27 พฤศจิกายน ฉันตื่นแต่เช้าตามปกติด้วยความเคยชิน พยายามลุกขึ้นแต่ก็ไม่สำเร็จ เลยได้แต่นอนนิ่งๆ อยู่บนเตียงอีกเนิ่นนาน เอาหลังมือแตะหน้าผากเบาๆ ก็รู้สึกว่าตัวร้อนเหลือเกิน อย่ากระนั้นเลย..ฝืนลุกไปอาบน้ำเย็นๆ ดีกว่า เสร็จแล้วก็แต่งตัวออกไปนั่งที่ริมระเบียงเพื่อสัมผัสอากาศเย็นๆ อีกสักพักก่อนที่จะเดินออกไปทานมื้อเช้า พี่กบ (เจ้าของบ้านปายตา)เตรียมข้าวต้มเห็ดหอมให้ฉัน (เพราะเป็นคนป่วย) ฮือๆๆ อยากทานไข่ดาวมากกว่าแต่ไม่กล้าบอก เดินไปชงกาแฟ+ไมโลมาหนึ่งถ้วย (ก็ฉันดื่มของฉันแบบนี้) แม่บ้านทำหน้าสงสัยเล็กน้อย..คงคิดว่าฉันแปลก นั่งทานข้าวต้มชามนั้นด้วยความเอร็ดอร่อย ระหว่างที่ทานอยู่นั้น..ประตูบ้านข้าวหอมก็เปิดออก คุณไก่ มีสุข นั่นเอง พอเธอเดินมาถึงบริเวณศาลาทานข้าว..เราต่างก็ส่งยิ้มให้กัน เธออมยิ้ม (คงเพราะนึกถึงยัยเบ๊อะที่ซิ่งมอเตอร์ไซค์แหกโค้งเมื่อวาน) ฉันยิ้ม (แหยๆ..แล้วคิดในใจว่า อ้าวยังอยู่อีกเหรอเนี่ย ฮือๆๆ อายยกกำลังสองเลย) รีบทานให้เสร็จแล้วลุกไปเติมน้ำร้อนใส่ถ้วยเครื่องดื่ม พี่กบทักว่า "น้องต้อมเพ้นท์เสื้อเองเหรอคะ?....สวยจัง" เปล่าหรอกค่ะ นี่เป็นเสื้อที่ได้รับรางวัลจาการส่งภาพถ่ายในหัวข้อ "การรอคอย" ที่ฉันเคยเขียนไว้ในบันทึกเรื่องเล่า-การรอคอยต่างหากล่ะ เป็นเสื้อสีขาวคอกลมกว้างๆ เพ้นท์รูปดอกไม้ที่ตรงบนอกด้านซ้ายและมีที่ตรงมุมแขนขวาอีกนิดหน่อย ฝีมือการเพ้นท์ของพี่ราชา'วดีเจ้าของเวปปิงฟ้าวิลันดา น่ารักจริงๆ..เสื้อนะ ไม่ใช่ฉัน แล้วพี่กบยื่นยามาให้อีกสองเม็ดพร้อมกับกำชับว่าให้ทานทีละเม็ดเพราะยาแรงมาก ขอบคุณค่า....
ออกไปเดินเล่นที่หน้าบ้านปายตา เดินดูแกลอรี่เสียให้เต็มตา-เต็มใจ มีเสื้อกับกางเกงผ้าฝ้ายเย็บมือปักลายอาข่า กระเป๋า และงานสร้อยคอนกหวีดดินจากมูลนิธิกระจกเงา รวมไปถึงงานโปสการ์ดทำมือจากเพื่อนพ้องเจ้าของบ้านตลอดจนงานศิลปะอื่นๆ ให้เลือกชม-เลือกซื้อตามอัธยาศัย ฉันก็นั่งเล่นดูโปสการ์ดแถวนั้นอีกสักพักก่อนกลับเข้าบ้านพักเพื่อไปนั่งเขียนโปสการ์ดและนั่งวาดรูปอีกครั้ง สายๆ ก็เดินขาเกเอาโปสการ์ดมาฝากพี่กบไปส่งที่ไปรษณีย์
หน้าบ้านปายตา..
แท้งค์น้ำเทศบาลสีฟ้า..ฝีมือการวาดรูปของแขกที่มาพัก / สวนผักของบ้าน
มุมน่ารักๆ ของบ้านปายตา
แกลอรี่..ที่ฉันก็อยากจะมี
กล้วยนี้..มีให้หยิบทานได้ฟรีๆ กับเจ้ามอเตอร์ไซค์(ของพี่ปัน)โลโก้บ้านปายตา
เจ้าแมวใจตัวนี้ชื่อ "ดีใจ" กำลังอาบแดดอุ่นๆ
เวลาบ่ายสองโมงที่ฉันตื่นนอนได้สักพักก็ลองขยับแขนขยับขาดู ยังมีอาการเจ็บอยู่ แต่ก็คิดว่าถ้ากลับจากปายโดยที่ไม่ได้ไปไหนเลยก็ดูออกจะเกินไปสักหน่อย เพราะสองครั้งก่อนหน้านั้นก็แค่เคยมาเยือนปายและก็ไม่ได้ไปไหนเลย แต่คราวนี้เหมือนจะมีเสียงพี่ๆ ดังขึ้นมาในหัวว่า "จะรออ่านบันทึกของน้องต้อมนะคะ" มันเลยเป็นเหตุผลที่ยังไงๆ ฉันก็ต้องออกเดินทางอีกครั้งในช่วงบ่ายนี้ ข้างนอกบ้าน..พระอาทิตย์กำลังหัวเราะร่าด้วยการเปล่งประกายฉายแสงระยิบอยู่ทีเดียว ฉันหยิบกล้อง..มือถือ..กระเป๋าตังค์..แว่นตากันแดด และแผนที่ใส่กระเป๋าสะพาย ตอนที่กำลังปิดประตูบ้านก็มองดูตัวเองผ่านกระจก..ดูไม่จืดเลย น้องตัวกลมๆ ของพี่ๆ สวมแค่เสื้อยืดสีขาวเพ้นท์ลายดอกไม้ นุ่งกางเกงฝ้าฝ้ายสีเข้ม สวมรองเท้าแตะ เดินไปทางไหนก็จะมีเสียงกระพรวนดังกุ๊งกิ๊งๆ เอาผ้าฝ้ายผืนใหญ่ห่มคลุม หน้าก็ซีด ก้มดูสารรูปตัวเองแล้วก็ถอนใจเฮือกใหญ่ เดินออกไปแถวหน้าบ้านก็นั่งบนหลังรถมอเตอร์ไซค์..นั่งอาบแดดเพื่อ "ทำใจ" สักพัก พี่ปันเดินผ่านมาแล้วทักว่า "หน้าซีดจัง"
เอาล่ะ(วะ) กางแผนที่ออกดู แล้วก็คิดว่าน่าจะไปวัดน้ำฮู --> หมู่บ้านสันติชน --> น้ำตกหมอแปง เอาหล่ะ ออกเดินทางกันได้แล้ว Let's go.......
วัดน้ำฮู เป็นที่ประดิษฐานของพระอุ่นเมือง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสิงห์สาม (ศิลปะล้านนา) ปางมารวิชัยทำด้วยโลหะทองสัมฤทธิ์ มีลักษณะพิเศษคือพระเศียรกลวง พระโมฬีปิด-เปิดได้และมีน้ำซึมออกอยู่เสมอ เชื่อกันว่าสร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเพื่อเป็นพระราชกุศลถวายพระพี่นางพระสุพรรณกัลยา
วัดน้ำฮู
หมู่บ้านจีนสันติชน เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานลูหลานชาวกองพล 93 (ทหารจีนคณะชาติ) ที่ถอยร่นจากการสู้รบและวางปืน วางอาวุธ มาเลือกสร้างถิ่นฐานที่หมู่บ้านแห่งนี้ ตอนนี้เลยกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองปาย ที่ใครต่อใครมักมาเยือนเพื่อทานอาหารตำรับจีนยูนนาน ที่เลื่องชื่อเห็นจะเป็นขาหมูจีนยูนนาน
หมู่บ้านสันติชน
น้ำตกหมอแปง อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวพยายามดั้นด้นไปให้ถึง.. รวมทั้งฉันด้วยที่ต้องการไปเพื่อถ่ายรูปมาให้ได้ ในที่สุดก็มีหลักฐานมายืนยันกับพี่ๆ
น้ำตกหมอแปง
กลับจากการไปถ่ายรูปน้ำตกหมอแปงก็เห็นป้ายโรงเรียนหมอแปง พยายามกดมือถือหาบล็อกเกอร์ใน G2K ที่ชื่อ ครูแอน แต่ติดต่อไม่ได้เพราะสัญญานเครือข่ายล่ม (มารู้ทีหลังว่าครูแอนสอนที่โรงเรียนเมืองแปงซึ่งอยู่ไกลคนละทิศเลย--น่าขายหน้าจริงๆ)
ถึงบ้านปายตาก็สั่งสมู้ทตี้แก้วหนึ่งแล้วตรงดิ่งกลับเข้าห้องเลย นอน..นอน..นอนจนตะวันใกล้จะตกดินก็..ด้วยสปิริตที่ต้องมีภาพถนนคนเดินมายืนยันกับพี่ๆ อีกให้มากกว่าเดิม แล้วฉันจะไปยังไงคนเดียว?..ก็ตอนขากลับนี่จะทั้งมืด ทั้งเปลี่ยวเลยนะ น่ากลัวมากๆๆ++ เดินไปนั่งทำใจบนหลังมอเตอร์ไซค์ก็พลันปิ๊งไอเดียใหม่..รีบเดินไปถามพี่ปัน(เจ้าของบ้านบ้านปายตา)ว่า "พี่ปันๆ แขกห้องนี้มาคนเดียวใช่ป่ะคะ?" พอได้คำตอบก็เดินตรงไปหาเหยื่อ เอ๊ย! แขกรายนั้น แต่เธอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ก็ยอมเสียมารยาทส่งเสียงถามไปว่า "สวัสดีค่ะ..เย็นนี้คุณจะเข้าเมืองไหม? จะชวนไปด้วยกันน่ะค่ะ" เธอถามกลับมาว่า "กลัวเหรอ?" เออ..ฉันก้มดูตัวเองที่มีหน้าตาเป็นอาวุธแถมยังมีสรีระอันบึกบึนแล้วก็ขำนิดหน่อย แล้วฉันก็ได้เพื่อนไปเดินถนนคนเดินด้วยกัน เย้!
ตอนแรกที่ตกลงกับคุณแต้กก็คือไปเดินหาอะไรทานกันแค่แป๊บเดียว แต่เอาเข้าจริงๆ เราสองคนเมามันส์กับการเดินเล่นเข้าร้านโน้น-ออกร้านนี้ เดินกลับไป-กลับมา อย่างสนุกสนาน ฉันพาเธอไปดูบ้านพักชื่อวิลล่า เดอ ปายที่พักในคืนแรกด้วย จากนั้นก็..ตอนแรกว่าจะชวนดื่มน้ำวีทกราสแต่นึกไปนึกมาก็เปลี่ยนใจดีกว่า เพราะจะดื่มน้ำวีทกราสไปทำไมในเมื่อก็กำลังจะไปดื่มเหล้าปั่นกันต่อ เลยแค่ถ่ายรูปหน้าร้านเอาไว้เป็นหลักฐานว่ามาถึงแล้วจริงๆ ไว้คราวหน้าจะมาดื่มหนึ่งช็อตจริงๆ
ร้านขายสินค้าพื้นเมืองมีอยู่แทบจะทุกมุมบนถนนคนเดิน
แอบอมยิ้มกับร้านน่ารักๆ แบบนี้..ช่างคิดกันจัง
ร้านโปสการ์ดชื่อดัง ร้านสบายดี กับร้านมิตรไทย
มาคราวที่แล้ว..ฉันฝากท้องกับร้านบะหมี่โบราณเจ้านี้ อร่อยดี
ร้านเช่าจักรยาน..
เราสองคนเดินถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย และฉันแวะซื้อหมูทอดเจ้าอร่อยร้านเดิม(มีขายอยู่ร้านเดียวบนถนนคนเดิน อิอิ)ที่มาทีไรก็ติดใจนักหนา ชี้ชวนให้คุณแต้กลองชิมข้าวเหนียวปุกงาดำด้วย แล้วไปเจอร้านหนึ่งที่เราหยุดเพื่อชื่นชมนานๆ ก็คือร้าน Vanfa ฉันยืนสะกดอ่านชื่อร้านอยู่ในใจตั้งนานสองนาน..แวนฟ้า..หวานฟ้า..วานฟ้า.. อยากรู้จนต้องเอ่ยปากถามกับคุณก้อยเจ้าของร้านคนสวยว่าตกลงแล้วร้านนี้ชื่ออะไร คุณก้อยบอกว่าชื่อร้านแว่นฟ้าค่ะ (ไม่ได้มีเอี่ยวอะไรกับร้านเธอ แต่รู้สึกว่าเจ้าของร้านน่ารัก คุยสนุก เชียร์ค่ะ ^^ )
เวลาผ่านไปนาน..ฉันกับคุณแต้กก็ยังนึกไม่ออกว่าจะทานมื้อค่ำที่ไหน ฉันเลยชวนคุณแต้กไปนั่งนึกต่อที่ร้านเหล้าปั่น Pai Center รอสักพักกว่าพี่คนขายจะกลับจากวัดมาขายเจ้าเหล้าปั่นที่ว่านี้ให้ คืนนี้ฉันสั่งเหล้าปั่นรสมะนาว..อร่อยอีกแล้วในราคา 50 บาท นั่งละเลียดดื่มและคุยกันอย่างสนุกสนานท่ามกลางอากาสหนาวเย็น มองดูผู้คนแปลกหน้าที่เดินผ่านไปผ่านมาอย่างคับคั่ง ก่อนจะเดินออกไปหามื้อค่ำทานกัน(ซึ่งยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าจะทานอะไร) ในที่สุด..เราสองคนก็เดินไปหยุดที่ร้านบ้านปาย(อันมีชื่อเสียง) สังเกตได้จากจะเห็นว่ามีผู้คนนั่งอยู่เต็มร้าน บังเอิญเหลือเกินมีโต๊ะว่างอยู่พอดี ระหว่างนี้เราเจอคุณติ้กที่แสนจะน่ารักและอัธยาศัยดีกับแฟนชาวต่างชาติเดินถ่ายวิดีโอผ่านเราไปด้วย (เพื่อนร่วมบ้านที่บ้านบ้านปายตา)
แก้วอร่อย..ของฉัน
เดินออกจากร้านบ้านปายแล้วก็เดินเตร็ดเตร่อีกสักพักแถวถนนคนเดิน ผู้คนมากมายมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ต่างชาติ..ต่างศาสนา..ต่างวัฒนธรรม..มารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ และทั้งหมดนี้ก็อาจจะเป็นช่วงวินาทีแห่งความทรงจำของใครอีกหลายคน บนถนน..ฉันรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวของตัวเอง ความเจ็บปวดยังคงพรั่งพรูเหมือนกับละอองหมอกเหมยที่ร่วงพราวอยู่รอบๆ ตัวฉัน ฉันเดินทางมาไกลแสนไกล..ทั้งเหน็บหนาว..และเงียบงัน.. เพื่อค้นหาอะไร?.......
ฉันกับคุณแต้กกลับบ้านปายตาเพราะคุณแต้กจะต้องตื่นตีสี่เพื่อไปดูทะเลหมอกกับพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้ากับกรุ๊ปทัวร์ (ในราคา 200 บาท) ที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง และเราสัญญากันว่าพรุ่งนี้เช้า..หลังจากเช็คเอ้าท์ เราจะไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกัน (ตามลิสท์ที่ใครต่อใครแนะนำไว้ในหนังสือและเวบไซต์) แจ็กพอตไปลงที่ "ส้มตำหน้าอำเภอ" แต่คืนนี้..ฉันสลบไสลไปด้วยอาการเจ็บป่วยเหมือนเคย
โปรดติดตามตอนต่อไป..
โอ๋ย ทำไมเอามาขึ้นช้านัก...
แวะมาชมเมืองปาย..
ตามติดมาทุกบันทึกเลยนะคะเนี่ย สบายดีนะคะน้องเนปาลี
สวยจัง อยากไปมากๆ เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะมีโอกาสนั้นมั้ย เนปาลี บรรยายซะเหมือนได้ไปเอง อ่า อ่า
ถ้าไปปายแล้ว
จะได้เจอคนนี้ไหมครับ
ฮ่าๆๆๆๆ
ตกลงอาจารย์ไม่ได้ไปเยือนเมืองปายหรือคะ???????
อั้นแน่ะ มีกลับมาสองรอบเพราะติดใจเจ้าของร้านแว่นฟ้านี่เอง ^^ คุณก้อยเธอพูดเก่ง คุยสนุกค่ะ แต่ต้อมก็ไม่ได้อุดหนุนซื้อของร้านเธอเลย ทั้งๆ ที่ก็มีแต่ของสวยๆ ทั้งนั้นเลย โอกาสหน้าคงไม่พลาด
แวะมาอ่านและมาเที่ยวเมืองปาย อีกค่ะ
ขอบคุณนะคะ
สวยมากค่ะ
บรรยากาศดีมากๆค่ะ
มีความสุขในทุกๆวัน นะคะ
ไม่ได้ไปปายครับ
ไปแม่ริม ก็กลับแล้ว
พกเวลาไปน้อย คราวหน้าจะเตรียมไปไว้หลายๆ วัน
น้องจ๊ะ จ๊ะ
ยินดีเหลือเกินที่ตามไปเที่ยวด้วยกันในบันทึกนี้ค่ะ ^^ ขอบพระคุณนะคะ และรักษาสุขภาพด้วยเช่นกัน
เรื่องเล่ายังไม่จบค่ะ อิอิ มีต่ออีก..นิ๊ด..ด..ด ^^ ขอให้มีความสุขในทุกๆ วันเช่นกันค่ะ ^^
สวัสดีค่ะ คุณต้อม
ไปชมนิทรรศการพระพี่นางไหมค่ะ
พอดีเราเขียนบล็อกเรื่องนี้ เมื่อวันเสาร์ไปเที่ยวงานนี้มาค่ะ
โอกาสหน้า..เผื่อเวลาให้เมืองปายสักสองวันนะคะ ไปนอนทอดอารมณ์เอื่อยเฉื่อยท่ามกลางทุ่งกว้าง ^^
ตกลงว่าไม่ได้เจอครูแอนค่ะ ^^ เพราะเวลาครูแอนว่าง..ต้อมก็รีบกลับ พอต้อมบุกไปหา..ก็ผิดโรงเรียน อิอิ อดเลยค่ะ
ช่วยกันดูแลเมืองปายนะครับ อย่าให้เป็นเหมือน สมุย พะงัน หรือภูเก็ต
นอนไข้ขึ้นทั้งคืนเลย แถมวันนี้ก่อต้องเข้าสวนอีก ได้เหงื่อสักครึ่งวันก่อบ่ไหวต้องหลบไปนอน ปวดหัว..ตัวฮ้อน ตลอดทั้งวันเลยนะก่า ตี้ลุกมาเขียนบันทึกนี่เพราะนอนบ่ได้
ตี้อา(จารย์)จ๊ะว่าบรรยากาศคุ้นๆ นี่คงเพราะไปมาบ่อยเน้อ คงมีกิจกรรมแถวโฮงเฮียนเมืองปายบ่อยๆ ก่อเลยคุ้นตาสักน่อย
วันนี้กิ๋นยาทั้งวันเลย อัดยาเข้าไปนักขนาดจนจะอ้วกอยุ่แล้วเจ้า T_T บ่อยากได้ยาจะอี้ จะเอา "ยาใจ" ฮือๆๆ
วันนี้พิมพ์ผิด แต่ไม่ยอมให้ปรับเพราะสติน้องจ๊ะไม่สมบูรณ์ และคำว่า "เวป" นี่อีกนะ ถ้าน้องจ๊ะพิมพ์ว่า "เวบ" พี่จ๊ะก็เคยว่าผิด พอพิมพ์เป็น "เวป" ก็ผิดอีก แล้วจะให้พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษทับไปเลยไหมจ๊ะ o_O
คืนนี้คงบิ๊วด์ต่อไม่ไหวแล้ว ฮือๆๆ ไว้มาต่อพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะจ๊ะ.. ทีเด็ดอยู่ที่พรุ่งนี้จ๊ะ เรื่องที่อยากเล่ามาก
สวัสดีค่ะ
* ดูบรรยากาศแล้ว
* มีอาการไข้ขึ้น
* ขอไปหาน้ำล้างตาก่อนนะคะ
น้องจ๊ะ จ๊ะ
ภาพสวยงามมากครับ
อยากไปแต่รอจังหวะและโอกาส
ช่วงนี้คงหนาวมากสินะ
ไม่ได้ตามดูนิทรรศการสมเด็จพระเจ้าพี่นางฯ เดี๋ยวจะตามไปอ่านบันทึกค่ะ ^^ คุณวัลย์สบายดีนะคะ?
นั่นล่ะคะ ที่ต้อมรู้สึก "กลัว" และไม่อยากให้เกิดขึ้นที่ปาย
ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ ^^ ไม่งั้นไม่หาย "ตาร้อน"
ตามไปอ่านบันทึกแล้วจ๊ะ และยังมึนๆ งงๆ อยู่นะเนี่ย T_T อย่าปรับเลยนะจ๊ะ
สวัสดัครับคุณเนปาลี
บันทึกนี้ไม่อ่านเสียดายแย่
งามเมืองปายต้องอ่านติดตามแล
เป็นกระแสร่วมด้วยช่วยทำดี
สวัสดียามเช้าครับ
วันนี้วันจันทร์อีกแล้วครับ พี่น้อง
เอาสิ่งดีดีมาฝากครับ
...อย่าคิดว่าตัวท่านนั้นอ่อนแอ
หรือคิดแต่ท้อแท้และแพ้พ่าย.
...จงคิดว่าจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยไป
แกร่งทั้งกายและจิตใจไม่พรั่นพรึง.
...อย่าร้อนรนค้นหาความลําบาก
จนกว่าความทุกข์ยากจะมาถึง.
...ถ้าวิตกทุกข์ร้อนนอนรําพึง
เมื่อทุกข์ถึงทุกข์ทับทวีคูณ.
...อย่าแบกโลกเอาไว้ให้หนักบ่า
อย่ากลัวว่าอนาคตไม่สดใส.
...อยู่ให้สุขแต่ละวันผันผ่านไป
เก็บแรงใจไว้แก้ไขเมื่อภัยมา.
"ปาย" เมืองยูโธเปียของใครอีกหลายคนมีมนต์เสน่ห์ที่ชวนให้ใครต่อใครหลงใหลในความเป็นปายค่ะ
และช่วงนี้ที่โน่นคหนาวมากๆ ค่ะ ก็ขนาดเราอยู่ข้างล่างยังหนาวเลยนิ อิอิ ^^
อยากให้บันทึกนี้อ่านสนุกค่ะ ^^ ขอบพระคุณที่แวะมานะคะ
เคยเดินชมหมู่บ้านถวาย แหล่งจำหน่ายสินค้าโอทอปของเชียงใหม่
มีกล้วยแขวนไว้ข้างทางทั้งเครือ ให้หยิบกินแก้หิวได้
ชอบๆๆๆๆ...อิอิ
เสียงน้องตัวกลมเซ็กซี่ดีไหม? คราวก่อนโน้นที่ไปพักบ้านปายนาก็มีกล้วยให้หยิบทานได้เหมือนกัน ตอนนั้นยังไม่ค่อยชอบทานกล้วยเลยไม่หยิบ แต่พี่สาวคนที่ไปด้วยกันสิ..บอกว่าอยากจะทานกล้วย ต้อมก็บอกไปว่า "ต้อมบอกว่าจะดู และจะแล ไม่ได้บอกนี่ว่าจะหยิบกล้วยให้ทาน" อิอิ
ขอบคุณสำหรับข้อความดีๆ ที่นำมาฝากกันค่ะ ^^
น้องตัวกลม
เอาความลับน้องตัวกลมมาออกอากาศงี้ คราวหน้ามีคนชวนดื่มแล้วลากน้องลงน้ำ..จะทำยังไง? ฮือๆๆๆ
คุณต้อมเจ้า
ร้องเท้าชาวเขา...สวย..เก๋
เท่ห์ถูกใจเหลือเกิน
จริงๆ แล้วซัดไปหลายสิบแก้วเลย อิอิ นับเอาแก้วเหล้าตองนะ ^^ มาๆๆ ตั้งวงกันเถอะค่ะ
ไปปายกันๆๆ ไปซื้อรองเท้าสวยเก๋ เท่ห์ถูกใจครู ^^ ก็บอกแล้วว่าให้ไปปายกะต้อม ไม่ยอมไปนิคะ
เหล้าปั่น...แก้ว (ขอรสมะนาว นะจ๊ะ)
อ้าว...ชนแก้วกันหน่อยเร้ว
คราวหน้าจะไปชิมเหล้าปั่นที่ปายก็เรียกต้อมไปด้วยนะคะ นะนะน๊า อิอิ
บันทึกนี้ ...
ขอบคุณครับ :)
ก็ "มันจำเป็น" T_T พี่ๆ น่ากลัวนี่นา อิอิ
คือว่าต้อมจำชื่อโรงเรียนผิดค่ะ ฮ่าๆๆ ^^ ของครูแอนน่ะเธอสอนที่โรงเรียนบ้านเมืองแปง แต่ต้อมดันไปที่โรงเรียนหมอกแปง ดู๊-ดู ความโก๊ะของต้อม
ร้านแว่นฟ้า..คุณก้อย เจ้าของร้านอัธยาศัยดีนะคะ นี่ขนาดว่าต้อมไม่ซื้อของในร้านเธอเลย พอขอถ่ายรูป..เธอก็โพสท่าให้ถ่ายน่ารักเชียว อิอิ
อาจารย์คะ.. ก็ยอมรับว่าต้อมมีหน้าตาเป็นอาวุธ ไม่งั้นคงไม่กล้าเดินทางคนเดียว อิอิ และต้อมชอบคำนี้มากเลยค่ะ.."หัวใจมีไว้เดินทาง" ^^
พี่ต้อมคร๊าบบบ..
เที่ยวไป เจ็บไป..แต่ก็สนุกใช่ไหมคับ..
ภาพสวยมาก..ชอบรูปปั้นตุ๊กตาไก่..แหงนคอ รอแขก..จังเลยคับ..น่ารักดี..
ถ้ากู๊ดดี้มีโอกาสไป ปาย จะขออนุฐาตเข้ามาขอคำปรึกษานะคับ..
คิดถึงคับ..
กลับมาอีกรอบ..
ขออนุญาต ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไปอ่านตอนต่อไปก่อนนะคับ..
แหม..ม..ม มีกลับมาวิ่งแก้คำผิดได้ทันก่อนพี่ต้อมด้วยแน่ะ ^^ เลยอดจับมาปรับเลยแฮะ จะปรับกู๊ดดี้ให้คุณแม่เกร๋กระเป๋าฉีกเลยนะเนี่ย
น่ารักใช่ไหมล่ะ เจ้าไก่กุ๊กๆ ตัวนี้ ^^ พี่ต้อมแนะนำบ้านปายตาให้ในคราวหน้าที่กู๊ดดี้จะไปเที่ยวปายนะครับ นอนเล่นสักหนึ่งคืน.... สุข..สงบ..เหลือเกินค่ะ
พี่ต้อมได้แผลเป็นมาเป็นที่ระลึกด้วยค่ะ..
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณสำหรับภาพที่นำมาร่วมแจมกันค่ะ ^^ ปาย..หลายคนไปแล้วก็อยากจะไปอีกนะคะ..
น้องนางเอกจ๋า ติดใจรถสีเหลือง ชอบๆ บ้านปายตา มากับน้องนางเอก ครบทุกรสชาติเลย อ่านแล้วก็นึกถึงน้องอวบ กะน้องสาวอีกคน ไว้จะให้เธอเข้ามาชม คอเดียวกันเลย :)
อยากไปปาย..อีกครั้ง และอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้ไปอีกเลย..ย..ย ^^