126...ตำนานและอดีตประวัติ อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น


กระนวน นี้ เป็นชื่อที่มีตำนาน กล่าวอ้างมา ขอประวัติตำนาน มาจากที่ว่าการอำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น

ชื่อกระนวนนี้ มีตำนานเล่าขาน

มาแต่อดีตกาลนมนานมาแล้ว ถึง 63 ปี (ปัจจุบัน พศ.2552)

                 พี่น้อง GTK ที่รักทุกท่านคะ ไหนๆผู้เขียนได้เขียนประวัติความเป็นอยู่ของชาวอำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ในบทความที่ผ่านมาแล้ว ผู้เขียนก็อยากรู้เหมือนกัน  ทำไม ถึงตั้งชื่อว่า  กระนวน แล้วมีเรื่องเล่าขานสาเหตุของการตั้งชื่อ ว่า กระนวน ความเป็นไปเป็นมาอย่างไร ผู้เขียน พยายามค้นหาในเว็บไซท์เรื่องราวของอำเภอกระนวน มากมาย แต่ทุกเว็บเขียนเรื่องราวเพียงสั้นๆ  อาจจะเป็นเพราะว่า ข้อมูลอาจจะเป็นอดีตนานเกินไป ถูกลบไป เมื่อมีการปรับปรุงเว็บในแต่ละครั้ง ทำให้เรื่องบางเรื่องหายไป ถ้ามีก็มีแบบสั้นๆ ที่เจ้าของท้องถิ่น เป็นผู้อยู่ในท้องถิ่น  คิดว่า น่าจะมีเรื่องราว อำเภอกระนวน ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต ยาวมากกว่านี้  ผู้เขียนก็คงจะมีหน้าที่  เป็นผู้เขียน ผู้ที่จะนำกิจกรรมดี ศรีสังคมมาเขียนสู่กันฟังต่อยอดไป

              พี่น้อง GTK ทุกท่านคะ เป็นการดีนะคะ ท้องถิ่นเราเอง ถ้าเราไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย ก็ไม่สมควรจะเป็นคนในท้องถิ่นนั้น เพราะแสดงให้เห็นว่า  เราไม่มีความสนใจท้องถิ่นตนเลย ว่ามีความเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด

             ผู้เขียนมีความคิดว่า อยากจะให้มิตร GTK ได้เล่าเรื่องในท้องถิ่นของตน ที่มีอะไรดีๆ น่าสนใจ มาเล่าสู่กันฟัง ก็จะทำให้คนที่ได้อ่าน ได้รู้ว่า เพื่อนGTK คนไหนอยู่จังหวัดอะไร  ในจังหวัดมีอะไรที่น่าสนใจ  หรือ มีอะไรที่ควรจะปรับปรุง ตามแนวความคิดของตนเอง แม้จะถูกหรือไม่ถูก  ก็จะนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน  นอกเหนือจากรู้ประวัติ ว่าท่าน ทำงานอะไร หรือรับผิดชอบหน้าที่อะไรแล้ว

          ผู้เขียนขอเล่าประวัติความเป็นมาของอำเภอกระนวน ให้ท่านทั้งหลายได้รับรู้ไว้  ว่า กระนวน หรือเป็นอำเภอกระนวน ได้อย่างไร  น่าสนนะคะ ผู้เขียนยังอยากรู้เลย ค้นๆ  ไม่เห็นในเว็บ  ไปที่ว่าการอำเภอกระนวน  ไปขอปริ๊นมา แล้วก็ให้แผ่น CD มาด้วยหนึ่งแผ่น  ผู้เขียนยังไม่ได้เปิดดู ว่า แผ่น CD นั้น เขาเขียนว่าอย่างไร แล้วจะมานำเสนอภายหลังนะคะ อย่าพึ่งตาลายคะ พี่น้องบางท่านไม่อ่านก็ได้นะคะ ผ่านๆ ไป  เพราะจุดมุ่งหมายของผู้เขียน อยากเก็บไว้เป็นตำนาน โดยใช้คำหลักว่า ที่มาของชื่อ ประวัติ  อำเภอกระนวน  เพราะคิดว่า คนรุ่นหลัง จะได้นำไป สืบค้นหาในภายหลัง ในเรื่องของอำเภอกระนวน และก็อาจจะมี พี่น้อง GTK บางท่านที่สนใจ ตำนาน แต่ละท้องถิ่น  แม้แต่ท้องถิ่นของท่าน ท่านก็ต้องไปหา ตำนานมาเล่าแลกเปลี่ยนเช่นกัน  น่าสนนะคะ เปิดโลกทรรศน์

        "อำเภอกระนวน"  ท่านผู้อ่านคงไม่ทราบเหมือนผู้เขียน ผู้เขียนก็พึ่งรู้ว่า แต่เดิมนั้น  กระนวนเป็นตำบลหนึ่งในเขตการปกครองของอำเภอน้ำพอง ใกล้เคียงในปัจจุบันนี้เอง ซึ่งอำเภอน้ำพองในสมัยนั้น เป็นเพียง หนึ่งในห้า ของจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นยุคแรกของการก่อตั้งจังหวัด นานมากๆ ทีเดียว

          ต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช 2489 เมื่อหักกันกับพุทธศักราชปัจจุบัน 2552 เป็นเวลานานมาแล้วถึง 63 ปี นั่นกล่าวได้ว่า เมื่อ 63 ปีผ่านมาแล้ว ได้มีนายเลื่อน นิลประพันธ์ นายอำเภอน้ำพองในสมัยนั้น มีความเห็นว่า เขตการปกครองอำเภอน้ำพองกว้างขวางมากเกินที่จะดูแลได้ทั่วถึง ซึ่งสมัยแต่ก่อน ถนนยังเป็นลูกรัง การไปมาหาสู่กัน การสัญจร ดูแลกันก็ลำบาก  รอนแรมหลายวัน ไม่สะดวกสบายเหมือนเช่นทุกวันนี้ รถโดยสารก็ไม่มี นั่งเกวียน รถมีก็มีน้อยมาก ยากแก่การปกครองและพัฒนา และช่วงนั้นโรคระบาดไข้ทรพิษ ไข้ป่าหรือ มาเลเรีย  โรคต่างๆ  ฯลฯ ยังคงชุกชุม การเดินทางไม่สะดวก ล่าช้า

          ในที่สุด ก็ได้ร่วมประชุมหารือกัน โดยเรียกประชุมข้าราชการ พ่อค้า คหบดี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อขอความเห็นในการดำเนินการแยก ขอแยกตำบลกระนวนไปเป็นกิ่งอำเภอกระนวน โดยถือเอาเขตตำบลกระนวน ตำบลบ้านโนน รวมเข้ากัน ยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอกระนวน อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น โดยได้รับอนุมัติให้ตั้งกิ่งจากกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 1 มกราคม พุทธศักราช 2491 หักกับ พุทธศักราชในปัจจุบัน 2552  ผ่านมา แล้ว   61  ปี  ผู้เขียนยังไม่เกิดเลย 

        รตท. มุข ประสริฐวงษ์ ในอำเภอน้ำพองในสมัยนั้น  ได้เลือกบริเวณดอนเมือง-ดอนตาปู่   บ้านหนองโน บ้านศรีสุข ตำบลกระนวน  เป็นที่ตั้งว่าการกิ่งอำเภอ โดยมี ขุนบำรุงรัตน์บุรี ข้าหลวงประจำจังหวัด เป็นประธานในการเปิดที่ว่าการกิ่งอำเภอ  และได้แต่งตั้งนายประยุทธ์ เมืองครุฑ เป็นปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอกระนวน คนแรก ในสมัยนั้น

         ต่อมาเมื่อปี 2501 (51 ปี ผ่านมาแล้ว ปัจจุบันที่เขียน 2552 ) ในช่วงเวลาที่ นายอภัย หล้าสุวงษ์ ดำรงค์ตำแหน่งปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ ตำบล หมู่บ้านของกิ่งอำเภอกระนวน ได้มีการแบ่งแยกเขตการปกครองหมู่บ้าน ตำบลเพิ่มขึ้นได้ถึง 7 ตำบล นายอภัย หล้าสุวงษ์  จึงได้ยกฐานะกิ่งอำเภอกระนวนขึ้นเป็นอำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น โดยกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอกระนวน และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 75 ตอนที่ 55 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม พุทธศักราช 2501

        ปัจจุบันอำเภอกระนวน มีหมู่บ้าน  ตำบล ประกอบด้วย 9 ตำบล 98 หมู่บ้าน 

        นี่คือประวัติเดิม ความเป็นมา ของอำเภอกระนวน

            พี่น้อง GTK ที่รักทุกท่านคะ ท่านทราบไหมว่า จากคำบอกเล่าของปราชญ์ชาวบ้าน นั้น คำว่า "กระนวน"ไม่มีหลักฐานการตั้งชื่อว่าได้มาจากสิ่งสำคัญหรือสถานที่สำคัญอย่างใด บางคนสันนิฐานว่า มาจากบริเวณที่ตั้งกิ่งอำเภอมีต้น "ขนวน" เป็นจำนวนมาก จากการสืบค้น คำว่าขนวน คือบริเวณที่มีต้นไม้ยืนต้น จำพวก ต้นมะค่า  มะค่าโมง  เป็นป่ามะค่าจำนวนมาก ซึ่งเป็นต้นไม้ยืนต้น แต่เป็นต้นที่มีใบเล็กรวมกันเป็นช่อ     (ภาษาอีสาน จะเรียกต้นนี้ว่า ต้นขนวน) จึงเรียกตามต้นไม้ ภาษาอีสาน ป่าขนวน

           แต่ก็ยังมีปราชญ์ชาวบ้านบางท่านเล่า เป็นตำนานนมนานมาแล้ว สมัยครั้งที่มีพระยาขอม เจ้าเมืองชะตีทา มีมเหสีชื่อนางจันทรา และมีธิดา ชื่อ นางไอ่ (ไม่ใช่ นางไอ่เดียวกันกับเรื่องผาแดงนางไอ่ ตามนิทานพื้นบ้านโบราณ เรื่องผาแดงนางไอ่ เพราะเรื่องนี้เป็นตำนานของจังหวัดสกลนคร)ได้จัดให้มี การแข่งขันบั้งไฟหรือบ้องไฟสูง โดยมีเงื่อนไขและข้อตกลงว่า ถ้าบั้งไฟใครขึ้นสูง ถือว่าชนะ จะยกธิดานางไอ่ของตนให้อภิเษกสมรส แล้วจะแบ่งเมืองอีกครึ่งหนึ่งให้ปกครอง

                ในการแข่งขัน บั้งไฟ ปรากฏว่า

          - บั้งไฟเซียงเหียน (เซียง หมายถึง ชายที่บวชเป็นพระ หรือเป็นสามเณรแล้ว สึกออกมาเป็น ฆาราวาส) แห่งเมืองฟ้าแดดเป็นผู้ชนะ โดยเลาบั้งไฟเซียงเหียน (เลาบั้งไฟ หมายถึง  กระบอกบั้งไฟที่บรรจุดินปืน อีสานเรียกว่าดินปืนว่า หมื่อ เลาบั้งไฟเซียงเหียน มีเส้นผ่าศุนย์กลาง 6 นิ้ว ยาว 13 ศอกคืบ ได้ตกแต่งเป็นพระยาหงส์ดสวยงามด้วย) ได้ขึ้นสู่ฟ้าเพียงผู้เดียว

           -ส่วนบั้งไฟคู่แข่งอีกคนหนึ่งคือ บั้งไฟของพระยาขอมซูคาไม่ยอมขึ้นฟ้า โดยยังตั้งอยู่ที่นั่งร้านบั้งไฟเหมือนเดิม

         - มีอีกส่วนหนึ่งคือท้าวผาแดงแห่งเมืองผาพงษ์  จากฝั่งซ้าย (คือประเทศลาวในปัจจุบัน)บั้งไฟแตก "ขนวนบั้งไฟ"  (อีสานเรียกกระหนวนบั้งไฟ หรือ  ชนวนบั้งไฟ ใช้สำหรับเป็นตัวจุดให้บั้งไฟเกิดการเผาไหม้ดินปืน) แล้วชนวนหรือขนวนบั้งไฟ  กระเด็นมาตกที่บึงกระชา ด้านทิศตะวันตกบ้านกระนวน (อยู่ในซำสูง) เลยตั้งชื่อหมู่บ้านตามชิ้นส่วนของบั้งไฟที่กระเด็นมาตกว่า "บ้านกระหนวน" ต่อมาจึงเพี้ยนเสียงและรูปเป็น "บ้านกระนวน"อยู่ในอำเภอซำสูงก็มี

        -ส่วนเลาบั้งไฟ กระเด็นมาตกที่ที่ด้านทิศตะวันออก ทำให้หมู่บ้านนั้นเป็นหลุม เป็นหลุบ ชาวบ้านจึงตั้งชื่อหมู่บ้านนั้น ว่า บ้านหลุบเลา ก็อยู่ในอำเภอซำสูงเช่นกัน จะเห็นได้ว่า แต่ก่อนอำเภอซำสูง ก็แบ่งแยกออกมาจากอำเภอกระนวน เพราะ ที่ที่อำเภอซำสูง ก็มีบ้านหลัก ว่าบ้านกระนวน อาจจะเกี่ยวข้องกัน เพราะเป็นอาณาเขตที่ติดต่อกัน  แม้แต่บ้านหลุบเลา ก็อยู่ในอำเภอซำสูงเช่นกัน

                 พี่น้อง GTK ทุกท่านคะ แม้มันจะยาว อ่านจนตาลาย แต่ตำนานเหล่านี้ ถ้าไม่มีผู้ไปสืบค้นหามาเขียนให้อ่าน อีกนานไป เรื่องเหล่านี้ ก็พลอยจะหายสาบสูญไปพร้อมๆ กับผู้เขียนก้ได้ล้มหายตายจากไป   ฉะนั้นก่อนที่มันจะหายสาบสูญไป  ผู้เขียน จึงขอตั้งใจลอก และเขียน มาให้ผู้อ่าน และคนรุ่นหลัง เก็บไว้ศึกษา ความเป็นมาและก็เป็นไป ให้เป็นตำนานสืบเนื่องไปคะ

                  บทความนี้ได้มา จาก  ขอ ปริ๊นมาจากที่ว่าการอำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น นำมาเรียบเรียงใหม่ ให้น่าอ่านขึ้น เพราะเรื่องที่เขียนนี้ เป็นตำนานมานานแล้ว จำเป็นต้องค้น ต้องแปล เพราะภาษาอีสาน บางท่านจะไม่เข้าใจความหมาย 

             ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ พัฒนากร และเจ้าหน้าที่วัฒนธรรม ประจำอำเภอกระนวน  ที่ได้ ค้นหามามอบให้ เพื่อมาเป็นความรู้ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับทุกๆท่านคะ

          ผู้เขียนจะไม่เพิ่มรูปภาพ เพราะเรื่องก็ยาวมาก และเรื่องน่าสนใจอยู่แล้ว

   แผนที่ ถนน ในตัวอำเภอกระนวน

 ใครจะมาเยือน ลูกศรคือถนนหลักไปจังหวัดอื่นๆ ใกล้เคียง

ทิศทางต่างๆ อาณาเขตติดต่อ อยู่บทที่ผ่านมาแล้ว ดูประกอบกันได้

 

หมายเลขบันทึก: 319654เขียนเมื่อ 11 ธันวาคม 2009 22:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (39)

มาทักทายด้วยความคิดถึง

ช่วงที่ห่างหายไปเพราะย้ายที่อยู่ไปอยู่โรงพยาบาลมาค่ะ

 

P
atozorama
เมื่อ ศ. 11 ธ.ค. 2552 @ 22:19
#1728498 [ ลบ ]
ขอบคุณคะ ที่เข้ามาเยี่ยมกัน คนชอบฝัน และมีฝันอยากเป็นวงค์ดุริยาง ภูมิใจเมื่อได้เห็นรูปตนเองคะ
P
ครูอรวรรณ
เมื่อ ศ. 11 ธ.ค. 2552 @ 22:32
#1728524 [ ลบ ]
น้องครูอรวรรณ เข้าโรงพยาบาล ก็คงที่บอกพี่สุว่าจะไปหาคุณน้องแดง เป็นอะไรหรือเปล่าคะ  หายเร็วๆนะคะ เพี้ยงๆๆๆๆๆๆ สิง่ศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองน้องเราด้วยคะ
P
นาย ศุภรักษ์ ศุภเอม
เมื่อ ศ. 11 ธ.ค. 2552 @ 22:36
#1728535 [ ลบ ]
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยม คนบ้านเรือนเคียง อำเภอใกล้กัน ดีใจที่รู้ว่าเภสัชศุภรักษ์ เป็นคนเก่งและใจดีคะ ชอบวิเคราะห์ วิจัยที่หนึ่งเลยใช่ไหมคะ นี่แหละคนเก่งเป็นแบบนี้แหละคะ

สวัสดีค่ะ

ครูอ้อย ตั้งใจมาอ่าน เพิ่มความรู้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

P
ครูอ้อย แซ่เฮ
เมื่อ ส. 12 ธ.ค. 2552 @ 06:31
#1728846 [ ลบ ]
ขอบพระคุณคะ ครูอ้อยที่น่ารัก  ใส่หมวกน่ารักจัง เหมาะกับหน้าหนาวเลยคะ มีความสุขกับการเขียน และการทำงานนะคะ
  • สวัสดีค่ะ พี่สุ
  • มาอ่านเรื่องตำนานเมือง "กระนวน"
    ชื่อบ้านนามเมืองน่าสนใจดีค่ะ  ส่วนใหญ่ที่มาที่ไปมักไม่น้อย...
    บางครั้งการเรียกขาน   ฟังไม่ชัดก็ทำให้ผิดเพี้ยนไปเช่น
      "สามแสน"  เป็น "สามเสน"  เป็นต้น
       หรือ  "นางราก"  กลายเป็น  "ยางราก"  ก็มีค่ะ
  • ขอบพระคุณค่ะ
  • ขออภัยค่ะ...อยากเสนอแนะเรื่องการเขียนย่อหน้าค่ะ   ควรเว้นสักประมาณ ๑ นิ้ว
    "เปลื่ยนความคิด   เปลี่ยนย่อหน้า"  จะทำให้ผู้อ่านได้พักสายตาค่ะ   รูปแบบ
    จะดูดีด้วยค่ะ
P
ธรรมทิพย์
เมื่อ ส. 12 ธ.ค. 2552 @ 15:23
#1729773 [ ลบ ]
ขอบพระคุณน้องครู วราภรณ์ ธรรมทิพย์มากเลยคะ ที่เขามาเสนอแนะ เพราะพี่สุก้กำลังเรียนการเขียนใน GTK  เขียนอย่างไร คนอ่านไม่ลายตาคะ เดี๋ยวพี่สุจพแก้ไขเดี๋ยวนี้เลยคะ ขอบคุณมากนะคะ ที่เข้ามาดูแลกัน ที่ขาดไม่ได้คือการเอาใจใส่แนะนำสิ่งดีๆ กันเหมือนเดิม ขอบคุณจริงๆ อย่าทิ้งพี่สุไปไหนนะคะ ยังต้องการคำแนะนำอยู่เสมอคะ เพื่อการเรียนรู้คะ คนดี พี่สุจะแก้ไขเดี๋ยวนี้แหละคะ ขอบคุณ
พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

เจริญพรคุณโยมสุ-มหาวิทยาลัยชีวิต ที่ไม่มีวันปิดทำการ

ดูตำนานชุมชนกระนวนแล้วก็มีอายุไม่น้อยทีเดียว

ชีวิตของชาวบ้านนั้นไม่ค่อยมีใครนำเผยแพร่ให้คนภายนอกได้เรียนรู้รับรู้มากนัก

ทั้งชาวบ้านเองก็ขาดโอกาสหลายอย่างหลายด้านและคนบ้านนอกก็ไม่ถนัดโปรโมทตัวเองเหมือนนักประชาสัมพันธ์

คงต้องอาศัยลูกหลานที่มีการศึกษามีโอกาสมากกว่าคนรุ่นเก่าที่เห็นความสำคัญชุมชนตนเองแล้วนำเสนอเวทีโลกสมัยปัจจุบัน

ถ้าเรียนรู้แล้วไม่กลับมาช่วยบ้านบ้างเลยก็ไม่ต่างกับคนรุ่นเก่า หรืออาจจะมีส่วนน้อยกว่าคนรุ่นเก่าเสียอีกเพราะเรียนแล้วไม่มีส่วนร่วมในชุมชน ชาวบ้านอยู่กับท้องถิ่นมาตลอดถึงอย่างไรก็พัฒนาตามศักยภาพของท่านแต่ก็ส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้ชุมชนดำรงอยู่ได้

อำเภอกระนวนมีอายุมากกว่าอำเภอหนองบัวนิดหน่อยเองถือว่าเป็นรุ่นพี่

อยากชวนคุณโยมไปแลกเปลี่ยนรู้กับชาวหนองบัวบ้าง

แลกเปลี่ยนแบบคนบ้านนอกด้วยกัน ชาวหนองบัวทุกท่านยินดีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้ที่นี่

เวทีพลเมือง : เรียนรู้สร้างสุขภาวะคนหนองบัว โดย อาจารย์วิรัตน์ คำศรีจันทร์

ขอเจริญพร

ตอนที่ 1

ฝรั่งมาติน เป้นคนอังกฤษ เป็นลูกคนรวย พ่อเป็น ประธานบริษัท มีลูกน้อง 20000 คน

มาตินเบื่อ ชีวิต คนเมือง เป็น มนุษย์เงินเดือน ไม่อยากอาศัยพ่อ ในการทำงาน เลือกเรียน สาขาที่เรียนยาก แต่เป็น สาขาที่ตายไปแล้ว

คือภาษาลาติน จบจากมหาลัยชั้นดีมากในอังกฤษ อิมพีเรียล คอลลเลจครับ ได้เกียตรินิยมด้วยครับ

มาตินแกมี ครบ คือรูปหล่อ พ่อรวย แต่ใจ รักอิสระ เป็น พวกแกะดำเหมือน ผม 5555

30
พระมหาแล ขำสุข(อาสโย) [IP: 118.172.137.207]
เมื่อ อา. 13 ธ.ค. 2552 @ 08:23
#1731201 [ ลบ ]
กราบนมัสการ พระมหาแล ที่เคารพ นับถือ
สุขอขอบพระคุณมากนะคะ ที่เข้ามาเยี่ยมบล็อค ถือว่าได้เข้ามาเยี่ยมในเขตอำเภอกระนวนแบบทันสมัยเลย นั่นคือใช้นิ้วจิ้ม ก็ถึงบล็อคสุแล้ว  มันช่างทันสมัยและน่าอัศจรรย์ใจ ในการติดต่อสื่อสารการให้ความรู้พร้อมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มองเห็นความแตกต่าง  และสามารถนำความแตกต่างในทางที่ดี มาพัฒนาท้องถิ่นตน ไม่จำเป็นต้องทิ้งถิ่นไปทำงานที่อื่นไกลๆคะ นำความรู้ที่ได้เรียนรู้มา มาผสมผสานกับความเปลี่ยนแปลงเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นตน ดีมากคะ แล้วจะเข้าไปเยี่ยมบ้านหนองบัวเดี๋ยวนี้แหละคะ ขอบคุณที่เชิญไปชมและได้แลกเปลี่ยนกันคะ  หนองบัวจังหวัดไหนน้า...ตามไปดูคะ 
P
นาย ศุภรักษ์ ศุภเอม
เมื่อ อา. 13 ธ.ค. 2552 @ 08:29
#1731208 [ ลบ
ขอบคุณคะท่านเภสัชกร ผู้ใจดีไม่แพ้คุณหมอ ขอบคุณที่นำประวัติคร่าวๆของฝรั่งชื่อนายมาตินมาเล่าสู่กันฟัง และที่ท่านภสัชเล่าย่อให้พี่สุฟังนั้น พี่สุทึ่งมากเลย นั่นคือแกคงเป็นคนมีความเชื่อมั่นในตนเอง และชอบอิสระ ไม่อยากเป็นนายคน หรือไม่อยากเป็นลูกจ้างใคร แต่อยากทำตามใจที่ตนคิดว่าชอบ พี่สุยังคิดเลยว่า แม้บ้านเขาจะมีพร้อมทุกอย่าง แต่คงขาดอิสระภาพ ทำอะไรก็ต้องอยู่ในกรอบ และที่พี่สุดูนะ  แกจะชอบเกษตรมากเลย เพราะบ้านแกคงจะไม่มีพื้นดิน ที่จะได้ปลูกผัก คงจะแออัดมาก หรือไม่ก็วุ่นวายมาก แกอาจจะชอบชีวิตเรียบง่าย สงบๆ และก็ประเทศไทยเท่านั้น ที่จะเป็นเช่นนี้  คนเรานะคะพี่สุว่า จะเรียนจบ หรือศึกษาอะไรมากก็ตาม แต่ถ้าไม่ชอบ ก็ทำไม่เป็นเหมือนกันนะ เพราะใจไม่รักใช่ไหมคะ แต่ท่านมาตินคนนี้ เขามีความคิด เพราะอย่างน้อยเขาก็เรียนสูง แต่เขาไม่คิดถึงการมีความรู้สูง แล้วจะรอดได้ ความรู้สูงแต่เอาตัวไม่รอดก็เยอะ แกสามารถปรับพฤติกรรมได้ตามแบบอย่างคนไทย และชอบมากๆด้วยชีวิตแบบนี้ใช่ไหมคะ
-พี่สุเคยได้ยินสัมภาษณ์แกทางโทรทัศน์ แกมีความคิดของคนต่างชาติที่ไม่น่าจะมาคิดแบบนี้ คือพื้นที่พื้นดินจะเป็นเงินทอง แม้มองไม่เห็นตัวเงิน แกจะปลูกทุกอย่าง ไม่ต้องซื้อกิน คงกินตำมะละกอ บักหุ่งเป็น  แล้วยังมีความคิดมากกว่าคนไทยบางคนอีกที่พยายามทิ้งถิ่น ไม่สนใจการเกษตร ปลูกพืชผัก ทำนา ทั้งที่มีมาแต่บรรพบุรุษ  และแกก็พิสูจน์ตนเองว่าทำได้ ไม่แพ้คนไทย และก็อยู่ได้เสียด้วย เห็นรูปแกอยู่แบบชาวบ้าน ไกวเปลให้ลูกนอน แกก็ทำตัวเหมือนเป็นคนไทย 100% ทีเดียว พี่สุนะ อยากไปเห็นการเป็นอยู่ของแกจริงๆ พี่สุถีงว่า  จะขยันไหม ถ้าตามไปเก็บภาพ และสัมภาษณ์ความเป็นอยู่มาให้พี่น้อง GTK อ่าน ซักวันพี่สุจะไปคะ  
พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

เจริญพรคุณโยมสุ-มหาวิทยาลัยชีวิต ที่ไม่มีวันปิดทำการ

มาบอกคุณโยมว่าดีใจและอนุโมทนาขอบคุณที่คุณโยมได้ไปเยี่ยมชาวหนองบัวในบล็อกที่อาตมาเขียน

อาตมาเคยคิดจะอ่านจากท่านอื่น ๆ ที่มีความรู้แล้วเป็นคนหนองบัวที่เขียนได้บันทึกเรื่องราวในชุมชนบ้านตัวเอง

แต่ก็ไม่มีใครหาอ่านไม่ได้เลย

แต่เมื่อ พ.ค. ๒๕๕๒ ที่ผ่านมาได้เจอบันทึกของโยมอาจารย์วิรัตน์ คำศรีจันทร์ดีใจอย่างมาก

และนึกว่าเรื่องราวในหนองบัวที่มีของดีอยู่จะไม่หายสาบสูญไปแล้ว ก็เลยได้ลองเขียนในบล๊อกอาจารย์วิรัตน์

อาตมาไม่มีความรู้อะไรมาก

รู้แบบชาวบ้านชาวนาคนลูกทุ่ง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องอดีตเพราะอาตมาเองก็จากบ้านมาประมาณ ๓๐ ปี

คนที่เขียนด้วยกัน๓-๕ ท่านตอนนี้ก็อยู่นอกหนองบัวทั้งหมดเลย เขียนจากความทรงจำของแต่ละท่าน

อาจารย์วิรัตน์ท่านให้กำลังใจกับคนบ้านนอกชาวบ้านและชุมชนอย่างมาก ท่านเป็นนักวิชาการทรงภูมิรู้มากมาย

ส่วนอาตมาคนบ้านนอก ป.๔ รุ่นเก่าไม่มีภูมิรู้อะไรกับเขา รู้เกี่ยวกับชุมชนในหนองบัวนิดหน่อยแค่นั้นเอง

อำเภอกระนวนมีของดีมากโขและคุณโยมก็กำลังจะรวบรวมบันทึกนำมาเผยแพร่น่าอนุโมทนาอย่างยิ่ง

คงเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลังในชุมชนอำเภอกระนวนไปอีกนานชั่วลูกหลาน

ตอนเป็นเด็กไม่เคยรู้ว่าขอนแก่นอยู่ตรงไหนอย่างไร

รู้แต่ลุงข้างบ้านเป็นคนขอนแก่นไม่เคยได้ยินว่ากลับบ้านเดิมเลย

เมื่อยี่สิบปีที่แล้วมีถนนตัดผ่านหนองบัว-ชัยภูมิ จึงได้มีรถโดยสารจากนครสวรรค์ถึงขอนแก่นแต่ก็ยังไม่เคยได้ไปสักครั้ง

ขอบคุณคุณโยมโอกาสหน้าคงได้แลกเปลี่ยนรู้ระหว่างอำเภอกระนวน จ.ขอนแก่น -อำเภอหนองบัว จ. นครสรรค์

เจริญพร

สวัสดีค่ะ

  • ปลื้มค่ะ  ที่ลูกยุ...แตกกระจาย
  • ฮ่า ๆ ๆ ๆ เป็นกำลังใจให้ต่อไปนะคะ
  • โห..ละเอียดจริงๆค่ะพี่สุ..
  • เยี่ยมเลย..เรารับความรู้เพิ่มพุงกาง
  • รักษาสุขภาพค่ะ
P
ครูคิม
เมื่อ อา. 13 ธ.ค. 2552 @ 17:50
#1732405 [ ลบ-
ขอบคุณคะครูคิม คงเข้าใจพี่สุแล้วนะคะ พี่สุสาหัสมากคะ กว่าจะไปไดเรื่องมาเขียนให้อ่าน อีกทั้งรูปภาพ ต้องมาย่อ มัคัดมาเลือก นอนดึกทุกคืนเลยคะ เสร็จแล้วก็ค่อยโล่งใจคะ  ขอบคุณที่ยุ ....ส่ง จนได้เขียน จนได้นะคะ ขอบคุณที่ยุสำเร็จคะ ประโยชน์และคุณค่า มากมายเลยนะคะ
P
พิชชา
เมื่อ อา. 13 ธ.ค. 2552 @ 17:53
#1732412 [ ลบ ]
ขอบคุณคะน้องพิชช่า ที่เข้ามาเยี่ยมพี่สุ มีความสุขในวันคริสต์มาสและปีใหม่นะคะ

สวัสดีค่ะอาจารย์สุ

  • น้องซิลเวียแวะเข้ามาอ่าน..ตำนานและอดีตประวัติ อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น...ได้ความรู้ถิ่นที่อยู่ในเมืองไทยเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งที่ค่ะ
  • หนูเป็นคนหนึ่งค่ะ..ที่ไม่ค่อยทราบที่มาที่ไปของถิ่นที่อยู่ของครอบครัว..เดี๋ยวต้องกลับไปถามผู้เฒ่าผู้แก่บ้างแล้วละค่ะ
  • ขอบคุณค่ะอาจารย์
P
น้องซิลเวีย
เมื่อ พ. 16 ธ.ค. 2552 @ 19:13
#1739184 [ ลบ ]
-ขอบคุณคะน้องซิลเวีย ที่เข้ามาทักทาย มีความสุขในวันคริวต์มาสนะคะ

พี่สุเพลงในบันทึกสุดยอดเพราะมากๆๆๆๆที่สุด...สบายดีนะขอรับพี่สาว       

 

อยากเห็นรูปจังเลยค่ะ

 

P
k-kukiat
เมื่อ พฤ. 17 ธ.ค. 2552 @ 15:48
#1741230 [ ลบ ]
-ขอบคุณคะน้องครูกู้เกียรติ ที่นำรูปวาดของพี่สุ มาให้อีก ฝีมือใครน้า ....วาดเก่งจังเลยคะ มอบให้พี่สุวันคริสมาสและเป็นของขวัญปีใหม่พร้อม ขอบคุณมากคะ มีความสุขกันทุกๆคนนะคะ  สุขสดชื่นสมหวัง จงเป็นของน้องครูกู้เกียรติตลอดปี 2553 คะ
P
nuch
เมื่อ พฤ. 17 ธ.ค. 2552 @ 15:51
#1741239 [ ลบ ]
ขอบคุณคะคุณนุช  อยากเห็นรูปจังเลย รูปพี่สุหรือคะ เดี่ญวจะหารูปสวยๆไปฝากคะ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมทักทายกันนะคะ มีความสุขมากๆๆๆๆๆในวันคริสมาสและวันปีใหม่นะคะ 

เขียนเก่งจังเลย ยุขึ้นนะเนี่ย อิอิ คิดถึงมากๆจ้า

P
มนัสนันท์
เมื่อ ศ. 18 ธ.ค. 2552 @ 19:37
#1744300 [ ลบ ]
เป็นอาทิตย์เลยนะคะ อดข้าวอดน้ำพร้อมคะ นอนดึกอีกต่างหาก เขียนได้วันละนิดคะ ในที่สุดก็จบ อยากให้สมบูรณ์แบบ ใช้เวลานานมากคะ
ขอบคุณนะที่เข้ามาทักทาย ช่วงนี้งานเข้าหลายอย่างคะ
มีความสุขในวันคริสต์มาสและวันปีใหม่นะคะ

ก็ผาแดงนางไอ่ เรื่องเดียวกับสกลนครบ้านผมนั่นแหละครับ พิมพ์ไปทั่ว

28.

30
191 สกลนคร [IP: 125.26.176.186]
เมื่อ จ. 05 ก.ค. 2553 @ 21:50
#2075251 [ ลบ ]

คือเรื่องผาแดงนางไอ่ มันเป็นนิทานคะ ปรัมปราเล่ากันมา สุก็เคยไปอ่านประวัติบ้านขนวน ก็เป็นเรื่องราวผาแดงนางไอ่ กับสกลนครแหละคะ สุก็มีความคิดว่า ไปเหมือนกันได้อย่างไร  แต่เมื่อมีการมาของบ้านขนวน เพราะการทำบั้งไฟ  ก็น่าจะไม่มีปัญหา  เรื่องตำนาน  เพราะตำนานมันเกิดมานานเล่าสืบกันมา คนเล่าก็อาจย้ายมาจากสกลนคร มาเจอชื่อบ้านเหมือนกัน  ก็คงเล่าให้ลูกหลานฟัง  เรื่องของเมืองขนวน สุก็รู้คะว่ามันตรง  ถึงได้ทักท้วงไง  แต่เรื่องราวเอามาจาก  เจ้าหน้าที่พัฒนากร และเจ้าหน้าที่วัฒนธรรม ซึ่งเขามีหน้าที่โดยตรง ที่จะเก็บหลักฐานสืบเสาะเอาไว้  

-และถ้ามันไปตรงกับเรื่อง เดียวกันกับสกลนคร ก็ถือว่า อาจจะอยู่ในบริเวณเดียวกันหรือเปล่า  เพราะผาแดงนางไอ่ ที่ไหนก็เล่าขานกันคะ

-และจะมีใครไปสืบค้นต้น เค้าเรื่อง ที่แท้จริงไหมนี่  เพราะนี่ก็ไปลอกเขามาคะ

-ขอบคุณนะคะ ที่ทักท้วงคะ เอาว่าสกลนคร ก็เขียนไปในผาแดงนางไอ่เดียวกันได้เลยคะ เพราะเป็นตำนานชาวบ้าน มานมนานแล้วคะ ไปค้นหาให้หน่อยนะคะ แล้วมาเติมเต็มให้กันคะ

-ใครพิมพ์ไปทั่วน้อ  

 -หรือว่าบ้าน ขนวน จะมาจากผาแดง นางไอ่เดียวกันหมด เพราะบ้านไหนเวลาแห่บุญบั้งไฟ ก็มีผาแดงนางไอ่เหมือนกัน แล้วยกนิทานเรื่องเดียวกันมาเล่า

ขอบคุณมากนะครับที่เอาเรื่อง ของบ้านกระนวน เรามานำเสนอ ผมคิดว่าคงมีแต่ผมที่สนใจเรื่องราว

ข้อมูลที่นำเสนอ บางอย่างอาจจะตรงแต่บางอย่างอาจจะผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่ไม่เป็นไรครับ เรามาช่วยกันหาความจริงเรื่องนี้กันต่อ

อีกทั้งเรื่องราวแห่ง อารยะธรรมของชาวกระนวน ที่มีวัฒนธรรมที่น่าค้นหาอีกมากมาย

ผมเป็นคนในพื้นที่ อยากจะบอกเล่าเรื่องราวไว้ให้ ลูกหลานได้รับรู้และภาคภูมิใจ

วันหน้าจะแวะมาคุยต่อครับ

ขอบพระคุณมาก

หนุ่มซำสูง [IP: 118.173.228.186]
เมื่อ 27 ตุลาคม 2553 06:04
#2227577 [ ลบ ]

สวัสดีคะหนุ่มซำสูง ดีใจที่ได้มีเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงกันมาเยี่ยมคะ  และขอบคุณกำลังแรงใจ ที่มีให้กันคะ  ทุกหมู่บ้าน ทุกพื้นที่ ต่างก็มีตำนาน และตำนานบางอย่างก็สืบสานเอา นิทานปรำปราเข้ามาเสริม และนิทานบางเรื่อง สามารถใช้ได้ทุกที ที่มีความเป็นมาคล้ายๆๆกัน  โดยเฉพาะเรื่องบั้งไฟ

         ยังไม่ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกหรือคะ ถ้าสนใจถามมาได้นะคะ จะสอนวิธีให้คะ

และยังมีเรื่องที่น่าสนใจอีกหลายเรื่อง ถ้าขยันอ่าน ก็ติดตามได้นะคะ

 

 

สวัสดีครับ

วันนี้อากาศดี อยากแนะนำให้พี่ช่วยนำเสนอเรื่องราวของพระเจ้าใหญ่ ที่เป็นที่สักการะของผู้คนทั้งชาวอ.ซำสูง อ.กระนวน และชาวบ้านหลายอำเภอ

ตามตำนวนที่บอกเล่ามาจากคนเฒ่าคนแก่ ว่ามีมานานกว่า 1000 ปี นี่ก็ยิ่งทำให้ผมคิดว่า ถ้าตำนาน มีมานานขนาดนี้แสดงว่า บ้านกระนวนก็ต้องตั้งมานาน อาจเป็นพันปีก็ได้ พี่ลองคิดสิว่าการที่จะก่อสร้างพระพุทธ รูปที่มีขนาดใหญ่ขนาดนี้ จะต้องใช้เวลาและคนจำนวนไม่น้อย เลยทีเดียว ยิ่งพูดผมก็ยิ่งอยากจะรู้

เพราะผมเคยอ่านตำนานการก่อสร้าง พระพุทธรูปเก่าๆหลายสมัย ล้วนแต่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านชาวเมือง ไม่แน่นะว่าที่ตั้งบ้านกระนวน ในอดีตอาจเคยถูกเลือกเพื่อที่จะสร้างบ้านเมืองใดเมืองหนึ่งก็ได้ แต่อาจด้วยเพราะเหตุใดจึงไม่มีชื่อปรากฎหรือสิ่งที่ เป็นหลักฐานยืนยัน ผมก็แค่ลองคิดดูจากเหตุการณ์และเรื่องราวนะครับ ..........ผมคงจิตรนาการมากเกินไป

ประวัติหลวงปู่พระเจ้าใหญ่

หลวงปู่พระเจ้าใหญ่ เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองซำสูง ผู้ให้ข้อมูลบอกว่าเป็นพระสมัยขอมเรื่องอำนาจ สร้างใน พุทธศตวรรษที่ 13 - 16 วัสดุก่อสร้างเป็นหินทั้งองค์ สูง 4 เมตร หน้าตักกว้าง 2.50 เมตร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมือง ซำสูงที่ชาวอำเภอซำสูงและอำเภอใกล้เคียงให้ความเคารพมีอายุนับพันปี เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยทวารวดี

ประวัติชาวบ้านกระนวน ช่างต่างกันกับประวัติพระเจ้าใหญ่ชะเหลือเกิน..........ทั้งเรื่องของระยะเวลาและชาติพันธ์ที่ไม่มีอะไรให้สอดคล้องกันเลย

ชาวบ้านกระนวนถูกอพยพมาจากลาวแต่พระเจ้าใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยเขมร ผมงงมาก.............ครับ

ช่วยอธิบายที ไงก็ฝากถามผู้ที่ท่านรู้ด้วยนะครับ

ผมมาคิดดู ถึงวัฒนธรรมและประเพณีของชาวบ้านกระนวน มันต่างจากชาวบ้านใกล้เคียงหรืออำเภอใกล้ๆ มาก ครับ และประเพณีส่วนใหญ่จัดทำขึ้นจะมีอันต้องเกี่ยวกับพระเจ้าใหญ่ทั้งนั้น แต่ประวัติไม่ได้บอกนะว่าชาวบ้านกระนวนเป็นคนสร้างแต่แค่เดินทางมาพบแล้วก็ตั้งหมู่บ้าน แต่ประวัติการอพมาของชาวลาวมาตั้งบ้านกระนวน ผมเชื่อครับ เพราะมาจากชาวบ้านที่เป็นลูกหลานเล่าต่อกันมา และที่น่าคิดไปกว่านั้นคือหมู่บ้านแค่นี้ มี วัด ตั้ง 5 วัด ซึ่งต่างมากับที่อื่นที่มีเพียงแค่ วัดป่ากับวัดบ้าน แม้แต่อำเภอใหญ่ๆก็ตาม แสดงว่าที่นี่ชาวบ้านในอดีตต้องศรัทธาต่อพระพุทธศาสนามากครับ เพราะวัด 4 วัดแรก ตั้งมานานนานกว่าที่จะมีชาวบ้านเพิ่มมากขนาดนี้

แล้วแท้ที่จริงแล้ว ชาวบ้านกระนวน มีชาติพันธุ์ และอารยธรรม มาจากที่ไหนกันแน่ มันเป็นเรื่องที่น่าศึกษามากครับ

ผมอาจจะเล่าเรื่องอะไรที่คนอื่นฟังอาจจะหาว่าเป็นเรื่องของเธอหรือไร้สาระ แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่หลายคนกำลังรอคำตอบครับ

โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่

ถ้าพี่พอจะรู้จักคนเยอะ ถ้ามีโอกาสได้พบคนที่มีความรู้เรื่องนี้หรือสนใจที่จะศึกษาผมก็ขอฝากพี่ด้วยครับ

ไม่แน่ว่าในอนาคตกระนวนและซำสูงอาจเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ

สวัสดีคะหนุ่มซำสูง เรื่องราวพระเจ้าใหญ่ที่เป็นที่สักการะของชาวซำสูง และชาวบ้านใกล้เคียง ตามที่น้องเล่ามา น่าสนใจไปสืบค้นจริงๆๆ นะ และก็น่าฉงน ตามโจทย์ที่น้องว่า  น่าจะมีตำนานที่สำคัญแต่ด้วยเวลาล่วงเลยมา จนบรรพบุรุษล้มหายตายจากไป ไม่ทิ้งเรื่องราวลายละเอียดไว้เลย  น่าสนใจนะคะ

สำหรับพี่สุรู้แต่ว่ามีพระพุทธรูปพระเจ้าใหญ่ แต่ไม่เคยไปสักการะซักที เห็นทีจะต้องสำรวจ หมู่บ้านในบริเวณนี้ และใกล้เคียงมีเรื่องราวดีดี เล่าสู่กันฟัง

-และพี่สุเคยเข้าไปในบ้านคำแมด บ้านดอนเขียง มีรูปปั้น ต้นตระกูลมุงคุณคำชาว ปั้นไว้ที่ศาลากลางบ้าน พี่สุก็ไม่ได้ไปค้นคว้า ว่ารูปปั้นนี้เป็นมาอย่างไร และในบ้านคำแมด บ้านดอนเขียง ที่ติดกันกับบ้านหลุบเลา ติดบ้านซำสูง ของน้องด้วย พี่สุว่ามันน่าสงสัยนะคะ บางทีหมู่บ้านใกล้เคียงกันนี้ อาจจะมีตำนานเล่าขานกัน เป็นเรื่องราวเดียวกัน  เพราะอย่างน้อยต้นตระกูลมุงคุณคำชาว และตระกูลศรีชมชื่น ทำไมถึงมีเกือบทุกครัวเรือน

-ถ้าพี่สุสามารถไปสืบค้น มาได้ คงจะได้รู้ตำนานพระเจ้าใหญ่ ต้นตระกูลมุงคุณคำชาว ศรีชมชื่น คนไทยคงจะได้รู้จักอำเภอซำสูง  บ้านกระนวนมากขึ้นเนาะ

-โดยเฉพาะ ชาวกระนวนมาจากลาว แต่พระเจ้าใหญ่สร้างด้วยฝีมือเขมร และมีวัดที่ตั้งมานมนานก่อนที่จะมีหมู่บ้าน เอ ! พี่สุก็ชักสนใจแล้วซี   น้องเขียนมาทำให้พี่สุ เชื่อว่า พระเจ้าใหญ่และวัดที่มีมากมายมาก่อนตั้งหมู่บ้าน แสดงว่าถิ่นนี้ต้องเจริญมาก่อน เพราะวัดสมัยก่อนถือว่าเป็นสูญรวมใจคนสมัยก่อนมาก ทีเดียว ต้องไปสืบวัดอีก

-และมีพระพุทธรูปองค์หนึ่ง มีตามรกตที่มีค่ามากด้วยใช่ไหมคะ

-ไม่แน่นะคะ เล่าพากันเล่าทิ้งไว้ อาจจะมีคนมีเวลาที่ชอบค้นคว้า เขามาลุยค้นก่อนแล้ว นี่ถ้าไม่ติดเลี้ยงหลานตัวเล็ก อยู่ พรุ่งนี้ก็ลุยแล้ว เพราะมีรถจิ๊บลุยได้ทุกพื้นที่ ป่าเขาลำเนาไพร พูดยังกะจะลุยป่า เขาเจริญกันแล้ว จะพยายามสืบค้นให้นะคะ

ต้อง ขอบคุณ พี่มากนะครับ ที่สนใจเรื่องนี้ ผมคิดว่าจะไม่มีใครสนใจซะอีก

- ที่ผมอยากรู้ไม่ใช่เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด เพียงแค่อยากสืบทอดเรื่องราวเก่าๆ ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมไว้ให้ลูกหลาน ได้เรียนรู้และให้คนรู้จักกับ บ้านกระนวน และชุมชนใกล้เคียง มากขึ้น

- เพราะเมื่อผมไปที่ไหนลองถามคนดูไม่มีใครรู้จัก บ้านกระนวน หรือ อำเภอซำสูงเลย . ทั้งที่มีประวัติศาสตร์วัฒณนธรรม ประเพณีที่งดงามมากมาย ต่างจากอำเภออื่น ๆ ในจังหวัดขอนแก่น ที่มีคนรู้จัก และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในเรื่องวัฒณธรรมมากมาย ผมอยากให้สักวันหนึ่ง บ้านเราได้เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม เหมือนที่อื่น

-ขณะที่ นานมาหลายปี มาแล้ว ก็ยังมีผู้คนมาสักการะพระเจ้าใหญ่ มากมายและมาเยี่ยมเยียนชาวบ้าน โดยที่ไม่ต้องการอาศัยการประชาสัมพันธ์จากทางภาครัฐเลย

-แปลงจากที่อื่นในจังหวัดที่ประชาสัมพันธ์แล้วประชาสัมพันธ์อีก ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะให้ทางจังหวัด บรรจุชื่อพระเจ้าใหญ่ไว้เป็นสถานที่สำคัญของจังหวัดที่มีผู้คนศรัทธา แค่นี้ก็คงดีเนาะ

ฝากพี่สุ ถ้ามีโอกาส พบปะท่านผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ช่วยแนะนำเรื่องนี้แก่ท่านด้วยนะครับ..............จะเป็นประโยชน์ต่อชาวอ.กรนวนและอ.ซำสูงมาก

-ประเพณีชาวบ้านกระนวน ตอนนี้ ยังสืบทอดตาม อีตสิบสองคองสิบสี่ แต่มีบางประเพณีที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากที่อื่น

เช่น เช่นประเพณีสงกรานต์ ที่ทางหมู่บ้านจะมีกิจกรรมตลอดทั้งเดือนเลย และประเพณีเลี้ยงบ้านศาลปู่ตา

-นับวันประเพณีหลายอย่างจะถูกลบลืม หรือบางอย่างถูกยกเลิกไป เช่น บุญคูณลานที่เคยทำกันที่โพนลานศาลปู่ตาและบุญกุ้มข้าวใหญ่ ที่แต่ก่อนจัดขึ้นทุกปี นี้อาจเป็นเพราะคนปัจจุบันไม่ค่อยมีเวลาและคนรุ่นใหม่มองข้ามความสำคัญทำให้ถูกระงับไป แต่ยังไงก็ตามถ้าเราเริ่มตอนนี้ผมคิดว่ายังมีผู้รู้หลงเหลืออยู่แน่นอน (หรืออาจเป็นเพราะชาวบ้านกระนวนมีบุญเยอะจนเกินไปคือมีทุกเดือนไม่ใช่เกือบนะ..........ทำให้ผู้ใหญ่เขางดไปแต่ถ้าเรามีการบันทึกพิธีกรรมอาไว้อ่านเล่นก็ดีนะครับพี่ว่าไม)

---------เออ ผมลืมไปเลยได้อ่านเรื่องราวของ พี่ที่เล่าเรื่องราว ของการกำเนิดนามสกุล มุงคุณคำชาวที่บ้านคำแมด ก้ทำให้ผมนึกถึง นามสกุล ของคนบ้านกระนวน คือ นามสกุล โพธิ์ศรี พี่คงรู้จักดี . แต่อาจจะยังไม่ทราบว่ามันมาจากคนบ้านกระนวนตั้ง มีมาตามประวัติคนบ้านกระนวนครับ.พี่ลองหาอ่านดูครับ

..........

............ดั้งคำขวัญบ้านกระนวนที่ว่า...........

พระเจ้าใหญ่ พุทธศรัทธา งามตาบึงยาง บ่อนำสร้าง(ชนวน) กระนวนบั้งไฟ

โฮมนำใจไทกระนวน หลากล้วนประเพณี โพธิ์ศรีสกุลดัง

มูลมั้งศาลปู่ตา ลำธาราห้วยสายบาตร แหลงธรรมชาติป่าดงซำ

คำขวัญที่มีคนคิดขึ้นเล่นๆ ครับ ตอนงานบุญบั้งไฟ

นานมากแล้วที่เราไม่ได้คุยกัน

โดยเฉพาะเรื่อง ของบ้านกระนวนที่ยังค้างคากันอยู่

รู้ไรตั้งเยอะขอขอบคุณทุกคนไว้ ณ โอกาศนี้ด้วย ที่ให้ความรู้ดีๆๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท