ปัญหาร่วมอีกปัญหาหนึ่งที่เราต้องยอมรับความจริงว่า เรามีเด็กกำพร้า เด็กที่มีปัญหาทางด้านครอบครัว ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม มากถึง ร้อยละ ๗๐ ที่อาศัยอยู่ในชนบท และเด็กที่ด้อยโอกาสเหล่านี้ ต่างก็อยู่ในโรงเรียนประถมศึกษาของรัฐบาลเช่นที่ว่านี้
“โรงเรียนนี้สอน...ทำนา”
จากคำบอกเล่าของกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง
บอกถึงกิจกรรมของโรงเรียนเล็กๆแห่งหนึ่งในภาคเหนือ
ทำให้ผมรู้สึกสนใจอย่างมาก
อยากหาข้อมูลเพิ่มเติมและอยากเรียนรู้ค้นหารายละเอียดของโรงเรียนแห่งนี้มากกว่านี้
และสิ่งที่ผมสนใจลึกมากกว่านั้นก็คือ
กิจกรรมที่ทำในโรงเรียนนั้น
เป็นกิจกรรมที่ทำให้ผู้เรียนมีความสุขหรือไม่?
และทำให้ผู้สอนมีความสุขหรือไม่?
เคยได้ยินมาบ่อยครั้งที่โรงเรียนจัดกิจกรรมขึ้นมาเพื่อตอบรับดัชนีชี้วัดบางอย่าง
มุ่งเน้นกิจกรรม จนลืมหัวใจของทุกกิจกรรม นั่นก็คือ
“คน”
โรงเรียนสอนทำนา
แห่งนี้อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่
เป็นพื้นที่ที่ผมคุ้นเคยทั้งภาษาและภูมิศาสตร์แถบนี้
การเดินทางไปเชียงใหม่ของผมในครั้งนี้ก็อบอุ่นใจเป็นอย่างยิ่งเหมือนได้กลับบ้านไปด้วย
โรงเรียนที่เราเดินทางไปเก็บข้อมูล
ตามโครงการ
Humanized
Educare คือ
โรงเรียนบ้านร้องขี้เหล็ก โรงเรียนเล็กๆ
อยู่ในเขตอำเภอดอยสะเก็ด ห่างจากอำเภอเมืองเชียงใหม่
ไปทางด้านทิศตะวันออก บนถนนสาย เชียงใหม่ – เชียงราย เดินทางสะดวกสบาย
ไม่เกิน ๒๐ กิโลเมตรก็ถึงที่หมาย
ความท้าทายแรกที่ผมเดินทางไปถึงก็คือ
โรงเรียนเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลเมืองใหญ่
และเป็นโรงเรียนสังกัดกระทรวงศึกษาธิการแบบนี้
ต้องต่อสู้กับค่านิยมที่ชาวบ้านชาวช่องนิยมส่งบุตรหลานเข้าไปเรียนโรงเรียนชื่อดังในเมืองและตอนนี้ก็ค่านิยมก็ลามไปถึงโรงเรียนนานาชาติ
สอนแบบสองภาษา ที่เรียกว่า
Bilingual School เปิดกันทุกแห่งหนเพื่อรับลูกค้ามีเงิน
แน่นอนว่าโรงเรียนของรัฐที่จำกัดจำเขี่ย
และมีวัฒนธรรมการส่งเสริมระบบการศึกษาแบบประเทศไทย
ต้องต่อสู้กับคู่แข่งที่เหนือชั้นอย่างมาก
เท่าที่ผมเดินทางไปเก็บข้อมูลโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก
จนถึงกลางเกือบจะทั่วประเทศ ผมพบปัญหาร่วมในข้อนี้ครับ
และปัญหาร่วมอีกปัญหาหนึ่งที่เราต้องยอมรับความจริงว่า
เรามีเด็กกำพร้า เด็กที่มีปัญหาทางด้านครอบครัว
ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม มากถึง ร้อยละ ๗๐ ที่อาศัยอยู่ในชนบท
และเด็กที่ด้อยโอกาสเหล่านี้
ต่างก็อยู่ในระบบโรงเรียนประถมศึกษาของรัฐบาลเช่นที่ว่านี้
ปัญหาใหญ่ๆที่พบนี้
ยังไม่รวมกับปัญหาระบบวัฒนธรรมการศึกษาของประเทศไทยเรานะครับ
ก็เหมือนกับว่าเรามองไปทางไหนก็มีแต่ปัญหา
และข้อจำกัดแทบทั้งนั้น
ผมมองว่า “ปัญหา” เหล่านี้ เป็นเรื่อง
“ท้าทาย”
และน่าท้าทายมากขึ้น เมื่อผมค้นพบมีโรงเรียนประถมศึกษาเล็กๆ
ส่วนหนึ่งมีนวัตกรรมการแก้ไขปัญหา รวมถึงนวัตกรรมกระบวนการเรียนการสอน
ที่น่าสนใจและเป็นแบบอย่างที่น่าชื่นชม และการที่ผมได้ไปสัมผัส
เก็บข้อมูลเชิงลึก ผมก็สัมผัสได้ถึงความตั้งใจที่ครูไทยมีต่อเด็กไทย
เพราะวิถีชีวิตครูผูกพันกับเด็ก ปัญหาของเด็ก
ก็คือปัญหาของคุณครู
และเป็นปัญหาของประเทศเราด้วย
ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัฒน์
และความท้าทายหลายประการที่มีต่อระบบการศึกษาฐานราก
ที่ผมเกริ่นมาทั้งหมดนี้ อาจดูเหมือนเราหมดหวังและท้อแท้
แต่ยังมีโรงเรียนส่วนหนึ่ง มีคุณครูกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามสานฝัน
กล่อมเกลาเยาวชน และสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กับเยาวชน ให้เป็นคนดี
มีคุณภาพ “สุข ดีและเก่ง ” และที่สำคัญ
ผู้สอน(คุณครู) เองก็มีความสุขอิ่มเอิบกับกระบวนการสร้างคน
โรงเรียนบ้านร้องขี้เหล็ก ที่ตั้งของโรงเรียนอาจไม่ไกล
ไม่ทุรกันดารมาก
แต่อุดมการณ์ของคุณครูและชุมชนที่นี่สูงส่งและมีเรื่องราวที่น่าสนใจ
โรงเรียนของชุมชน
โรงเรียนบ้านร้องขี้เหล็ก เป็นโรงเรียนที่อยู่ท่ามกลางชุมชน
ไม่โดดเดี่ยว กิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้น ล้วนแต่ถูกโอบรัดด้วยความห่วงใย
ใส่ใจของคนในชุมชนด้วย
กิจกรรมหลายกิจกรรมที่สานใจคนในชุมชนมาสู่โรงเรียน
และหลายๆกิจกรรมสานใจคนในโรงเรียนสู่ชุมชน เช่น
“กิจกรรมจูงลูกจูงหลานเข้าวัด”
ของชุมชนบ้านร้องขี้เหล็กเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ชุมชนจับมือกับโรงเรียน
ใช้กระบวนการครอบครัวสัมพันธ์ชักนำเยาวชนบุตรหลานเข้าวัด
และโรงเรียนได้ใช้กิจกรรมฝึกฝนลูกหลานด้านสุนทรียศิลป์ล้านนา
ได้แก่ ฟ้อนรำ ตีกล้องสะบัดไชย
ที่เอื้อกับประเพณีท้องถิ่นอย่างลงตัว
โรงเรียนบ้านนอก ที่ต่อสู้กระแสปัญญาโลกาภิวัฒน์
ผอ.สมบูรณ์ เดชยิ่ง ได้บอกผมในเวทีเล็กๆที่โรงเรียน
ว่า
“โรงเรียนของเราไม่สามารถจัดการศึกษาให้เด็กมีความเป็นเลิศทางวิชาการได้ทุกคน
เพราะเด็กเรามีพื้นฐานความแตกต่างสูง อาจต้องใช้เวลาในการพัฒนา
แต่เราก็ยอมรับความหลากหลายนั้น
โดยการจัดกิจกรรมที่เสริมการเรียนรู้ตามความสนใจ
เด็กเราคนไหนสนใจอะไรก็มุ่งไปทำ ใช้กิจกรรมกล่อมเกลาเด็กให้เป็นคนดี
ตรงนี้เป็นพื้นฐานนำไปสู่การพัฒนาด้านอื่น”
พื้นฐานความแตกต่างของเด็กนักเรียนที่นี่ ครูสมบูรณ์ หมายถึง
โรงเรียนบ้านร้องขี้เหล็ก ได้รับเด็กที่มีปัญหาจากที่อื่น
โรงเรียนอื่นๆไม่ยอมรับให้เรียนบ้าง เด็กพิเศษบ้าง
และส่วนหนึ่งคือเด็กที่มีพื้นฐานมาจากครอบครัวแตกแยกตามที่ผมได้เกริ่นไว้ข้างต้น
ความท้าทายในการจัดการการศึกษาที่นี่จึง
หนักหนามากสำหรับโรงเรียนเล็กๆเช่น โรงเรียนร้องขี้เหล็ก
ผมได้มีโอกาสเห็นผลงานเชิงประจักษ์ที่อยู่ตรงหน้าผม
ในขณะที่นั่งประชุม นั่นคือ เกียรติบัตร โล่ห์
รางวัลมากมายที่ตั้งอยู่ต่อหน้าผมทั้งหมด มากมายมหาศาล
ผมไม่เคยเห็นเกียรติบัตรมากมายเท่านี้มาก่อนในชีวิต ทั้งหมดคือ
ความภูมิใจของคนทำงานที่นี่
และหมายถึงคุณภาพของผลผลิตที่คุณครูโรงเรียนบ้านร้องขี้เหล็ก
ตั้งใจบ่มเพาะ หากเด็กนักเรียนคือ ต้นกล้า
และผลงานต่างๆที่นำเสนออยู่ตรงหน้าผม ก็คือ ดอก ผล
ที่เห็นได้
และผลผลิตที่ดีงามเหล่านี้ก็ถูกคืนกลับสังคมในอนาคต
เชื่อหรือไม่ว่า!!!
โรงเรียนเล็กๆแห่งนี้ มีเด็กนักเรียนได้รับรางวัลระดับโลก
จากองค์กรสิ่งแวดล้อมโลก และองค์กรระดับโลกอื่นๆ ด้วย
ดังนั้นเวทีระดับเล็กๆ ไปถึงระดับประเทศไม่ต้องพูดถึง
โรงเรียนแห่งนี้กวาดรางวัลมามากมาย...ไม่ธรรมดา
การเน้นความหลากหลายเรียนรู้ตามใจชอบ ที่โรงเรียนบ้านร้องขี้เหล็ก
เหมือนเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ในกิจกรรมที่ตนเองถนัดและสนใจ
เมื่อเขารักในกิจกรรมที่เขาได้ทำ เขาก็จะทำได้ดี
และกิจกรรมเสริมหลักสูตรนั่นเองช่วยกล่อมเกลาพัฒนาเด็กไปอย่างช้าๆ
ครูในโรงเรียนท่านหนึ่งบอกผมว่า โรงเรียนของคุณครู เป็นโรงเรียน
“ออกแบบความสุข”
นั่นคือ
ออกแบบความสุขเพื่อให้ผู้เรียนมีความสุขบนความอิสระของความสนใจ
และความสำเร็จของการออกแบบความสุขเชิงประจักษ์ ก็เป็น เกียรติบัตร
โล่รางวัล มากมายมหาศาลเหล่านั้น และเป้าหมายที่ลึกไปกว่ารางวัลที่ได้
คือ
กระบวนการเรียนรู้สร้างและพัฒนาเด็กควบคู่ไปด้วย
เรื่องราวที่น่าชื่นชมของโรงเรียนบ้านร้องขี้เหล็กยังมีอีกมากครับ
...
ผมจะขอยกยอดเรื่องเล่าไปยังบันทึกต่อไป อยากให้ทุกคนติดตามว่า
“โรงเรียนสอนทำนา” เขาทำกันอย่างไร?
และเบื้องหลังความคิดนี้ โรงเรียนคิดอะไร?
กับ
กระบวนการการบูรณาการหลักสูตรทำนาที่ร้องขี้เหล็ก
ติดตามอ่านบันทึกต่อไปครับ
>>>
*** ขอบคุณ อาจารย์Wasawat Deemarn ที่ให้ข้อมูล
และคณะอาจารย์ที่ร่วมเดินทางไปเก็บข้อมูลที่โรงเรียนบ้านร้องขี้เหล้ก
>>>
ติดตามอ่าน บันทึก Humanized
Educare บันทึกอื่นๆ
ข้อมูลจำเพาะ
โรงเรียนบ้านร้องขี้เหล็ก
เป็นโรงเรียนขนาดกลาง-ขยายโอกาส
เปิดสอนในระดับก่อนประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา
และระดับมัธยมศึกษษตอนต้น (ม.๑-๓) จำนวนทั้งสิ้น ๑๓๕ คน
ที่ตั้ง
: ๑๖๙ หมู่ที่ ๗ ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด
จังหวัดเชียงใหม่
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต ๑
มี นายสมบูรณ์ เดชยิ่ง เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน
ครูผู้สอน ตาม จ.๑๘ ทั้งหมด ๑๒ คน อัตราจ้าง ๓ คน
เวปไซต์
: http://www.banrongkheelek.com/
จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
๒๕ เม.ย.๕๒
นนทบุรี
เมื่อ ส. 25 เม.ย. 2552 @ 21:23
1259182 [ลบ] [แจ้งลบ]
นี่ก็ให้การบ้านผมมาตั้งน้าน นาน แล้ว ... จะเขียนอะไรดีหนอ ที่จะเหมาะสมกับกาแฟสักแก้วใหญ่มาก มาก อิ อิ :)
ช่วงนี้ มีคนให้การบ้านมาหลายประเด็นแล้วครับ ... ผ่านแต่ละประเด็น หิน หิน ทั้งนั้น
ผมไม่โลภครับ ขอ 2 แก้ว ๆ ละ 2 ร้านก็พอ อิ อิ แบบว่า เปลี่ยนร้านใหม่ทันใดครับ
;) ...