอนหลักการต่างๆของการออกกำลังกาย  ทดสอบสมรรถภาพ  หมอสอนโรคและภาวะแทรกซ้อน ป้าเนียบเล่าชีวิตการเป็นเบาหวานให้ผู้มาร่วมค่ายฟังว่าชีวิตที่เป็นเบาหวานไม่ลำบากเลย ใช้ชีวิตสุขสบายได้เพียงแต่ต้องออกกำลังกาย  ออกกำลังกายจะช่วยได้ทุกอย่าง ให้ทำอย่างจริงจังจนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน

เล่าโดย

อรสา เทวสกุลวงศ์

พยาบาลวิชาชีพ   โรงพยาบาลหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร

 

หมายเลขบันทึก: 265331เขียนเมื่อ 2 มิถุนายน 2009 23:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ป้าเนียบแกดูแลตัวเองได้ดีมาก

เป็นตัวอย่างและกำลังใจให้คนไม่ชอบหรือขี้เกียจออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะ ครูอรวรรณ ค่ะ

ขอบคุณคุณหมอเจ๊ค่ะ

  • เบาหวานนี่..ทานมะม่วงได้หรือเปล่าครับ...เป็นห่วง
  • มะม่วงได้ใบ คิว..ด้วยนะครับ..
  • คุณ เกษตร(อยู่)จังหวัด ค่ะ
  • คนเป็นเบาหวานกินมะม่วงได้ค่ะ.....แต่มีข้อแม้
  • .............
  • อย่างเช่นถ้าจะกินขนาดในรูปทั้ง 2 ลูกแล้วกำลังสุกจนหมด
  • อย่างนี้ต้องประเมินตนจากค่าเบาหวานที่เจาะไว้ค่ะ
  • .............
  • ถ้าสูงมากๆอย่างเช่นเกิน 200-300 อย่างนี้.....กินหมดบ่ได้ค่ะ
  • .............
  • อยากกินก็กินได้แค่คำชิมคำเดียวค่ะ
  • .............
  • ถ้าคุมเบาหวานอยู่หมัด คือ น้ำตาลเบาหวานไม่เกิน 120-130 อย่างนี้พอมีหวังจะกินเพิ่มจากชิมคำได้อีกหน่อย
  • .............
  • ส่วนจะกินได้มากเท่าไรอยู่ที่มื้อนี้กินอะไรที่ทำให้น้ำตาลเบาหวานขึ้นไปได้เข้าไปแล้วบ้าง
  • ถ้าหากกินอย่างอื่นที่ทำให้น้ำตาลขึ้นได้เข้าไปมากแล้ว
  • มื้อนี้ก็กินได้แค่ชิมคำเดียวคือกันค่ะ
  • ............
  • ไม่เชื่อ...ตามใจปาก....เบาหวานขึ้นตาได้ ลงไต ตีน หัวใจได้เลยนะค่ะ
  • ครูอรวรรณค่ะ
  • ออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเย็นเลยค่ะ
  • ขอเพียงแต่ตั้งใจเคลื่อนไหวร่างกาย
  • ไม่อยู่นิ่งๆเฉยๆ
  • ก็ได้กำไรคืนมากับสุขภาพแล้วค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท