๑. ชีวิตข้ามวัย


          คนเราไม่สามารถเลือเกิดได้แต่เลือกที่จะทำดีได้ แม้ว่าฉันจะพบกับจุดเปลี่ยนของชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ฉันก็เป็นผู้โชคดีที่มีโอกาสตัดสินใจได้ด้วยตนเอง

        เมื่อสถานการณ์ผ่านพ้นไป  ฉันมักจะนั่งทบทวนเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาและนึกถึงความเป็นชีวิตของตัวฉันเอง  ที่ทุกอย่างเป็นอดีตไปแล้ว  แม้ว่าเราจะอยู่กับปัจจุบันขณะ  แต่อดีตบางเรื่องสามารถนำมาเป็นแนวทางเพื่อตัดสินใจในปัจจุบัน  เพราะอดีตทำให้มีปัจจุบันนั่นเอง และเป็นแรงบันดาลใจให้ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

           "อดีตไม่อาจแก้ไขได้  แต่อดีตบางเรื่องเป็นความทรงจำที่ดีงาม เป็นบทเรียนอันยิ่งใหญ่ เหมือนเป็นต้นทุนของชีวิตก็ว่าได้"     ชีวิตในวัยเยาว์ของฉันคือเด็กหญิงคนหนึ่ง  ที่เติบโตมาจากครอบครัวของชาวค่าย ไม่ได้เรียนรู้ชีวิตด้านอื่น ๆ มากไปกว่าการเรียนหนังสือ และทำงานบ้านตามที่เด็กหญิงพึงทำได้   คุณพ่อของฉันเป็นคนเข้มงวด มีระเบียบวินัย พูดน้อยแต่"คุณพ่อรักฉันมาก"

         คุณพ่อจะสอนและอบรมว่า "ไม่ให้กลัวอะไรจนเกินไป ต้องเป็นคนกล้าคิด กล้าทำ มีความรับผิดชอบต่อเรื่องที่คิด เรื่องที่ทำ โดยเฉพาะลูกทหารต้องอดทนและทนอด"  ส่วนคุณแม่จะสอนว่า "เงินทองแม้จะมีมากหรือมีน้อยก็ควรใช้น้อย หรือใช้เพื่อประโยชน์และความจำเป็นต่อชีวิตจริง ๆ"  นอกจากนั้นจะฝึกให้รู้จักทำงานบ้าน ดูแลคนในครอบครัว การทำอาหาร การซักรีด การขัดรองเท้าและเครื่องหมายโลหะอย่างมีเทคนิค ความสำคัญสุดยอดก็คือ"การเรียน " ให้เรียนตามความถนัดและความสามารถของตนเอง เมื่อเรียนไม่ได้หรือมีปัญหาอุปสรรคให้รีบบอก  เพื่อลาออกมาตั้งต้นเรียนใหม่ ไม่ควรทนเรียนไปอย่างมีความทุกข์ทรมาน เพราะอาจทำให้เสียเวลา

         เนื่องจากครอบครัวเข้มงวด  ฉันจึงไม่มีโอกาสได้สัมผัสชีวิตวัยรุ่นมากนัก  ฉันมักจะอิจฉาเพื่อนที่สามารถไปไหนต่อไหนได้ตามลำพัง  จะคบกับใครก็ได้  เพื่อนหรือเด็กครอบครัวอื่น ๆ เขาจะเดินผ่านหน้าบ้านฉันไปดูหนังกลางแปลงที่หน้ากองร้อย  และออกนอกบ้านได้โดยไม่ต้องขออนุญาตผู้ปกครอง   เรื่องที่ร้ายแรงในสมัยนั้นคือการที่เด็กหญิงนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์เพื่อนชายจะทำให้พ่อแม่เสียชื่อเสียงมาก  เพราะสังคมในค่ายทหารไม่ยอมรับพฤติกรรมดังกล่าว  ส่วนฉันเมื่อมีหนังกลางแปลงทุกวันพุธ  ฉันต้องไปกับคุณแม่แต่ก็นาน ๆ ครั้ง  เพราะคุณแม่ไม่ใช่ "คุณนายธรรมดา" แต่คุณแม่มีงานประจำ

           โอกาสการทำผิดคิดร้ายของฉัน  เมื่อคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่บ้าน   ฉันได้นัดให้เพื่อนมาทำส้มตำและทำอาหารรับประทานกันที่บ้านนับเป็นเรื่องสนุกและมีความสุขมาก ที่ร้ายแรงกว่านั้นฉันได้แอบหนีไปเที่ยวนอกบ้านกับเพื่อน โดยเพื่อนมีมอเตอร์ไซค์มารับ   พวกเราหนีไปดูหนังในโรงหนัง  สมัยนั้นเสียเงินเพียงคนละ ๒ บาทครึ่งราคา  แต่ในที่สุดฉันถุกคุรพ่อจับได้  เพราะมีคนเห็นเข้าและมาบอกคุณพ่อ  ฉันได้ยุติการกระทำ  กลับมาเป็นชีวิตติดครอบครัว ไปดูหนัง ดูละคร หรือดูมวยกับคุณพ่อ  แม้ว่าไม่ชอบดูมวย  เพียงแต่ต้องการออกไปนอกบ้าน  และมีโอกาสได้นั่งร้านอาหารหรู ๆ กับคุณพ่อเท่านั้นเอง

        เมื่อจบการศึกษาแล้ว  ฉันได้เข้าทำงานที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งเพียง ๑ ภาคเรียนเท่านั้น  เพราะไม่สนุกกับงานที่ทำ  และได้เปลี่ยนงานไปอยู่บริษัทเอกชนอีกแห่ง  ชีวิตฉันจึงนับว่าก้าวข้ามวัยจากวัยเด็กมาเป็นวัยผู้ใหญ่  ถูกเปลี่ยนบุคลิกภาพจากการแต่งตัวจากวัยนักเรียนนักศึกษามาเป็นวัยของคนทำงานอย่างรวดเร็วมาก   ฉันเคารพต่อกฏเกณฑ์ระเบียบที่ครอบคลุมอย่างเข้มงวด   ฉันต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่เขามอบหมายให้ทำ  การเรียนรู้ของฉันจึงมาจากประสบการณ์ทางสังคมของที่ทำงานและการอ่านหนังสือ  ฉันดูเหมือนจะอาวุโสน้อยของที่ทำงาน ฉันต้องไปทำงานแต่เช้า  ทำทุกอย่างนอกเหนือไปจากหน้าที่เช่น การปัดกวาด การชงกาแฟ การจัดโต๊ะ ตู้เอกสาร แม้ว่าจะมีแม่บ้านทำหน้าที่แล้วก็ตาม

        ภายหลังฉันจากบริษัทเอกชนไปแบบละทิ้งงานกระทันหัน  และเขียนจดหมายไปลาออก  เนื่องจากพี่...ซึ่งเป็นหัวหน้างานของฉันมีสามีเป็นวิศวกรโรงงานและมีเพื่อนชายเป็นสจ๊วต  เราสี่คนเคยทานข้าวด้วยกัน แต่ไม่สนิทสนมกันมาก วันนั้นเป็นวันหยุดฉันไปปากน้ำกับเพื่อน  ส่วนคุณสจ๊วตก็ไม่ทราบไปที่ไหนเพราะพี่คนนั้นโทรศัพท์ไปหาเขาที่บ้านแล้วไม่เจอ  เช้าวันจันทร์ฉันถูกพี่....หัวหน้างานกระชากตัวอย่างแรงเกือบหกล้ม และซักประวัติยิ่งกว่าพยาบาลถามคนไข้หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจเค้นความผิดจากผู้ต้องหา  แม้ว่าฉันชี้แจงความจริงทุกประการไม่ได้ปิดบังอะไร แต่หัวหน้างานเขาคิดว่าฉันโกหก  กดดันให้ฉันยอมรับว่าได้ไปกับคุณสจ๊วตคนนั้นจริง   ฉันตัดสินปัญหาแบบโง่ ๆ ด้วยการลาออกโดยไม่รอการอนุมัติ

        ฉันกลับบ้านที่เชียงใหม่ ขณะนั้นคุณพ่อและคุณแม่ทำงานอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่  ด้วยความสงสัยของคุณพ่อและคุณแม่ท่าทางไม่สบายใจที่เห็นฉันหยุดงานหลายวัน  ท่านคงสังเกตรู้ได้เพราะฉันอ่านหนังสือพิมพ์สมัครงาน  เมื่อคุณแม่รู้ความจริงก็ไม่ได้ตำหนิแต่อย่างใดและให้กำลังใจ  แต่ฉันแอบได้ยินคุณพ่อพุดกับคุณแม่แบบสั้น ๆว่า "เมื่อไม่มีความอดทนต่อไปก็ไม่ต้องทำงานอะไร อยู่บ้านเฉย ๆ ก็ได้" มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บและบาดลึกเข้าไปในหัวใจ เสียงของคุณพ่อเศร้ามาก  สิ่งที่รับรู้และทรนงตัวเสมอมาคือ "ฉันรู้ว่าคุณพ่อรักฉันมาก"

       วันหนึ่งฉันมีโอกาสไปบ้านปู่และย่าที่พิษณุโลก  ได้เจอกับญาติชื่อต้อยเพิ่งเรียนจบครูมาหมาด ๆ  ต้อยชวนฉันไปสอบบรรจุครูเพื่อเป็นเพื่อนและช่วยอ่านหนังสือ เราจึงไปสมัครพร้อมกัน  ได้เลขที่สอบใกล้ ๆ กันจะได้ดูกัน 

       ฉันใช้เวลาอ่านหนังสือ ๓ เดือนเต็ม ๆ หยุดเฉพาะเวลานอนกับเวลาทานข้าว  ฉันอ่านจนจำได้ทุกหน้าทุกเรื่อง เลขที่ในใบสมัครของฉันกับต้อยติดกันของฉัน ๒๙ ส่วนต้อย ๓๐  การเข้าสอบฉันนั่งหน้าต้อยนั่งหลัง  เธอบอกว่าลอกคำตอบจากฉันเกือบจะทั้งหมด  พวกเราต้องเลือกโรงเรียนในวันสมัครสอบแข่งขัน    ฉันเลือกโรงเรียนในอำเภอบางกระทุ่ม มีผู้สมัคร ๑๔๓ คนรับได้เพียง ๒ ตำแหน่ง สาเหตุที่เลือกโรงเรียนนี้เนื่องจากชื่อไพเราะ ส่วนต้อยเลือกโรงเรียนในอำเภอบางระกำมีผู้สมัคร ๓๒ คนรับเพียง ๑ ตำแหน่ง

        ภายหลังที่สอบแล้วฉันไม่มั่นใจในการสอบนักเพราะมีผู้เข้าแข่งขันเยอะ  ฉันพยายามติดต่อสมัครงานไปตามบริษัทเอกชนต่าง ๆ อีกครั้ง    ฉันสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้จึงได้ตอบรับกลับมาหลายแห่ง  เมื่อถึงวันประกาศผลสอบบรรจุครู  ฉันไปดูประกาศผลคนเดียวเพราะไม่เจอต้อย  แต่ฉันพบคุณอาซึ่งเป็นน้องสาวของคุณพ่อบอกว่าฉันสอบบรรจุได้  ส่วนต้อยสอบไม่ได้ ก็เป็นเรื่องเล่าเฮฮาขบขันกันอยู่ในหมู่ญาติ ๆ ระยะหนึ่งว่าต้อยอาจตาลายลอกผิดข้อก็เป็นได้

          วันแรกที่ไปบรรจุครู  ครูใหม่ ๕ คนนัดแนะกันไปเจอที่หน้าสถานีรถไฟมีตั้งแต่วุฒิปริญญาตรี ปกศ.สูง และปวส. เป็นครูผู้หญิง ๓ คนและครูผู้ชายอีก ๒ คน คนอื่น ๆ เขาจบมาใหม่ ๆ อายุ ๒๓ - ๒๕ ส่วนฉันอายุ ๒๘ ปี  ฉันจึงเป็นรุ่นพี่ของครูใหม่คณะนี้  ไม่มีใครทราบว่าโรงเรียนอยู่ที่ไหน  เพียงแต่มีลายแทงและชื่อโรงเรียน  พวกเราเริ่มต้นการเดินทางโดยรถสองแถว  คนขับรถสองแถวบอกว่าไม่รู้จักโรงเรียนวัดกรุงศรีเจริญ  ตกลงไปตามลายแทงเจอป้ายโรงเรียนเล็ก ๆ อยู่หน้าวัดของหมู่บ้านกรุงเกรง ตำบลนครป่าหมาก อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก  มีบ้านพักครูอยู่ ๓ หลัง มีครูอาศัยอยู่แล้ว ๑๑ คน ครูใหม่ ๕ คนจะต้องแบ่งไปตามบ้านพักครู ๒ หลังที่ยังมีห้องว่างอยู่ ส่วนอีกหลังหนึ่งมี ๒ ห้องครูพักอยู่แล้ว ๒ ครอบครัวส่วนอาจารย์ใหญ่อยู่ในหมู่บ้าน

         ที่บ้านพักครูชั้นเดียวด้านบนมี ๓ ห้องนอนและห้องเก็บของอยู่ชั้นล่างอีก ๑ ห้อง ฉันพักคนเดียว  ห้องกลางมีครอบครัว  ห้องริมอีกด้านหนึ่งครูหนุ่ม ๓ คนพักด้วยกัน  ครูใหม่ผู้หญิงอีกคนขอพักที่ห้องเก็บของชั้นล่าง  ภายหลังครูเก่าเล่าให้ฟังว่า "ครั้งแรกทุกคนไม่ชอบฉันมากนักเพราะพวกเขาบอกว่าฉันมีมาดเป็นคุณหนูเหลือเกิน  คงจะเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ" อาหารเย็นมื้อแรกแต่ละคนนำกับข้าวเก่า ๆ ไปซ่อน  มีแต่ของใหม่มาทาน  ทุกคนนั่งล้อมวงกับพื้นเป็นวงกว้างมาก  ฉันบังเอิญเดินไปเปิดและยกกับข้าวที่เขาซ่อนไว้มาวางและเลือกทานของเหล่านั้น  จำได้ว่าเป็นปลาทูเค็มทอดเหลือเนื้อปลาทูติดก้างพอทานได้  ทำให้ลบความรู้สึกที่เขามีต่อฉันครั้งแรกเป็นไปในทางที่ดีและพอใจต่อฉันมากขึ้น

         โรงเรียนไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา  ครูที่มีครอบครัวแล้วสามีจะไปตักน้ำที่ลำคลองหรือโยกน้ำบาดาลให้อาบ ก่อนอาบต้องแกว่งสารส้มเพราะกลัวเชื้อโรคหรือกลัวผิวเสีย  ส่วนฉันท่าทางคงหิ้วน้ำไม่ไหว  ครูผู้ชายจึงช่วยตักน้ำมาให้แต่ฉันไม่รอแกว่งสารส้มอาบได้เลย เมื่ออาบแล้วจึงมีกลิ่นติดก็โรยแป้งเยอะ ๆ ข้างบ้านพักครูมีถังน้ำฝนเอาไว้สำหรับดื่มกินและล้างหน้า สัปดาห์หนึ่งจะมีรถมาขายกับข้าวเพียง ๒ ครั้ง ถ้าวิ่งออกไปซื้อไม่ทันก็อด อาหารหลักก็เป็นมาม่า ปลากระป๋องและผักบุ้งตามท้องนา ของว่างก็คือกล้วยดิบนำมาฝานเป็นชิ้นบาง ๆ ทอดน้ำมันโรยเกลือ  ตื่นนอนแต่ละวันขนจมูกจะดำเพราะควันของตะเกียงน้ำมันที่ฉันจุดอ่านหนังสือ และเขียนจดหมายถึงเพื่อน ๆ รวมทั้งเขียนถึงคนพิเศษ

         การเขียนจดหมายถึงแฟนนั้นเขียนทุกวัน  ส่วนเขียนถึงพ่อแม่หรือเพื่อนนั้นสัปดาห์ละครั้งหรือสองสัปดาห์แล้วแต่อารมณ์และหายไปเป็นเดือน ๆ  การรับส่งจดหมายนับเป็นอุปสรรคต้องขี่จักรยานนำจดหมายไปส่งที่หมู่บ้านสามเรือนซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียน ๔ กิโลเมตร  แต่พวกเราก็ไม่หวั่นโดยเฉพาะคนมีแฟน  ภายหลังพวกเราแบ่งหน้าที่กันไปรับไปส่งจดหมาย  หากคนใดไปรับจดหมายก็จะหอบมาเป็นปึก ๆ พวกเราจะรีบวิ่งกระโดดแย่งจดหมายกัน ปานว่าทหารชายแดน  ของใครยังไม่มาก็หน้าเศร้า

         ฉันไม่ประทับใจความเป็นอยู่ทุกอย่างและคิดว่าเมื่อเดินทางผิดก็ต้องอดทน  เพราะคงไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้ว  อายุก็มากกว่าที่จะไปสมัครงานใหม่ ๆ ได้อีก  แต่ฉันก็วางแผนไว้ในใจว่าจะลาออกไปทำงานอิสระมีกิจการเล็ก ๆ เป็นของตนเอง พ่อแม่ฉันคงมีความสุขไม่ห่วงใยฉันมากกว่านี้  คงต้องหาเวลาไปศึกษากับญาติ ๆ ที่เขาประกอบอาชีพส่วนตัว อีกประการหนึ่งเงินเดือนน้อยกว่าที่เคยได้รับมาจากบริษัทเอกชนเกือบครึ่ง  และระหว่างนั้นมีการสนทนาถกเถียงกันของครูในโรงเรียนเกี่ยวกับการได้รับขั้นเงินเดือนประจำปีที่เรียกว่าความดีความชอบ  ประการหลังนี้ที่ฉันรับไม่ได้  เนื่องจากฉันเคยผ่านการทำงานจากบริษัทเอกชนมาแล้วนั้นต้องตั้งใจทำงานเพราะกลัวเจ้านายจะยื่นซองขาวไล่ออกมากกว่าการรอเงินเดือนขึ้น  การที่จะให้ฉันยอมรับและพิศมัยชีวิตราชการนั้นห่างออกไปทุกทีจนจะถึงศูนย์และจวนจะติดลบ

         ณ วันที่ชีวิตหักเหเมื่อเจอกับจุดเปลี่ยนถือเป็นเรื่องเล่าเร้าพลัง  บุญบันดาลให้ฉันได้เจอเหตุการณ์นี้...."เด็กชายคนหนึ่งท่าทางผอม หน้าตามอมแมมมาเข้าห้องเรียนตอนบ่ายช้ากว่าเพื่อน  เพราะนักเรียนกลับไปทานอาหารกลางวันที่บ้าน  เขาเดินเข้าห้องแบบกล้า ๆ กลัว  ดูเหมือนถืออะไรซ่อนไว้ข้างหลัง  ฉันไม่ได้ว่าอะไร เมื่อเลิกเรียนเด็กชายคนนี้ยังไม่ยอมกลับบ้าน  จนเพื่อน ๆ กลับไปหมดแล้ว  เขาเดินเข้ามาหาฉันอย่างเงียบ ๆ และถืออะไรไว้ข้างหลังเหมือนเดิม  ค่อย ๆ นำสิ่งที่ซ่อนไว้มาวางไว้บนโต๊ะครูและบอกว่า "ครูครับผมให้ครู" มันเป็นมะม่วงดิบ ๑ ผล"  แม้ฉันจะปฏิเสธแต่เขาทำตาแดง ๆ คล้ายจะร้องไห้ เมื่อฉันเต็มใจรับไว้เขาจึงยิ้มได้น้อย ๆ และทำให้ทราบว่าสาเหตุเข้าห้องเรียนล่าช้าเพราะไปปีนมะม่วง  ฉันถือมะม่วงประวัติศาสตร์กลับบ้านพักครู  เมื่อนำขึ้นมาดูพบว่ามะม่วงมีรอยฟันกัดแล้ว แต่มีการชั่งใจว่ายังไม่กิน ทำให้ฉันเจอกับจุดเปลี่ยนของหัวใจ 

         คืนนั้นฉันนอนไม่หลับ นำมะม่วงไปล้างให้สะอาดเช็ดให้แห้ง และนำมาวางไว้ใกล้ ๆ ตื่นเช้าฉันนำมะม่วงผลนั้นใส่กระเป๋าไปโรงเรียนด้วย ฉันพบเด็กชายคนนั้นเขาส่งยิ้มให้ฉันอย่างอาย ๆ และวันต่อมาเราก็คุยกันอย่างคุ้นเคย เมื่อฉันกลับบ้านในเมืองได้พาเขาไปเที่ยวด้วยบ่อย ๆ  หากฉันย้อนอดีตได้ "ฉันจะเก็บมะม่วงลูกนั้นไว้กับฉันตลอดไป"

  

หมายเลขบันทึก: 248320เขียนเมื่อ 14 มีนาคม 2009 07:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (63)

เป็นชีวิตที่น่าสนใจ...น่าศึกษาทีเดียวครับ

เป็นเรื่องเล่าที่ดีมากเลยครับ  ได้รู้ทั้งประสบการณ์ และ ความรู้สึก

เรื่องเล่าประทับใจมากค่ะ

โอกาสหน้า คงจะได้พบกันนะคะ ครูคิม หลังจากไปพบคนอื่นๆแล้ว

ที่นี่ค่ะ

http://gotoknow.org/blog/cancernurse/248321

พี่ครูคิม.เล่าความหลังอีกแล้ว...เดี๋ยวมีคนได้ร้องไห้..

รออ่าน..ตอนต่อไปค่ะ

สวัสดีตอนเช้าครับคุณครู คิม ที่เคารพ

  • เป็นเรื่องที่มีคติ   ให้ข้อคิดหลายแง่มุม ทั้งผู้ให้และผู้รับ
  • ความจริงคือความบริสุทธิ์  ที่มีคุณค่ายิ่งครับคุณครู

จุดเปลี่ยนของคนเราไม่เหมือนกันนะคะ...แต่จุดเปลี่ยนของพี่คิมน่าสนใจ..คิดถึงพี่นะคะ..วันนี้น้องแอ้ดของพี่คิมพร้อมจะยืนอย่างเข้มแข้งและก้าวเดินต่อไปแล้วค่ะ

  • สวัสดีครูคิม
  • อดีตมีความฝ้งใจหลายอย่าง หากนำมาเผยแพร่ ก็จะเกิดแง่คิดสะกิดใจ และเป็นประโยชน์แก่คนในโลก ดีกว่าเก็บไว้กับตัว และละลายไปกับกาลเวลา
  • คิดถึงและรักษาสุขภาพด้วย ดูแล้วสุขภาพน่าจะไม่ค่อยแข็งแรง
  • ขอบคุณ

สวัสดีค่ะคุณครูพิสูจน์

  • ขอขอบคุณค่ะ
  • จะเล่าไปเรื่อย ๆ
  • หากเปิดอ่านไดอารี่เล่มเก่าแล้ว
  • ต้องเล่ายาวค่ะ...เป็นการบ้านพ่อครูบา
  • ต้องทำได้ค่ะ

สวัสดีค่ะท่านรองฯ small man~natadee

  • วัยเด็กพี่คิมเป็นคนโง่มาก ๆ ถือทิฐิ
  • ซึ่งอาจจะไม่ดีเลยหากไม่มีพ่อแม่ช่วยเหลือ
  • กว่าจะมีงานทำเป็นมั่นคงอายุ ๓๐ ปีไม่ใช่เรื่องดีนะคะ

สวัสดีค่ะน้องแก้ว..อุบล จ๋วงพานิช

  • ต่อไปน้องแก้ว..ก็
  • เป็นคนหนึ่งที่ต้องทำการบ้านเหมือนพี่คิมค่ะ

สวัสดีค่ะน้องคุณลดา

  • ความเข้มแข็ง..ไม่มีใครสร้างให้เราได้นะคะ
  • นอกจากตัวเราเองค่ะ
  • ชีวิตเราคล้ายกันมากเลยนะคะ
  • แต่ทุกวันนี้ ผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นมาเนิ่นนานนักหนาแล้ว
  • ก็ยังถวิลหามิรู้ลืม
  • รักค่ะ

สวัสดีค่ะคุณท. ณเมืองกาฬ

  • ความล้มเหลว หรือความผิดพลาดของคนหนึ่งคน
  • อาจเป็นประโยชน์กับคนหลายคนก็ได้นะคะ

สวัสดีค่ะน้อง add

  • ความดี ความอิ่มใจ ไม่ใช่เรื่องที่บอกใครได้ง่าย
  • เพราะเป็นความรู้สึก
  • แต่..ความเป็นมา จุดพลิกชีวิต
  • เป็นเรื่องที่ควรเล่าบอก  เพราะอาจมีคนอีกหลายคนที่คิดแบบพี่คิมในอดีตค่ะ

สวัสดีค่ะคุณศรีกมล

  • ขอขอบคุณในความรู้สึกที่ดีต่อกัน
  • และความห่วงฝย
  • ขอขอบพระคุณมากค่ะ
  • ครูคิม..อ่อนนอกแข็งใน..(คนแถวนั้นเขาบอกค่ะ)

สวัสดีค่ะ พี่คิม

เรื่องราวบางเรื่อง...สะท้อนภาพได้ชัดเจนค่ะพี่..

พี่ทานข้าวแลงหรือยังคะ..

ที่บ้านพี่ฝนตกไหม..เมืองเลยเมือคืนฝนตก

มีพายุด้วยค่ะ..

สวัสดีค่ะคุณครูแจ๋ว คุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน
  • แต่..เสียดายไม่มีพระเอกเหมือนครูแจ๋วนี่คะ
  • รออ่านตอนต่อ  ๆไปนะคะ
  • น่าอิจฉาได้มีคนเอาเป็นน้องสาว
  • ฮิ ๆ ๆ ๆ ๆ

สวัสดีค่ะน้องครูอ้อ

  • พี่คิมทานข้าวแลงมาจากหมู่บ้านค่ะ
  • แกงอิรอก เห็ดลมค่ะ
  • ฝนตกหนักตอนเช้า เจอรถเกิดเหตุหลายแห่ง
  • ไม่ทราบว่าจะเล่าถึงไหน ได้ดีขนาดไหน (คนอ่านรู้เรื่อง)
  • เพระพ่อครูบาจะทำเป็นเล่มละหลาย ๆคนค่ะ

สวัสดีครับครูคิม บล็อกใหม่เหรอครับ เห็นตั้งชื่อบล็อกน่าสนใจดี เลยเข้ามาอ่านครับ

เป็นชีวิตที่น่าสนใจดีครับ

สวัสดีค่ะคุณBob

  • พี่คิมทำการบ้านส่งพ่อครูบาค่ะ
  • แวะเข้าไปอ่านบันทึกของพ่อครูบาหรือยังคะ
  • ส่วนของพี่คิมก็ต้องเล่าเป็นตอน ๆ ไป
  • ขอขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ
  • มะม่วงที่มีรอยฟัน แบ่งปันให้ครู
  • ทั้งๆที่หนูก็อยากกิน....
  • จุดเปลี่ยน...ของครูคิม จะรออ่านอีกค่ะ

สวัสดีค่ะท่าน ศน.ลำดวน

  • ผ่านไปกี่ปีมาแล้วค่ะ..ยังติดจาติดใจ
  • ไม่เช่นนั้นคงไม่มีครูคิมในวันนี้ค่ะ
  • รอตอนต่อไปนะคะ
  • ขอขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับอาจารย์  เพิ่งเข้ามาเมื่อตะกี้นี้เองก็รีบทักทายผู้ที่ไปให้กำลังใจ ....ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงอีกครั้ง..ชีวิตคนบ้านนอก....เด็กชายมอมแมนพร้อมกับมะม่วงหนึ่งลูกนั้น....ยังมีอีกมากมายในชนบทบ้านเรา....ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์  ครับ

สวัสดีค่ะท่านพี่หนุ่ม กร~natadee

  • ถ้าไม่มีมะม่วง
  • ก็คงไม่มีครูบ้านนอกที่ชื่อ..ครูคิม
  • คิดแล้วใจหายค่ะ
  • ตั้งแต่ย้ายจากมาก็ไม่เคยกลับไปเยี่ยมโรงเรียนนั้นอีกเลยค่ะ
  • สักวันหนึ่งจะต้องไปแบบสร้างสรรค์สักครั้ง

พี่คิมคะ เป็นเรื่องเล่าที่ประทับใจมากค่ะ จุดเปลี่ยนนั้นเป็นจุดสำคัญทีเดียว...เป็นกำลังใจให้พี่คิมนะคะ สู้ๆๆๆ เล่าต่อ เล่าต่อค่ะ

  • คุณครูสมัยก่อน
  • ไม่ธรรมดา
  • แต่ชีวิตไม่ธรรมดาเลยครับ
  • พี่สบายดีไหมครับ

สวัสดีค่ะน้อง♥.paula ที่ปรึกษาตัวน้อยแต่~natadee✿

  • เป็นกำลังใจอย่างยิ่งค่ะน้อง
  • พี่คิมเข้ามาบล้อกเป็นระยะ ๆ
  • เพราะทำงานไปด้วยค่ะ
  • พักแล้วรอบหนึ่ง
  • ตอนนี้พักอีกรอบ เพื่อนบ้านเรียกแล้วค่ะ
  • ชมรมส้มตำค่ะ

สวัสดีค่ะน้องชายอาจารย์ขจิต ฝอยทอง

  • เบื้องหลัง...ก่อนจะมาทานมะม่วงน้องขจิตได้อ่านแล้วนะคะ
  • วันนี้..ถ้าไม่มีมีมะม่วง..พี่คิมก็ไม่มีโอกาสได้มาเป็นครู
  • และไม่ได้รู้จักน้องชาย..แน่ ๆ
  • พี่คิมสบายดีค่ะ..ที่มีงานให้ทำเรื่อย ๆ
  • พ่อครูไปเม้นท์บันทึกที่ ๑๗๑-๑๗๒ ให้
  • ยิ่งภูมิใจและเก็บไปเป็นงานอีกมากมายเลยค่ะ
  • คิดถึงอาจารย์ค่ะ
  • วันที่ ๗ เมษายน พี่คิมจะนำลิงน้อยชุดใหม่ไปฝากอีกนะคะ
  • สวัสดียามเย็นค่ะป้าคิม...
  • ปลายฟ้า...กำลังทำงานอยู่ค่ะ
  • เห็นป้าคิม...แวะมาทักทาย.
  • ปลายฟ้า   ก็รีบมาเยี่ยมบ้านป้าคิม...หลังใหม่ซะด้วย
  • แต่ net  มันอืดมากค่ะ
  • กว่าจะเข้ามาได้..
  • แทบแย่...
  • อาจเพราะป้าคิม...มีบ้านเพิ่มอีก 1  หลัง
  • สงสัยแขกเยอะ... แน่เลย
  • คิดถึงนะคะ
  • วันนี้ทานข้าว...กับอะไรเอ่ย
  • ทานเผื่อกันบ้างนะคะ

                       

สวัสดีค่ะน้อง °o.O ปลายฟ้า O.o°

  • วันนี้ป้าคิมทำงานไปด้วย  แวะเข้าบล็อกด้วย
  • หลายเวลาค่ะ
  • งานเกือบจะแล้วเสร็จ อีกนิดหน่อยค่ะ
  • เย็นนี้..ไม่รู้สึกหิวเลยนะคะ
  • แต่..ก็คงทานตอนดึกสักหน่อย
  • ทำอาหารทานเอง แบบสด ๆร้อน ๆจานเดียวค่ะ
  • แล้วจะทานเผื่อนะคะ

มาตามคำเชิญค่ะ

อ่านประวัติแล้วรู้สึกดีนะค่ะ น่าสนใจมากค่ะ

จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตทำให้มีครูคิมคนดีขึ้นมา

ฝากขอบคุณเด็กชายตัวน้อยด้วยนะค่ะ

รักและคิดถึงค่ะ

สวัสดีค่ะน้องสี่ซี่

  • ใช่ค่ะน้องสี่..ถ้าไม่มีเจ้าของมะม่วง
  • คงไม่มีครูชื่อ..คิมคนนี้ค่ะ
  • พี่คิมจะรีบเล่าย่อ ๆ ตอนแรก ๆ
  • แล้วจึงจะเล่าเข้มตอนหลังค่ะ
  • ขอขอบคุณน้องสี่ค่ะ
  • เข้ามาอ่าน 2 รอบแล้ว
  • อ่านแล้วเห็นภาพเลย
  • เยี่ยมจริงๆ
  • รออ่านเป็นรูปเล่มค่ะ

สวัสดีค่ะน้องเขี้ยวมนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย)

  • พี่คิมทำงานเสร็จพอดีค่ะ
  • พรุ่งนี้ต้องพร้อมประชุมทุกเรื่อง
  • ก่อนปิดเครื่อง..มาคุยกับพี่น้องก่อนค่ะ
  • นอนหลับฝันดีเช่นกันนะคะ

สวัสดีค่ะพี่คิม

แวะมาอ่านประวัติของคนที่อยู่ในดวงใจของน้องค่ะ

จะค่อย ๆ ทะยอยมาอ่านต่อนะคะ

(^___^)

สวัสดีค่ะน้อง คนไม่มีราก

  • ขอขอบคุณค่ะ
  • เรื่องเล่าเพื่อส่งการบ้านให้พ่อครูบาค่ะ
  • พระคุณของมะม่วงเพียงผลเดียว
  • ส่งให้พี่คิมได้เป็นครูมาถึงวันนี้ค่ะ

 

  • อือ..เด็กชายคนนั้น..ป่านนี้อยู่ไหน..ทำอะไรน้อ...
  • รอยเขี้ยวที่มะม่วง...ต้องเป็นตอนปีนลงมา...ไม่มีมือจับ..จะโยนมะม่วงลงมาก่อนก็กลัวช้ำ..ก็เลยใช้ปากกัด..ใช้มือโหนลำต้นลงมา..
  • แบบนั้นรึเปล่าครับ

พี่ครูคิมคะ วันหยุดที่มีเวลามากๆ วันนี้ ดาวลูกไก่ทิ้งรอยนะคะว่าเริ่มออกเดินทางตามรอย "ครูคิม...เจ้าเป็นไผ" แล้วค่ะ

สวัสดีค่ะน้องดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี

  • ขอขอบคุณค่ะน้องดาว
  • ชีวิตของทุกคน..เหมือนนักปรัชญาว่าไว้นะคะว่า "ไม่ใช่การโรยด้วยกลีบกุหลาบอันหอมหวล"
  • แต่ะคิมว่า..พี่คิมไม่เชื่อเรื่องฟ้าลิขิตค่ะ พี่คิมเชื่อเราลิขิตเอง
  • แม้ว่า..จะเจอจุดเปลี่ยนก็ตาม..เราตัดสินใจไม่เลือกก็ได้นะคะ
  • แล้วจะเรา..การตัดสินใจลาออกจากราชการ..นะคะ

สวัสดีค่ะ..

ครูอมรเดินตามคุณครูคิมแล้วนะคะ

สวัสดีค่ะคุณครูอมร ไกรเทพ

  • ไปอ่านเรื่องเล่าของคุณครูมาแล้วนะคะ
  • ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ
  • ดีใจที่มีส่วนเป็นผู้จุดประกายให้ครูอมรค่ะ
  • ชีวิตของแต่ละคน..เป็นเรื่องการต่อสู้นะคะ
  • อย่ากลัวกับการต่อสู้เลยค่ะ
  • รักและคิดถึงเสมอนะคะ

สวัสดีคะ

ครูคิมคะ ได้เจอกัน พุดกันแล้ว จึงค่อยกลับมาอ่าน

ทำให้เข้าใจแฃะลึกซึ้งมากๆๆคะ

สวัสดีค่ะน้องชาย..เกษตร(อยู่)จังหวัด

  • ขออภัยนะคะที่ตอบช้า
  • เพิ่งจะทราบว่า
  • มีคนแอบมาปั่นบันทึก
  • ฮิ ๆ ๆ ๆ ๆ

สวัสดีค่ะแม่ต้อย

  • บันทึกเพื่อแม่ต้อย..
  • ตอน ๒ ออกแล้วนะคะ
  • ขอขอบคุณค่ะที่ติดตามอ่าน
  • ฮิ ๆ ๆ ๆ ครูบ้านนอก

สวัสดี ดีครับ ครูคิม

ผม มาช่วย คุณ ครู ขีดเส้นใต้ ชีวิตข้ามวัย

ชอบความหมายของ คำ

ชอบ เรื่อง เล่า ของครู เรื่อง นี้ มาก ครับ

และชอบ คำใน เครื่องหมาย คำพูด คำนี้ มาก

"ไม่ให้กลัวอะไรจนเกินไป ต้องเป็นคนกล้าคิด กล้าทำ มีความรับผิดชอบต่อเรื่องที่คิด เรื่องที่ทำ ต้องอดทนและทนอด"

พ่อ ผม ท่าน พูด คำนี้ อยู่บ่อย ๆ เหมือนกัน กัน

ถ้าลูก หิว ....ให้ลูกกิน

ถ้าลูก อยาก....อย่ากิน

มีความหมาย ดี ทีเดียว ครับ

คำ 2 คำ  มี ความหมายใกล้ ๆ กัน แต่ หิว จำเป็นกว่า อยาก

บางครั้ง อยาก  แต่ไม่หิว.....ไม่กิน ก็ยัง พอทุเลา

แต่  หิว  เป็นความรู้สึกที่ต้อง กิน แล้ว

ผม หิว ข้าว แล้ว ครับ ครูคิม

ขอบพระคุณ มาก ครับ

 

พ่อ ผม ท่าน พูด คำนี้ อยู่บ่อย ๆ เหมือนกัน กัน

ถ้าลูก หิว ....ให้ลูกกิน

ถ้าลูก อยาก....อย่ากิน

มีความหมาย ดี ทีเดียว ครับ

คำ 2 คำ  มี ความหมายใกล้ ๆ กัน แต่ หิว จำเป็นกว่า อยาก

บางครั้ง อยาก  แต่ไม่หิว.....ไม่กิน ก็ยัง พอทุเลา

แต่  หิว  เป็นความรู้สึกที่ต้อง กิน แล้ว

ผม หิว ข้าว แล้ว ครับ ครูคิม

ขอบพระคุณ มาก ครับ

สวัสดีค่ะน้องชายแสงแห่งความดี

  • วันนี้พี่คิมไปโรงเรียน  ไปทำงานที่โรงเรียนได้งานและคุยกันสนุก ๆ ค่ะ
  • พี่คิมถูกสอนมาแบบเข้มและแกร่งค่ะ แม้จะเป็นคนเดียวของครอบครัวก็ตาม
  • ทานข้าวทุกเม็ด ดื่มน้ำทุกหยด ไม่เหลือทิ้ง ให้รักคนอื่นเหมือนรักตัวเอง
  • อย่าทำตัวเป็นเศษหรือขยะของสังคม  และรู้จักให้คนอื่น..ไม่ลืมคำว่า..ให้อภัย..ด้วยค่ะ
  • หน้าที่และความรับผิดชอบ..คือคำตอบของชีวิตค่ะ
  • คุณปู่..สอนเรื่องจิตวิญญาณ..ตอนนั้นรู้สึกว่าท่านเอาอะไรมาสอน ไม่รู้เรื่อง น่ากลัว 
  • แต่ภายหลัง..เข้าใจสังคมมากขึ้น..จึงได้รู้
  • คุณย่าสอนว่า..ความเปื้อนของร่างกายล้างง่าย แต่ใจเปื้อนใจล้างได้ยาก  จึงอย่าให้ใจเปื้อนค่ะ
  • ทุกวันนี้ยังยึดคำสอนของพ่อ แม่ และคุณปู่ คุณย่าเสมอค่ะ
  • ขอขอบคุณในความรู้สึกที่ดีต่อกัน

สวัสดีค่ะน้องชาย แสงแห่งความดี

  • ความหิวก็ทนได้นะคะ  จะทานอะไรเพื่อประทังความหิยยังต้องเลือกแล้วเลือกอีกเพื่อความสมดุลของการจับจ่ายและชีวิตค่ะ
  • ความอยาก..ค่อนข้างใช้ความอดทนสูง เพราะเป็นเรื่องของจิตวิญญาณค่ะ 
  • คนที่ไม่ถูกฝึก..ก็จะทำได้ยากสักหน่อย
  • เพราะความอยาก  เป็นกิเลสตัวทำลายที่น่ากลัว  ไม่รู้จักอดทนอดกลั้นก็ย่อมแสดงออกในเรื่อง..ขาดสติ
  • วันนี้..ได้สนทนาเกี่ยวกับการขาดสติของคน ๆ หนึ่ง..ฟังแล้วก็ได้แต่เวทนาและสงสารค่ะ  เป็นเพราะเขาไม่ระงับความอยากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี

  • ขอขอบพระคุรค่ะ
  • หัวใจเศร้าหมองเหลือเกินนะคะ
  • ขอให้สดชื่นเร็ววันค่ะเป็นกำลังใจให้นะคะ

ผ่านเข้ามาค่ะ

อ่านแล้วรู้สึกดีจัง

หัวใจแกร่ง..แข็งแรงดีจังนะคะ

ชอบค่ะ

P  เป็นคนที่มีคุณค่าสำหรับโลกใบนี้

สู้ต่อไปนะคะ...เป็นกำลังใจให้ค่ะ

สวัสดีค่ะน้องkrupadee

  • ขอขอบพระคุณค่ะที่มาปั่นบันทึกเก่า ๆของพี่
  • บ้งเอิญวันนี้พี่อยู่หน้าจอค่ะ
  • ไม่เช่นนั้นเสียมารยาท...ลืมตอบไปนานเลยค่ะ
  • ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
  • เชิญที่บันทึกใหม่ล่าสุดค่ะ  มีเรื่องดี ๆรออยู่ค่ะ
  • http://gotoknow.org/blog/krukim/312494

บางคนไม่มีโอกาสเป็นครู แต่ก็ได้เป็นครู

ประทับใจเด็กคนที่นำมะม่วงมาฝาก เขาคงศรัทธาในตัวครูมาก

สวัสดีค่ะท่าน ผอ.พรชัย

  • ขอขอบพระคุณอีกท่านหนึ่งค่ะ  ที่มาปั่นบันทึก  เป็นหุ้นก็ดีนะคะมีผู้มาปั่น
  • บังเอิญอยู่หน้าจอค่ะ  ไม่เช่นนั้นไม่มีหวังได้ตอบเม้นท์
  • เด็กชายคนนี้ปัจจุบันเป็นวิศวกร..อยู่รัฐวิสาหกิจค่ะ
  • ได้ติดต่อกันเมื่อ ๓ ปีที่ผ่านมา
  • โดยการนำชื่อครูนามสกุลเดิมมาลองค้นดูค่ะ...บังเอิญกลับมาเป็นเจ้าของนามสกุลเดิมจึงหาง่ายค่ะ

ขอบคุณครูคิมที่แวะมาเยี่ยม ถ้ามีโอกาสก็ไปเที่ยวศาลาแก้วกู่ได้อีกนะ

ขอบคุณสำหรับบทความดีดี และแผนการสอนเยี่ยม ๆ พี่ขอยืมไปใช้เป็นวิทยาทานสำหรับเด็กนะคะ ไม่มีเวลาทำแผนการสอนเลยค่ะ ปีนี้จำนวนเด็กน้อยลง ครูเกษียณอายุถูกตัดอัตรา ผอ. เลยต้องลงช่วยสอน 3 ชั้น ภาษาอังกฤษ กับวิทยาฃสาสตร์ ประทับใจ เรื่องที่เล่าทุกเรื่อง อยากย้อนเวลาหาอดีต สมัยเป็นครูชนบทเช่นกัน ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ

มาเก็บตก เจ้าเป็นไผ ค่ะพี่คิม เอ หนุ่มน้อยหน้ามน ต้องเป็นคนดีที่ไหนสักแห่งแน่เลย ขอบคุณพี่คิมค่ะ

อ่านแล้วซึ้งจัง เล่าได้เห็นภาพเลยค่ะ

สวัสดีค่ะkanhakanvongและผอ.ร.ร.เล็ก ๆ

ขออภัยที่ตอบเม้นท์ช้ามากค่ะ  เพราะเนื่องจากเขียนเรื่องใหม่ไปเรื่อย ๆ   หากเรื่องใดคิดว่าเป็นประโยชน์โปรดหยิบนำไปใช้ได้เลยค่ะ ไม่หวงค่ะ  ดีใจด้วยซ้ำไป  ที่มีผู้มองเห็นคุณค่าค่ะ

สวัสดีค่ะน้องpoo

หนุ่มน้อยเป็นผู้บริหารอยู่องค์กรรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งค่ะ  พรุ่งนี้เจอกันไหมละที่กระบี่นะคะ

สวัสดีค่ะคุณครูต้อย

กลับมาอ่านใหม่นะคะ สำนวนภาษาถูกแก้ไขมากมายค่ะ แต่เนื้อเรื่องคงเดิมค่ะ  เพื่อง่ายต่อความเข้าใจค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท