อะไรเอ่ย...ยิ่งตียิ่งรัก...?


คิดถึงความดีของพ่อ.. วันนี้วันคล้ายพ่อเสียชีวิตขออุทิศกุศลให้พ่อด้วยการทำบุญครับ

       

         ชีวิตที่มีความสุขเท่าที่นึกได้ก็คือชีวิตในวัยเด็ก มีคนอาบน้ำให้ ซักผ้าให้ วิ่งเล่นเดินเล่นแสนสบายได้อยู่ในอ้อมกอดแม่  ได้ดูดนมแม่กินอย่างสบายใจ พ่อก็ไม่ได้หวงห้าม นี้คือความรักที่พ่อแม่ที่มีต่อลูก ลองนึกดูเป็นคนอื่นมาดูดนมแม่ต่อหน้าพ่อพ่อคงไม่ยอม... แต่ถ้าเป็นลูกตนเองแล้วจะกินนมจากอกแม่ด้วย เอามือตีแม่ที่ใบหน้าตามประสาเด็ก แม่พ่อก็ยังยิ้มให้อภัยเสมอ  อะไรเอ่ยยิ่งตียิ่งรัก สิ่งที่ผมเข้าใจก็คือลูกตีแม่ ตอนลูกเล็กๆ ตีเท่าไหร่แม่พ่อยิ่งรักพ่อแม่ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ ขนาดลูกวิ่งเหยียบน้ำแกงคว่ำทั้งถ้วยพ่อยังเอาถ้วยมาและเอาช้อนตักเนื้อปลาและน้ำแกงที่ไหลไปกับพื้นคืนด้วยช้อนใส่ถ้วยแล้วตักกินกับแม่อย่างไม่ยี่หระไม่แคร์ไม่รังเกียดกับอาหารที่ลูกเหยียบคว่ำ พ่อแม่ยังคงตักอาหารใส่ปากเพื่อให้อิ่มมีแรงทำงาน...(ถึงตอนนี้คิดถึงความดีของพ่อครับ วันนี้วันคล้ายพ่อเสียชีวิตขออุทิศกุศลให้พ่อด้วยการทำบุญครับ)...  ในวัยเด็กเราอยากได้อะไรเราก็แบมือหรือร้องไห้เอาหรือทำท่าร้องเอะอะ เต้นแร้งเต้นกานิดหน่อยก็ได้สิ่งที่เราต้องการ ไปเที่ยวที่ไหนทำอะไร ก็มีคนอุ้มไป ถ้าโตหน่อยพ่อแม่ก็จูงมือ ถ้าหน้าตาน่ารักก็โดนลุงป้าน้าอาว์หอมแก้มบ้าง (เสียความบริสุทธิ์ในวัยเด็ก) ชีวิตตอนนั้นได้ทุกอย่าที่ปรารถนา...

            อีกครั้งหนึ่งที่ลูกคนนี้เองซุกซนวิ่งเล่นบนบ้านขณะที่แม่วางกับข้าวซึ่งมีป่นปลาถ้วยเล็กๆ ถ้วยเดียวกับผักเพื่อที่จะได้กินยามเย็น..ลูกชายตัวเล็กวิ่งไปเหยียบถ้วยป่นคว่ำ นำป่นและเนื้อปลาไหลออกจากถ้วย พ่อรีบเอาช้อนตักป่นใส่ถ้วยและก็นั่งกินกับแม่ต่อไปเหมือนไม่มีรอยเท้าคนเหยียบอาหารนั้น เท้าลูกที่สกปรกพ่อแม่ยังไม่รังเกียด พ่อครับลูกคนนี้บาปจังพ่ออโหสิกรรมให้ลูกด้วยเทอญ ถ้าย้อนเวลาได้เหมือนในภาพยนต์ผมจะหมุนเวลาคืนไม่ทำสิ่งนี้ จะค่อยๆเดินไม่ให้พ่อต้องกินอาหารที่ลูกเหยียบด้วยเท้าที่สกปรกอันนี้....

                พอเป็นหนุ่มชีวิตเปลี่ยนไปอีกแบบครานี้จากวัยแบมือขอก็ต้องกลายเป็นกำมือจับด้ามจอบจับถังปูนทำงานรับจ้างเพื่อให้มีเงินเที่ยว ตามประสาวัยรุ่น จำได้ครั้งหนึ่งชอบสาวคนหนึ่งแต่เธอสวยผมก็จีบไม่เป็นไม่รู้จะถามอะไรนั่งอยู่กะเขาที่บ้านสามทุ่มถึงตีสองก็คงนั่งผิงไฟโดยไม่ได้พูดอะไร....เมื่อเราถามคำเขาก็ตอบคำ เพราะสาวเขาไม่ชอบขี้หน้าครับ รู้สึกว่าตนเองอกหัก

                 ตอนนั้นเห็นคนนิยมกินเหล้าเมื่อผิดหวังเขาบอกว่าเหล้ามันเขาลืมสิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดได้  ผมก็เอาอย่างบ้างกินเหล้าให้เมาๆเพื่อลืมเธอ เมาทั้งเหล้าเมาทั้งรัก (เมาน้ำกับเมาต่อน) พอเมาเหล้าผมเดินไปบ้านเพื่อนสนิท ... พอไปถึงบ้านเขาราวสองทุ่มกว่าๆ เขาก็เรียกขึ้นบ้าน และวันนั้นเพื่อนทำอาหารให้กิน  กินข้าวกับเพื่อนแล้วเพื่อนก็ถามว่าเมาเหล้ามาจากไหน เมื่อถูกเพื่อนถามก็เล่าให้ฟังว่า ฉันผิดหวังอกหักเลยกินเหล้า...เพื่อนพูดด้วยคำสุภาพว่า...ถ้าเราเมาแล้วคนที่เขาไม่รักจะรักเราไหม กินเหล้ากินฟรีหรือซื้อ ....เหล้าควรกินเป็นบางครั้งมิใช่มากินเพื่อแก้อกหัก  "ถ้าเราตั้งตัวมีฐานะ คนอื่นก็จะมารักเราเอง"  เราอยากให้เพื่อนสร้างเนื้อสร้างตัวดีกว่า...สักวันต้องมีคนมารักเมื่อเราสามารถเลี้ยงตัวเองได้...  ตั้งใจทำงานออมเงินไว้ให้มีหลายเหลือบ้าง ""เฮ็ดสมพอห่างมันห่าง เฮ็ดสมพอมีมันจั้งมี"...การสร้างตัวต้องใช้เวลาในการทำงาน อดทน อดออม แต่การทำลายตนเองทำง่ายไม่ถึงวันก็ชีวิตพังสลาย  ผมได้ข้อคิดจากเพื่อนโดยการฉุกคิดได้ว่า ถ้าเราเสเพลก็คงผิดหวังทั้งเรื่องความรักและอีกหลายๆเรื่องต่อไป พ่อแม่ก้คงเสียใจกับการที่ลุกคิดได้แค่นี้... จึงเริ่มพยายามขยันทั้งๆที่เหนื่อยแต่เชื่อคำเพื่อนที่แนะนำ.....            

           คนบางคนเมื่อผิดหวังอาจหันไปพึ่งเหล้า... ผิดหวังกินเหล้า จนกินเหล้า เครียดกินเหล้า ตกงานกินเหล้า ปีใหม่กินเหล้า  เข้าพรรษาก็กินเหล้า ออกพรรษาก็กินเหล่า โดยเฉพาะเวลาอกหักคนเรามักกินเหล้า....อย่าทำเลยครับเสียเงินเปล่าเสียคนรักด้วย... พ่อแม่คงไม่ภาคภูมิในในการกระทำอย่างนี้เพราะมันเหมือนคนเอาคอคิดมากกว่าเอาหัวคิด...เราควรคิดว่าแม้ว่าคนนี้ไม่รักเรา ถ้าเราพึ่งตนเองได้คนอีกหลายคนยังรอผู้ชายที่ขยัน อดทนประหยัด มีความตั้งใจที่จะเป็นพ่อบ้านที่ดีอยู่ อย่าทำให้ผู้หญิงผิดหวังเลย  มาเป็นคนดีดีกว่าตั้งใจสร้างฐานะด้วยความขยัน หาเป็น ใช้เป็น ออมเป็น(มีรายรับ- รายจ่าย = รายเหลือ) เพื่อวันข้างหน้าเถอะครับ เพื่อที่เราจะได้ไม่เสียดายเวลาที่ผ่านมา.....ให้ "มองหน้ามีหวัง มองหลังภูมิใจ" อย่าให้เกิดความเสียใจพราะพิษร้ายของ โรคทรัพย์จาง        

หมายเลขบันทึก: 128877เขียนเมื่อ 17 กันยายน 2007 08:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 23:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

.........เห็นด้วยค่ะ.............

มองหน้ามีหวัง...มองหลังภูมิใจ

...คนเราเมื่อตั้งใจว่าจะทำอะไรแล้ว  ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน  ยากลำบากมากเพียงใด  ถ้าเราตั้งมั่นมุ่งมั่นที่จะทำมันแล้ว  สักวันฝันของเราก็จะเป็นจริงสมดั่งความตั้งใจ....ยอมลำบากวันนี้เพื่อที่จะสบายวันหน้า  จงสู้ต่อไปอย่ายอมแพ้กับความผิดหวังที่ผ่านมา...จงเอาความผิดหวังมาเป็นแรงผลักดัน  แรงบันดาลใจให้เราได้สู้  สู้เพื่อ...จะได้มองไปข้างหน้าด้วยความหวัง  และมองย้อนกลับไปข้างหลังด้วยความภาคภูมิใจ

..........ขอบคุณอาจารย์นะคะที่มีข้อคิดดีๆมีคติเตือนใจที่ดีๆมาให้ได้อ่านค่ะ..............

คนที่ต่อสู้เพื่อความหวัง

........เหล้าไม่เคยช่วยให้ใครได้ดีและสมหวัง.....

..อย่าเอาความผิดหวัง  เอาความทุกข์ใจ  ไปฝากไว้กับเหล้า...

.........จงเอาความผิดหวังมาเป็นแรงใจ........

เอาความรัก  ความห่วงใยของคนรอบข้าง  มาผลักดันให้เราได้สู้..สู้เพื่อความสำเร็จ..สู้เพื่ออนาคตที่สดใส..สู้เพื่อคนที่เรารักและก็รักเรานะคะ

สวัสดีครับคุณตัวและและคนต่อสู้เพื่อความหวัง

  • ผมจะพายามเป็นคนดีครับ
  • เรื่องเหล้ายังไม่แน่ใจว่าจะอดได้ไหม แต่จะพยายามครับคิดถึงหน้าพ่อแม่ไว้ก่อนจะทำอะไร
  • ขอบคุณสำหรับคำติชมและกำลังใจ
  • ขอขอบคุณท่านอาจารย์ที่ให้เกียรติแวะไปเยี่ยม
  • อ่านงานที่ท่านเขียน...เห็นภาพชัดเจนมาก
  • ก็จะ...แอบ...เข้าไปอ่านเรื่อยๆแหละครับ
  • ขอบคุณอีกครั้ง   สวัสดีครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท