เจาะกึ๋นเจาะใจจริงๆ น้องเม้ง
สบายดีนะครับ ขอบคุณมากครับพี่เหลียง จริงๆ บันทึกนี้บ่มไว้ในหัวนานแล้วครัีบ(อย่างน้อยหนึ่งเดือนครัีบ) วันนี้มันสุกพอดีครับ เลยเอามาฝากกันครับ
เรามาชี้กันเรียงต้วกันเลยครับ ที่น้องเม้งเล่ามานั้นไม่พ้นสักราย
เพียงแต่ว่าจะยอมรับกันแค่ไหน
เรื่องนี้จริงๆ ไ่ม่ได้อะไรหรอกครับพี่ เพียงจะบอกว่า ลึกๆ แล้วการเรียนรู้นั้น ก็มีการคัดลอก เลียนแบบ ประมวลผล สู่การนำไปใช้และเก็บไว้เป็นข้อคิดนะครับ มันเป็นการนิยามคำ่ว่า Copy and Paste แบบกว้างกว่าที่เราใช้กันในระบบคอมพิวเตอร์นะครับ
ถึงแม้บทสวด บทสอนก็เถอะ ลอกกันมาทั้งนั้น เพียงแต่เราคิดกันยังไงเท่านั้น
บางคนพร่ำสอนกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ก็ยังหนีไม่พ้น
เราจะคิดยังไงกันเท่านั้น
เรื่องบทสวดนั้นก็ควรต้องทำตามนั่นล่ะครับ ใช่แล้วครัีบ ไม่งั้นถือเป็นการบิดเบือนหลักธรรมคำสอนครับ จริงๆ หลักคือการนำความรู้ไปใช้ ต่อยอดแล้วคิดต่อให้กับคนอื่นได้มองนำไปใช้ต่อๆไปครับ ไม่ใช่เป็นการทำร้ายกันครับ แต่เป็นการให้กันและกันครับ แล้วเราก็กตัญญูกับผู้ให้เรา เช่นธรรมชาติ บิดามารดาครับ ผู้มีพระคุณทั้งหลายครัีบ อย่างในงานวิจัยเราก็ีมีการศึกษาต่อยอดก็ีีมีการอ้างอิงยกมาคุยแล้วอ้างถึงครับ แต่บางอย่างก็ไ่ม่รู้จะอ้างอย่างไรครับ อย่างนิทานที่ว่านะครัีบ ดังนั้นก็เพียงแค่้้อ้างแบบว่าได้มาจากไหน ระดับน้ำหนักก็จะต่างๆ กันครัีบ ผมจะบอกว่าจริงๆ เราติดกันที่เปลือกของความรู้มากกว่าครับ หากเราก้าวข้ามเปลือกเหล่านี้ได้ เราจะเข้าถึงการบริหารจัดการและการนำไปใช้ความรู้ได้ไกลมากขึ้นครัีบ
ระบอบทุนมันจะผูกขาดทั้งความรู้ ความสามารถกัน จนร่างกฏหมายที่รับรับใช้มัน ทำลายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ไอ้พวกนี้ก็ยังมาขโมยอะไรจากเราไปมั่งก็ไม่รู้ เพียงแต่ว่ามันรวบรวมและเขียนกันเก่ง แล้วประกาศว่าเป็นลิขสิทธิ ของมัน
ดีครับ เรามาร่วมกันคิดนะครับ ว่าเราควรจะวางตัวกันยังไง
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีจุดดีและด้อยครัีบ เหมือนอย่างการปลูกกล้วยเรียงแถวแล้วบังคับให้กล้วยออกเครือไปในทางทิศเดียวกันก็เช่นกันครับ ชาวบ้านรู้มานานแล้วครับ แต่การรับรู้และถ่ายทอดตีพิมพ์ความรู้เกิดจากการบอกต่อ คัดลอกและวางในระบบการบอกเล่าต่อๆ กัน ผ่านการปฏิบัติครัีบ แต่พอนักวิชาการไปได้แนวคิดมา ก็เอามาเขียนได้เป็นองค์ความรู้ว่าเป็นของตนเพราะตนเขียนครั้งแรก ตีพิมพ์ไปแพร่หลายได้ แล้วเรามีการโยงไปยังชาวบ้านบ้างไหม หรือว่าชาวบ้านจะต้องโด่งดังก่อนถึงจะให้เกียรติครับ ในประเทศเราก็เช่นกันครับ ความรู้ในบ้านเราฝรั่งเอาไปเขียนมากมายกลับเป็นความรู้ของฝรั่งไปครับ แต่หากเรามองให้สูงกว่านี้ มันจะทะลุไปถึงว่า นั่นคือการจัดการบริหารความคิดอย่างหนึ่งเรื่องมุมมองของคนด้วยครับเพราะว่า ฐานคิดคนจะต่างๆ กันครัีบ
บันทึกนี้จึงเป็นการบอกว่า การคัดลอกเลียนแบบและบันทึกความรู้ในแบบต่างๆ นอกจากการเขียนบทความเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วยังมีการทำแบบนี้เช่นกันในชีวิตของคนเราครับ เพื่อให้ความหมายของคำนี้กว้างกว่าที่เรารู้จักแค่ Ctrl C , Ctrl V นะครับ
ขอบคุณพี่มากๆ นะครับผม