หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ควันหลงเรื่องเล่าจากตลาดนัดความรู้ฯ ภาคใต้ (1) : บิดขี้เกียจให้เกิดประโยชน์


ผลที่ได้รับคุ้มค่ากับความตั้งใจ ผู้ป่วยคลินิกพิเศษให้ความสนใจและร่วมมือในการ"บิดขี้เกียจ" และรอคอยว่าเมื่อถึงวันคลินิกพิเศษจะได้ของแถมความรู้อะไรติดตัวกลับบ้าน และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลก็หันมาให้ความสำคัญออกกำลังกายด้วยการ "บิดขี้เกียจ"ให้เกิดประโยชน์ด้วย

สาวสวยจากร.พ.ชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มาร่วมเปิดแผงเสนอสินค้าในตลาดนัดความรู้เบาหวาน-ความดันสูงภาคใต้ซึ่งจัดขึ้นที่กระบี่  สินค้าที่เธอนำมาแบขายได้รับการเลือกซื้อ และได้ตีพิมพ์ในหนังสือประกอบการประชุมมหกรรมเบาหวาน-ความดันโลหิตสูงแห่งชาติในปีนี้ด้วย 

ตามมาชมสินค้าของแผงนี้กันค่ะ เจ้าของแผงเธอชื่อ วิธัญญา จันทร์ทิพนา เจ้าพนักงานเภสัชกรรมชำนาญงาน งานแพทย์แผนไทย

"โรงพยาบาลชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เปิดให้บริการคลินิกพิเศษ (เบาหวาน-ความดันโลหิตสูง) ในวันอังคารและพฤหัสบดีของทุกสัปดาห์ ในวันนั้นเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะต้องขึ้นเวรปฏิบัติงานเร็วกว่าปกติ 1 ชม. เพื่อให้บริการแก่ผู้ป่วยซึ่งแต่ละคนจะเดินทางมากันตั้งแต่เช้าตรู่ ด้วยเหตุผลหลายประการและจะได้คิวตรวจในลำดับแรกๆ

เมื่อ 3 เดือนก่อน ดิฉันขึ้นเวรปฏิบัติงานเหมือนเช่นเคยในเวลา 07.30 น. เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการด้านยาและคำปรึกษาด้านยาแก่ผู้ป่วย เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณลานหน้าห้องยา ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็คราคร่ำไปด้วยผู้ป่วยเบาหวาน-ความดันโลหิตสูง ซึ่งใจจรดจ่ออยู่กับการเรียกซักประวัติและเจาะเลือด บางคนที่เจาะเลือดแล้วก็รับประทานอาหารว่างที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้ให้ บ้างก็นั่งคุยกัน บ้างก็เดินไปเดินมา บ้างก็บิดขี้เกียจด้วยความเบื่อหน่ายกับการรอคอย

ดิฉันนั่งฟังข่าวสารบ้านเมืองข่าวบันเทิงเพื่อฆ่าเวลา แต่เมื่อมองออกไปอย่างตั้งใจก็พบว่าผู้ป่วยเหล่านั้นส่วนหนึ่งเป็นญาติพี่น้องของเราเองและคนรู้จักในหมู่บ้าน ก็เลยคิดว่าในฐานะที่เราเป็นคนในพื้นที่ เป็นลูกหลานของคนที่นี่ น่าจะทำประโยชน์ให้กับบ้านของตัวเองได้มากกว่านี้ เลยนำความรู้ที่ได้จากการเรียนแพทย์แผนไทย ที่วิทยาลัยการสาธารณสุข จังหวัดพิษณุโลก มาประยุกต์ใช้ให้ผู้ป่วย "บิดขี้เกียจให้เกิดประโยชน์" ระหว่างที่รอตรวจ โดยสอดแทรกความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย สมุนไพร และการออกกำลังกายอย่างง่ายแต่ได้ประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ สถานที่ หรือเสียเงินทอง เสียเวลามาก ให้ทำท่าฤษีดัดตนและท่าออกกำลังกายไทยประสิทธิ์ 4 ท่าๆละ 3-4 ครั้ง ใช้เวลา 5-10 นาที

ครั้งแรกๆที่ให้บริการยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากผู้ป่วยมัวสนใจแต่คิวตรวจของตนเองและอายไม่กล้าที่จะออกกำลังกายต่อหน้าผู้อื่น ดิฉันรู้สึกท้อบ้างแต่ไม่ถอย เอาเรื่องไปปรึกษาหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน เพื่อหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ การลองผิดลองถูกหลายครั้งทำให้ได้แนวทางปฏิบัติที่แน่นอน คือ ในเวลา 08.00 น. คลินิกพิเศษจะหยุดให้บริการ ณ จุดคัดกรองและห้องปฏิบัติการเป็นเวลา 5-10 นาที เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความรู้และได้ออกกำลังกาย"บิดขี้เกียจ" โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเลยคิวตรวจของตนเอง

ผลที่ได้รับกลับมาคุ้มค่าของความตั้งใจ เพราะนอกจากผู้ป่วยในคลินิกพิเศษจะให้ความสนใจและร่วมมือกัน"บิดขี้เกียจ" เป็นอย่างเดียว เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลยังเห็นความสำคัญและหันมาออกกำลังกาย "บิดขี้เกียจ" ด้วย และรอคอยกันว่าเมื่อถึงวันคลินิกพิเศษจะได้ความรู้ในการดูแลตนเองเรื่องใดเป็นของแถมกลับบ้าน"


ชมสินค้าชิ้นนี้แล้วรู้สึกเป็นอย่างไรบ้างค่ะ

สำหรับฉันรู้สึกทึ่งกับความมีน้ำใจกตัญญู และน้ำใจอันงามของคุณวิธัญญาที่มีต่อผู้คนในถิ่นเกิดของเธออย่างยิ่ง แรงจูงใจของความดีงามในใจทำให้เกิดเรื่องดีๆเหล่านี้ขึ้นที่นี่ 

ปรบมือให้กับความสามารถในการประยุกต์นำความรู้เข้ามาผสมรวมกับความปรารถนาดีที่มีต่อผู้คนที่ทำได้ดีมากๆค่ะ 

ชื่นใจกับความดีงามที่ปรากฎผ่านเรื่องเล่าของเธอ ชื่นชมในในการร่วมมือร่วมใจกันดูแลคนไข้เบาหวานของร.พ.แห่งนี้

ขอบคุณในความใจกว้างของวิชาชีพหลักอย่างแพทย์และพยาบาลที่เอื้อโอกาสให้วิชาชีพกลุ่มเล็กๆที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมาในวงการได้มีโอกาสแสดงความสามารถ

ขอบคุณสำหรับความรู้จากเรื่องเล่าที่ชี้มุมมองให้เห็นว่า

หากว่าผู้ใดในทีมงานของร.พ.มีใจที่จะร่วมดูแลคนไข้เบาหวานแล้ว "คุณทำได้" ใช่แต่หมอ พยาบาล เภสัช เท่านั้นที่ทำได้ซะเมื่อไร

ขอเพียงแต่ให้โอกาส เอื้อเวลาที่มีช่องว่างอยู่ของระบบบริการ เอื้อเวทีให้ได้ลงมือลองของผู้มีใจอาสาจะร่วมดูแลคนไข้ซะบ้างเท่านั้น เรื่องดีๆก็เกิดขึ้นให้ได้ชื่นชมและชื่นใจกัน เติมเต็มความอิ่มใจให้ทั้งคนรับบริการและคนให้บริการหน้าบานกันไปตามๆกัน

ที่แน่ๆคือ การได้ร่วมกันทำความดีเพื่อประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างมีความสุข

การไม่มีเรื่องของเขา-เรื่องของเราให้เกิดความยุ่งยากใจ ทำให้คิดทางออกได้ง่ายๆในการเพิ่มเรื่องใหม่ตามพื้นฐานความรู้ที่สอดคล้องกับประเด็นความต้องการของคนป่วยไข้เข้าไปในระบบริการปกติ นี่ไงข้อดีของการมี "เรา"

ลองดูนะ ใครๆก็ทำได้ เมื่อใจนำ

ถามใจดูหน่อยนะค่ะ ว่าวันนี้คุณมีใจจะทำหรือยัง ใจยินดีนำหรือยัง

ถ้ามีแล้ว อย่ารอช้า ลงมือลองทำอย่างที่คุณวิธัญญาลองทำให้ดู...ซิค่ะ

มีใจ-ใช้ใจนำจริงแท้แล้วไม่ท้อ มีลูกฮึดทำต่อจนสำเร็จอย่างที่คุณวิทัญญาทำได้แล้วอย่างแน่นอน.... ลองเถอะน่า

เป็นกำลังใจให้คุณๆที่มีใจทำทั้งที่ลงมือทำไปแล้วและกำลังลงมือทำกันอยู่ค่ะ

ขอบคุณเจ้าของเรื่องเล่าที่มาชี้ชวนให้มุมดีๆ โอกาสดีๆของการทำเรื่องดีๆด้วยค่ะ

17 กันยายน 2552

หมายเหตุ 

ไม่ได้ถ่ายภาพท่า "บิดขี้เกียจ" ของคุณวธัญญามาให้ดู ก็ขอแก้ตัวด้วยการชวนไปลองดูตัวอย่างท่าฤษีดัดตนที่จะเห็นว่า "ไม่ยากเลย" หากจะนำมาใช้งานซะหน่อย

ตามไปนำมาให้ดูจากที่นี่ และ ที่นี่  ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ

monk


yo1

 

สรุปความรู้เอาไว้ซะหน่อย ก่อนจะจบบันทึกลง

การเคลื่อนไหวร่างกายในลักษณะนี้เป็นการออกกำลังกายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อและข้อต่อให้แข็งแรง ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดความคล่องตัวในการใช้ีข้อต่อของระยางค์แขน ขา และข้อต่อคอ ลดปัญหาการปวดเมื่อยตามร่างกายและข้อต่างๆ

 

หมายเลขบันทึก: 298513เขียนเมื่อ 17 กันยายน 2009 20:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ อ.พี่หมอเจ๊

เรื่องง่ายๆแต่เป็นประโยชน์ คิดดี ทำดี จังค่ะ

ขอบคุณค่ะ

  • pa_daeng ค่ะ
  • วันนี้ลืมบิดขี้เกียจรึเปล่าละค่ะ
  • เรื่องง่ายๆพาหายเมื่อย....มา...มา...มา...ลงมือทำกันเร้ว...อิอิ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท