ระยะทางกว่า ๒๘๙ กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ
ล่องไปทางใต้
ประจวบคีรีขันธ์ถือว่าเป็นจังหวัดใต้สุดของภาคกลาง
และผมก็ได้ทราบมาอีกเรื่องก็คือ
ด้านทิศตะวันตกจรดดินแดนของสาธารณรัฐสังคมนิยมสหภาพพม่า
และที่ประจวบมีส่วนที่แคบที่สุดของประเทศไทยอยู่ที่ตำบลคลองวาฬ
ผมเดินทางไปยังจุดที่แคบที่สุดของประเทศไทย!!!
แน่นอนครับว่าเป็นการเดินทางไปประจวบครั้งแรกในชีวิต
หาข้อมูลต่างๆไว้พอประมาณ แต่ที่ไม่ได้ซีเรียสมากก็คือ
มีคุณครูตาล อิงจันทร์ เจ้าบ้านรอต้อนรับอยู่แล้ว
ผมไปในฐานะแขกไปเยี่ยมเยียน กับพี่คุณครูคิมจากเมืองสองแคว
ผมอาจย่นระยะเดินทางบ้างเพราะเดินทางจาก กรุงเทพฯ ส่วนคุณครูคิม
ท่านเดินทางจากพิษณุโลกค่อนคืนกว่าจะถึงเมืองหลวงก็หัวรุ่ง
สามชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ไปยังประจวบ
ไม่ไกลเลย คิวรถตู้ที่กรุงเทพฯ
อยู่บริเวณภายในปั้มซัสโก้ตรงข้ามสายใต้เก่า แถบๆปิ่นเกล้า
สนนราคาค่าโดยสารคนละ ๒๕๐ บาท
รถตู้บริการส่งถึงที่พักรีสอร์ตติดชายหาดที่ตำบลคลองวาฬ
เรียกได้ว่าคนไกลไปเที่ยวคราวนี้ไม่ได้หอบกระเป๋าขึ้นรถลงรถมากเท่าไหร่
ผมก็ออกจะพะรุงพะรังเล็กน้อยเครื่องมือเครื่องใช้ในการเดินทางผมที่สำคัญสองอย่างคือโน้ตบุ้กและกล้องถ่ายรูป
น้ำหนักไม่มากแต่ก็มีสองกระเป๋า
ต้องขอบคุณพี่คุณครูตาลอิงจันทร์และน้องครูสาวสวย โบกี้
(คุณพ่อน้องเป็นคนรถไฟ)มากครับที่มารับ และ
ดูแลตลอดการไปพักผ่อนที่ประจวบฯ ว่าไปแล้วก็เหมือนทุกครั้งครับ
ด้วยมิตรภาพของโลกไซเบอร์แห่งนี้เองทำให้ผมได้รู้จักผู้คนหลากหลายมากขึ้น
นอกจากรู้จักในเวปแล้ว
มีโอกาสดีๆก็ได้ไปนั่งพูดคุยฟังทัศนะดีๆแบบเจอตัวจริงๆ
หลายสิ่งหลายอย่างที่ได้รับจากการพูดคุย
บวกกับมิตรภาพที่ดีระหว่างกันทำให้รู้สึกดีมากเลยครับ ...
สรุปได้อย่างหนึ่งว่าเครือข่ายความสัมพันธ์ใช้ “ใจ”
นำทาง
ในอดีตที่ล่วงเลย...เด็กดอยแบบผมมักจินตนาการเสมอ
เมื่อคุณครูสอนให้รู้จักทะเล แต่ตัวเองไม่เคยเห็น
ได้แต่จินตนาการตามท้องเรื่อง แบบเรียนมานะมานี
ก็มีตอนหนึ่งคุณลุงพาเด็กๆไปเยือนเมืองชายทะเลประจวบฯ
ตอนกลางคืนนั่งลงตรงชายหาดมองดูเรือหาปลาระยิบระยับแสงไฟจากโป๊ะเรือ
เรื่องราวเหล่านี้ยังติดตรึงอยู่ในความทรงจำจนถึงวันนี้...
ก็เป็นครั้งแรกที่ตามรอยคุณลุง และ มานะ มานี วีระ
มาจนถึงเมืองประจวบจนได้ ขอบคุณพี่คุณครูคิม และ
พี่คุณครูตาลมากครับที่ทำให้ฝันเป็นจริง
ตอนอายุล่วงเลยมาเป็นหนุ่มขนาดนี้
รีสอร์ทรั้วไม้ที่พักก็ติดชายหาด ย่างเท้าประมาณ
สิบก้าวก็ลงทะเล นอนในห้องเปิดม่านก็เห็นทะเล ทุกอย่างเหมือนจะลงตัว
ที่ชอบที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ อาหารทะเลสดๆ กรอบ
หวาน แต่ก็แอบระวังCholesterol
บ้างนิดหน่อยครับ แต่ก็ขอตื่นเต้นสักวันสองวัน
ลืมเรื่องนั้นไปก่อน
อากาศช่างเป็นใจครับ เจ้าบ้านบอกผมว่าช่วงนี้ฝนตกทุกวัน
แต่วันที่ผมมาฝนไม่ยักตก แต่อากาศก็ครึ้ม บรรยากาศแบบนี้ว่ากันว่า
ถ่ายรูปไม่สวยครับ แสงไม่ค่อยพอ
แต่ผมก็ถ่ายหมดละครับ
เรียกได้ว่าเก็บบรรยากาศให้ได้มากที่สุด
จะถามว่าโปรแกรมไปที่ไหนบ้าง?
ผมก็ไม่ทราบมาก่อนครับ
สังเกตพี่ครูตาลกับน้องโบกี้ ก็อาจมีแผนในใจแล้ว
แต่ก็เป็นแผนหลวมๆยืดหยุ่นได้ แบบนี้หละครับ เรียกว่า
“เที่ยวตามใจ ไม่ใช่ฉิ่งฉับทัวร์”
ที่ไหนถูกใจก็อยู่นานหน่อย
ที่ไหนไปแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยสนุกก็เดินทางต่อไปจุดหมายที่อยู่ข้างหน้า
เมืองไทยเราดีจริงๆนะครับ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย
ผลไม้ก็รสดีราคาถูก อาหารการกินอุดมสมบูรณ์
ที่ไหนจะดีเท่าเมืองนี้อีกหละครับ...รักเมืองไทยกันให้มากๆนะครับ
J
เมืองทองเนื้อเก้า...
พี่ครูตาลบอกว่า ทองที่มีชื่อเสียงนั้น
อยู่ในเขตหมู่บ้านป่าร่อน ตำบลร่อนทอง
และบริเวณที่มีการขุดทองมากที่สุดอยู่ที่บริเวณห้วยจังหัน
ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ ๗๕๐–๒,๐๐๐
เมตร ปัจจุบันปริมาณทองลดน้อยลงมาก แต่ก็ยังมีชาวบ้านมาร่อนทอง
เพื่อเป็นอาชีพรองอยู่เสมอ
คุณสมบัติเด่นเฉพาะของทองบางตะพาน
ปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง
ยกตัวอย่างเช่น นิราศนรินทร์
“บางสะพานสพาดพื้น ทองปาง แก่แฮ
รอยชะแลงชระลุราง ร่อนกลุ้ม
ระลึกโฉมแม่แบบบาง บัวมาศ กูเอย
ควรแผ่แผ่นทองหุ้ม
ห่อไว้หวังสงวน”
ขุนช้างขุนแผน
“เอาไม้สรรพยามาทำฝัก
ผสมผงลงรักให้ผิวผ่อง
กาบหุ้มต้นปลายลายจำลอง
ทำด้วยทองบาทชาติบางตะพาน”
อยากบอกว่า กระผมไปเยือนมาแล้วครับ
ไปชมเฉยๆแต่ไม่ได้ทองเพราะทองแพงเหลือเกิน
J
มะพร้าว สับปะรด ...
เป็นพืชเศรษฐกิจของชาวประจวบ
พื้นที่ริมชายทะเลเห็นต้นมะพร้าวและกองลูกมะพร้าวเต็มไปหมด
J
สวยสด หาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ...
ตรงนี้ต้อง
confirm ครับ ทั้งหาดทรายและถ้ำเขา มีหลากหลายให้เที่ยวชม
อีกทั้งหลายจุดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วย
ส่วนความงามล้ำน้ำใจก็ต้องขอบคุณอีกครั้งสำหรับพี่คุณครูตาล
น้องโบกี้ น้องติ้ก หลานชายทั้งสองท่าน(ภาคย์ และ ภูมิ)
ที่คอยเป็นห่วงเป็นใยดูแลแขกคนไกลบ้านแบบผม ...อบอุ่น
ชื่นมื่นมากครับ
ถามว่าไปที่ไหนมาบ้าง ??
ผมจะจาระไนให้ฟังหมดหรือเปล่าก็ไม่รู้
แต่กำลังคิดว่าอยากรวมไว้ในบันทึกเดียว ให้ได้ชมกันทั้งหมด
ขอเรียงสถานที่เป็นแบบเรียงเวลา เลยนะครับ เอาแบบวันต่อวัน
เพราะหลากสถานที่มาก
ที่แรกเลยก็คือที่พัก สุดสวยของพวกเราก่อนครับ พักสบายใกล้ชายหาด
“รั้วไม้รีสอร์ต” ห้องพักผม ติดชายหาดเพียง ๑๐
ก้าว!!!
จุดแรกที่ไปเยือน คือ จุดที่แคบที่สุดของเมืองไทย
บริเวณด่านสิงขร
"กล้วยไม้มากมี มีคนพม่ามากมาย"
เส้นทางด่านตรงนี้เป็นเส้นทางที่พวกพ่อค้าและนักเดินทางชาวต่างประเทศใช้เป็นเส้นทางลัดระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับอ่าวไทย
ที่ตื่นตาตื่นใจก็คือ กล้วยไม้ ครับ
หากท่านไหนที่ชอบกล้วยไม้ก็คงได้เลือกซื้อกล้วยไม้ป่ากันเต็มที่
ผมถ่ายรูปกล้วยไม้สวยๆมาให้ชม เป็นตัวอย่างครับ...
เด็กน้อยชาวพม่าที่ด่านสิงขร
ที่วิ่งมาขอให้ผมอุ้มเขา...
...เที่ยวบางสะพาน
เขาธงชัย พระมหาเจดีย์ภักดีประกาศ หาดบ้านกรูด
(ชื่อเสียงโด่งดังเรื่องโรงไฟฟ้า) ที่นี่บรรยากาศเงียบสงบ ชายหาดสวย
น้ำทะเลใส นมัสการพระพุทธกิตติสิริชัย,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
เที่ยวบางสะพาน...
เมืองสามอ่าว - - -
เที่ยวอ่าวน้อย อ่าวประจวบฯ และอ่าวมะนาว
อุทยานวิทยาศาสตร์
พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ
เที่ยวสามร้อยยอด ถ้ำพระยานคร หาดแหลมศาลา เกาะนมสาว
และนั่งเรือชมทิวทัศน์รอบเกาะ
และชมวิถีชีวิตชาวประมง
ที่ถ้ำพระยานคร
ถ้ำสวยที่ผมต้องเดินตะลุยขึ้นไปกับน้องภาคย์สองคน ส่วนสุภาพสตรี
เจอป้ายก่อนทางขึ้น ที่เขียนว่า "คนที่มีโรคประจำตัวโปรด
พิจารณา"
สุภาพสตรีทั้งหลายเลยพร้อมใจกันบอกผมว่า
พวกเธอเป็น "โรคอ้วน"
ไม่ขอขึ้นไปชมถ้ำด้วย
ระยะทาง
๗๕๐ เมตร จากด้านล่างเขาหินปูน สูงชัน ทั้งลื่นและเหนื่อย
แต่ถึงอย่างไรก็ต้องอดทนเดินขึ้นไปชมความงามให้ได้ ไหนๆก็มาเเล้ว
ผมใช้เวลาเดินเท้าทั้งหมด ไป - กลับ
ร่วมสองชั่วโมง
กลับที่พัก พร้อมกับปูม้านึ่งสองกิโล...
;)
อีกวันพวกเราทั้งหมดนอนพักผ่อน นั่งคุยกันให้หนำใจ
ใช้เวลาทั้งวันและคืนอยู่ที่รีสอร์ทที่คลองวาฬ นั่ง นอน และเล่นน้ำทะเล
ก่อนกลับกรุงเทพฯ
การมาเที่ยวครั้งนี้ ถือว่าเป็นการมาชาร์ตแบตให้เต็มก่อนกลับไปลุยงาน
ลุยเรื่องเรียนที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง
ประทับใจความสวยงามและอัธยาศัยไมตรีจิตของชาวประจวบฯ
บ้านเมืองเขาสะอาดและเรียบร้อยดี ไปไหนก็ตาม
ผมมักจะมองสอดส่ายดูการจัดระเบียบบ้านเมือง ความสะอาด
หากที่ไหนทำได้ดีก็สะท้อนถึงการบริหารจัดการที่ดีของส่วนบริหารภาครัฐในพื้นที่
ที่มุ่งสนใจคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน
แต่ก็ยังมีที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งในบางจังหวัดถูกปล่อยปละละทิ้งไม่สนใจดูแล
นี่ก็เป็นผลงานหนึ่งที่สะท้อนถึงศักยภาพของจังหวัดนั่นๆด้วย
ส่วนประจวบคีรีขันธ์นั้นผมว่าผ่านเรื่องนี้แบบสบาย
ชาวประจวบฯ และคนไทยช่วยกันดูแล อนุรักษ์สิ่งที่สวยงาม
ธรรมชาติที่เรายังพอให้ชื่นใจ
ก่อนที่จะไม่มีให้ดูในอนาคต
ขอบคุณคุณครูสมบัติเจ้าของรถตู้ด้วยนะครับ ที่พาพวกเราไปได้ทุกที่
พร้อมกับเรื่องราวที่หาฟังไม่ได้จากไกด์ทั่วไป ขอบคุณครูตาล คุณครูบิ๋ม(โบกี้) คุณครูติ้ก หลานๆ
น้องภาคย์ และ น้องภูมิ ขอบคุณพี่ครูคิมที่เปิดโอกาสชวนผมได้ไปเที่ยวคลายเครียดจากภาระการงานกลับมาถึงกรุงเทพฯ
มาลุยเรื่องงาน เรื่องเรียนต่อ (ส่วนเรื่องรักพักไว้ก่อน)
มาคราวนี้ทุกอย่างไปได้ดี
เพราะแบตเตอรี่ที่ชาร์ทไว้เต็มที่นั่นเอง...สู้ๆครับ
โจนาธาน ลิฟวิ่ง สตัล