หนูรี
นารี เอี่ยมวิวัฒน์กิจ ชูเรืองสุข

ม่อชี่ ขนมพื้นบ้านสงขลา ที่ว่ามาจาก "โมจิ"


 

ขนมม่อชี่

 

 
ขนมนี้นั้นมีที่มา ขออนุญาติอ้างถึงจากบันทึกของ ครูฑูรย์ ได้บันทึกไว้ว่า...  
 
ขนมม่อฉี่” ก็ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด แต่ที่แน่ๆเป็นขนมที่มีแต่ในจังหวัดสงขลาเท่านั้น 
และคำว่า มอฉี่ (สำเนียงกลาง) ม่อชี่ (สำเนียงใต้)เข้าใจว่าเพี้ยนมาจากคำว่า "โมจิ" 
ขนมของญี่ปุ่น มีคนเฒ่าคนแก่ในอำเภอสิงหนคร ของสงขลา 
เล่าให้ฟังว่า “เมื่อตอนสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทหารญี่ปุ่นมาตั้งฐานทัพอยู่ที่ฝั่งสิงหนคร 
ได้มีการหาคนไทยมาทำอาหารให้คนทหารญี่ปุ่นกิน และคนญี่ปุ่นก็ได้สอนวิธีทำ “ขนมโมจิ”
ให้กับคนไทยในครั้งกระนั้น โดยประยุกต์ใช้วัตถุดิบที่พอหาได้ในท้องถิ่นมาทำ 
เช่น แป้งข้าวเหนียว น้ำผึ้งแว่น ถั่วใต้ดิน(ลิสง) และงา ชาวบ้านเห็นเป็นขนมแปลกแต่ทำง่าย 
ใช้วัสดุในท้องถิ่น ก็ทำกินกันมานับตั้งแต่นั้นมา โดยเรียกชื่อ ขนมโมจิ 
ตามสำเนียงใต้ เพี้ยนมาเป็น “ขนมม่อชี่” 
ถึงทุกวันนี้ ...*อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ ม่อชี่ ขนมพื้นบ้านสงขลา

 

ฉันเริ่มตามแกะรอยหาสูตร "ขนมม่อชี่" ก่อนที่จะได้อ่านบันทึกจากครูฑูรย์ โดยท่านผู้นี้
วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- เป็นผู้ชี้แนะ 
จากบันทึกนี้...ตลาดสดสวนสัตว์สงขลา เอาผักบ้านบ้านมาฝากหลังจากดูเมฆ
 
ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ทดลองทำ  "ขนมม่อชี่"
ในการทำนั้นก็ทำตามวิธีการจากที่ ครูฑูรย์ ได้เขียนเล่าไว้ 
ส่วนผสมของไส้ขนมมีบอกอัตราส่วนไว้ แต่ปริมาณมากเกินไป
จึงปรับลดส่วนลง และส่วนแป้งขนมไม่ได้บอกอัตราส่วนเอาไว้ ฉันจึงลองทำแบบกะๆเอาค่ะ  

 

สูตรที่ทดลองทำครั้งนี้มีดังนี้...

1.ส่วนแป้งคั่วสำหรับคลุกตัวขนม : ใช้แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วยตวง 
คั่วจนสุกหอมลักษณะแป้งจะเบาร่อนไม่ติดกระทะ ตักขึ้นใส่ถาดพักไว้
 
2.ส่วนตัวแป้ง : แป้งข้าวเหนียว1 ถ้วยตวง(100กรัม) , น้ำ 7 ช้อนโต๊ะ
 
3.ส่วนผสมไส้ขนม : ถั่วลิสงคั่ว 50 กรัม , งาขาว - งาดำ 50 กรัม ,น้ำตาลทราย 75 กรัม ,

*ครั้งนี้ไม่มีน้ำตาลแว่นค่ะ จึงได้ปรับเปลี่ยนนำส่วนที่เป็นน้ำตาลแว่นใช้น้ำตาลทราย

*ส่วนผสมไส้ ตามส่วนนี้ เมื่อนำไปห่อส่วนผสมแป้งแล้วจะใช้ไม่หมดค่ะ 

สัดส่วนตามสูตรครั้งจะต้องใช้แป้งข้าวเหนียวเพิ่มอีก 2 ส่วน จึงจะพอดีกับไส้ค่ะ

 
ขั้นตอนการทำ...
 
1. เริ่มจาก คั่วแป้ง...
 

 
•คั่วจนแป้งสุก ...สังเกตุ แป้งจะเบาร่อนไม่ติดกระทะ
 

 
•เทใส่ถาดพักไว้ ให้เย็น
 
2.เตรียมส่วนผสมไส้...
 

 

 •ส่วนผสมไส้
 
 
•ส่วนผสมไส้.. ถั่วบุบให้ละเอียด งาคั่วบุบพอแตก ผสมกับน้ำตาลทราย
 
3. เตรียมทำตัวแป้งขนม...
 
 
•ตวงแป้งข้าวเหนียว 
 
 
•เทแป้งใส่อ่างผสม ค่อยๆเติมน้ำนวดจนนิ่มมือ
*วันนี้ใช้แป้งข้าวเหนียวแห้ง 1 ถ้วยตวง เติมน้ำเท่ากับ 7 ช้อนโต๊ะ
 
 
•นำไปต้มหรือนึ่งจนสุก
*วันนี้ใช้ต้มค่ะ แต่แป้งดูจะแข็งๆไปหน่อย เมื่อเปรียบเทียบกับภาพจากบันทึกครูฑูรย์
 
 
•ตัดแป้งเป็นก้อนเล็กๆ แล้วใส่ไส้ลงตรงกลาง ห่อให้มิด
*จะห่อยากสักหน่อย อาจเกิดแป้งที่แข็งไป
 
 
•ได้ขนมม่อชี่ แล้ว 2 ชิ้น ลองตัดให้ดูไส้หน่อย...
*เตรียมทดลองทำได้ขนม ประมาณ 10 ชิ้นค่ะ ชิ้นหนึ่งได้คำโตๆเชียว
 
 
 
•นี่ค่ะ ... "ขนมม่อชี่"   ฝีมือฉันเอง...
*วางพักไว้แป้งก็จะนิ่มกว่าเดิมค่ะ น้ำตาลคงจะละลายกระมัง 
แต่ก็อร่อย เคี่ยวแล้วแป้งหนึบๆไส้ด้านในนั้นหอมๆกลิ่นของถั่วลิสงคั่วและงาคั่ว 
เสียดายวันนี้ไม่มีน้ำตาลแว่น ตั้งใจแล้วค่ะว่าจะลองทำใหม่อีกครั้ง...
............................................................ 
 
ต่อ...  *ขนมม่อชี่ ครั้งที่ 2. บันทึกเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 03 - 05 - 2554

 

มีการทดลองทำแก้ไขปริมาณน้ำที่ใช้ผสมแป้งค่ะ ครั้งแรกแป้งแข็งไปใส่ไส้แล้วห่อยาก
ส่วนประกอบอื่นๆนั้นเหมือนเดิมน่ะค่ะ
 

*แป้งที่ใช้ ...

แป้งข้าวเหนียวแห้ง 1 ถ้วยตวง ( 100 กรัม) น้ำที่ใช้นวดแป้ง 8 ข้อนโต๊ะ (100 กรัม)
นั่นก็คือ อัตราส่วน แป้ง : น้ำ  =  1 : 1
 
 
•ลักษณะแป้งหลังนวด > แป้งหลังนึ่ง 15 นาที นึ่งจนสุก ลักษณะแป้งจะพองฟูนิ่ม >
ใช้พายไม้ตักขึ้นได้ ดังภาพ (แต่ครั้งที่แล้วทำเช่นนี้ไม่ได้ แข็งมากไป)
 
 
 ตักแบ่งแป้งเป็นคำเล็กๆ  ใส่ลงในแป้งคั่ว > แผ่ออกให้แบนๆ ห่อไส้ปิดให้มิด >
คลุกแป้งไม่ให้ขนมติดกัน
 
ขนมม่อชี่ ที่ได้ทำครั้งที่ 2. แจ่มขึ้นค่ะ แป้งนิ่ม น่ากินกว่าเดิม :)
 
•ปิดท้ายบันทึกด้วยคำขอบคุณ...
 
 
•ขอขอบคุณ ท่าน ครูฑูรย์ , และท่าน วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- มา ณ ที่นี้ด้วยน่ะค่ะ
 
และก็ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านที่แวะมาเยี่ยมชมบันทึกค่ะ ขอให้มีความสุข
ขอบคุณน่ะค่ะ
...สวัสดีค่ะ...
 
หมายเลขบันทึก: 437680เขียนเมื่อ 1 พฤษภาคม 2011 00:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2014 14:05 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (29)
  • สวัสดีค่ะ
  • ได้วิธีทำโดยละเอียดดีจังเลยค่ะ
  • ไส้ไม่ต้องกวนใช่ไหมคะ
  • ดิฉันจะรอซื้อตำราอาหารรวมเล่ม ของคุณนารีนะคะ
  • ขอบคุณมากค่ะ

ภาคกลางทำขนมคล้ายๆแบบนี้

แต่เอาไส้ใส่  ลงไปต้ม

จึงเรียกว่า..ขนมต้ม

สวัสดียามสาย....คุณหนูรี

มาตามกลิ่นแป้งหอมๆ...ค่ะ ชอบอีกแล้ว "ม่อชี่" มีเจ้าอร่อยที่บ้านพรุ(อีกแล้ว)

Ico48สวัสดีค่ะคุณลำดวน

ขอบคุณน่ะค่ะ ...รวมเล่มยังอยู่ในความฝันค่ะ ^__^ อ่านจากบันทึกไปก่อนน่ะค่ะ:)

 

 

สวัสดีน้องหนูรี

มาประชุมที่สันนิบาตสหกรณ์ ที่กทม. เห็นน้องๆกองเลขาฯ เขาเปิดโนต๊บุ๊ก ตั้งไว้ ถือโอกาสมาให้ดอกไม้และทักทายเอาไว้ก่อน แบบว่ามาปักกำไว้น่ะ

พี่หนูรีคะ

สวยงามมากมาย แถมยังน่ากินอีกด้วย ^_^

Ico48พี่ครูป.1

"ขนมต้ม" อย่างภาคกลาง ที่ปักษ์ใต้เรียก "ขนมโค" เอาแป้งนวดห่อน้ำตาลแว่นแล้วนำไปลวกจากนั้นก็นำมาคลุกมะพร้าวทึนทึก

แต่ขนมม่อชี่ จะต่างกัน รสชาติก็ต่างกันค่ะ

ขอบคุณค่ะ

Ico48สวัสดีค่ะครูนก

ต้องช่วยกันอุดหนุนขนมพื้นบ้านน่ะค่ะ ก่อนที่จะจางหาย แม่ค้าจะได้มีกำลังใจทำขายต่อไป...ทำแล้วคนไม่ซื้อกิน เดี๋ยวจะเปลี่ยนไปขายขนมฝรั่งกันหมดเมือง :)

ขอบคุณค่ะ

Ico48สวัสดีค่ะบัง

ดีใจจัง ผู้ชี้นำให้ตามหาขนมม่อชี่มาแล้ว...จากขนมที่คนยะลาไม่รู้จักม่อชี่ ย้ายเมื่อมาอยู่หาดใหญ่สงขลา ได้พบเจอ...เจ้าน้องนางหน้าขาวนวล นาม"ม่อชี่ ของพี่บังหีม" ...

ขอบคุณค่ะ:)

Ico48น้องมะปรางค่ะ

•หน้าตาต้องสวยไว้ก่อน...อร่อยหรือไม่นั้น ไว้ที่หลัง ...คนอ่านไม่ได้ชิม ^__^

•อยากได้แนวร่วมมาช่วยชิมจัง คิดถึงน้องๆที่Labทุกคนค่ะ

•ขอบคุณน่ะค่ะ

คล้ายขนมโมจิของนครสวรรค์ไหม

น่ากินอีกแล้วค่ะพี่หนูรี

วันนี้ดาวไปเดินเที่ยวตลาดสามชุกมา เห็นขนมโบราณหลายอย่าง แถมด้วยพวกทองเอก จ่ามงกุฎ ฯลฯ

เห็นแล้วคิดถึงพี่หนูรีจังค่ะ ^^

สวัสดีค่ะคุณปภินวิช pap2498 ถนอมวงศ์

ไม่เหมือนค่ะ คนละอย่างกัน อันนี้ทำจากแป้งข้าวเหนียวค่ะ แต่โมจิ นครสวรรค์นั้นเรียกอีกอย่างว่า "ขนมเปิ๊ยะนมข้น" เพราะใช้นมข้นหวานเป็นส่วนผสม นำผสมกับแป้งสาลีจากนั้นห่อด้วยไส้ต่างๆแล้วนำไปอบให้สุกทำเช่นเดียวกับขนมเปี๊ยะ

ขอบคุณค่ะ 

Ico48สวัสดีค่ะน้องดาว

พี่ยังไม่เคยไปตลาดสามชุก อยากจะไปเที่ยวบ้างจัง ต้องหาโอกาสเหมาะแล้วล่ะ

ขอบคุณที่คิดถึงกันค่ะ

ได้เจอ ม่อชี่ ที่นี่ด้วย...http://www.thamnong.com/web_mooche/

เก็บไว้ดูค่ะ

หนูรี

สุดยอดมาก

ขั้นตอนการนำเสนอรูปภาพคมชัดสวยงาม

แต่ขนมสีสัน น่ากินมากๆ

ขอบคุณมาก

พี่หนูรี หนูสมัครเป็นแนวร่วมช่วยชิมได้นะคะ ^___^ ฮ่าๆ

ถ้านำแป้งมาคลุกให้ ถั่วงา น้ำตาลทราย อยู่ข้างนอก บ้านครูภาทิพเรียกว่า

กะลอจี๊  แช่ตู้เย็น รอให้น้ำตาลทรายละลาย อร่อยมากๆ

 

Ico48ขอบคุณค่ะพี่เกษตรยะลา ...แต่ก็หรอยจริงน่ะ ^__^

 

Ico48ด้วยความยินดีค่ะน้องมะปราง...แต่ตอนนี้ไม่ทันแล้ว ราตรีนี้ณ.ถ้ำทะลุค่ะ

คราวหน้าล่ะกันน่ะค่ะ:)

สวัสดีค่ะคุณภาทิพ

ขอบคุณภาพขนมกะลอจี๊ น่ะค่ะ นั่นน่ะถูกต้องแล้วที่ครูฑูรย์เรียกว่า "ม่อชี่จีน" ชนิดเดียวกันเลยค่ะ

ขอบคุณน่ะค่ะ

มาชวนไปอ่าน"ปุ๋ยสั่งตัด" ของรัฐบาลอภิสิทธิื เผื่อได้ไปบอกต่อให้พี่น้องเกษตรกรได้รู้ไว้

ขนมต้มของภาคกลาง..ภาคใต้บ้านเราเรียก "หนมโค"..  บางถิ่น  เรียก "หนมหัวล้าน" ที่เป็นพี่ของ "หนมมด"   ส่วนกะรอจี๊  หมายถึง"ม่อฉี่"จีน ที่มีขายแถวๆถนนนางงามสงขลา

สวัสดีค่ะครู ครูฑูรย์

ขอขอบคุณน่ะค่ะครูที่นำความรู้มาเพิ่มเติมให้บันทึกสมบูรณ์มากขึ้น

ครูหายไปนานเชียวสบายดีน่ะค่ะ^^

อยู่สงขลาเคยได้ยินชื่อแต่ยังไม่เคยทานเลยค่ะ หน้าตาคล้ายโมจิญี่ปุ่นนะคะ ที่ส่วนใหญ่ชอบทำไส้ถั่วแดงกะชาเขียว

ดีมากคะที่รายการทำอาหารและขนมสนใจมาก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท