โชคดีที่ได้ฟังเรื่องเล่ามามากมาย ก็เลยมีโจทย์บางอย่างที่สะกิดใจ สะกิดใจแล้วก็ไปหาคำตอบอีกซินะ ระยะนี้รองฯแพทย์ของร.พ.ฉัน เขากำลังฝันเรื่องเพิ่มคุณภาพการดูแลคนไข้เบาหวานโดยให้ทันตแพทย์เข้ามาร่วม แล้วให้ทันตแพทยคิดงาน ทำอย่างไรกับเรื่องฟัน ฟัน ฟันได้บ้างในคนไข้เบาหวาน
นึกถึงสินค้าที่ถูกนำมาวางแผงขายในตลาดนัดความรู้ฯภาคใต้ 2 เรื่องของคนทำฟันขึ้นมาได้ ก็เลยไปค้นมาดูอีกครั้ง เออ ดี น่านำมาเล่าสู่กันฟังซะหน่อย เรื่องแรกขอนำเรื่องของร.พ.ชัยบุรีมาเล่าก็แล้วกัน เล่าเรื่องโดยน้องขิง ทันตาภิบาลค่ะ
"รับงานทันตกรรม แล้วการทำฟันตอนเริ่มต้นก็มักจะพบว่าคนไข้ที่มาทำฟัน จะเป็นคนไข้เบาหวาน ความดันเลือดสูงที่มาที่คลินิกเบาหวาน-ความดันสูงของร.พ. คนไข้ส่วนใหญ่ยังไม่กินข้าว เจาะเลือดส่วนใหญ่ก็มีน้ำตาลสูงกว่า 200 มก./ดล. ส่วนใหญ่ฟันโยกและมีหินปูนทั้งนั้น อธิบายไป สอนไปเรื่องการดูแลฟันก็หลายครั้ง ครั้งหนึ่งก็แล้ว ครั้งที่สองก็แล้ว ครั้งที่สามก็แล้ว ไม่ได้ผล คนไข้ไม่ยอมมาให้ตรวจฟัน จนขี้เกียจสอน
มามองใหม่ เดินไปสอนให้ที่คลินิกดีกว่า ไปสอนในตอนแรกคนไข้จะถามว่า เรื่องอะไร ทำไมเบาหวานต้องทำฟัน ก็บอกไปถึงสาเหตุที่ทำให้น้ำตาลขึ้นจากการที่ไม่ดูแลสุขภาพช่องปาก
กลับจากคลินิคแล้วก็มาคุยกันในทีมทำยังไงจะลดคนไข้เบาหวานที่ต้องมาตรวจฟันที่คลินิคได้นะ ก็คนไข้เบาหวานมีตั้งกลุ่มใหญ่
แล้ววันหนึ่งก็มีคนไข้อายุ 60 ปีมาที่คลินิกฟัน ตรวจฟันแล้วให้สุขศึกษา สอนโดยใช้โมเดลโรคฟัน บอกกลไกว่าความสัมพันธ์กับระดับน้ำตาล ตรงไหนที่ทำให้น้ำตาลขึ้น ก่อนทำฟันก็ทำให้รู้ระดับน้ำตาล ขูดหินปูนให้ไป แล้วให้ดูใหม่ว่าทำแล้วฟันเป็นอย่างไร ทำฟันไปแล้วคนไข้รายนี้น้ำตาลลดลงจริงๆ คนไข้ไปบอกต่อคนไข้รายอื่น ต่อมาก็มีคนไข้เบาหวานคนอื่นมาขูดหินปูนเพิ่มขึ้นๆ"
ว่าแต่ว่า เรื่องนี้สะกิดใจท่านมั๊ยค่ะ เมื่อเข้ามาอ่าน
ถ้าท่านเป็นเบาหวานอยู่ แล้วระดับน้ำตาลสูง ทำอย่างไรก็ลงไม่ได้ อย่าลืมไปตรวจและรักษาสุขภาพช่องปากซะนะคะ
ส่วนทำไมคนเบาหวานจึงฟันโยก ฟันคลอน ขอชวนให้ตามไปอ่านต่อนะคะ
ไม่มีความเห็น