พรุ่งนี้ฉันมีภาระกิจปลูกโกงกาง ร่วมกันปลูกจิตสำนึกรักษ์น้ำ รักษ์ป่า
โดยมีนักศึกษาของVBAc จำนวน 495 คน คณะครูอาจารย์อีก 15 ท่าน
การเตรียมการทุกอย่างเป็นไปด้วยความร่วมมือของหลายฝ่าย
ซึ่งเริ่มต้นจากน้องครูปู ครูพันธุ์ก๊าก ค่ายVBAC
ได้ประสานมาว่านักศึกษาปวช.ปวส.ของVBAC ได้จัดตั้งชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติ
และป่าชายเลน พวกเขารวมตัวกันจัดกิจกรรมโดยมีคณะครูอาจารย์เป็นที่ปรึกษา
และไม่นานเกินรอ น้องอาจารย์อ้อยได้โทรศัพท์ประสานการลงพื้นที่ป่า
โดยมีวัตถุประสงค์ ที่จะปลูกป่าโกงกางลงในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งของจ.สมุทรสาคร
หลังจากนั้นได้คณะสำรวจ
ซึ่งมีอ.พรเทพ บรรลือทรัพย์ (อ.พจน์) จุฑาธิป สิงห์ศิริ (อ.น้องอ้อย)
และ อ.ทัศนีย์ สวนแก้ว( น้องอ.กุ้ย)ได้เดินทางมาถึง และเลือกพื้นที่ปลูกป่า
เราได้รับความร่วมมือจากคุณพจน์ ทับประทุม
หน.พื้นที่เตรียมประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่าพันท้ายนรสิงห์
และน้องศิวรักษ์ สี่เหรียญน้อย รวมทั้งทีมงานของพื้นที่นี้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
ที่ประชุมตกลงเลือกปลูกโกงกางโดยใช้ฝักมากกว่าใช้ต้นกล้า
ซึ่ง การเลือกกล้าที่จะปลูกเพื่อให้ได้ผลเร็ว นี้พวกเราได้ทำการทดลอง
และเฝ้าสังเกตมานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยการทดลองปลูกในหลายๆพื้นที่
ที่โค้งล้ำออกไปทะเลรับแรงกระแทกของคลื่นและการกัดเซาะของน้ำทะเล
เมื่อวานนี้ 15กันยายน 2553 ฉันถูกส่งเข้าร่วมประชุม แลได้พบกับน้องศิวณัฐ
คนรักษาป่าอีกครั้ง เราร่วมประชุมและรับฟังรายงานเรื่อง"การติดตามและประเมินผล
การดำเนินงานโครงการแก้ปัญหาการกัดเซาะแลพฟื้นฟูพื้นที่ชายฝั่งทะเล โดยมีส่วนร่วม
ของประชาชนจังหวัดสมุทรสาคร:การระดมความคิดของประชาชน 15 กันยายน 2553"
โดยอ.ดร.สมภพ รุ่งสุภา สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลับ โดย
การสนับสนุนของกรมทรัพยากรชายทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และ
สิ่งแวดล้อม ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่ได้เห็นข้อมูลเชิงวิจัย การศึกษาเรื่องนี้ทาง
ทีมงานของดร.สมภพได้เริ่มศึกษามาตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งอีกไม่นานพวกเราคงได้อ่าน
ข้อมูลเต็มฉบับสมบรูณ์อีกครั้งหนึ่ง และในการนี้ได้มีประชาชนร่วมให้ข้อคิดที่
เปนประโยชน์ต่อกาวิจัย โดยเสนอให้จัดทำพรบ.ห้ามขุดดินออกนอกพื้นที่
แม้ว่าจะสายเกินไปเสียแล้ว แต่พวกเขาก็ยังมีโอกาสพูดสิ่งที่พวกเขาคิดและต้องการ
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจ และรัฐ จะมองเห็นความจริงนี้หรือไม่
ระหว่างรอการบรรยายสรุป เราก็เลยถือโอกาสช่วยกันเกลาแผนการจัดกิจกรรม
และการวางแผนการปลูกป่าครั้งนี้ ให้รัดกุม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจกรรมการ
อนุรักษ์ป่าครั้งนี้ โดยคำนึงถึงนักศึกษาที่จะมาปลูกให้ได้รับประโชยน์สูงสุด
รวมทั้งการจัดการเรื่องต้นทุนต่ำเท่าที่มี เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกิจกรรม
นักศึกษาทุกคนต้องรู้ว่างานที่ทำนั้นจะเกิดผลเพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม
และการทำงานนั้นต้องการดำเนินงานโดยการ ประสานความเข้าใจกับพื้นที่
โดยร่วมมือกับอบต.โคกขาม ทีมงานพื้นที่เตรียมประกาศอุทยานฯแห่งนี้ ผู้นำชุมชนทั้งนี้
เพื่อให้เกิดผลดีต่อการทำงาน การขอความร่วมมือชุมชนเช่น วิทยากรปลูกป่า ภูมิปัญญา
คนรับผิดชอบจัดเตรียมอาหารและน้ำดื่ม การขออนุเคราะห์รถน้ำจืดเพื่อใช้ล้างตัว
รถสุขาเข้าไม่ถึงพื้นื้เพราะถนนนั้นไม่อำนวย เต้นท์ ใหญ่จำนวน 2 หลัง
ทุกคนจึงต้องเรียนรู้ที่จะจัดการตัวเองให้เหมาะกับสภาพธรรมชาติ
แล้วงานทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีมาก
คืนวันที่ 16 กันยายน 2553 พระพิรุณมาร่วมยินดี เอาฝนมาเทซะห่าใหญ่ หลายๆสิบห่า
น้ำท่วมพื้นที่เร็วทันใจ รุ่งเช้าน้ำลงแบบพรวดเดียวทิ้งร่องลอยแฉะๆไว้
ให้ย่ำให้หนำใจ แถมกวาดเก้าอี้ที่เตรียมไว้ก็ถูกฝนกระหน่ำลากล้มระเกกระกะ
บ้างก็ลงน้ำไปด้วย พี่ๆในเขตพื้นที่ฯทั้งหลายก็พาไล่เก็บก่อนที่มันจะออกทะเลไป
เช้าวันที่ 17 กันยายน 2553 ขบวนรถบัสจากVBAC ขนนักศึกษาผู้กระหายอยากปลูกป่า
มากันทั้งหมด 7 คันรถบัส ทีแรกเจอสาวน้อย หนุ่มน้อยแล้วนึกว่าพวกเขาจะไม่สู้งาน
แต่ ที่ไหนได้ กลับพากันลุยเข้าป่าแสมกันไปเป็นขบวน สองเท้าย่ำไปสู่เป้าหมาย
นี่เป็นผลที่เกิดการจัดการศึกษาที่ดีของVBAC คุณภาพผู้เรียนจึงพร้อมด้วยจิตที่เป็น
สาธารณะ และมารยาทที่ดีงาม กลุ่มสุดท้ายกว่าจะออกมากินข้าวกลางวันก็เกินเที่ยง
ใกล้บ่ายเต็มที หลังจากอาบน้ำล้างขี้เลน ขี้โคลนเหม็นๆออกแล้ว
กล่าวอำลากันด้วยสัญญาว่าพวกเขาจะกลับมาอีกในปีหน้า
กิจกรรมผ่านไปเรียบร้อยในวันที่ 17 กันยายน 2553
คุณพจน์ ทับประทุม
หน.พื้นที่เตรียมประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่าพันท้ายนรสิงห์
กลับมาจากด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เบิกบาน พร้อมกับแจ้งให้พวกเราทราบว่า
พื้นที่นี้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการฯ เรียบร้อยแล้ว
ให้ประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าพันท้ายนรสิงห์
ขึ้นอยู่กับอุทยานแห่งชาติ
ซึ่งหมายความว่า ต่อไปในวันข้างหน้า จังหวัดสมุทรสาครจะมีอุทยานอนุรักษ์สัตว์ป่า
และพืชพันธุ์เกิดขึ้นอย่างสมบรูณ์
เสร็จจากภารกิจป่าชานเลน บ่ายโมงครึ่งกลับเข้าไปสอนจนถึง15.30 น.
แล้วเปิดบ้านหลังเรียนอีก 1 ชั่วโมง
17.00 น.
พบทีมงานจิตอาสาประชุมเรื่องโครงการสุขภาพดีถวายพ่อหลวง
ด้วยกิจกรรมสั่งทำความดี ให้ตัวเอง คาดว่าวันจันทร์ที่ 20 กันยายน นี้
จะมีประชาชนผู้ปกครองนักเรียนลงมือสั่งทำความดีเพื่อสุขภาพที่ดีของตนเอง
และครอบครัวเพิ่มขึ้นอีกถึง 100 คน
และขอชื่นชมการทำงานของน้องจิตอาสาทุกท่านค่ะ
17.30น.
ประชุมออนไลน์กับผู้ป่วยเบาหวานสายโคกขาม และสายบางหญ้าแพรก
ที่จะมาร่วมงานวันที่ 23 และ24 เดือนนี้ ขอบคุณทุกๆท่านค่ะ
และขอบคุณเภสัชกรหญิงปราณี น้องเวรจักษุแพทย์โรงพยาบาลสมุทรสาคร
น้องสุภางค์ เภสัชกร ที่ให้ความช่วยเหลือในการรักษาในครั้งนี้ด้วยค่ะ
ขอบคุณคณะครูอาจารย์ และนักศึกษาจากวิบูลย์บริหารธุรกิจ รามอินทราค่ะ
ขอบคุณค่ะ
อ่านแล้วอยากเห็นภาพครับ มีต้นโกงกาง
ปูก้ามดาบ กุ้งดีดขัน ปลาเท้า (ก็.....นั่นแหล) ฮาครับบบบ
อันนี้มาฝาก
พี่ต้อยได้เจอพี่ครูปู ที่วีแบคไหมคะ ... ฝากกอดมั่ง ๆ สุขสันต์กับกิจกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อมนะคะ ขอบคุณค่ะ
แป่ววววว
ไม่ได้กอดอะ......น้องครูปู..ไม่ได้มาจ้าวววว.
เพราะเป็นวันที่น้องครูปูต้องไปส่งต้นฉบับหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่จะไขความลับของปัญหานักเรียนตีกัน ไม่รักกัน ทะเลาะกันฯลฯ
และน้องครูปูโทรติดต่อตลอดทั้งวันส่งใจมาวิ๊วๆ และติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดค่ะ
น้องๆนักศึกษาจากVBAC เขาน่ารักมากค่ะ
พี่ก็เลยอิ่มอกอิ่มใจไปกับน้องๆและคณะครูอาจารย์ของเขาด้วย
กิจกรรมปลุกป่าวันนี้ ก็ปลูกต้นโกงกางในอ้อมกอดของต้นแสมนะคะ
จำนวนฝักที่ลงไปนับได้ 700 ฝักค่ะ ยกเว้นกิจกรรมงมหอยงด เพราะน้ำทะเลขึ้นเร็วมาก
ไม่อาจให้น้องๆทำกิจกรรมนี้ได้ เพื่อความปลอดภัยของน้องๆ
เราได้รับความร่วมมือจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ผู้ช่วยผู้ใหญ่ หมู่ 8
ที่มาร่วมกิจกรรมด้วยใจ พาน้องๆไปลุยเลนลุยป่าชายเลนที่คงสภาพดิบๆ
เรียนรู้วิธีปลูกป่า นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากจิตอาสาโรงพยาบาลสมุทรสาคร
และอบต.โคกขามมาช่วยดูแล และสนับสนุนรถน้ำค่ะ
ก็เป็นบรรยากาศที่อบอุ่น พิธีการเปิดปิดเราก็ทำแบบพื้นๆแบบพอเพียง
ตามสภาพ แต่เน้นผลงานและการติดตามเพื่อให้ได้ผลค่ะ
ขอบคุณค่ะ
มาติดตามข่าวอีกรอบ ชอบๆ ช่วงนี้พี่สาวปูภารกิจยุ่งหลาย สงสัย ฝนตกไหมคะพี่ รักษาสุขภาพค่ะ ;)
มือระวิงจ้า แต่ก็ไม่วายจากgotoknow อิอิ
พระพิรุณโหมกระหน่ำซะแฉะไปทั้งเมืองน้องเอ๋ย
ไม่ถามก็อยากบอกว่า ถ้า ผืนดินน้อยๆที่ริมเลผืนนี้พังทะลายเมื่อไหร่
อีก 20,000 กว่าไร่ที่ถัดริมเลมาก็พร้อมจมทันที และหลังจากนั้น
คงต้องอยู่แบบมัลดีฟส์ท่องน้ำไปมาหาสู่กัน วิ่งไล่จับปลามาเป็นอาหารแน่เลย
2ปีกว่าที่ไปปลูกป่าที่หมู่ 8 นี่แหละ แต่ตอนนี้น้ำทะเลรุกเข้ามาแทนที่
ผืนดินริมชายฝั่งนี้ก็ไม่ต่างกับกรุงเทพฯหรือสมุทรปราการที่ถูกน้ำทะเลยึดพื้นที่ไปแล้ว
และกำลังจะบุกเข้ามาอีกโดยการกัดเซาะริมฝั่ง
ยังมีปัญหาอีกอย่างที่ไม่มีใครอยากพูดถึงคือการตักดินในผืนดินชายฝั่งไปขายนอกพื้นที่
การตักดิน(soils)ที่ว่านี้ก็ตักกันทั้งวัน ขุดลึกลงไป บางที่ขุดลึกถึงชั้นล่างของดิน
ความลึกนั้นต่ำกว่าทะเลเวลาน้ำลงเสียอีก หากมองผิวเผินเวลาเอาน้ำทะเลเข้าวัง(บ่อกุ้ง)
น้ำจะเต็มบ่อเหมือนบ่อเล้ยงกุ้งทั่วๆไป แต่เมื่อคะยอไหลเข้ามามากๆ
และตกตะกอนรวมตัวกันหนาแน่นจับเป็นก้อนดิน เขาก็จะเปิดวัง
เอาน้ำออกเพื่อตากคะยอที่รวมตัวเป็นดินให้แห้ง
แล้วจึงใช้รถตักดินลงไปตักขึ้นมา ขนออกไปขาย
ก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งของประชาชน แต่ผลที่ตามมานั้นกระทบไปไกลทีเดียว
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ
น้องดาวเรืองจ้า
พี่รอเพื่อนที่ม.สถาบันราชภัฏนครฯแจ้งความพร้อมก่อนค่ะ
หากพวกเราทุกคนว่างพร้อมตรงกัน ก็เคลื่อนทัพเลย
แล้วจะแจ้งให้ทราบนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะอ.
นักศึกษาเยอะมาก ต่างมุ่งมั่นปักฝักโกงกางลงบนผื้นดินป่าชายเลน
น้องครูปู ครูพันธุ์ก๊าก บอกว่านักศึกษามีแต่จะเพิ่มมากขึ้นๆ
ก็ได้ชุมชนนั่นแหละค่ะ ช่วยกันดูแล น้องๆที่มาน่ารักมากค่ะ เหมือนลูกหลานแหละนะ
เราเป็นผู้ใหญ่สิ่งที่จะทำให้เขาได้คือคอยดูแลระวังภัยห่างๆ และพร้อมให้การช่วยเหลือ
กิจกรรมมันก็ดำเนินไปตามวิถีของมันแบบธรรมชาติค่ะ ปราศจากแสงสีปรุงแต่ง
เก็บภาพประทับใจไว้เยอะค่ะ แต่ยังหาเวลาย่อภาพไม่ได้
เอาไว้เสร็จแล้วจะลิงค์แจ้งให้ทราบนะคะ
อีก 2 วันจะไปช่วยงานเบาหวานรพ.สค.ค่ะ
เวลาของครูต้อยมีไม่มากนัก
ใช้ใจเป็นนาย ให้กายเป็นบ่าว
ทำสิ่งที่สามารถทำได้ ช่วยได้ก่อนค่ะ
สวัสดีค่ะพี่ครูต้อย
แวะมาทักทายด้วยความระลึกถึงพี่ค่ะ
พี่มิ่งขวัญ ซึ่งมาเรียนเป็นรุ่นน้องที่สาขาเล่าว่าไปเจอดร.ขจิตและพี่ต้อย พร้อมฝากความระลึกถึงมาให้ค่ะ
พี่สบายดีนะคะ
รักษาสุขภาพมาก ๆ ค่ะ
(ู^___^)
สวัสดีค่ะคุณครู...
ขอบพระคุณที่ไปเยือนนะคะ เขียนบันทึกแบบมีศิลป์จังค่ะ เหมือนเเจกันเลย
ขอบคุณท่านผอ.ประจักษ์ที่ส่งข่าว
ดีใจที่เห็นน้องม่อนค่ะ
แต่งกายแบบนี้เหมือน
หนุ่มยุคคุณยายยังสาวเลยนะคะนี่
อ้าวพี่ปูไม่ได้มาด้วยหรือ อดดูภาพเลย พรุ่งนี้พบกันครับ เย้ๆๆ