ปาย


วันนี้อากาศที่เชียงใหม่ร้อนมากค่ะ  ร้อนสุด ๆ จนทำให้คนเขียนนึกถึง "ปาย" ขึ้นมา  ก็เพราะว่าเวลาที่นึกถึงปายก็คล้ายจะได้สัมผัสละอองหมอกเหมยไปด้วยน่ะสิคะ  ใคร ๆ ก็พากันไปเยี่ยมเยือนปายกันทั้งนั้นในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น

คนเขียนเคยไปปายครั้งแรกเมื่อราว 2 ปีก่อนแล้วค่ะ    ในเช้าของวันหนาวที่คนเขียนรู้สึกสับสนและทุกข์ใจ  จำได้ว่าได้หยิบนิตยสารคลีโอขึ้นมาเปิดดูแล้วในคอลัมน์หนึ่งได้เล่าถึงปาย    ปายที่เปรียบดั่งสาวชาวป่าผู้แสนจะใสซื่อ  แต่ก็ดูสงบนิ่งและเยือกเย็นอยู่ในที    ตัดสินใจคว้ากระเป๋าใบเล็ก 1 ใบที่ใส่ได้แค่ผ้าพันตัวผืนบาง 1 ผืน  เสื้อกล้ามสีขาว 1 ตัว  สมุดบันทึกเล่มเล็ก ๆ และปากกา ดินสอ  อ๋อ ไม่ลืมหยิบนิตยสารคลีโอเล่มนั้นไปด้วย    แล้วก็เดินออกจากบ้านนั่งรถไปที่อาเขตโดยไม่บอกให้แม่รู้    เดินท่อม ๆ ไปหาซื้อตั๋วรถเชียงใหม่ - ปาย จนได้    รถออก 12.00 น.  รถเมล์ตั๋วราคา 60 บาทค่ะ    ระหว่างนั้นที่รอก็เดินเข้าห้องน้ำที่อาเขตซึ่งเขากำลังทำความสะอาดอยู่    แต่ก็ลื่นล้มหลังฟาดพื้นแรงมาก    พยายามขยับแขน - ขา และลองเอี้ยวตัวก็รู้สึกแปล๊บ    แต่จะถอยตั้งแต่ก้าวแรกก็ไม่ใช่คนเขียนล่ะค่ะ    เพราะฉะนั้นคนเขียนจึงมีโอกาสนั่งรถเมล์ไปปาย    แต่ระหว่างที่นั่งรถนั่นสิ  มีป้านักกิจกรรมคนหนึ่งนั่งข้าง ๆ แล้วก็คุยจ้อในขณะที่คนเขียนต้องการความสงบและอยากนั่งในท่าที่สบายที่สุดเพราะรู้สึกปวดหลังมากจนแทบจะขยับไม่ได้    อ๋อ แล้วไปได้ระยะหนึ่งป้าแกก็ขอพาดเท้าแกกับขาของคนเขียนค่ะ    แกบอกว่าแกปวดขาและที่วางเท้าแกก็เต็มไปด้วยถุงกระสอบใบใหญ่ที่บรรจุของสำหรับทำกิจกรรมที่ปาย    คนเขียนได้แต่ร้องเฮ้ออยู่ในใจ    ไปถึงปายก็ค่ำพอดี    หนาวก็หนาว    เดินขากระเผลกหาที่พักที่ไหนก็ปรากฏว่าเต็มหมด    จนที่สุดท้ายที่ได้ก็น่ากลัวชะมัด    เป็นกระต๊อบเล็ก ๆ โทรม ๆ ที่ไม่ติดน้ำปายเลย    คนเขียนนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจนถึงเช้าก็รีบเผ่นค่ะ    แต่ก็หมายมั่นว่าสักวันหนึ่งจะต้องกลับมาเยือนปายอีกครั้ง

แล้วครั้งที่ว่าก็มาถึง .. กลางเดือนมกราคม ปี 2550 นี่เอง เป็นฤกษ์งามยามดีที่คนเขียนได้มีโอกาสไปเยือนปายอีกครั้งหนึ่ง    แน่ล่ะ ที่คราวนี้คนเขียนต้องทำการบ้านไปดีค่ะ    หาข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางและที่พักล่วงหน้าในอินเตอร์เน็ตกว่า 1 เดือนก่อนหน้านั้น    แพลนแรกจะไปตอนช่วงกลางเดือนธันวาคม 2549  แต่ว่าพี่สาวคนสวยเกิดติดธุระกันเลยต้องล้มเลิกไป    พอเปรยกับพี่สาวคนหนึ่งในโลกไซเบอร์ที่เพิ่งคุยกันได้ราวครึ่งเดือนว่าจะไปปาย    พี่สาวคนนี้ขอตามไปด้วยแล้วก็ถามว่า " ว่าแต่ ปายนี่คือที่ไหนหรือคะ น้องต้อม "   เพราะคำถามนี้ล่ะค่ะ  เลยตัดสินใจได้เลยว่าฉันจะเอาพี่คนนี้ล่ะไปด้วย   อิอิ  ต้องคนนี้เท่านั้น

พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับปายให้ได้มากที่สุดและพยายามพูดคุยกับพี่สาวคนที่จะไปด้วยกันให้ได้มากที่สุดด้วย    พี่สาวคนนี้อยู่ในวัย 48 ปี ที่มีอารมณ์เบิกบานสนุกสนาน    แต่ก็บอกเธอไปนะคะว่าคนเขียนไม่ได้ไปเที่ยวน๊า  แต่จะไปนอนเท่านั้นเอง    พี่จะเบื่อไหมเนี่ย?    และคำถามที่ต้องถาม  แหมก็จำเป็นนี่นา ว่า .. " ถามจริงเถอะค่ะพี่ พี่ไม่กลัวต้อมหรือคะ? "    เธอว่า..จริง ๆ แล้วก็แอบกลัวเหมือนกันและใคร ๆ ก็เตือนนะ  แต่ก็เชื่อใจล่ะค่ะเพราะเท่าที่คุยกันในเอม หนูต้อมน่าร๊ากกกกกกก  (( หุหุ คำตอบถูกใจ ))

 

และแล้ววันที่ 14 ม.ค. 2550 หลังจากเลิกงานก็ไปรับพี่สาวที่เดินทางจากกรุงเทพมาถึงอาเขตเชียงใหม่  แฮ่ะ ๆ ๆ ไปรับช้าตั้ง 15 นาทีแน่ะ  รู้สึกผิดมากค่ะเพราะปกติเป็นคนตรงต่อเวลามาก    รับไปยังที่พักที่ต้องพักค้างคืนในเมืองเชียงใหม่ก่อน  ชื่อบ้านร้อยดาว ค่ะ อยู่แถว ๆ อ.สันกำแพง    ปกติราคาคืนละ 1000 บาท แต่คนเขียนได้สิทธิ์ฟรีเพราะไปบังคับเจ้าของมา  แฮ่ะ ๆ ๆ    พาไปทานมื้อค่ำที่เฮือนโบราณ บ้านริมปิง ค่ะ  ได้คุยกันสนุกสนานดี    แล้วก็พาเธอกลับไปพักผ่อนหลับนอนเอ่เอ๊ที่บ้านร้อยดาว

 

เช้าตรู่วันที่ 15 ม.ค.  ก็ตื่นแต่เช้าแล้วก็ เอ หนาวชะมัด  ขนาดเชียงใหม่ยังหนาวขนาดนี้แล้วปายจะหนาวขนาดไหนหนอ??   ไปตั้งต้นกันที่อาเขต    เดินไปซื้อตั๋วด้วยความมั่นใจแต่คราวนี้ขอไปรถตู้ค่ะ    ค่าตั๋วรถตู้ไปปายราคาคนละ 150 บาท    จัดการซื้อ 2 ที่นั่ง    แล้วก็รอเวลาไปปาย    นั่งรถตู้จะใช้เวลาไปปายราว 3 ชั่วโมง    ระยะทางก็วกวนเวียนเลี้ยวซ้ายขวาตามไหล่เขาชวนให้รู้สึกกลัวนิดหน่อย    แล้วก็ถึงจนได้นะ ปาย ....

 

เข้าที่พักที่จองไว้ในคืนแรกในเวลาเที่ยงวันค่ะ .. ชื่อที่พักคือ วิลล่า เดอ ปาย    ปกติช่วงไฮซีซั่นจะราคาคืนละ 950 บาท    แต่คนเขียนจองวันที่ 15 ซึ่งราคาลงเป็นวันแรกคือ 650 บาท   แต่ต้องไปยืนเถียงเล็กน้อยเรื่องราคาที่หน้าเคาน์เตอร์เพราะทางโน้นก็ยังยืนยันราคา 950 บาทอยู่    แต่ในที่สุดคนเขียนก็ได้ในราคาที่จองไว้จนได้  เยี่ยมเลย    เลือกบ้านพักที่ติดกับน้ำปาย    เป็นแบบกระท่อมเล็ก ๆ มีห้องน้ำในตัวและอินเตอร์เน็ตพร้อม    ก็นอนอ่านหนังสืออย่างเดียวเลย    ส่วนเธอคนนั้นนะหรือคะ    ทำงานค่ะโดยผ่านอินเตอร์เน็ต  แฮ่ะ ๆ ๆ สมกันจริง ๆ ให้ตาย    ก็คนเขียนเคยบอกไงว่าไปถึงปายเราจะห้ามทำงาน  ห้ามทำอะไร   จะกิน-จะนอนเท่านั้น    เธอก็นอนไปส่วนคนเขียนก็หยิบหนังสือมาอ่าน ๆ ๆ    เธอก็ลุกมาเก็บหนังสือคนเขียนเลยนะ บ่นว่า " พักค่ะ พัก "    แต่พอคนเขียนนอนมั่ง  เธอก็ลุกไปนั่งเล่นเน็ตเฉยเลย  พอคนเขียนบ่น  เธอก็ว่า " แหม  พี่ส่งงานลูกค้ากับเช็คงานกับเพื่อนแป๊บนะจ๊ะ "    พอค่ำ ๆ เราสองคนก็ออกไปตะลุยถนนคนเดินที่ปายค่ะ    คนเขียนทำการบ้านมาดีมาก    บอกเธอว่าเราประเดิมมื้อแรกที่ขิงป่าข่าปายนะคะ    ปรากฏว่าหลังจากเดินท่อม ๆ ตามแผนที่พริ๊นท์ออกมาจากในเน็ต    ระยะทางไกลพอหอบแฮ่ก ๆ ร้านเขาปิด  แป่วววววววเลย    สงสารแต่เธอที่สวมรองเท้ามีส้นอ่ะสิคะ    เลยกลับมานั่งโซ๊ยยยหมี่โบราณข้างทางแถวถนนคนเดินนั่นล่ะ  อร่อยดี  แวะนั่งละเลียดดื่มค้อกเทลไปหลายแก้วก็กลับไปนอนดีกว่า 

 

 

เช้าวันที่ 16 ม.ค. ก็อุตส่าห์ตื่นแต่เช้าเชียว  อยากตื่นให้ทันถ่ายรูปทะเลหมอก  แต่ว่า .. อากาศหนาวววววววมาก  หนาวสุด ๆ หนาวจะตาย  เอื้อมมือสะกิด ๆ พี่เขา ว่า " พี่คะ  ตื่นสิคะ  ไปถ่ายรูปทะเลหมอกสวย ๆ กัน "  พี่งัวเงียขึ้นมา " ตามสบายเถอะค่ะ  ไม่ต้องเกรงใจนะคะ  พี่ไม่ไป พี่หนาววว  บรื๊อออ "  แฮ่ะ ๆ ๆ  ก็เลยไม่ออกไปถ่ายทะเลหมอกกัน  ตื่นอีกที  คนออกันเพียบหน้าบ้านพักเรา  เขาพากันมาถ่ายรูป  กรี๊ดดด  อายชะมัด  ลืมไปว่าหน้าบ้านพักเราดูดีกว่าหลังอื่น ๆ รอให้คนสร่างซาก็ปลุกพี่เขาไปหม่ำ ๆ มื้อเช้ากัน อ๋อ ฟรีค่ะ  American breakfast 

 

เตรียมตัว..ออกเดินทางกันได้แล้วจ้า

 

แล้วเก็บของเตรียมย้ายไปยังที่พักที่จองไว้อีกแห่งกัน  ชื่อบ้านปายนา ค่ะ   เป็นบ้านดินหลังเล็ก ๆ มีแค่ 4 หลังเองนะ  คืนละ 250 บาท/คืน  ต้องจองและโอนเงินให้เรียบร้อยค่ะก่อนมา  ห้องน้ำ - ห้องส้วมรวมแต่สะอาดมาก ๆ  มีแกลลอรี่ด้วยค่ะ  ที่สำคัญเจ้าของชื่อ พี่กบ น่ารัก  อัธยาศัยดี  เปิดเพลงเพราะ ๆ เกือบทั้งวันเลย  และนี่คือบ้านพักหลังที่เราจองไว้ค่ะ  ชื่อบ้านข้าวกล้อง

 

มุ้งน่ารักค่ะ  เป็นแบบกลม ๆ แปลกดีเพราะปัจจุบันไม่ค่อยเห็นกันนะคะ

ที่นอนห้องเราเป็นผ้าฝ้ายสีม่วงเข้มถูกใจคนเขียนมาก  เสียดายไม่มีรูปให้ดูเพราะทำให้ยับเสียก่อนนี่  ก่อนที่เจ้าของเขาซึ่งก็คือพี่กบจะให้เด็กนำชาต้อนรับหอม ๆ เย็น ๆ มาให้ดื่มถึงในห้อง

และนี่ มุมหนึ่งของลานพักผ่อนส่วนกลางค่ะ  จะเล่นระดับชั้น   มีเปลญวนแขวนไว้ให้นอนเล่นอ่านหนังสือด้วยล่ะ  น่ารักอีกเหมือนกัน  อ๋อ ตรงมุมเสาจะมีกล้วยน้ำว๊าอยู่ด้วย  ใครอยากทานก็หยิบไปทานได้ค่ะ   ก็คนเขียนน่ะสิ  ก่อนพาพี่สาวคนนี้มาปายก็บอกว่า "หน่า ๆ ต้อมจะดู จะแลพี่เอง  ทุกเรื่องเลย  เชื่อต้อมซี๊ "  อิอิ   แต่พอเธอบอก "พี่อยากหม่ำกล้วย"    ต้อมก็ " โหยยย  ไม่ได้บอกนิว่าจะไปหยิบกล้วยให้  แค่บอกว่าจะดูและจะแล "  เท่านั้น  เลยถูกค้อนขวับ  แหม ๆ ๆ ล้อเล่นหน่า  หยิบให้น๊า  วันที่สองไง

 

 

นี่เป็นแกลลอรี่ค่ะ  มีเครื่องประดับและสินค้าทำมือขาย 

 

 

นี่ เคาน์เตอร์ทำเครื่องดื่ม - ทำอาหาร ของที่นี่ ค่ะ

 

เดินผ่านไป-ผ่านมา..มองไม่ชัด   สังเกตุว่าใครๆ ผ่านตรงนี้แล้วอมยิ้ม

วันสุดท้ายขอเดินเข้าไปใกล้ๆ  ปรากฏว่า..มุมนี้ ทะลึ่งค่ะ  แต่ทำใครหลายคนแอบอมยิ้มมมมมมม

 

อ่ะ มีคนบอกให้ขยายภาพข้างบน  แฮ่ะ ๆ หนูป่าวทะลึ่งน๊า  มีจริง ๆ ที่บ้านปายนา 

close - up จุ๊ ๆ ๆ

 

ก็ทริปนี้สนุกและมีความสุขดีค่ะ  ไม่ได้เที่ยวไหนกันเลยเพราะมัวแต่นอนค่ะ   จนกระทั่งวันสุดท้ายคนเขียนไม่อยากจะกลับเลยสิเนี่ย   3 คืนที่ปาย  ที่ไม่ต้องทำงานหรือแบกรับภารกิจใด ๆ นั้น   ไม่ต้องมีเงื่อนไขใด ๆ  นั้นทำให้รู้สึกดีค่ะ  นี่ล่ะหนาคือการพักจริง ๆ ของคนสองคนที่แทบจะไม่ได้มีเวลาไปไหนต่อไหนเหมือนคนอื่น 

โห ๆ ๆ ดูสิ  แค่วันนี้อากาศที่เชียงใหม่ร้อนเพราะแดดมะเร็งกลับพาคนเขียนใจลอยไปถึงปายในหน้าหนาวได้  เชื่อสิค่ะ  โอ๊ยยย คิดถึงปาย  คิดถึงอากาศเย็น ๆ  คิดถึงคนที่ไปด้วย  คิดถึ๊งงง - คิดถึง  คิดถึงจริง ๆ

 

หมายเลขบันทึก: 104293เขียนเมื่อ 18 มิถุนายน 2007 14:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (35)
  • น่าไปเที่ยวมาก
  • ขอบอก
  • น้องเอกเราอยู่ปายนะครับ
  • ขอบคุณครับผม
  • คุณ ขจิต ค๊า .. ธุค่า

คล้ายจะเคยอ่านมาเหมือนกันค่ะว่าคุณเอกอยู่ปาย ..  ปายเป็นเมืองเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขาที่น่ารักอีกแห่งหนึ่ง  ถึงแม้ใคร ๆ จะบอกว่า ปายหมดความงามไปตั้งแต่มีนักท่องเที่ยวหลากหลายเข้าไปเยือน  แต่ต้อมว่าอันนี้ต้องแล้วแต่คนมองค่ะ  สำหรับต้อมเอง ปายก็คือปาย  หญิงสาวชาวป่าที่ยังสงบนิ่ง  เยือกเย็น อยู่เหมือนเคย  เพียงแต่ตอนนี้หญิงสาวบ้านป่าคนนี้เริ่มจะทาลิปกลอสหรือรู้จักอายชาโดว์เสียแล้วสิ เออ  อิอิ

  • อยากไปบ้างจังค่ะ นึกถึงตอนดูเรื่อง รักจัง อยากไปพักผ่อนบรรยากาศแบบนั้น
  • ตอนปี 3 ฟ้าขึ้นภูกระดึงกับเพื่อนผู้หญิง 2 คน หิ้วเต็นท์กันไปเอง
  • ไปขอถ่ายรูปกับคนอื่น เอาไปให้แม่ดู เพราะบอกแม่ว่าไปเที่ยวกัน 5 คน
  • สุดท้ายแม่จับได้ เพราะรูปไม่เนียน ฮ่าๆๆๆ
  • ไม่ได้โกหกนะคะ แต่เพื่อนคนอื่นมันเบี้ยว แล้วฟ้าต้งใจแล้วว่าจะไป สนุกมากๆ ขี้งกนั่งรถป.2 ไปอีกตะหาก
  • ได้ตัดขาดจากสิ่งเร้าต่างๆ และความวุ่นวายในกรุงเทพเนี่ย สงบดีแท้จริงๆ
  • ฟ้าเพ่งรูปทะลึ่งอยู่ตั้งนาน พอเลื่อนลงมาเห็นรูปขยาย นั่งโมโหไปเพ่งอยู่ทำไมตั้งนานเนี่ย -__-"
  • เคยมีคนบอกว่า สถานที่ไม่สำคัญเท่าคนไปด้วย ก็ไม่แน่เสมอไปเนอะ
  • สวัสดีค่ะ คุณฟ้า ..

เนี่ย  คงเพราะหนังเรื่อง "รักจัง"  คนไทยเลยไปเที่ยวปายกันเยอะ (( เกี่ยวกันไหมเนี่ย อิอิ ))  ปกติจะมีนักท่องเที่ยวเป็นชาวต่างชาติในอัตราส่วนที่เยอะกว่าคนไทยค่ะ  เวลาไปเดินถนนคนเดินในตัวเมืองจะมีอารมณ์คล้ายกับไปเดินแถวถนนข้าวสารที่เมืองกรุง (( คนอื่นว่าไว้น๊า  ก็คนเขียนไม่เคยไปเดินแถวถนนข้าวสารนี่จ๊ะ ))  อืมมม  งั้นเปรียบกับถนนคนเดินเวอร์ชั่นเล็ก ๆ ที่เชียงใหม่ เอ้า  อิอิ  ก็คนเขียนอยู่เชียงใหม่นิ เนอะ 

อ่าววววววว ๆ ๆ คุณฟ้าหลวมตัวเพ่งจนได้  จุ๊ ๆ ๆ  อย่าเอ็ดไปค่ะ

ใช่ค่ะ  สถานที่ไม่สำคัญเท่าคนที่ไปด้วย นั้น .. ขอเถียงว่า ไม่เสมอไป อิอิ  เนอะ ๆ ๆ คุณฟ้า

ผมไปหลวงพระบางมา...แต่ยังไงก็ตาม ผมก็ว่าปายดีกว่าตั้งเยอะนะครับ

ไม่ลำเอียงนะครับ

  • สวัสดีค่ะ คุณเอก ..

ชอบปายค่ะ  แต่ยังไม่เคยไปเยือนหลวงพระบางเลย

น้องแควนไปมาแล้วน๊า

 อากาศดีสุดยอด

 

 

  • น้องแควน ..

ชิ งอน  ไปปายไม่ชวนพี่แควน

เอ  แล้วไปกะใครล่ะเนี่ย??

สวัสดีครับ

  • ถ้ามาอีกครั้งอย่าลืมบอกกันด้วยนะครับ
  • เผื่อได้ต้อนรับบ้าง  ในฐานะ blogger ที่ปายครับ
  • สวัสดีค่ะ คุณหมอสุพัฒน์ ..

ค่ะ  บอกกับตัวเองว่าจะต้องไปเยือนปายอีกให้ได้  เร็ว ๆ นี้

ขอบคุณค่ะ  ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกันนะคะ

        ไป ปาย มาสมครั้ง แต่ละครั้งแตกต่าง ครั้งแรกไปยังไม่รู้เลยว่าที่นี่ คือ ปาย เพราะไปทำงาน แต่ยังคงจำภาพลาง ๆ ได้  สองครั้งหลังหนีความรู้สึกต่าง ๆ ไปคนเดียวสนุกดี ได้ประสบการณ์มากมาย ได้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ใหม่ ๆ  แม้จะเพียงชั่วยาม แต่มันรู้สึกคุ้มค่าเหมือนกัน   ยังไง ปาย ก็ยังคือ ปาย แม้ว่าผู้คนจะเข้ามาเยือนมากน้อยแค่ไหน มันอยู่ที่เราจะมองและให้เป็นเช่นไร  แล้วผมต้องไปเยือน  ปาย  อีกแน่นอน สัญญา..สินะ
  • สวัสดีค่ะ  คุณ LiTtLe DoG  ..

ปาย ก็คือ ปาย ค่ะ สำหรับต้อมนะ ..

ต้อมว่าในระหว่างการเดินทางเมื่ออยู่ที่ปาย  จะต้องมีเรื่องราวอะไรให้ได้ประทับใจ หรือน่าสนใจ อยู่เรื่อยล่ะค่ะ  

ต้อมบอกกับตัวเอง ว่า .. ต้องไปอีก ๆ ^_^

อ่านปายของคุณต้อมแล้วอมยิ้มเลยคะ...นึกถึงที่พักของตัวเอง...อิอิไม่หรูเท่าคุณต้อม...แต่ครั้งล่าสุดไปนอนโรงแรมในตัวเมืองคะ...

  • ท่านพี่จ๊ะ..

ต้นปีนี้เรามีนัดกันที่ปายนะ  ^^  จะรอ....  และที่สำคัญพี่เจ้าของที่พักบอกว่าลูกค้าเก่าราคาเดิม  อิอิ

อ่านเพลินจนเกือบลืมไปทานขนมแน่ะ...อิอิ
อ่านแล้วอยาก แพคกระเป๋ากระโดดขึ้นรถไปเที่ยวปายซะแล้ว...ยังไงจะต้องหาโอกาสไปเที่ยวปายให้ได้มั่งค่ะ ... เมื่อไหร่ดีน้อ ... ใครไม่ว่าง เราไปคนเดียวก็ได้เน๊าะ...

  • ธุ  อาจารย์แป๋วค่ะ..

ต้นปีหน้าก็ว่า..จะไปปายเหมือนกันค่ะ    มีนัดกับพี่คนนี้P naree suwan ไปทานผัดตับเลิศรส เมนูเด็ดวันนี้ ฝีมืออา(จารย์)จ๊ะคนนี้ P เอื้องแซะ ที่เมืองสามหมอกด้วยแน่ะค่ะ

อยากไปปาย   อยากไปแล้วไปอีกน่ะค่ะ ^^  บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไม   อิอิ

น้องจ๊ะ

  • ไปปายครั้งแรก กับปายที่จะไปครั้งใหม่...
  • ไปกับใครคนเดิมหรือเปล่าจ๊ะ
  • แต่ปายอีก(ที)ครั้งที่จะไปกับท่านพี่จ๊ะ และอา(จารย์)จ๊ะ ก็คงจะสนุกอีกแบบ แต่หัวใจจะไปพร้อมกับตัวด้วยหรือเปล่า....หรือล่วงหน้าไปรออยู่ก่อนไม่รู้นะ
  • ถ่ายภาพมาสวย ใส โดยเฉพาะภาพรองเท้า ...ถ่ายไปได้...
  • สวัสดีจ๊ะน้องจ๊ะ พี่จ๊ะ
  • ปายเมื่อ 2 ปีที่แล้วธรรมชาติสวยงามมาก
  •  ร้านค้าสะอาดสะอ้านดีนะคะ
  • "ถ่ายภาพมาสวยใส โดยเฉพาะภาพรองเท้า ....ถ่ายไปได้..."
  • เห็นด้วยกับพี่จ๊ะนะ แล้วนางแบบคนสวยอยู่ไหน? ฮึ

เสียดายมาแอ่วปายเวอร์ชั่นน้องต้อมช้าไปหน่อย ไม่งั้นต้องมีรายการซ้ำรอยแน่ๆ

แตพี่คุ่นยังยากไปปายอีกสักครั้ง...

ว่าแต่ว่าน้องต้อมอึดเนอะ...ล้มซะแขนเจ็บยังไม่ยั่นเลย

อย่างนี่งัยทำให้พี่ตุ่นมีใจสู้...ประเดี๋ยวแก่แล้วจะไปมาลำบาก

  • พี่จ๊ะ..

ปายครั้งแรกนั้นไปคนเดียว   ส่วนครั้งที่สองไปกับพี่..(พี่คนหนึ่ง)  อิอิ ^^   ทำไมใครๆ ชอบสงสัยนะว่าน้องจ๊ะจะไปกับใคร    อยากรุ้ก็ตามไปแอ่วด้วยกันสิ   ให้เห็นด้วยตาจะ..จะ..ไปเลย   หุหุ   และปลายปีหน้า..จะไปกับพี่..(จุดจุดจุด)    อั้นแน่ะ  อยากรู้ล่ะสิๆๆ  อิอิ  ม่าย..ย..ยไม่บอก

เชื่อไหมว่าไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเพราะมัวแต่นอนและนอนอ่านหนังสือกับแกล้งพี่คนนั้น   อิอิ   และรูปรองเท้านั้นถ่ายตอนจะย้ายที่พักไง   จากวิลล่า เดอ ปาย ไปบ้านปายนา    มีความรู้สึกว่า..เอ เราไม่ได้ถ่ายรูปอะไรเลย   เลยเปิดกล้องถ่ายน้ำปายและรองเท้าเสียเลย  อิอิ  ไม่เท่ห์หรือจ๊ะ

 

  • สวัสดีอาจารย์เอื้องแซะค่ะ..
  • "ถ่ายภาพมาสวยใส โดยเฉพาะภาพรองเท้า ....ถ่ายไปได้..."
  • เห็นด้วยกับพี่จ๊ะนะ แล้วนางแบบคนสวยอยู่ไหน? ฮึ
  • นางแบบอีกคนมัวแต่นอน..นอน..และทำงานติดต่อโน่นนี่วุ่นวายค่ะ   ส่วนนางแบบอีกคนเอาแต่นอนอ่านหนังสือค่ะ   เลยถ่ายรองเท้าไว้ว่านี่ก็คือการออกเดินทางอีกครั้งหนึ่งในชีวิตที่เราได้เป็นคนเลือกจริงๆ

    เริ่มตั้งแต่..ออกเดินทางมากับคนที่เราไม่รู้จัก   ในดินแดนที่เราไม่คุ้นเคยที่มีแต่คนแปลกหน้า    การเดินทางที่..เราเลือกเอง ^^

    • ธุ  พี่ตุ่นค่ะ..

    ที่อึดนั่นเพราะ..กลัวอายค่ะ   ประเดี๋ยวใครๆ จะล้อได้ว่า "ช่างน่า อ-า-ย" ที่ไม่แมนเอาเสียเลย  อิอิ   ก็หลังจากนั้นต้อมเดินเกือบไม่ได้น่ะค่ะ  เกือบจะต้องใช้ไม้ค้ำยันเสียแล้วนะเนี่ย    เป็นเดือนๆ น่ะค่ะกว่าจะค่อยยังชั่ว   และหลังจากนั้นก็มักจะรู้สึกเจ็บแปลบๆ อยู่เรื่อยเลย   ซึ่งไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไหม?

    แต่ต้อมก็ยังอยากไปปายอีกครั้ง..และอีกครั้งนะคะ  ^^  และทริปพี่ตุ่นกับครูแอ๊วท่าทางสนุกดีค่ะ   อ่านไปแล้วอมยิ้มไปด้วยเลย   

    น้องจ๊ะ

    มาอีกทีจ๊ะ

    อันนี้เก๊าะ...ถ่ายไปด๊ายยยยยย เหมือนกัลล์ เนอะ

    • พี่จ๊ะ..

    ก็ อ-ย-า-ก ถ่ายนี่นา   ก็ไม่เห็นมีป้ายห้ามถ่ายโน่นถ่ายนี่นิ ^^   มันตลกจริงๆ นะภาพนี้  พี่จ๊ะอย่าคิดลามกสิ   น้องจ๊ะไม่เคยได้นั่งตรงนี้เลยจนกระทั่งวันกลับ   ขอไปเดินดูใกล้ๆ หน่อยซิ  แบบอดไม่ได้..ตัวอะไร?  

    • ถ้ามาเมืองปาย แวะมาเยี่ยมพวกเราได้คะ.... บ้านเราอยู่ติดริมถนนใหญ่ขวามือ เป็นถนนทางหลวงเส้น 1095..ที่มาจากทางเชียงใหม่ หน้าบ้านจะมีแท็งค์ใส่น้ำสีฟ้าใหญ่อยู่ขวามือ สามแท็งค์ แต่ละแท็งค์เขียนว่า " ไป" "ปาย" "มา" ..จะถึงก่อนเข้าตัวเมืองปาย ประมาณ 2.5 กิโลคะ ส่วนรายละเอียดต่างๆ เข้าไปแวะชมได้ในภาพบ้าน (Home) นะคะ
    • บรรยากาศเหมือนเมืองสวรรค์ที่ผมฝันเห็น
    • เสียดายมีแค่ 4 หลัง
    • มอบรางวัลให้เจ้าของบันทึก
    • ธุ ท่าน ผอ.ประจักษ์ค่ะ..

    จากข้อความที่ท่าน ผอ.ก้อปมาให้อ่านนั้นเป็นบ้านปายนา-ปายตา ค่ะ   ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จนะคะ    แต่เดิมมีแค่บ้านปายนาแห่งเดียว   และพี่ๆ เลยทำบ้านปายนา-ปายตาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาอีกแห่ง

    บ้านปายนานั้นต้อมเคยไปพักค่ะ  มีบ้านดินหลังเล็กๆ 4 หลัง   และบ้านปายนา-ปายตานี่พี่ๆ เจ้าของเขาสร้างไว้หลายหลังและท่าทางใหญ่โตน่ารักจังค่ะ   ต้อมยังไม่มีโอกาสไปพักเลย   อยากไปนะเนี่ย อิอิ

    ความฝันของต้อมก็คือ อยากมีบ้านดินน่ารักๆ แบบนี้  มีแกลลอรี่  มีร้านอาหารเล็กๆ แบบบ้านปายนาเลยค่ะ  ^^

    ตามเพิ้นมาแอ่วปาย...กา...

    งาม ม่วนแต้ ๆ ...ขอบคุณน้องต้อมจั้กนักเจ้า...

    (^_^)

    ภาพนี้จาก...ปายเหมือนกันจ้ะ

    • ธุ  คุณคนไม่มีรากค่ะ..

    ปายมีเสน่ห์ในแบบเฉพาะของตัวเองนะคะ ^^   ถ้ามีโอกาสต้อมก็อยากไปปายอีกครั้ง..และอีกครั้งน่ะค่ะ   (ต้อมจะทำเป็นไม่สนใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินท่อมๆ อยู่ ณ ตรงนั้นมากมาย--ก็ขี้อายนี่)

    หลายๆ คนสงสัยว่าทำไมต้อมเปลี่ยนที่นอนไกลกัน  อิอิ  ขอบพระคุณภาพร่มรื่นจากปายนะคะ    ตอนที่ต้อมไปไม่ค่อยมีน้ำเลยค่ะ..ยังแอบเซ็งเลย  จุ๊ๆๆ

    น้องต้อมที่รัก

    ธันวานี้แหละค่ะ จะตามไปทำทะลึ่ง เอ้ย ม่ายช่าย จะไปดูมุมทะลึ่ง แต่ทำไม ที่พักแพงจังคะ ค้อดๆๆๆเลยสำหรับป้าแดง อิอิอิ

     

    ปล. สวยๆๆค่ะ น่าไปเที่ยวค่ะ อยากไป ๆๆ

    • ป้าแดงจ๋า..

    บ้านปายนา คืนละ 300 บาทค่ะ   ส่วนบ้านปายนา-ปายตา นั้นไม่แน่ใจว่าคืนละ 800 บาท ขึ้นไปหรือเปล่า?    เจ้าของเป็นคนๆ เดียวกันค่ะ    แต่สร้างกันคนละแห่ง    ต้อมเคยไปพักที่บ้านปายนาคืนละ 250 บาท (ตอนนี้ขึ้นราคาเป็น 300 บาทแล้ว)   บ้านปายนาจะมีบ้านดินหลังเล็กๆ แค่ 4 หลัง   ห้องน้ำ/ห้องส้วมต้องมาใช้ในส่วนกลางค่ะ   แต่น่ารักดีและสะอาดด้วย

    อยากไปอีก  อิอิ

    ดีใจที่ได้มาอ่าน ยิ่งทำให้อยากไปปายมากขึ้น อิ อิ สงสัยหนาวนี้จะเจอพวกเราไปเดินจ๊ะเอ๋กันที่ปายหลายคน คุณแดงจะไปตอนไหนบอกด้วยนะคะ อยากไปแบบมีกลุ่มเล็กๆจะได้พากันไปดูดอกไม้บนดอยวาวี ยังติดใจภาพของคุณเอก-จตุพรจริงๆ

    ตามไปเที่ยวปายด้วย

    มีเพื่อน ๆ เขาพูดกันว่าที่ปายในหน้าหนาวบรรยากาศดีมาก เหมือนสวรรค์บนดินก็ว่าได้ ฟังเขาเล่า

    เท่าที่อ่านก็เห็นบรรยากาศน่าไปสัมผัสกับธรรมชาติที่บริสุทธิ์

    หวังว่าสักวันหนึ่งคงได้ไปเมืองปายในฝัน

     

    • พี่นุชเจ้า..

    ใครๆ ก็ต่างพากันหลงใหลในเสน่ห์ของปาย   บ้างก็อยากไป..บ้างก็ไปมาแล้วและก็อยากจะไปอีก   ต้อมมีความทรงจำที่ปายค่ะ  ^^  และกำลังจะมีความทรงจำที่ปายอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า   อยากไปแล้วก็อยากจะไปอีก

    อกหักพักปาย <<  อ่านมาจากไหนก็ไม่รู้    แต่ต้อมว่า..ปายเป็นเมืองที่มีสีสันปนเปไปกับความเรียบง่ายนะคะ    

     

    • พี่ไข่คะ..

    เมื่อไหร่พี่ไข่จะไปปายคะ?  ตอนนี้คนเริ่มเบนเข็มไปยังปางอุ๋งที่ว่ากันว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทยกันบ้างแล้ว   เขาว่าสดกว่าปาย   ไม่รู้จริงไหมเพราะต้อมก็ยังไม่ได้ลองไปปางอุ๋งเลย

    ลองไปปายสักครั้งสิคะ ^^

    + ว้าว..ปาย...ปาย....

    + เป็นอะไรที่ช่างสงบ สบาย พอเพียง เยี่ยงนี้นะหนูต้อม...

    + อีก 2 ปี ยังเป็นแบบนี้ไหมหนูต้อม....

    + ยังไงจองตัวละนะ....ช่วยนำเที่ยว...

    + อิ อิ...

    • ธุ แม่อ๋อยของน้องแอมแปร์ค่ะ..

    สงบ..สบาย..จริงๆ ค่ะ เพราะต้อมเอาแต่นอนอย่างเดียวเลย  อิอิ ^^  ไม่รู้สิ  ต้อมว่าต้อมคุ้นเคยกับปายมากกว่าที่ไหนๆ นะเนี่ย  ถึงแม้จะเคยไปแค่สองครั้งเอง

    ว่าแต่จะกล้าจองตัวต้อมนำเที่ยวปายจริงๆ หรือคะ?   กล้าเหรอๆๆ

    แอบย้อนมาปาย กับน้องนางเอกหลาวเจ้า .. แล้วก็ได้อมยิ้ม จินตนาการ .. ชอบมุ้งเทพธิดา มุ้งสายบัว .. ก็น้องเกริ่นว่า มานอนอย่างเดียว ใช่ไหม ชอบๆ :)

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท