คนทั่วไปเวลาอยากมีแฟนบางคนก็มองที่หน้าตาก่อน แต่เมื่อคบกันไปนานๆ พอจะขยายไปสู่การใช้ชีวิตคู่ หรือวัยเริ่มมีอายุย่างเข้าสู่เบญจเพศ  ค่านิยมก็เริ่มเปลี่ยนมาตรฐานจากหน้าตาสวยมาเป็นอย่างอื่นแทนเริ่มกลายเป็นคนเดียวสองมาตรฐาน (double standard )เฉกเช่นดวงจันทร์มีข้างขึ้นและข้างแรม..ผู้ชายจึงเริ่มเปลี่ยนมาตรฐานการดูคนที่จะเป็นเนื้อคู่จากความสวยงามเป็นที่หนึ่งเปลี่ยนมาเป็นการดูคุณสมบัติแบบที่สองได้แก่คุณธรรมแทนคือดูที่ความขยัน อดทน ประหยัด ซื่อสัตย์ พัฒนาฝีมือ เริ่มมองถึงคุณสมบัติภายในแทนภายนอก ซึ่งเป็นมุมมืดที่สตรีลืมมอง...หนุ่มสาวบางคู่พบกันนาน จึงชวนแฟนไปเดินเล่นห้างสรรพสินค้า พอพาไปสองสามหนก็พบว่า แต่ละครั้งสาวเจ้าอ้อนเอาสิ่งของเรียกว่าเงินเดือนในอนาคตของฝ่ายชายหายไปอีกสองสามเดือนคือผู้หญิงมีนิสัยซื้อของไม่รู้จักประมาณใช้เกินความจำเป็นทำให้แฟนหนุ่มกลับบ้านนอนก่ายหน้าผากคิดว่าเอาหรือไม่เอาดี ถ้าแต่งงานจะมีอะไรพอสำหรับเธอบ้าง แม้บางครั้งผู้หญิงจะจ่ายเองไม่รบกวนผู้ชายก็ตามจ่ายเก่งผู้ชายก็กลัว...

                แม้สิ่งเล็กน้อยคือความสะอาดเรือนกายและเรือนนอน(ห้องพัก)   ห้องพักที่เราอาศัยถ้าปล่อยให้รกรุงรังก็เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจแต่งหรือไม่แต่ง เมื่อไปบ้านแฟนเห็นบ้านสกปรกหัวใจก็ตกลงมาที่ตาตุ่ม...

           สุภาพสตรีหลายคนบอกว่าดิฉันทำงานไม่ค่อยมีเวลากวาดบ้าน แต่อย่างอื่นดิฉันละเอียด ฉันทำงานเอกสารเก่ง ฉันทำงานดึกต้องเข้าเวร สารพัดที่จะอ้างเหตุผลเข้าข้างตนเอง...แต่อย่าลืมว่าผู้ชายชอบผู้หญิงที่การบ้านการเรือนเรียบร้อย พื้นห้องนอนสะอาด พื้นบ้านสะอาด ที่นั่งรับแขกเวลาแขกมาไม่ต้องวิ่งไปเช็ดต่อหน้าแขกให้อับอาย (โบราณบอกว่าการถูบ้านหรือกวาดบ้านต่อหน้าแขกคะลำ) ผู้หญิงบางคนก็ละเลยลืมเรื่องการทำความสะอาดที่อยู่อาศัยไปโดยสิ้นเชิง  

            การเช็ดบ้านถูบ้านซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งจึงจางหายเหมือนกับพระจันทร์ข้างแรมซึ่งแรมหนึ่งค่ำก็ยังไม่ปรากฏว่ามีอะไรที่ขาดหายพออีกแปดวันต่อมาถ้าเรามองก็จะเห็นพระจันทร์ดำไปครึ่งซีก ยิ่งถึงแรม15ค่ำก็มืดเต็มดวง ความสะอาดของบ้านก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้ชายมองเรา นิสัยไม่ดีทำนานๆก็กลายเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจไร้เสน่ห์และเป็นมุมมืดที่ผู้หญิงลืมมอง......ถ้าพื้นห้องสะอาดแสดงถึงคนอาศัยรักษาอนามัยดีเยี่ยม มีความรับผิดชอบ มีความขยัน....บ้านที่สะอาดเวลานั่งก็สบายไม่ต้องเป่าก่อนแล้วนั่ง..

                 เมื่อคิดจะมีครอบครัวหวังที่จะเป็นฝั่งผา เราคบใครควรสังเกตดูว่าคนที่เราชอบเขาเขามีสิ่งดีๆเหล่านี้ไหม....

            ๑. เอาใจใส่คนในครอบครัวตัวเองมากแค่ไหน เอาใจใส่เสื้อผ้าการซักผ้า ทำอาหารเป็นอร่อย เวลาไปเที่ยวก็พอได้อวดเพื่อนบ้างว่าฝีมือแม่บ้าน

               ๒. ดูแลกันในยามไม่สบาย ถ้าไม่ดูแลยามเราไม่สบายไม่รู้จะแต่งไปทำไม

             ๓. คนในครอบครัวแฟนเรารักกันดี  ถ้าคนในครอบครัวไม่รักกันก็แสดงว่ามาอยู่ด้วยกันก็อาจไม่รักครอบครัวเราเลย

           ๔. มีความเชื่อไปในทางเดียวกัน ชอบอาหารคล้ายกันมากที่สุด ไม่ใช่ชอบไปคนละแบบจนกินด้วยกันไม่ได้ 

              ๕. ดูงานอดิเรกว่าเรากับเขาไปในแนวเดียวกันไหม ต้องการอะไรพี่พอเหมาะพอดีกันไหม ถ้าคนละขั้วก็ปล่อยไปตัวใครตัวมัน

              เคยไปทำบุญหลายวัดเห็นวัดพระมหานิกายส่วนใหญ่เวลาขึ้นไปศาลาทำบุญฝุ่นมากกราบลงแต่ละครั้งฝุ่นเต็มมือต้องเป่าฝุ่นที่มือเวลากราบทำให้รู้สึกไม่สบายใจ...ไปวัดพระธรรมยุติสิ่งนี้ไม่ค่อยมีเพราะท่านดูแลความสะอาดวัดทั้งศาลาการเปรียญและกุฏิเป็นอย่างดี  มองก็สบายตาถึงแม้เป็นวัดป่าแต่ก็สะอาด สวยงาม สง่า สงบ ...

          ความสะอาดจะทำให้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ  ความสง่าหมายถึงสง่างามกระท่อมถ้าสะอาดก็ดูสง่างามแบบกระท่อม ดังนั้นถึงแม้นว่าเราไม่มีบ้านเป็นคฤหาสน์แต่ถ้าบ้านสะอาดก็สง่างามได้.....ความสงบปากสงบคำรู้จักให้อภัยจะทำให้บ้านเหมือนสวรรค์น่าชื่นชมมองอะไรก้สบายตา พบรอยยิ้มดีกว่าเจอแยกเขี้ยว...เริ่มต้นดีที่บ้านแล้วอย่างอื่นก็จะเริ่มดีตามมาเรื่อยๆ