เพราะเหตุใดชาวนาจึงลำบากยากจน
1. เพราะความรู้น้อยด้อยการศึกษา
Ø ไม่รู้เท่าทัน เลยถูกเอารัดเอาเปรียบ
Ø ทำอะไรก็ตามมีตามเกิด
Ø ท้อแท้สิ้นหวังในชีวิต
Ø รอรับแต่ความเมตตาช่วยเหลือว่าเมื่อไหร่จึงจะมีคนมาแจกและบริจาค
Ø อยากจะพัฒนาแต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพราะขาดผู้นำและไม่กล้าเป็นผู้นำ
2. เพราะความฟุ่มเฟือย
Ø งานประเพณีก็มีมากทุกฤดูกาล งานบุญ งานบ้าน งานกุศลก็ล้นเหลือ แล้วไหนจะมาจุนเจือในปัจจัยสี่ของครอบครัวแล้วจะไปเหลืออะไร
3. เพราะยังมัวเมาในเรื่องอบายมุขทั้งหก
Ø ยังชอบเสพสุราและสิ่งเสพติดเป็นอาจิณ แล้วยังไม่ชอบกินข้าวปลาราคาประหยัดเป็นอาหาร
Ø ยังชอบเที่ยวในยามวิกาลไม่รักบ้าน ไม่รักลูกภรรยาสามีตน
Ø ยังชอบดูการละเล่นไม่เว้นบาร์คลับ ละคร โขน
Ø ยังชอบพบคนชั่วมั่วกับโจร ย่อมหนีไม่พ้นอาญาตราแผ่นดิน
Ø ยังชอบเล่นการพนัน ม้า ไผ่ ชนไก่ ไฮโล โบก หวย มวยพนัน ฯลฯ อื่นทั้งสิ้น
Ø ยังชอบเกียจคร้านการทำกิน ฯ
4. เพราะยังทำนาปีขายข้าว
Ø ชาวนาทำนาปีหากฟ้าฝนดี 1 ปี จึงจะมีข้าวขึ้นยุ้ง 1 ครั้ง พวกข้าราชการนั้นยังดีหน่อยถึงไม่บ่อย 1 ปี ได้ถึง 12 ครั้ง ส่วนพวกเขาค้าขายรายได้ 1 ปี ถึง 365 ครั้ง ที่ร้อยตำรวจตรีวิชัยฯ ว่า “อยากจนทำนาขายข้าว อยากรวยให้ซื้อข้าวขายข้าวนั้นจริงหรือ” และนายอำเภออนันต์ ชงกรานต์ทอง คนภาคกลางจากอ่างทอง ก็ว่า “ทำนาปีมีแต่หนี้กับพัง ทำนาปรังนั้นมีแต่พังกับหนี้ ถ้าทำนาทั้งปีและนาปรังมีแต่เป็นหนี้อีรุง ตุงนัง” จึงขอฝากชาวนาไว้ให้คิดเป็นการบ้านด้วย)
5. เพราะขาดความสามัคคีในการสร้างสรรค์ความดี
Ø ต่างคนต่างอยู่รวมกันไม่ติดอะไรก็ได้ระเบียบวินัยหย่อนยาน
Ø มีพฤติกรรมประเภทขี้เมา จะถือว่าเจ้าภาพดีเมื่อมีงานเลี้ยงสุรา
Ø คบกันไปไหนทางชั่วไม่เกรง กลัวกฎหมายแต่กลัวผีสางเทวดา
Ø การพนันหนาแน่น และไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน หรือไม่ศรัทธาในกุศลธรรม
Ø ไม่รู้วัตถุประสงค์ในการพัฒนาตนเองและสังคม
พวกเราจะแก้ไขความลำบากยากจนของชาวนาเราได้อย่างไร
1. แก้ด้วยการศึกษา (หลังจากลูกหลานเราจบการศึกษาภาคบังคับแล้ว ส่งให้ศึกษาเล่าเรียนต่อ เพราะการศึกษาในปัจจุบันนี้ ได้ขยายมาถึงหมู่บ้านของพวกเราแล้ว ทั้งยังมีการศึกษานอกโรงเรียนอีกด้วย รวมทั้งศูนย์ฝึกวิชาชีพจากหน่วยงานต่างๆ ก็ได้มาส่งเสริมในหมู่บ้านของพวกเราอีกด้วย “การศึกษานั้นพาให้คน พ้นวิบัติจริงๆ”
2. แก้ด้วยการประหยัด (พวกเราจงมาช่วยกันอุดรอยรั่วจากอบายมุขทั้งหกให้หมดก่อน แล้วก็หันมาใช้น้อยถ้ามีน้อย ให้ใช้สอยทรัพยากรท้องถิ่นที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจงคำนึงถึงฐานะของตนเอง จงเลียนแบบคนจีนรุ่นเก่าๆ เขาดูบ้าง)
3. แก้ด้วยสติปัญญาและเหตุผล (ศัตรูที่ร้ายกาจของคนเรานั้นก็คือ “การที่รู้ว่าอะไรที่ไม่ดีก็ยังทำ และการที่รู้ว่าอะไรดีแล้วก็ยังไม่ยอมกระทำ” ให้เห็นโทษของอบายมุขทั้งหกบ้าง)
4. แก้จาการทำนาปีให้เป็นไร่นาสวนผสม (ให้ทำนาแผนใหม่ตามหลักทฤษฎีของในหลวง ที่ว่า สูตร 30-30-30-10 เช่นมีนา 10 ไร่ ไร่ขุดบ่อ หรือสระไว้ใช้และเลี้ยงปลา 3 ไร่ เอาไว้ปลูกข้าว 3ไร่ เอาไว้ปลูกพืชผักสวนครัวและเลี้ยงสัตว์ 3 ไร่ อีก 1 ไร่ เอาไว้ปลูกที่อาศัยและใช้เป็นที่ผักผ่อน
5. แก้ด้วยการเสริมสร้างกิจกรรมให้เกิดความสามัคคี (แก้ด้วยระบบสหกรณ์ มีกิจกรรมทำอย่างต่อเนื่องคิดเป็นทำเป็น ซื้อเป็น ขายเป็น พึ่งตนเอง ขยันอย่างฉลาด ปราศจากอบายมุข ฯลฯ
**************************
สุดท้ายท่านทิ้งท้ายให้คิดกันเล่นๆว่า
“ถ้าคนจนยังโง่แล้วก็ขี้เกียจ ถูกคนรวยที่ขยันแล้วก็ฉลาดมีแต่เอารัดเอาเปรียบ สังคมจะสุขกันอย่างไร”
สวัสดีค่ะ ท่าน
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะท่าน
สวัสดีครับ ครูอ้อย แซ่เฮ
สวัสดีครับที่ ผอ.นายประจักษ์
หวัดดีจ้ะน้องอ๊อต naree suwan
หวัดดีครับน้องปรีดา เกษตร(อยู่)จังหวัด
ชาวนาไทย(รุ่นสุดท้าย) เพราะ ผู้ใหญ่คนทำงานในชนบท เดี๋ยวนี้ ไปทำงาน รับจ้าง หรืองานอื่น ๆ ในเมืองหมด เพราะ อาชีพชาวนา เหนื่อย หนัก และข้าวก็ราคาต่ำ แม้ช่วงนี้ราคาสูงขึ้น แต่ก็ลดลงอีก หากเราไม่ได้เข้าไปช่วยกันจริงจัง ชาวนาไทยไทยแย่แน่ ๆ และเราคนไทยก็จะไม่มีข้าวกิน ต้องซื้อข้าวต่างชาติกิน (ตอนนี้มีหลายประเทศที่เข้ามาซื้อที่นา และจ้างคนไทยทำนา)
คนที่อยู่กับชาวนาอย่างครูยังไม่เข้าใจชาวนาแล้วจะแก้ได้อย่างไร ก็สอนลูกชาวนานี้ค่ะ
เหนื่อจัง ที่ชาวถูกดูถูก ทำนาตั้งแต่เช้าจดคำ หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน ทำนาให้ไอ้พวกดูถูกกิน
ขอบคุณครับที่แนะแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาไทย ถ้าผมมีงานทำที่ดี ๆ มีรายได้มากพอ ผมจะไม่ให้ครอบครัวทำนาอีก เพราะผมสงสารครอบครัวที่ต้องเหนื่อยทำนา ราคาค่าข้าวก็ถูก แสนถูก ราคาปุ๋ยก็เเพงเอา แพงเอา แล้วยังนี้ชาวนาไทยจะรวยได้อย่างไร
"เหนื่อจัง ที่ชาวถูกดูถูก ทำนาตั้งแต่เช้าจดคำ หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน ทำนาให้ไอ้พวกดูถูกกิน"
ถ้าคุณเป็นคนจิตใจงาม ความคิดเห็นของคุณ น่าจะสุภาพและสร้างสรรค์กว่านี้นะครับ กระผมเองก็เป็นลูกชาวนา ๑๐๐% อยู่กับชาวนาสอนลูกชาวนามาโดยตลอด และปัจจุบันนี้ก็ยังทำนาอยู่เหมือนกัน รู้เห็นอะไรเป็นอะไรเกี่ยวกับชาวนามาเยอะ และทุกวันนี้ก็เต็มที่กับการร่วมด้วยช่วยแก้ไขปัญหาของชาวนา (นอกเหนือจากงานประจำสอนลูกชาวนา) ส่วนคุณน่ะ นอกเหนือจากใช้วาจา(อันไม่ใคร่สุภาพ) ในการปกป้องศักดิ์ศรีของชาวนาแล้ว ทำอะไรเพื่อชาวนาอย่างเป็นชิ้นเป็นอันบ้างล่ะ เล่าสู่กันฟังบ้างสิครับ