ผู้ใหญ่ควรให้กำลังใจหรือของขวัญผู้น้อยบ้าง มิใช่รอเอาจากผู้น้อยอย่างเดียว เพราะสิ่งที่มีบางครั้งไม่พอที่จะเลี้ยงครอบครัว
เมื่อเราประสบผลสำเร็จหรือยามที่เราได้รับยศตำแหน่งหรือว่าได้เลื่อนชั้นเลื่อนขั้นเงินเดือนหรือวันเกิด วันสำคัญอื่นๆเช่น วันปีใหม่เราก็มักจะได้รับของขวัญจากผู้ใต้บังคับบัญชา และสิ่งเหล่านั้นเป็นกำลังใจแก่เรามากยิ่งนัก บางทีเรายิ้มตลอดวันเมื่อคิดถึงสิ่งที่ได้กำลังใจที่คนอื่นหยิบยื่นให้เรามา แต่บางครั้งเราลืมนึกถึงความจริงว่าผู้น้อยมีรายได้น้อยแต่ทำไมเราต้องไปเอากับเขาเหล่านั้นทั้งๆที่บางทีบางคนเงินซื้อข้าวให้ลูกและภรรยายังไม่พอแต่เขายอมอดเพื่อเหลือมาซื้อของให้เจ้านายเพราะความรักเจ้านายผู้แสนดีเพราะคนไทยเรามีน้ำใจ
คนไทยเรานิยมให้ของขวัญในเวลาที่บุคคลที่เรารักนับถือประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาที่ได้เลื่อนขั้นหรือวันสำคัญต่าง ๆ แม้แต่วันที่ภรรยาเจ้านายคลอดบุตรได้ลูก ผู้น้อยก็ต้องมีของขวัญไปให้เพิ่มกำลังใจ
แท้ที่จริงแล้วเรื่องของขวัญเราควรจะให้เมื่อเวลาที่คนผู้นั้นประสบความล้มเหลวเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เพราะการให้กำลังใจกันในยามเสียขวัญเป็นเรื่องสำคัญมากถึงมากที่สุด เพราะว่าคนที่เสียขวัญและกำลังใจ จะท้อถอย หงอยเหงา เศร้าสร้อย โสกซึม การดำรงชีวิตอยู่ก็ไม่มีความสุข มองไปทางไหนไร้ที่พึ่งพิง
ดังนั้น ของขวัญที่มอบให้ในเวลาเสียขวัญ ยามท้อแท้หมดหวังกำลังใจหรือในเวลาที่คนกำลังตกอับนั้นเป็นสิ่งมีอานุภาพยากที่จะหาอะไรมาเปรียบปรานได้ การให้ของขวัญในยามท้อแท้คิดถึงตัวอย่างที่ดีคือในหลวงฯที่พระองค์พระราชทานช่อดอกไม้แก่ทหารที่ประสบอุบัติเหตุในขณะรักษาประเทศชาติแล้วเราก็ชื่นชมในใจ แต่ทำไมเราผู้เป็นผู้บังคับบัญชาจึงลืมทำสิ่งที่เป้นขวัญกำลังใจแก่ผู้ใต้ปกครองหรืออยู่ใต้บังคับบัญชาเล่า
แม้แต่ในครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้าก็เคยให้ของขวัญแก่คนท้อแท้ให้มีกำลังใจต่อสู้ชีวิต มีตัวอย่างหลายสิบเรื่องเช่นหญิงจัณฑาลคนหนึ่งซึ่งเป็นคนรับใช้ในเรือนเศรษฐี เมื่อเศรษฐีได้ลูกสะใภ้ใหม่ ๆ มีนิสัยรังเกียจคนจัณฑาลมากสุด ๆ จึงด่าว่าตบตีอย่างไม่มีเหตุผล ทำให้คนใช้หมดกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพราะถูกรังแกไร้เหตุผล และทางออกของเธอคือตัดสินใจที่จะตัดสินหนีปัญหาชีวิตด้วยการไปผูกคอตายที่แม่น้ำคงคา โดยเอาเชือกผูกกับก้อนหินที่ริมฝั่งแม่น้ำกะว่าจะกระโดดลงน้ำให้จมน้ำลงไปก้อนหินๆจะถ่วงให้ตายจมน้ำไปเลย พระพุทธเจ้าได้ปรากฏพระองค์แล้วเรียกชื่อนางและได้ให้กำลังใจคือให้ข้อคิดเรื่องโลกธรรมชีวิต นางได้สติและแล้วก็เลิกฆ่าตัวตาย กลับมีกำลังใจในการทำงานต่อสู้ชีวิตต่อไปอีก และเศรษฐีได้รับไว้เป็นลูกบุญธรรม
เรื่องนี้ทำให้เกิดข้อคิดในการปกครองและทางจิตวิทยาว่า "การให้กำลังใจในเวลาเสียขวัญเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเพราะในยามเช่นนี้ทุกคนต้องการทั้งนั้น ยามจน ยามเจ็บป่วย ยามสูญเสียคนรัก คนเราต้องการกำลังใจ"
ดังนั้น ถ้าเราเป็นนักบริหารเมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาหรือญาติพี่น้องท้อถอย หมดกำลังใจ เราเป็นผู้ใหญ่ต้องเดินไปให้กำลังใจคนเป็น แม้ไปด้วยตนเองไม่ได้ ส่งของขวัญไป ส่งดอกไม้ไปมอบให้ ตรงนี้เป็นข้อปฏิบัติที่สำคัญในการปกครองคนและทางจิตวิทยา อย่ารอแต่ขูดเลือดจากปูโดยให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาต้องอดมื้อกินมื้อเพื่อเก็บเงินซื้อของขวัญให้เราเลย
สังคมไทยควรหันมาเห็นใจกันและกัน ให้กำลังใจผู้น้อยในยามท้อแท้ แล้วสังคมจะน่าอยู่กว่านี้เยอะ หากเราไม่คอยแต่ขูดเลือดแดงกับปู อะไร ๆ ก็ขอจากผู้น้อยซึ่งเงินไม่พอเลี้ยงครอบครัว อย่าให้เข้าทำนองที่ว่า "ไหใหญ่นับมื้อล้น ไหน้อยบ่เต็ม" คือยิ่งมีตำแหน่งสูง ยิ่งรวยยิ่งขูดรีดผู้น้อย เอาเปรียบผู้ด้อยกว่า..หรือที่เขาเรียกว่า"ปลาใหญ่กินปลาเล็ก"
ผู้ใหญ่คือฟ้า ผู้ใต้บังคับบัญชาคือดิน อยากให้ฟ้าก้มมาจูบดินบ้าง ขอของขวัญในยามท้อบ้าง ยามป่วยก็ขอลาบ้าง หรือแค่ถามข่าวยามไม่เห็นหน้าคนนั้นเป็นอย่างไร ทำไมไม่เห็นคิดถึง ไม่สบายหรือเปล่า ได้ยินเท่านี้เราก็ปลื้มไปสามเดือน หรือว่าแค่มาเยี่ยมเยียนยามป่วยที่นอนอยู่โรงพยาบาลเราก็ปลื้มอย่างไม่มีวันลืม ความห่วงใยที่ผู้บังคับบัญชามีให้คือของขวัญและแรงจูงใจที่มีอยู่นอกเหนือทฤษฎีการจูงใจในตำราเรียน ที่นั่งที่ดีที่สุดคือนั่งในหัวใจคน แต่อย่านั่งบนหัวคน...