หลักในการปฏิบัติงานให้เกิดความสุข


คนที่ประสบผลสำเร็จคือคนที่ได้นำเอาศักยภาพแฝงในตนเองออกมาใช้อย่างได้ผล สามารถใช้ศักยภาพที่แฝงอยู่ในตัวเราออกมาใช้ได้มากกว่าคนทั่วไปอย่างได้ผล และเกิดความสุขกับการทำงานที่ทำอยู่

             

       คนเราทุกวันนี้ส่วนใหญ่ได้ใช้พลังศักยภาพที่มีในตนเพียง ๕เท่านั้น พลังศักยภาพที่เหลืออยู่ ๙๕ % ยังคงเป็นพลังงานแฝงอยู่ภายในหรือนอนหลับอยู่ ไม่ถูกนำออกมาใช้เลย คนส่วนใหญ่จึงประสบความล้มเหลวในชีวิตและมีเป็นจำนวนมากด้วย  

               คนที่ประสบผลสำเร็จคือคนที่ได้นำเอาศักยภาพแฝงในตนเองออกมาใช้อย่างได้ผล สามารถใช้ศักยภาพที่แฝงอยู่ในตัวเราออกมาใช้ได้มากกว่าคนทั่วไปอย่างได้ผล และเกิดความสุขกับการทำงานที่ทำอยู่ และทำหน้าที่การงานที่ปฏิบัติอยู่ดุจผึ้งที่ทำงานสร้างรังโดยมีจุดหมายมีความจงรักภักดีและทำหน้าที่ของตนโดยไม่เกี่ยงกัน นักปราชญ์ได้แนะนำวิธีทำงานให้ประสบผลสำเร็จและเกิดความสุขไว้ดังนี้คือ :- 

               ๑. ทำงานเป็นและรู้จักวิธีทำงาน คือการทำงานอย่างมีวิธีไม่ใช่หักโหมทุ่มเทกำลังจนเจ็บป่วยแต่การทำงานเป็นคือการทำงานที่ใช้เวลาน้อยทำงานให้ได้มากให้เหนื่อยน้อยที่สุด ทำงานให้เกิดความสุขทำงานให้ได้มากกว่าคนธรรมดา เพราะการที่จะทำให้เราก้าวหน้าที่ถูกต้องมีทางเดียวคือทำงานให้ได้มากกว่าคนอื่น ได้ผลสำเร็จดีกว่าคนอื่นๆ เท่าที่พบบางคนทำงานสำเร็จดีแต่ช้า บางคนทำงานสำเร็จเร็วแต่ไม่ดีนักมีข้อบกพร่องเยอะ บางคนพองานหนักหน่อยก็ทนไม่ไหว

              ๒. ต้องลงมือปฏิบัติอย่างเต็มที่ ต้องทุ่มเท มุ่งมั่นทำงานหรือทำอะไรทุกอย่างทำอย่างจริงๆจังจังโดยทุกสิ่งให้เริ่มต้นจากงานง่ายๆ ไปก่อน พอทำได้แล้วค่อยเพิ่มศักยภาพไปจนกระทั่งบรรลุเป้าหมายสูงสุด “ร้อยลี้ เริ่มที่ก้าวแรก

                 ๓. ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและไม่ท้อแท้สิ้นหวังง่าย ๆ เราต้องรักษาดำรงความมุ่งหมายเอาไว้  ต้องทำให้ได้และ ต้องทำต่อไป ยามเหน็นดเหนื่อยก็พัก แต่เวลาเวลาอุปสรรคต้องฮึดสู้ ท้อไม่เป็น  เพราะคนท้อแล้วไม่มีโอกาสเจริญรุ่งเรืองหรือไม่มีโอกาสประสบผลสำเร็จ

                 ๔. มองสิ่งต่างๆในแง่บวกเสมอ คือคิดพูดทำอย่างสร้างสรรค์ คิดให้ตนมีกำลังใจ ทำให้ตนมีกำลังใจ พูดให้ตนมีกำลังใจ เช่น เราทำได้ เราไม่เก่ง  เราเรียนมาน้อย เราเรียนมาน้อย  เบื่อ เซ็ง ขี้เกียจ แย่มาก ฉันทำไม่ได้ซึ่งไม่ก่อให้เกิดกำลังใจ  สิ่งเหล่านี้คือกำแพงกั้นขวางกั้นหรือเครื่องพันธนาการไม่ให้คนไปถึงความสำเร็จ...

                คนทำงานเท่านั้นที่มีประโยชน์ ไม่มีองค์กรใดต้องการคนที่ไม่ทำงาน ในบางครั้งคนทำงานนั้นอาจเสียเปรียบคนไม่ทำอะไรเพราะโดนเล่ห์เหลี่ยมที่เขาแสวงหาประโยชน์ด้วยวิธีการอื่นๆก็มีบ้าง แต่คนที่ทำงานเท่านั้นย่อมสามารถรักษาฐานะอันมั่นคงไว้ได้และคนทำงานก็ยังเป็นบุคคลที่ผู้อื่นปารถนาและพึงประสงค์

 คนที่ทำงานเป็น สรุปได้ ๓ อย่างคือ

       ๑.มีความอดทนในการทำงานและทำงานได้มากกว่าคนคนทั่วไปโดยใช้เวลาเท่ากัน

       ๒.ทำงานเสร็จและมีความละเอียดละออ ถูกต้องเรียบร้อยในงานทุกงานที่ทำ อย่าทำแบบสุกเอาเผากิน

      ๓.สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและปัญหาที่ยากลำบากในการทำงานให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี นี้คือตัวบ่งชี้ความเป็นนักทำงานว่าเก่งงานแค่ไหน เพราะเราต้องมีทั้งเก่งงาน เก่งคน เก่งคิด คิดกว้าง คิดไกล ใจสูง คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น

                  ถ้าเรามีคุณสมบัติทั้งสามอย่างนี้ครบถ้วน จะเป็นประโยชน์ให้แก่ตัวเราและส่วนรวมเป็นอย่างมาก เราจะเอาชนะเวลา ทำงาน โดยไม่ต้องตราตรำลำบาก ไม่มีผลร้ายต่อสุขภาพ เราจะสามารถชื่นชมยินดีในผลงาน เห็นงานเป็นของสนุก แทนที่จะคิดว่างานเป็นของเหนื่อยยาก

            การทำงานต้องรู้และเข้าใจตนเองด้วยว่า เราทำงานนั้นต้องการอะไรเป็นจุดสุดท้ายของชีวิต งานที่เรากำลังทำจะเป็นไปตามจุดหมายชีวิตเราไหม งานเป็นประโยชน์ต่อเราและสังคมไหม เราทำงานที่ไหนทำได้ดี ทำงานที่ไหนจะได้อยู่กับครอบครัว มีรายได้พอเพียงกับตนเองและครอบครัว ทำอย่างไรจึงจะสุขภาพดี และงานแบบไหนเป็นสิ่งตรงกับสไตล์เรา(our style)

 

หมายเลขบันทึก: 142132เขียนเมื่อ 26 ตุลาคม 2007 17:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:13 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)
  • อาจารย์ขา ถึงแม้นเราจะมีพลังมากมายแต่
  • หากใจเรามันไม่สู้หรือไม่มีกำลังใจนะคะ
  • ให้เอาช้างหลายๆเชือกมาฉุดมันก็ยากคะ
  • ขอบคุณคะ

 

  • สวัสดีค่ะ อ.โกศล
  • แวะตามมาขอบคุณ สำหรับคำแนะนำค่ะ
  • ยินดีอย่างยิ่งค่ะ
  • อยากบอกว่า...เห็นด้วยกับคุณนกค่ะ..
  • แต่...ถ้าหากเราท้อแท้ไปบ้าง ไม่เป็นไร...ขอเพียงอย่าสิ้นหวัง และหมดกำลังใจไปเสียก่อน" ค่ะ
  • ไม่จำเป็นต้องใช้ช้างเลย อิอิ...ตัวเราเองนี่ล่ะ ฉุดตัวเราเองให้ลุกขึ้นมาสู้เอง จริงไหมค่ะอาจารย์

สวัสดีค่ะ อาจารย์

  • ไม่ค่อยรู้ว่าตัวเองมีศักยภาพ กี่ % และใช้ไปแล้วกี่ %   ....ว่าจะทำแบบประเมินตนเองอยู่พอดีเลยค่ะ...
  • จะนำ ข้อแนะนำ ดีๆ ไปใช้ค่ะ........แต่ยอมรับว่าบางห้วง....ก็เคยท้อบ้างเหมือนกัน.....แต่ไม่ถอยค่ะ......(แถวบ้านเรียกว่า  มึนแท๊.....)
  • เขามาอีกรอบคะ net มันพึ่งใช้ได้คะ
  • พอใช้นะคะ พี่อาจารย์ เขาหลับกันหมดแล้ว
  • อย่าพึ่งนอนซิ มาเป็นเพื่อนน้องก่อน
  • น้องโกรธและนอนไม่หลับด้วย

สวัสดีสิรินทิพย์Pอ้อยควั้น

  • เข้าข้างรัตน์ชนก ระวังไม่มีซ้อนตักแกงนะจะบอกให้
  • เอาแสดงว่ายังไม่สิ้นหวังแสดงว่ายังไม่ท้อ ส่วนพี่ชายไม่ท้อ ไม่มีหวัง เพราะพอแล้ว

  • การทำงานต้องรู้และเข้าใจตนเองด้วยว่า เราทำงานนั้นต้องการอะไรเป็นจุดสุดท้ายของชีวิต งานที่เรากำลังทำจะเป็นไปตามจุดหมายชีวิตเราไหม งานเป็นประโยชน์ต่อเราและสังคมไหม เราทำงานที่ไหนทำได้ดี ทำงานที่ไหนจะได้อยู่กับครอบครัว มีรายได้พอเพียงกับตนเองและครอบครัว ทำอย่างไรจึงจะสุขภาพดี และงานแบบไหนเป็นสิ่งตรงกับสไตล์เรา

สวัสดีย่าบัวPหญ้าบัว

  • ผมเชื่อว่าย่า มีศักยภาพเต็มร้อยเลย ขนาดเนตทำงานไม่ปกติย่ายังตั้งใจมาแสดงความคิดเห็น ขอบคุณจริงๆ
  • ย่าตั้งใจดี คงเจริญรุ่งเรืองเป็นแม่พิมพ์จตุคามที่ดี พุดผิดไปคงเป็นแม่พิมพ์ของชาติได้ดีครับผม
  • มึน หมายถึง ดื้อแบบบ่แยกแยะดีชั่วครับ ถ้ารู้ดีรู้ชั่วไม่ยอมทำชั่วเขาเรียกว่ามีสัจจะความจริงใจ ไม่เรียกว่ามึน
  • ส่วนผมบ่มึน แต่เป็นขุนดัน ผิดถูกไม่สน ดันทุรังเอาชนะเท่านั้น แต่ก็ยังไม่น่ากลัวเพราะเขาบอกว่า คนที่เป็นโรคดันทุรังหรือโรคความดันสูง โรคความดันต่ำไม่น่ากลัว แต่ที่น่ากลัวคือโรคดันกลาง
  • ขอบคุณหญ้าบัวที่ให้กำลังใจข้อเขียน

สวัสดีนกPรัตน์ชนก

  • ก็อยากให้มีกำลังใจแหละนกถึงได้เขียน
  • ตั้งใจทำงานเพื่อผลงานมิใช่เหรอที่เคยเขียนพระสอน ทำไมลืมหละ
  •  คนทำงานเป็นคือ

           ๑.มีความอดทนในการทำงานและทำงานได้มากกว่าคนคนทั่วไปโดยใช้เวลาเท่ากัน

           ๒.ทำงานเสร็จและมีความละเอียดละออ ถูกต้องเรียบร้อยในงานทุกงานที่ทำ อย่าทำแบบสุกเอาเผากิน

          ๓.สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและปัญหาที่ยากลำบากในการทำงานให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี นี้คือตัวบ่งชี้ความเป็นนักทำงานว่าเก่งงานแค่ไหน เพราะเราต้องมีทั้งเก่งงาน เก่งคน เก่งคิด คิดกว้าง คิดไกล ใจสูง คิดเป็น ทำเป้น แก้ปัญหาเป็น

  • นอนไม่หลับเพราะเราคิดมาก วันนี้กลับไปก็นอนหลับให้สบายนะ

  • การนอนหลับคือการพักผ่อน นอนเพื่อเอาแรงไว้ทำงาวันต่อไป

  • ขอให้พบแต่คำหวานๆที่จริงใจ ส่วนพี่ชายคำหวานไม่มีมีแต่ทำขม แต่ขมเค็มใส่อาหารได้ ไม่เป็นยา คิคิ

สวัสดีค่ะ..พี่ชาย(ตามมาให้กำลังใจเช่นเคยค่ะ)

  • ดอกกุหลาบสวยนะคะ...อิอิ

คนที่ทำงานแล้วจะประสบผลสำเร็จ

1. ต้องลงมือปฏิบัติอย่างเต็มที่

2. ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและไม่ท้อแท้สิ้นหวังง่าย ๆ  (ถ้ามันไม่ไหวจริงๆก็ท้อได้นะคะ..แต่อย่าถอย  ถ้าท้อแล้วหยุดนิดนึงเพื่อรวบรวมพลังแล้วสู้ต่อเพื่อความสำเร็จนะคะ)

3. มองสิ่งต่างๆในแง่บวกเสมอ

4. ทำงานเป็นและรู้จักวิธีทำงาน

อ่านแล้วชอบมากๆเลยค่ะ  ขอตั้งชื่อว่าหลักในการปฏิบัติงาน  นะคะ..ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์ Pชีวิตมนุษย์นั้นเป็นเรื่องอัศจรรย์ เราไม่มีวันค้นพบหรอกคะว่าตัวเรามีศักยภาพมากแค่ไหน จนกว่าวิกฤติจะก้าวเข้ามา

สวัสดีครับ full house

  • ดอกกุหลายใครถ่ายก็ไม่รู้ครับ เห็นสวยก้เลยขอก๊อปปี้มาลงประดับ
  • ถ้ามีกล้องจะพยายามถ่ายให้สวยเหมือนต้นฉบับ การเลียนแบบอย่างในทางที่ดี คงไม่ใช่สิ่งน่าอาย เพราะเคยเห็นหลายคนก็เรียนจากครู ท่องจำไปเล่าก้มีแต่ก้ดีทั้งนั้นถ้ามันมีประโยชน์
  • จะตั้งชื่อเรื่องว่าอย่างไรคงไม่สำคัยนักที่สำคัญ เราอ่านแล้วจะเอามาทำได้ไหม ทำแล้วจะทำแบบไหนจึงจะทำให้การทำงานเราเกิดผลดีและความพึงพอใจแก่เราและผู้บังคับบัญชา
  • ขอให้สมดั่งใจหวังครับ

สวัสดีครับอาจารย์P MOO

  • มนุษย์นอกจากมีความอัศจรรย์และบางทีก็ลึกลับครับ จิตใจคิดอย่างแต่ปากพุดอย่างมือทำอีกอย่าง
  • เรื่องทำดีถ้าเรามีจิตใจที่มั่นคงเชื่อมั่นในความดีก็คงไม่ยากเพราะคนเราสามารถทำได้ ผู้หญิงถ้าตั้งใจจริงทำงานหลายอย่างได้ดีกว่าผู้ชาย โลกสวยงามเพราะผู้หญิงครับ
  • การรู้จักฮึดสู้ยามเมื่อพบปัญหาที่หนักและหาทางออกที่ดีคืออัจฉริยของมนุษย์ที่ไม่มีตำราไหนสอนครับ
  • เพราะยามเจอปัญหาจริงๆ เราไม่ได้เปิดตำราแต่เราใช้ IQ EQ ของเราในการแก้ปัญหาและดำรงชีวิตบนดลกที่เขาว่ากลมๆ ใบนี้

สวัสดีครับอาจารย์โกศล

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ชักสงสัยตัวเองว่าเราทำงานได้หรือว่าทำงานเป็นกันแน่..

สวัสดีครับท่านอัยการชาวเกาะ

  • มีคำพูดว่าอยากรู้เรื่องยาคลู ถามสาวยาคลูดูซิครับ ดั้งนั้น อยากรู้ว่าทำงานได้หรือทำงานเป็นต้องถามแม่บ้าน
  • ถ้าถามลูกน้องไม่มีวันทราบครับครับเพราะใครจะไปสอนสังฆราชได้  จ้างก็ไม่มีใครบอก
  • แต่ผมมั่นใจครับว่าท่านทำงานเป็น เพราะงานก็เสร็จยังมีเวลาเหลือมาคุยเนตต่างหาก ถ้าทำงานไม่เป็นก็คงไม่มีเวลาว่างเป็นแน่
  • แต่ที่สำคัญ ถามตนเองครับ "ถ้าคนอื่นทำงานตำแหน่งนี้แล้วเป็นเหมือนเรา เราจะภูมิใจระดับไหน ได้คำตอบแล้ว Knowledge Management เกิดแน่นอนครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท