บันทึกก่อนเสนอสินค้าของร.พ.พังงาเอาไว้ แล้วติดใจในเรื่องเล่าอันมีเบื้องหลังอีก บันทึกนี้เป็นเรื่องราววิถีชีวิตของคนตัดยางที่คุณสมอุษาเธอไปพบมาค่ะ จึงนำมาเล่าสู่กันฟังต่อ
"ชีวิตของคนที่ทำงานอาชีพตัดยางมีวิถีที่แตกต่างจากอาชีพอื่น ยิ่งคนไข้เป็นเบาหวานแล้วกินยาก่อนออกไปตัดยางยิ่งอันตราย เพราะมีผลต่อค่าน้ำตาลในแต่ละคนแตกต่างกันไป
แต่ละคนแบ่งเวลาของการทำงานไม่เหมือนกัน ทำให้การจะช่วยให้คนไข้เบาหวานไม่เกิดภาวะข้างเคียงจากการกินยาเบาหวานต้องรู้ไปถึงรายละเอียดการทำงานของเขา กว่าจะได้โปรแกรมการกินอาหารอย่างนี้มาใช้ ต้องศึกษาลงลึกไปถึงว่า กรีดยางกี่ต้น ใช้เวลาเท่าไร ทำยางแผ่น หรือขายน้ำยาง
รู้แล้วก็นำมาปรับใช้ว่าจะให้คำแนะนำอย่างไรให้เหมาะกับคนไข้แต่ละคน
บางคนกินแล้วแคลอรี่ไม่พอ ไม่เอาลูกอมไป ก็เกิดอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ
คนที่กรีดยางตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงย่ำรุ่งตีห้า แล้วมาทำยางแผ่นต่อในช่วงแปดโมงถึงก่อนเที่ยง ดูแลตัวเองไม่ดี เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่ายๆในช่วงรอทำแผ่นยางนี่แหละ
บางคนไม่ได้กินอาหาร ไม่ได้เตรียมอาหารไว้ ก็แนะนำไปว่าให้หุงข้าวรอไว้ แล้วแนะด้วยว่าให้กินยาสัมพันธ์กับอาหาร เมื่อคนไข้เขารู้ความสำคัญ เขาก็ปรับใช้ได้ ป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้
ชีวิตของคนตัดยาง ขึ้นกับน้ำยางมากมายเลยนะ....."
ฟังเรื่องราววิถีชีวิตของคนตัดยางแล้วเป็นไงบ้างค่ะ
ขอบคุณเรื่องเล่าเบื้องหลังนะคะ ที่ทำให้มองเห็นมุมอีกมุมหนึ่งชัดขึ้นอีกว่า
ดูแลคนไข้เบาหวานให้ปลอดภัย ถ้ายึดทฤษฎีจ๋ามากไป คนไข้ก็ไม่ปลอดภัยนะเออ
เปิดใจให้กว้างไว้ ไม่ยึดทฤษฎีจ๋า แล้วมองที่คน รู้ให้ลึกถึงวิถีชีวิตของคน เติมเข้าไปเหอะ การยืดหยุ่นใช้ทฤษฎีตามความเข้าใจที่ตรงให้เข้ากับวิถีของผู้คน ช่วยให้ปลอดภัยยิ่งกว่าเชียว
28 กันยายน 2552
ไม่มีความเห็น