เมื่อลุงชมเดินมาหาในวันหนึ่ง ก็คิดว่าจะส่งลุงไปเจอหมอ เพื่อให้หมอพิจารณาเรื่องขนาดยาให้ใหม่ เพราะว่ายาขนาดที่กินอยู่นั้น ดูเหมือนจะคุมเบาหวานลุงไม่ได้ น้ำตาลในเลือดลุงขึ้นไป 200 กว่าทั้งๆที่ให้ยาอยู่แล้ว 3 มื้อกิน มื้อเช้า 1 เม็ดก่อนอาหารและหลังอาหาร มื้อเที่ยงมื้อเย็นอีกมื้อละเม็ดหลังอาหาร
แต่แล้วก็ี้มาเอะใจว่าวิธีกินยาของลุงนะถูกรึเปล่า
ลุงชมเป็นคนไข้ที่หมอนัดมารับยาตามโปรแกรมเติมยาของที่นี่ ทุกๆ 4 เดือนลุงจะมาเจอหมอ โดยในระหว่าง 4 เดือนนั้น ทุกๆรอบ 2 เดือนลุงจะ้มาเจอเภสัชกรเพื่อตรวจดูว่ามียาขาดไปรึเปล่า แล้วเติมยาที่ขาดไปให้ มาพบเภสัชกรตามนัดแล้ว ก็จะมีการประเมินความสามารถในการดูแลตัวเองและให้การปรึกษาปรับปรุงการดูแลสุขภาพของลุงด้วย
เมื่อทวนสอบวิธีกินยาของลุงนั้น ตอนแรกใช้วิธีคุยถามให้ลุงเล่า ปรากฏว่าลุงตอบว่ากินอย่างไรไม่ได้เลย เอะใจอีกทำไมตอบไม่ได้นะ รึว่าลุงมีอะไรที่ปิดบังซ่อนเร้นอยู่ แต่ว่าหากว่าลุงกินยาผิดวิธี ส่งไปพบหมอเพื่อปรับขนาดยาจะแย่นะ เพื่อให้แน่ใจก็น่าที่ลองทวนสอบใหม่อีกครั้งแล้วกัน
ทีนี้ลองอย่างนี้ดีกว่า ซองยาที่ร.พ.ใช้นั้น ด้านหนึ่งใส ด้านหนึ่งทึบ ด้านที่ทึบนั้นจะติดฉลากบอกวิธีกินยาไว้ ถ้าพลิกด้านที่ใสขึ้นมาก็จะมองเห็นในถุงว่ามีเม็ดยาอยู่ ลองเอามาใช้ให้ลุงตอบคำถามด้วยการนำยาชนิดที่ลุงกินอยู่แล้วใส่ในซอง พลิกด้านใสขึ้นให้ลุงเห็นเม็ดยา และคว่ำด้านทึบไม่ให้เห็นฉลากยาด้วย แล้วชวนให้ลุงชี้บอกว่า ยาชนิดไหน ลุงกินยังไง กินกี่เม็ด กี่มื้อ
ปรากฏว่าลองแล้วลุงก็ตอบไม่ได้ รู้เลยว่าน่าจะมีอะไรเบื้องหลังซ่อนอยู่ จริงๆมีจริงๆด้วย เรื่องราวที่รับรู้หลังคุยกับลุงต่อมีออกมาอย่างนี้
ทุกวันลุงจะออกจากบ้านไปทำสวนยางที่ลุงมีอยู่ 2 แห่ง ลุงตื่นนอนตั้งแต่ตี 1 ไม่กินอะไรก่อนออกจากบ้านหรอกกินแต่ยา กินยาที่หมอให้กินก่อนอาหารแล้วก็เข้าไปตัดยางในสวนที่ 1 ตัดยางสวนนี้เสร็จราวๆ 6 โมงเช้า ก็ย้ายตัวไปตัดสวนที่ 2 ต่อ ระหว่างทางผ่านไปสวนที่ 2 จะมีร้านขายกาแฟอยู่ ลุงได้อาหารเช้าจากร้านนี้แหละรองท้อง ขนม กาแฟคืออาหารมื้อเช้าที่ลุงกินเสมอ ถ้าหากว่าบางวันมีเวลามากหน่อย ลุงก็จะกินให้อิ่มท้องที่นี่ก่อนเข้าไปสวนที่ 2 ในบางวันที่มีเวลาน้อยไป ลุงก็ใช้วิธีหิ้วขนม กาแฟใส่ถุงไปกินในสวนแทน
เข้าสวนไปก็ตัดยางอีกนะแหละ ตัดเสร็จก็ราวเที่ยงหรือบ่ายสองโมง เสร็จแล้วก็ทำการขนน้ำยางเดินทางกลับบ้าน กลับถึงบ้านแล้วจึงลงมือทำกับข้าวมื้อเที่ยงกิน
อาหารที่ลุงปรุงขึ้นมากินนั้นก็มักจะเป็นเมนูผักบุ้งผัด ตำลึงผัดไข่ แกงส้มปลา กินข้าวแล้วลุงจะลงมือทำงานต่อจนถึงเวลาประมาณทุ่ม จึงหยุดมือกินข้าวเย็นอีกมื้อ
ลุงว่าข้าวนะมีกินบ้างอดบ้าง เพราะว่าฐานะุลุงมันจน ทำมาหากินแบบหาเช้ากินค่ำไม่ใคร่มีกินหรอก
หลังกินมื้อเย็นแล้วลุงก็กินยาเข้าไปอีกเม็ด วันไหนอดข้าวเย็นลุงไม่งดยาหรอก ลุงบอกว่ากินยาแล้วรู้สึกหวิวๆบ้างเหมือนกัน
ลุงเล่ามาว่าลุงไม่เคยเอายาติดตัวไปสวน ไม่สะดวกหากจะต้องหิ้วยาทั้งถุงที่หมอให้ไปด้วย กินยาก็กินไปได้เรื่อยๆ กินอย่างประหยัดยา-กลัวยาหมดนะเข้าใจรึเปล่า ยาหมดก็ต้องมาติดต่อขอจากทางร.พ.อีก มาร.พ.ก็ต้องเสียเงินทองค่าเดินทางมา ซึ่งก็เป็นรายจ่ายสำหรับคนมีเงินไม่่มากอย่างลุง มาถึงที่ร.พ.กันแล้วก็ต้องมารอนานเข้าไปอีก มันช้า แต่ลุงจะรีบกลับบ้านก็ไม่ได้อีก
ฉันฟังแล้วก็รู้ว่า ที่แท้ลุงยังไม่เข้าใจอยู่หลายเรื่อง ก็เลยคุยให้ลุงฟังว่า การที่ลุงมีอาการหวิวๆนั้นมาจากเวลากินยากับเวลากินอาหารของลุงนะมันไม่ต้านกัน การแบ่งเม็ดยาติดตัวไปสวนนั้นทำได้ ไม่เป็นไรหรอก ก็ไปแค่ยากินก่อนอาหารและหลังอาหารอย่างละเม็ดก็พอแล้ว
นำยาติดตัวไปแล้วก็ให้กะเวลาที่จะกินอาหารเช้า ถ้าวันไหนเดินทางถึงร้านกาแฟแล้วจะกินอาหารเช้าที่ร้านกาแฟไม่ห่อขนมเข้าไปกินที่สวนยางที่2 ก็ให้กินยาระหว่างออกเดินทางไปร้านกาแฟโดยกะเวลากินให้ได้เวลากินก่อนอาหารราวๆครึ่งชั่วโมง
ถ้าวันไหนจะหิ้วขนมเข้าไปกินที่สวน วันนั้นก็ให้้กะเวลากินยาก่อนเริ่มกินขนมที่สวนราวๆครึ่งชั่วโมงเช่นกัน กินขนมแล้วจึงกินยาหลังอาหารที่ยังเหลืออยู่อีกเม็ด
ส่วนยาหลังอาหารมื้ออื่นๆทั้งเที่ยงและทั้งเย็น วันไหนลุงไม่ได้กินข้าวมื้อนั้น ลุงก็ไม่ต้องกินยา จะกินยาก็ต่อเมื่อได้กินข้าวมื้อนั้นแล้วนะลุงนะ
นิศา ชายกุล เภสัชกร หน่วยเภสััชกรรมผู้ป่วยนอก ร.พ.กระบี่ อ.เมือง จ.กระบี่
ไม่มีความเห็น