๒. คนป่าเข้าเมืองคนเมืองเข้าป่า


          ระยะแรก ๆ ของการไปอยู่ที่บ้านพักครู  ครูใหม่ทุกคนจะคิดถึงบ้านมาก  กลับบ้านกันทุกวันศุกร์ตอนบ่าย ๆ  โดยเดินเท้า ๓ ก.ม.ไปขึ้นรถสองแถวที่บ้านสามเรือน (แต่มีเรือนอยู่หลายหลัง) ไปในอำเภอและขึ้นรถไฟ  หรือจะขึ้นรถเมล์ประจำทางก็ได้ ในสมัยนั้นการโดยสารรถไฟสะดวกกว่า   และนัดพบกันที่หน้าสถานีรถไฟพิษณุโลกก่อนเที่ยงวันอาทิตย์เสมอ  เพราะต้องกลับเข้าโรงเรียนพร้อมกัน ทำนองสามเณรยังไม่แก่วัด ส่วนครูเก่าส่วนมากมีครอบครัว ถึงแม้จะอยู่ต่างอำเภอ ต่างจังหวัดนาน ๆจะกลับบ้านครั้งหนึ่ง 

         การเดินทางในฤดูฝนโหด มัน ฮา สุด ๆ รถสองแถวจะวิ่งรับส่งแค่สามแยกบ้านท่ามะขาม  หากตรงไปจะเป็นบ้านสันติบันเทิงและอำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร  หากเลี้ยวขวาไปอำเภอเมือง จังหวัดพิจิตรเช่นกัน  พวกเราจะถือรองเท้าเดินตัวเปล่าแต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด  เพราะถ้าหากเท้าข้างใดข้างหนึ่งไม่ถนัดพื้นก็จะจมลงไปในดินโคลน  เพื่อน ๆ ต้องช่วยฉุดดึงแขนกันขึ้นมา บางครั้งถอดรองเท้าไม่ทันต้องสละรองเท้าไว้ในดิน ไม่สามารถเอาขึ้นมาได้

         ครูผู้ชายหรือสามีครูต้องหาบหิ้วสิ่งของสัมภาระแทนพวกครูผู้หญิง  เดินบนเส้นทางสุดโหดแบบนี้ประมาณ ๘ ก.ม.  และอีกทางเลือกหนึ่งคือลงเรือหางยาวจากคลองคอสะพานบ้านท่ามะขามไปถึงท่าวัดหน้าโรงเรียน  ครูผู้หญิงบางคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นท่าทางเกรงแทบไม่หายใจหายคอ และหิ้วปีกเรือจนไหล่แทบหลุด  กลัวเรือจม

        กว่าจะถึงโรงเรียนเนื้อตัวตัวเลอะเทอะมอมแมม  นับเป็นเรื่องธรรมดาที่แสนสนุก  แต่การแต่งกายของพวกเราในฤดูลำบากเช่นนี้  ไม่ว่าครูชายหรือหญิงมีความจำเป็นต้องนุ่งกางเกงขาสั้น  รองเท้าแตะฟองน้ำแบบคีบเท่านั้น รองเท้าแบบอื่น ๆ มีความปลอดภัยน้อยกว่า   หลายครั้งที่พวกเรากลับบ้านและมีเวลาเป็นอุปสรรค  ทำให้พวกเรามีความจำเป็นต้องวิ่งขึ้นรถไฟไปแบบเลอะเทอะมอมแมม  ถือรองเท้าขึ้นไปด้วย เดินผ่านพวกผู้ลากมาดีเขาก็สมเพชและอมยิ้มมองดูพวกเราอย่างเวทนา แรก ๆ ก็รู้สึกอายบ่อย ๆ เข้าผิวหน้าก็ชาเป็นจนเคยชิน

         ฉันและเพื่อน ๆ ต่างปรับตัวได้ไม่ยากนัก  ตอนเย็นพระทำวัตรพวกเราถือโอกาสแอบไปเล่นน้ำในคลอง หรือไปอาบน้ำในบ่อริมทางข้างทุ่งนา ว่ายน้ำเล่นอย่างสนุก ชาวบ้านเรียกว่าบ่อหลา เพราะการขุดบ่อจ้างกันเป็นหลา  น้ำใสสะอาดมากมองเห็นปลามาเกยฝั่ง  ไม่มีใครจับปลาไปกิน  เพราะชาวบ้านรอกินปลาตัวใหญ่  ส่วนลำคลองมีน้ำเต็มฝั่ง มีปลา กุ้ง หอย ชุกชุมมาก  บางวันก็ไปเก็บผักบุ้งยอดอ่อน ๆ  และดำลงไปเก็บหอยกาบใต้น้ำมาทำอาหาร 

         หากหน้าน้ำทำให้น้ำในลำคลองเต็มตลิ่ง  พวกเราจะไปหัดพายเรือ มีเพียงไม่กี่คนที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็จะเป็นคนนั่งในลำเรือ  การพายเรื่อแรก ๆ ก็ไม่ถึงฝั่งสักทีเพราะเรือหมุนวนแล้ววนเล่า  แต่ก็พยายามพายจนสามารถนำเรือข้ามฝั่งไปเที่ยวบ้านชาวบ้านที่อยู่คนละฝั่งได้สะดวกขึ้น

         ครูผู้ชายมีกิจกรรมตามแบบฉบับที่ชอบเช่นไปหาปลา  ทอดแห ตกเบ็ด ต่อนกเขา และหากบเขียดเวลาฝนตก  ฉันได้ฝึกตกปลาเป็นครั้งแรก รู้สึกเพลินและมีความสุขมากที่ปลามากินเหยื่อ  จนเหยื่อหมดกระป๋องก็ไม่เคยได้ปลาแม้แต่ตัวเดียว  ส่วนคนอื่น ๆ ได้ปลาแทบทุกวินาที เหยื่อที่ฉันชอบคือตัวกุ้งสดเพราะไม่น่ารังเกียจเท่าใส้เดือนหรือเศษปลาร้า  ฉันใช้เวลาตกเบ็ดนานมากกว่าจะรู้เทคนิคในการทำบาปเมื่อมีปลาติดเบ็ดและวิดปลาขึ้นมาได้

        คืนวันหนึ่งครูผู้ชายไปหากบ  ครูผู้หญิงบอกว่าถ้าทิ้งให้เฝ้าบ้านพักครูก็กลัวผี ครูคนอื่นกลับบ้านกันทุกครอบครัว  เหลือแต่ครูหนุ่มสาวอยู่บ้านพักกัน  ครูผู้หญิงจึงขอติดตามไปช่วยหากบ  กางร่มไปด้วยเมื่อเห็นกบมาก็ดีใจ ตื่นเต้น ร้องเสียงหลง ทำให้กบกระโดดหนีเข้าป่าไปหมด  ทำให้คืนนั้นแวจากการจับกบ  วันต่อมาครูผู้ชายก็ออกอุบายว่าไม่อยากไปหากบอีก  แต่พวกเขาพากันเข้านอนหัวค่ำ ครูผู้หญิงรวมทั้งฉันก็เข้านอนเช่นกัน  เมื่อตื่นเช้าฉันสังเกตเห็นตะข้องกระตุก  จึงพบว่ามีกบตัวใหญ่ ๆ อยู่เต็มตะข้อง มีเครื่องมือหากินวางอยู่ด้านนอกและเปื้อนไปด้วยดินโคลน แต่ที่ไม่เหมือนใครก็คือการจับกลุ่มในเวลากลางคืนเล่นผีถ้วยแก้ว เล่นผีตะเกียบ เล่าเรื่องสารพัดสาระเพ  บางคนก็ร้องลิเก และบ่อยครั้งที่คุยกันจนถึงสว่าง

        ครูผู้ชายมักจะไปชอบพอจีบกับสาว ๆ ในหมู่บ้านทำให้พวกเราถูกรับเชิญแบบติดตามไปด้วยอย่างไม่เต็มใจนัก เมื่อบ่อย ๆเข้าก็ชอบใจและสนุก  เพราะไปทานข้าวฟรีจากชาวบ้าน จนคุ้นเคยได้ไปช่วยชาวบ้านทำงานเช่นขุดดิน รดน้ำผัก  ทำหน่อไม้ดอง  ทำผักกาดดอง สอยผ้า ดำนา เกี่ยวข้าว ทุกคนเป็นชาวนาฝึกหัดไม่มีใครเคยทำนามาก่อนเลย  ฉันลงมือดำนาอย่างตั้งใจเมื่อดำนาเสร็จต้นข้าวที่ฉันปลูกเขียวกว่าเพื่อน  เพราะฉันกลัวมันตายจึงปลูกกอใหญ่กว่าคนอื่น เจ้าของนาใจดีมากไม่ยอมถอนของฉันทิ้งและบอกว่าให้ฉันไปดูแลบ่อย ๆ ด้วย  เมื่อข้าวเริ่มออกรวงพบว่าต้นข้าวของฉันมีรวงน้อยมาก พอแก่จัดเม็ดข้าวก็ลีบและไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่นๆ เพราะนิสัยของฉันเป็นคนดื้อรั้น เป็นทุนเดิม หลังจากดำนาเสร็จพวกเราไม่มีโอกาสเป็นคุณนายเพราะเล็บเป็นคราบดำเหลือง ไม่มีอะไรรักษาปล่อยมันยาวและค่อย ๆ ตัดออก เมื่อถึงคราวเก็บเกี่ยวพวกเราได้พากันไปช่วยชาวบ้านเกี่ยวข้าว ฉันพบว่าการเกี่ยวข้าวลำบากกว่าการดำนามาก  เพราะฉันไม่สามารถเกี่ยวข้าวให้เป็นระเบียบได้ อีกอย่างฉันถนัดซ้าย เขาก็หาเคียวแบบคนถนัดซ้ายให้ 

       วรรณกรรมชีวิตได้ปรากฏขึ้น  ชาวบ้านจะนิยมนวดข้าวกลางคืนเดือนหงายเสมอ  เป็นบรรยากาศดีมาก ได้ยินเสียงคนหัวเราะเฮฮาเป็นระยะ ๆ เมื่อพวกเราเดินไปถึงชาวบ้านชายหญิงก็ออกมาห้ามไม่ให้เข้าใกล้บริเวณนั้น ให้ไปอยู่อีกแห่งหรือกลับบ้านพักครู เพราะพวกเรานุ่งกางเกงขาสั้น  แต่พวกเราไม่เคยสังเกตว่าทำไมทุกคนคลุมหน้าคลุมตาตอนนวดข้าว  เพื่อนของฉันคนหนึ่งมองเห็นกองฟางคิดว่าอ่อนนุ่มน่านั่งเล่นนอนเล่น  เธอกระโดดเข้าในกองฟางนั้นคงเหมือนฟองน้ำ กองฟางยุบลงมองไม่เห็นตัว  เธอยังไม่รู้สึกอะไรเมื่อเธอออกมาจากกองฟางใหม่ ๆ ระหว่างเดินกลับบ้านพักครูเธอบ่นปวดแสบปวดร้อน พวกเราให้เธอไปอาบน้ำได้ยินเสียงเธอร้องไห้โฮลั่นห้องน้ำ  ต้องไปตามครูใหญ่พาไปส่งและนอนโรงพยาบาลในคืนนั้น 

       เมื่อมีความสนุกสนานเข้าก็ไม่กลับบ้าน เดือดร้อนพ่อแม่ต้องไปตาม  แม้กระทั่งครูผู้ชายคนหนึ่งบ้านอยู่ที่อุตรดิตถ์แรก  ๆ ก็พากันกลับบ้านเหมือนที่เล่าข้างต้น วันหนึ่งเขาก็ถูกแม่มาตาม  เมื่อเขาเห็นแม่มาตามเขาร้องไห้มากมาย แม่เขาเตือนสติว่าเป็นลูกผู้ชายและโตเป็นครูแล้วไม่ต้องร้องไห้อายคนอื่น ๆ บ้าง  ส่วนฉันกลับบ้านสัปดาห์ละครั้ง  เป็นเดือนละครั้ง สองเดือนครั้งเกินกว่านี้ไม่ได้เป็นอันขาด

         การอยู่บ้านพักครูที่โรงเรียนไม่ใช้เงินทอง ยิ่งตอนหลัง ๆ นี้ไปช่วยชาวบ้านทำงานทานข้าวและนอนค้างบ้านเขาอีกด้วยกลับบ้านตอนเช้าก็ทานข้าวก่อน  กลางวันชาวบ้านมีข้าวมาส่งให้อีก เมื่อกลับบ้านทีคุณแม่ฉันบอกว่า...คนป่าเข้าเมือง  ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า อาหารจำเป็น ของฝากชาวบ้าน เสื้อผ้า รองเท้านักเรียน สงสารที่เขาไม่สวมรองเท้า และนัดพวกญาติ ๆ วัยเดียวกันเที่ยวเตร่ยามค่ำคืน ดูหนัง ฟังเพลง กลับบ้านดึกดื่น 

        ความยากจนของชาวบ้านมีมากกว่าคนพออยู่พอกิน เด็กนักเรียนของฉันคนหนึ่งเรียนดี ประพฤติดี เรียนจบแล้วเขาบอกว่าจะไม่เรียนต่อ เพราะไม่มีเงิน การเดินทางไปโรงเรียนในอำเภอก็ไม่สะดวก ฉันได้ไปช่วยอธิบายให้พ่อแม่เขาเข้าใจและยอมสละรถจักรยานคันเก่า ๆ ของฉันให้เขาขี่ไปโรงเรียน เขาจึงได้เรียน ผลการเรียนดีได้รับทุนการศึกษาของโรงเรียนและ..สุดท้ายเรียนจบที่มหาวิทยาลัย..ดินแดนบรรยากาศสวยงามของภาคเหนือ ปัจจุบันทำงานระดับผู้บริหารขององค์กรหนึ่ง

        ครูเก่า ๆ ย้าย ครูใหม่เข้ามาแทน ฉันก็จึงเป็นครูเก่าในปีต่อมา  และได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่โรงเรียนเล็ก ๆ ใกล้อำเภอ  คราวนี้ฉันเดินทางไป กลับโดยรถไฟ  เป็นชีวิตที่สนุกสนานอีกแบบ  และฉันก็คุยให้เพื่อนบนรถไฟฟังว่า "ฉันเบื่อหน่ายโรงเรียนนี้มาก สอนน้อย ครูเยอะเกินไป กินเงินเดือนฟรีไปวัน ๆ"  ต่อจากนั้นไม่เกินสัปดาห์ฉันถูกเรียกไปพบบนสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอ  หัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอบอกว่าได้ยินฉันพูดบ่นบนรถไฟ แล้วฉันก็ได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่โรงเรียนประถมประจำอำเภอที่มีเด็กมากห้องละ ๔๐-๕๐ มีมากเช่นกัน และฉันก็พอใจที่นี่มากที่ได้ใช้วิทยายุทธ์เต็มเวลา

        ชีวิตมีการเคลื่อนไหวไปตามจังหวะก็อาจว่าได้ ฉันได้ย้ายติดตามครอบครัวไปอยู่ที่อำเภอนครไทย ในฐานะครูช่วยราชการเช่นกัน  ประมาณปีกว่า ๆ ก็ย้ายไปช่วยราชการอีกเช่นกันหลาย ๆ จังหวัดในภาคอิสานเป็นเวลาเกือบ ๑๐ ปีขาดความเป็นครูแต่อาชีพครู  เพราะไม่ได้สอนในโรงเรียนแต่ไปทำงานในสำนักงานการประถมศึกษา ฯ แทน  เมื่อได้กลับมาอีกครั้งต้องกลับมาอยู่โรงเรียนเดิมที่อำเภอบางกระทุ่ม แต่ฉันขอย้ายไปอยู่ที่อำเภอนครไทย เพราะบรรยากาศดี มีป่า มีธรรมชาติสวยงามอากาศเย็นสบาย  ฤดูร้อนก็ไม่ร้อนจัด อีกประการหนึ่งชาวนครไทยจิตใจดี และมีความเป็นกันเองสูง และอากาศดีสามารถทำให้ฉันเบาจากโรคภูมิแพ้

        โรงเรียนบ้านน้ำลอมแห่งนี้ฉันมีตำแหน่งจริงไม่ต้องช่วยราชการเหมือนที่ผ่านมา   โรงเรียนอยู่ห่างจากจังหวัดพิษณุโลก ๑๒๕ ก.ม. ฉันเดินทางไปกลับทุกวันรวมเป็น๒๕๐ ก.ม. ถนนหนทางก็ไม่ดีเหมือนสมัยนี้ เมื่อมีการพิจารณาความดีความชอบ ปรากฏว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้รับพิจารณาเลือนขั้นเงินเดือน ๑.๕ ขั้น ที่โรงเรียนนี้  ก่อนหน้านั้นมีการพิจารณาเงินเดือนปีละ ๑ ขั้นหรือ ๒ ขั้น ตอนนั้นฉันไม่เคยรู้รสชาติว่าการได้รับเงินเดือนตามความดีความชอบ ๒ ขั้นนั้นเป็นอย่างไร เพราะโรงเรียนหรือหน่วยงานเขาอ้างว่าฉันมาทำหน้าที่ครูช่วยราชการ

        ฉันสอนอยู่ที่โรงเรียนบ้านน้ำลอมเป็นเวลาถึง ๖ ปี เนื่องจากอัตราครูเกินเกณฑ์  จึงมีสิทธิ์เลือกโรงเรียนได้ตามความพอใจ  แต่ฉันได้ศึกษาแล้วเห็นว่าโรงเรียนวิทยสัมพันธ์  มีอัตราครูต่ำเกณฑ์มากและขาดครูสอนภาษาอังกฤษ ฉันขอเลือกลงที่โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ เมื่อปีการศึกษา ๒๕๔๖ เดินทางไปกลับทุกวันเช่นกันระยะทาง ๑๕๖ ก.ม. ใคร ๆ ว่าฉันเป็น..คนเมืองเข้าป่า

หมายเลขบันทึก: 248606เขียนเมื่อ 15 มีนาคม 2009 17:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (54)

คิดถึงคะ

เล่าเรื่องราวความเป็นครูได้จนเห็นภาพเลยคะพี่คิม

แวะมาเยี่ยมคุณครูคิม

สวัสดีครับ

  • สวัสดีค่ะครูคิม
  • อ่านแล้วนึกถึงเวลาไปไหนครั้งแรกนะคะ อย่างไปโรงเรียน หรือไปนอนหอที่มหาวิทยาลัย
  • แบบว่าแรกๆยังปรับตัวไม่ได้ ซึมพักใหญ่ คิดแต่วันหยุดกลับบ้าน แต่พอชินแม่ถามเมื่อไหร่กลับลูก อิอิ

 

พี่คิมคนดีของหนู

อ่านสาระดีดี จากครูคุณภาพ
หวนนึกถึงตัวเองที่มีความยาก..
ความลำบากไปอีกแบบหนึ่ง....
กับความลำบากที่ต่อสู้กับ..
ความอยุติธรรมของสังคม
เด็กตัวน้อยนิดเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ
เพียงเพราะเด็กเหล่านั้นเขา"รักและ
ศรัทธา"ต่อครูของเขา..เศร้าค่ะ

ดีใจค่ะ ที่มีครูอย่างครูคิม

สังคมทุกวันนี้จะหาคนที่มีคุณค่าเต็มเปรี่ยมนี่ยากมากค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

สวัสดีครับเกลอ

เกลอเขียนบรรยายให้รายละเอียด ทำให้นึกถึงวรรณกรรม สองเรื่อง คือ

มือนั้นสีขาว ของศักดิ์ศิริ มีสืบสม ตอนครูใหม่ขี่เกวียนไปโรงเรียนวัน แรก "ตะกุกตะกักตะโกกตะเกก"

และอีก เรื่องคือ "ปุลากง" "ประสบการณ์สอนคนมีความแกร่ง"เกลอคือคนแกร่งครับ

อ่านแล้วทำให้เข้าใจชีวิตของครูประเทศไทยค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้ในการทำงาน

สำหรับแม่พิมพ์ทุกท่าน

สวัสดีค่ะคุณไก่..ประกาย~natachoei ที่~natadee

  • จำเป็นต้องให้ความร่วมมือกับพ่อครูบาค่ะ
  • พ่อครูมีพระคุณกับโรงเรียนพี่คิมมากค่ะ
  • ถ้าเล่าละเอียดต้องได้หลายเล่ม..ตอนนี้ยังไม่จบหรอกนะคะ

สวัสดีค่ะคุณกะทกรกบ้าน

  • ยินดีที่รู้จักค่ะ
  • ขอขอบคุณที่กรุณามาเยี่ยมบันทึก
  • เป็นบันทึกค่อนข้างยาว
  • คนที่ไม่รู้จักกันจริง ๆคงไม่อยากอ่านค่ะ
  • เขียนเพื่อเป็นการบ้านพ่อครูบาค่ะ

สวัสดีค่ะน้องพิชชา

  • เจตนาของพ่อครูบาไม่อยากให้เขียนยาวจนเกินไป
  • นี่แค่..รวบรัดนะคะนี่
  • เรื่องเล่าเพียงสองตอนนี้รวมเป็นครูได้...๒๐ ปีแล้วมั้งคะ

สวัสดีค่ะน้องครูแป๋ม

  • บันทึกฉบับนี้ยาวมาก
  • เห็นใจคนอ่านค่ะ
  • แต่..ถ้าคนไม่รู้จักกันดีคงไม่มีใครอ่านจบค่ะ
  • ไม่เป็นไรเนอะ..เขียนเพื่อเล่า
  • นำไปทำ..เจ้าเป็นไผของพ่อครูค่ะ
  • วันนี้คิดถึงจังนะคะ  แต่ขอทำงานเพื่อให้เสร็จทันพรุ่งนี้ค่ะ

สวัสดีค่ะน้อง antbug

  • สบายดีไหมคะ
  • อากาศที่ต่างประเทศเป็นอย่างไรตอนนี้ 
  • ที่บ้านเรารอ้นจัดมาหลายวัน
  • เมื่อวานมีฝนตก..วันนี้อากาศก็เย็นสบายได้ค่ะ
  • ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

สวัสดีค่ะเกลอวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

  • มือนั้นสีขาว ของศักดิ์ศิริ มีสืบสม ตอนครูใหม่ขี่เกวียนไปโรงเรียนวัน แรก "ตะกุกตะกักตะโกกตะเกก"
  • เคยอ่านค่ะ
  • อ่านตั้งหลายเที่ยว
  • "ปุลากง"
  • ชอบมากที่สุดค่ะ  ได้ความเป็นชีวิตมาก
  • อ่านจบปล่าวนี่..ไม่เคยเขียนยาวแบบนี้สักที
  • แต่อยากเล่า..เพื่อให้ถึงตอนสำคัญ
  • เท่าที่พ่อครูต้องการค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์MSU-KM :panatung~natadee

  • ครูคิม..คนนี้แปลก ๆ
  • และค่อนข้างบ้าบอค่ะ
  • อาจารย์อ่านตอนต่อ ๆไปนะคะ
  • อย่างเลือกโรงเรียน..เขาก็ว่าบ้าแล้วนะคะ

"ฉันเบื่อหน่ายโรงเรียนนี้มาก สอนน้อย ครูเยอะเกินไป กินเงินเดือนฟรีไปวัน ๆ"

ชอบจังค่ะ

  • ครูคิม ครับ  ชีวิตรับราชครูนั้นต้องใกล้ชิดกับชุมชน
  • อ่านจบแล้วชื่นชมครูที่มีจิตวิญญานความเป็นครูเต็มเปียมไม่ย้อท้อต่อความลำบาก ถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็ก นึกถึงหนังครูบ้านนอก
  • ว่าไปแล้วทหารที่ว่าลำบากนั้นยังมีอาวุธ ลุกน้อง เอาไว้ต่อสู้ ครูมือเปล่า คนเดียว

แวะมาอ่านก่อนนอนค่ะพี่คิม..รักพี่คิมนะคะ

สวัสดีค่ะน้อง สี่ซี่

"ฉันเบื่อหน่ายโรงเรียนนี้มาก สอนน้อย ครูเยอะเกินไป กินเงินเดือนฟรีไปวัน ๆ"

  • ขอขอบคุณค่ะที่น้องสี่อ่านจบ
  • ว่าแล้ว..พี่คิมเองก็คิดไว้
  • ถ้าคนไม่รู้จักคุ้นเคยกันหรือรักกันจริง ๆเขาไม่มาอดทนอ่านหรอกนะคะ
  • ยกเว้น..นักอ่าน..ค่ะ
  • แต่..พี่คิมตั้งใจอ่านของทุกคน แทบทุกบันทึกเมื่อมีโอกาสค่ะ
  • ถ้าเรื่องใดอ่านไม่เข้าใจก็ต้องอ่านซ้ำ ๆ
  • คิดถึงน้องสี่ค่ะ

สวัสดีค่ะน้องมหาเหรียญชัย เหรียญชัย มาวงษ์  

  • อ่านจบแล้วชื่นชมครูที่มีจิตวิญญานความเป็นครูเต็มเปียมไม่ย้อท้อต่อความลำบาก ถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็ก นึกถึงหนังครูบ้านนอก
  • ขอขอบคุณน้องมหา
  • แบบนี้สิเป็นพวกเดียวกัน  อุตส่าห์อ่านจบตอน
  • เล่า..เพื่อจุดประสงค์ไปทำบันทึกเล่มใหญ่ของพ่อครูบาค่ะ
  • อาวุธของคนกล้าคือ..ความดี..ค่ะ
  • อาวุธของทหารคือ..ความกล้าหาญ..จริงไหมคะ

สวัสดีค่ะน้องadd

  • ขอขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ
  • รักและคิดถึงน้องเช่นกัน
  • เป็นกำลังใจให้นะคะ

สวัสดีค่ะครูคิม

หนูแวะมาเยี่ยมค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้ครูคิมในการทำงานนะค่ะ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณครู :)

สวัสดีค่ะน้องนาฬิกาทราย

  • อ่านจบไหมคะ
  • บันทึกฉบับนี้เป็นตอนยาวจังค่ะ
  • ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ
  • นอนหลับฝันดีนะคะ

สวัสดีครับครูคิม

  • โหบันทึกนี้ยาวมาก
  • อยากไปบ้านสามหลัง
  • ชวนสาว ๆ ส่องกบ สาวร้องเสียงหลง กบเลยหนีไปก่อน
  • อ่านแล้วสนุกดีครับ

 

  • แอบแวะไปอ่านที่บันทึกพ่อครูมาบ้างแล้ว
  • ดีใจจังที่พี่เราจะได้ลงเป็นรูปเล่ม
  • จอง 2 เล่มนะคะ
  • เก็บไว้เอง  1  ให้ที่ทำงาน 1
  • เพราะเคยชวนมาเขียนบันทึกแล้วไม่มา
  • จะได้อาศัยหนังสือนี้เชิญชวน  อิอิ

สวัสดีค่ะคุณวัชรา ทองหยอด

  • ค่ะ..บันทึกฉบับนี้ยาวค่ะ
  • คนไม่รักกันจริงหรือไม่สนใจกันเป็นพิเศษ
  • คงไม่มีใครอ่านค่ะ
  • ขอขอบคุณมากค่ะ
  • รออ่านตอนต่อไปนะคะ

 

สวัสดีค่ะน้องเขี้ยวมนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย)

  • เพื่อทดแทนพระคุณของพ่อครูและโก..ค่ะที่เอื้อเฟื้อพื้นที่ให้เขียน โดยไม่คิดตังค์
  • ทำให้มีพี่น้องชาวโกน่ารัก มากมายค่ะ
  • อย่าลืมมาอ่านตอนต่อไปนะคะ

สวัสดีค่ะ

  • ถือโอกาสมาทักทายคนใกล้ชิด
  • ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
  • แม้จะยาวแต่ก็ตั้งใจอ่านเสมอค่ะ
  • จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ

ไม่แปลกใจเลยว่า..ทำไมครูถึงได้แข็งแกร่ง..ป่านนี้

ต้องขอบคุณ..ประสบการณ์..ความลำบาก..และธรรมชาติ..ที่สั่งสมให้ครูยืนหยัด..ได้ในทุกวันนี้ค่ะ

ให้กำลังใจเสมอ

คุณครูครับ

เรื่องราว ชีวิต ของคุณครูอ่านเเล้วมีชีวิตครับ เห็นภาพตามที่เล่ามาเลย

เป็นโอกาสที่ดีที่ได้ผ่านประสบการณ์ตรงนั้นมา และต้องขอบคุณที่นำมาถ่ายทอดเล่าสู่กันฟังครับ

"...แสงเรืองๆ ที่ส่องประเทือง...อยู่ที่...วิทยสัมพันธ์..." 

สวัสดีครับอาจารย์  ติดตามมาให้กำลังใจ  ครับ

แวะมาดูบล็อกใหม่พี่ครูคิมค่ะ

วันนี้ต้องไปเป็นเจ้าหน้าที่กรอกคะแนน LAS ของเครือข่ายอำเภอค่ะ

แวะมาทักทาย ไปก่อนนะคะ

มีความสุขมากมายนะคะพี่ครูคิม

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะน้องครูนิน

  • ขอขอบคุณค่ะที่กรุณาตั้งใจอ่าน
  • ว่าแล้ว...คนที่จะมาตั้งใจอ่านต้องเป็นคนรู้จัก
  • และ..สนใจกันจริง ๆ
  • ตอนต่อไป..รอหน่อยนะคะ

เอายาชูกำลังที่บ้านมาฝาก ขอให้มีความสุขครับ

สวัสดีค่ะน้องadd

  • รักและคิดถึงเช่นกันค่ะ

สวัสดีค่ะน้อง คุณลดา

  • ตอนนั้นนะคะ..มีตัวอย่างดีด้วยค่ะ
  • น้องครูใหม่คนหนึ่ง..มีเชื้อสายตระกูลผู้ดี  เขาก็ปรับตัวเหมือนพวกเราค่ะ
  • และครูผู้ชายเป็นคนจิตใจงดงาม  เป็นเพื่อนดีเสมอต้นเสมอปลาย  บอกให้พาไปที่ไหน ๆก็ไป ทำกับข้าวให้ผู้หญิงทานอีกต่างหากค่ะ
  • สถานการณ์รอบข้าง..ทำให้เราแข็งแกร่งค่ะ
  • ถ้ามองลึกเข้าไปในจิตใจ..คงจะได้รู้ว่า..ช่างอ่อนแอเสียจริงๆ แต่เพราะจำเป็นต้องเลือกที่จะ..เข้มแข็งค่ะ
  • ขอขอบคุณน้องลดา..น้องสาวคนรู้ใจค่ะ

สวัสดีค่ะคุณเอกจตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

  • พี่คิมดีใจค่ะที่คุณเอกมาทักทายด้วย
  • ค่ะ..เป็นโอกาสที่ดีที่ได้ผ่านประสบการณ์ตรงนั้นมา จึงควรขอคุณผู้คนและสถานการณ์รอบข้าง
  • สักวันหนึ่ง..จะต้องกลับไปทดแทนพระคุณโรงเรียนเก่าที่เคยอยู่ พาลูกศิษย์ลูกหาทำกิจกรรมสร้างสรรค์ค่ะ

สวัสดีค่ะท่านพี่..คนหนุ่ม กร~natadee

  • ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจ
  • ท่านพี่อยู่ที่ไหนก็ตาม..จะต้องไปตามมาให้อ่านทุกบันทึกให้ได้ค่ะ
  • วันนี้อยู่ที่โรงเรียน  มีผู้ถูกคุมประพฤติมาช่วยกิจกรรมของโรงเรียนค่ะ

สวัสดีค่ะน้อง@..สายธาร..@

  • ขอเป็นกำลังใจให้น้องทำงานอย่างราบรื่นด้วยนะคะ
  • คิดถึงเสมอค่ะ

สวัสดีค่ะท่าน ผอ.นายประจักษ์~natadee

  • โปรดปรานมากค่ะ..เขียวเสวย
  • มีนิทานเล่า..วันนั้นไปวัดใหญ่เห็นมะม่วงที่เขาปอกแล้ว สีเหลืองน่าทาน  ลูกใหญ่ค่ะ อยู่ในถุง
  • ไม่ถามไถ่..เดินเข้าไปหยิบและส่งเงินให้..รับทอนแล้ว
  • ปรากฏว่า..ลูกละ  ๘๐  บาทค่ะ
  • เพื่อน ๆบอกว่าทานเม็ดมันด้วยอย่าให้เหลือ
  • จำจนวันตายค่ะ

คนเมืองจะเข้าป่าแล้วนะคะ แต่ยังไม่ได้เข้าเลยค่ะ อิอิ

สวัสดีค่ะน้อง♥.paula ที่ปรึกษาตัวน้อยแต่~natadee✿

  • ต้องเข้าป่า..แบบสวนป่าพ่อครูค่ะ
  • จึงจะเรียกว่า..ได้ความสมบูรณ์ทั้งใจและกาย
  • วันนี้กำลังตั้งตัวจะเล่าตอนต่อไปค่ะ

สวัสดีครับพี่สาว

@ อ่านเพลินๆ คล้ายกับว่า "บันทึกนี้มีชีวิต"

@ นึกถึงชีวิตวัยเด็ก หากบ หาเขียด หาปลา เข้าป่า เข้าดง เก็บเห็ด ฯลฯ

@ มีความสุขจริงๆ

@ ขอบพระคุณครับ

สวัสดัค่ะน้องชายไทบ้านผำ

  • พี่คิมเล่า..พอรวบรัดนะคะ
  • เพราะกลัวจะเล่ายาวเกินไป
  • เปลืองรูปเล่มเขาค่ะ
  • รอไว้เล่าเป็นตอนสั้น ๆ ดีกว่า
  • งานเข้าครับครู..อ่านอย่างเดียวแล้วกันครับ

สวัสดีค่ะน้องชายเกษตร(อยู่)จังหวัด

  • ดีกว่าไม่มาอ่าน
  • ฮิ ๆ ๆ ๆ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ
  • ห้ามลืมมาอ่านก้แล้วกัน

มาอ่าน วรรณกรรมชีวิต (ประสบการณ์คุณหนูจับกบ)ต่อแล้วค่ะ

๑๕๖-๒๕๐ กิโลเมตรต่อวัน ไกลมากเลยนะคะพี่ครูคิม แค่คิดว่าได้เดินทางไปด้วยก็เหนื่อยแล้ว

สวัสดีค่ะน้องดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี

  • โรงเรียนแรกนั้นพี่คิมออกจากบ้านตีห้าครึ่งค่ะ
  • ไปถึงโรงเรียนก่อนเพื่อนทุกวัน
  • ทำหน้าที่ครูเวรทุกวัน อบรมเด้กต่อเนื่องทุกวัน
  • แต่ดี..ครูคนอื่น ๆเขาพอใจที่เราทำแทนได้
  • ปัจจุบันวันละ ๑๕๖ ค่ะ ตอนนี้ลดความเร็วตามกฏหมายแล้วค่ะ
  • เคยมีโทรศัพท์ครูผู้ชาย..ที่จำเลขทะเบียนรถได้โทรเข้าหา.."คิมเหยียบเบา ๆ หน่อยถนนลื่นนะ อย่าแซงทางโค้งนะ"
  • แต่ไม่ท้อแท้นะคะ  แปลกมากค่ะ
  • แวะเข้ามาอ่านตามคำแนะนำค่ะ
  • เป็น "ชีวิตที่มีชีวา" มากๆ ...การมองโลกในด้านดี ทำให้ชีวิตมีความสุข
  • จะเก็บไปบอกเล่า "ครูน้องใหม่" นะคะ

ขอบคุณมากๆ ค่ะ.

สวัสดีค่ะครูอมร ไกรเทพ

  • ขออภัยค่ะที่ไม่ได้กลับมาทบทวนบันทึกเดิม ๆ
  • คุณครูอมรสบายดีนะคะ

สวัสดีค่ะน้องpis.ratana

  • ยินดีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับน้องครูใหม่นะคะ
  • ด้วยกัลยาณมิตรค่ะ

ทุกวันนี้ชีวิตก็ติดอยู่กับการเดินทางเหมือนกันค่ะ

ไปกลับ 160 กิโลค่ะ

คิดว่าเข้าใจความรู้สึกนะคะ

เอ่อ

ครูไทย สู้ตายอยู่แล้วค่ะ อิอิ

ยายคิม คือ ครู จริง ๆ ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท